หวังว่ากระทู้จะไม่ปลิวนะ เราเล่าตามความรู้สึกของเราที่เกิดขึ้นจริง เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ต.ค.
เราอยู่ กทม. ไปลงทะเบียนเป็นจิตอาสาเฉพาะกิจที่สำนักพระราชวังไว้เมื่อช่วงกลางเดือนกันยายน ปัญหาแรกที่พบเจอคือ เจ้าหน้าที่ไม่มีความรู้เพียงพอที่จะให้บริการประชาชนได้ดีพอ
ตอนเราลงทะเบียน เจ้าหน้าที่ออกใบนัดรับสิ่งของพระราชทาน แต่วันที่เขานัด เป็นวันธรรมดาที่เราต้องทำงาน เราจึงถามเจ้าหน้าที่ว่าสามารถเปลี่ยนวันได้ไหม ขอเป็นวันที่ตรงกับเสาร์-อาทิตย์ สิ่งที่เจ้าหน้าที่ตอบกลับมา คือ "ไม่รู้ ไม่สามารถตอบได้ มีหน้าที่แค่รับลงทะเบียนเท่านั้น" และเขาก็บอกให้เราโทรไปถามที่เบอร์ 1500 หรือ 1511 แทน เราโทรไปตามเบอร์ที่เขาบอก เจ้าหน้าที่ที่รับสายเราก็บอกเราว่า เราสามารถไปรับสิ่งของพระราชทานวันอื่นแทนได้ และวันแรกที่จะเปิดให้รับคือวันที่ 7 ตุลาคม เราก็ถามต่อว่าเราต้องทำอะไรบ้าง ต้องติดต่อใครก่อนที่จะไปรับของไหม หรือว่าสามารถไปรับของได้เลย เจ้าหน้าที่ตอบว่าไม่ต้อง สามารถไปรับของได้เลย
พอถึงวันที่ 7 กันยายน คือเมื่อวานนี้เอง เราก็เดินทางไปสำนักพระราชวังตอนเช้า เจอประชาชนมากมายรอรับบัตรคิวเพื่อรับของพระราชทาน และก็มีพวกจิตอาสาอะไรก็ไม่รู้อีกมากมาย(ที่สวมหมวกสีฟ้า ผ้าพันคอสีเหลือง และรู้สึกว่าจะมีคนพวกนี้มากกว่าพวกคนทั่วไปที่ไม่สวมหมวกและผ้าพันคออีกมั้ง) แล้วเราก็ได้ยินเจ้าหน้าที่ที่เป็นทหารอารักขาพูดทางโทรโข่งว่า "คนที่จะรับของในวันนี้ได้ ในใบนัดต้องระบุว่าเป็นวันที่ 7 เท่านั้น ถ้าของใครไม่ใช่วันที่ 7 ให้กลับไปก่อน เพราะไม่มีรายชื่อ" เราก็ข้องใจมาก เราเที่ยวเดินถามคนโน้นคนนี้ไปทั่วเลยว่า "ใบนัดเราบอกให้มารับวันอื่น แต่เราจะรับวันนี้ได้ไหม เพราะเราไม่สะดวกมาในวันที่เขานัด และเราโทรถามเจ้าหน้าที่แล้ว เขาก็บอกว่าให้มาวันนี้ได้" ทุกคนต่างตอบเราว่าไม่สามารถรับของวันนี้ได้ ต้องมาอีกครั้งวันที่ 20 เราก็บอกอีกว่า "วันที่ 20 มันตรงกับวันธรรมดา เรามาไม่ได้เหมือนกัน แล้วจะทำไง"
คือตอนนั้นเรารู้สึกโมโหแล้ว (แต่พยายามข่มไว้) เรารู้สึกไม่ยอมรับ เพราะเราโทรถามเจ้าหน้าที่แล้วเขาบอกให้มาเอาของวันนั้นได้ เราจึงเดินทางมา เราเดินวนไปวนมาจนเหนื่อย เที่ยวเดินถามทั้งพวกที่เป็นจิตอาสา แล้วก็พวกทหารที่มาจัดระเบียบคุมแถวประชาชน ไม่มีใครหาทางออกให้เราได้เลย ทุกคนตัดสินใจอะไรไม่ได้ ไม่มีการยืดหยุ่นหรืออลุ่มอล่วยให้ แล้วยิ่งพวกจิตอาสาบางคนก็พูดจาไม่ค่อยดี พอเราอธิบาย เขาหาว่าเราไม่เชื่อเขา งั้นก็เข้าไปต่อแถวเลย เดี๋ยวก็โดนไล่ออกมาเอง (เราไม่รู้ว่าคนแบบนี้จะมาเป็นจิตอาสาเพื่ออะไร) ส่วนทหารก็บอกว่า ให้เราโทรมาถามอีกครั้งในช่วงวันที่ 20 ได้ไหม หรือมารับวันที่ 20 ได้ไหม เราก็พูดเลยว่า "แล้วถ้ามาวันที่ 20 เราจะมีรายชื่อไหม แล้วถ้าไม่มีรายชื่อเราล่ะ เราก็ไม่ได้ของอีกล่ะสิ แล้วทำไมตอนโทรถามเจ้าหน้าที่ เขาบอกให้มารับวันนี้ล่ะ เขาบอกให้มา เราก็มา" ทหารก็บอกแค่ว่าไม่สามารถตัดสินใจได้
แล้วไม่ใช่แค่เราคนเดียวหรอกที่มีปัญหา พวกประชาชนหลายคนก็มีปัญหา เพราะได้ข่าวว่าเจ้าหน้าที่เพิ่งมาเปลี่ยนแปลงระเบียบการรับของหรืออะไรสักอย่าง(เราไม่แน่ใจว่าเรื่องอะไร เราไม่ได้ถามเขา เพราะตอนนั้นเราสนใจแค่ปัญหาของเรา) แล้วประชาชนหลายคนก็ไม่พอใจ เจ้าหน้าที่ก็คอยประกาศว่าอย่าทะเลาะกัน เรารู้สึกว่าวุ่นวายมาก เราไม่อยากจะอยู่ตรงนั้นแล้ว ก็เลยเดินทางกลับโดยที่ไม่ได้รับของพระราชทาน ทั้งเสียใจทั้งโกรธจนน้ำตาคลอ เราก็เลยคิดว่าเราจะไม่เป็นจิตอาสาแล้ว เพราะแค่ไปรับของยังมีปัญหาขนาดนี้ เจ้าหน้าที่ไม่มีความรู้เพียงพอ ทำงานก็ไม่ประสานกัน และไม่มีใครที่มีอำนาจตัดสินใจหาทางออกให้เราได้ เราเสียทั้งเวลาและค่าเดินทาง แต่เราต้องมาเจอแบบนี้ เราคงไม่เอาอีกแล้ว เข็ด
ปัญหาที่พบเจอ ในวันที่ไปรับสิ่งของพระราชทานจิตอาสาเฉพาะกิจ
เราอยู่ กทม. ไปลงทะเบียนเป็นจิตอาสาเฉพาะกิจที่สำนักพระราชวังไว้เมื่อช่วงกลางเดือนกันยายน ปัญหาแรกที่พบเจอคือ เจ้าหน้าที่ไม่มีความรู้เพียงพอที่จะให้บริการประชาชนได้ดีพอ
ตอนเราลงทะเบียน เจ้าหน้าที่ออกใบนัดรับสิ่งของพระราชทาน แต่วันที่เขานัด เป็นวันธรรมดาที่เราต้องทำงาน เราจึงถามเจ้าหน้าที่ว่าสามารถเปลี่ยนวันได้ไหม ขอเป็นวันที่ตรงกับเสาร์-อาทิตย์ สิ่งที่เจ้าหน้าที่ตอบกลับมา คือ "ไม่รู้ ไม่สามารถตอบได้ มีหน้าที่แค่รับลงทะเบียนเท่านั้น" และเขาก็บอกให้เราโทรไปถามที่เบอร์ 1500 หรือ 1511 แทน เราโทรไปตามเบอร์ที่เขาบอก เจ้าหน้าที่ที่รับสายเราก็บอกเราว่า เราสามารถไปรับสิ่งของพระราชทานวันอื่นแทนได้ และวันแรกที่จะเปิดให้รับคือวันที่ 7 ตุลาคม เราก็ถามต่อว่าเราต้องทำอะไรบ้าง ต้องติดต่อใครก่อนที่จะไปรับของไหม หรือว่าสามารถไปรับของได้เลย เจ้าหน้าที่ตอบว่าไม่ต้อง สามารถไปรับของได้เลย
พอถึงวันที่ 7 กันยายน คือเมื่อวานนี้เอง เราก็เดินทางไปสำนักพระราชวังตอนเช้า เจอประชาชนมากมายรอรับบัตรคิวเพื่อรับของพระราชทาน และก็มีพวกจิตอาสาอะไรก็ไม่รู้อีกมากมาย(ที่สวมหมวกสีฟ้า ผ้าพันคอสีเหลือง และรู้สึกว่าจะมีคนพวกนี้มากกว่าพวกคนทั่วไปที่ไม่สวมหมวกและผ้าพันคออีกมั้ง) แล้วเราก็ได้ยินเจ้าหน้าที่ที่เป็นทหารอารักขาพูดทางโทรโข่งว่า "คนที่จะรับของในวันนี้ได้ ในใบนัดต้องระบุว่าเป็นวันที่ 7 เท่านั้น ถ้าของใครไม่ใช่วันที่ 7 ให้กลับไปก่อน เพราะไม่มีรายชื่อ" เราก็ข้องใจมาก เราเที่ยวเดินถามคนโน้นคนนี้ไปทั่วเลยว่า "ใบนัดเราบอกให้มารับวันอื่น แต่เราจะรับวันนี้ได้ไหม เพราะเราไม่สะดวกมาในวันที่เขานัด และเราโทรถามเจ้าหน้าที่แล้ว เขาก็บอกว่าให้มาวันนี้ได้" ทุกคนต่างตอบเราว่าไม่สามารถรับของวันนี้ได้ ต้องมาอีกครั้งวันที่ 20 เราก็บอกอีกว่า "วันที่ 20 มันตรงกับวันธรรมดา เรามาไม่ได้เหมือนกัน แล้วจะทำไง"
คือตอนนั้นเรารู้สึกโมโหแล้ว (แต่พยายามข่มไว้) เรารู้สึกไม่ยอมรับ เพราะเราโทรถามเจ้าหน้าที่แล้วเขาบอกให้มาเอาของวันนั้นได้ เราจึงเดินทางมา เราเดินวนไปวนมาจนเหนื่อย เที่ยวเดินถามทั้งพวกที่เป็นจิตอาสา แล้วก็พวกทหารที่มาจัดระเบียบคุมแถวประชาชน ไม่มีใครหาทางออกให้เราได้เลย ทุกคนตัดสินใจอะไรไม่ได้ ไม่มีการยืดหยุ่นหรืออลุ่มอล่วยให้ แล้วยิ่งพวกจิตอาสาบางคนก็พูดจาไม่ค่อยดี พอเราอธิบาย เขาหาว่าเราไม่เชื่อเขา งั้นก็เข้าไปต่อแถวเลย เดี๋ยวก็โดนไล่ออกมาเอง (เราไม่รู้ว่าคนแบบนี้จะมาเป็นจิตอาสาเพื่ออะไร) ส่วนทหารก็บอกว่า ให้เราโทรมาถามอีกครั้งในช่วงวันที่ 20 ได้ไหม หรือมารับวันที่ 20 ได้ไหม เราก็พูดเลยว่า "แล้วถ้ามาวันที่ 20 เราจะมีรายชื่อไหม แล้วถ้าไม่มีรายชื่อเราล่ะ เราก็ไม่ได้ของอีกล่ะสิ แล้วทำไมตอนโทรถามเจ้าหน้าที่ เขาบอกให้มารับวันนี้ล่ะ เขาบอกให้มา เราก็มา" ทหารก็บอกแค่ว่าไม่สามารถตัดสินใจได้
แล้วไม่ใช่แค่เราคนเดียวหรอกที่มีปัญหา พวกประชาชนหลายคนก็มีปัญหา เพราะได้ข่าวว่าเจ้าหน้าที่เพิ่งมาเปลี่ยนแปลงระเบียบการรับของหรืออะไรสักอย่าง(เราไม่แน่ใจว่าเรื่องอะไร เราไม่ได้ถามเขา เพราะตอนนั้นเราสนใจแค่ปัญหาของเรา) แล้วประชาชนหลายคนก็ไม่พอใจ เจ้าหน้าที่ก็คอยประกาศว่าอย่าทะเลาะกัน เรารู้สึกว่าวุ่นวายมาก เราไม่อยากจะอยู่ตรงนั้นแล้ว ก็เลยเดินทางกลับโดยที่ไม่ได้รับของพระราชทาน ทั้งเสียใจทั้งโกรธจนน้ำตาคลอ เราก็เลยคิดว่าเราจะไม่เป็นจิตอาสาแล้ว เพราะแค่ไปรับของยังมีปัญหาขนาดนี้ เจ้าหน้าที่ไม่มีความรู้เพียงพอ ทำงานก็ไม่ประสานกัน และไม่มีใครที่มีอำนาจตัดสินใจหาทางออกให้เราได้ เราเสียทั้งเวลาและค่าเดินทาง แต่เราต้องมาเจอแบบนี้ เราคงไม่เอาอีกแล้ว เข็ด