Atonement : ตราบาปลิขิตรัก
" เป็นหนังที่ทั้งเจ็บปวดและสวยงามในเวลาเดียวกัน "
Atonement (2007) หนังดีที่เข้าชิงออสการ์และลูกโลกทองคำมากมายหลายรางวัลในปี 2008 หนังกำกับโดย
Joe Wright สร้างมาจากนิยายของ
Ian McEwan ที่มีชื่อว่า
' Atonement '
Atonement เรื่องราวของโศกนาฏกรรมรัก เนื้อเรื่องเริ่มต้นในช่วงก่อนยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ณ ประเทศอังกฤษ
Robbie Turner (James McAvoy) เด็กหนุ่มผู้มีอนาคตไกล ผู้ได้รับการอุปการะจากบ้านของตระกูล Tallis ซึ่งตระกูลนี้มีลูกสาวอยู่สองคนคือ พี่สาว
Cecilia Tallis (Keira Knightley) และน้องสาว
Briony Tallis ร็อบบี้และเซซิเลียต่างชอบกันและกัน ทว่าต่อมาได้เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นในบ้าน ทำให้ร็อบบี้ต้องกลายเป็นแพะรับผิดโดนจับเข้าคุก อนาคตของเขาที่วาดฝันไว้ต้องดับวูบในทันที เรื่องราวทั้งหมดพลิกผันเพราะคำพูดเพียงคำเดียว สุดท้ายเราก็ต้องลุ้นว่าเขาจะมีโอกาสได้เจอกับเซซิเลียและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขหรือไม่ ?
เป็นหนังที่ทั้งเจ็บปวดและสวยงามในเวลาเดียวกัน
Atonement เป็นหนังที่น่าประทับใจ ด้วยสไตล์หนังแบบเนิบๆ (ทรงหนักไปทางสไตล์หนังยุโรป) เน้นละเมียดละไม ละเอียดลึกซึ้ง ทำให้หนังดูประณีต ผสมผสานกับบทอันหนักแน่น การตัดต่อหนัง การตัดสลับเล่าเรื่องไปมาช่วยให้หนังดูมีชั้นเชิง ความโดดเด่นอีกอย่างที่ทำให้หนังเหนือชั้น ก็คือจุดหักมุม Atonement มีจุดหักมุมชนิดพลิกเรื่องทั้งเรื่อง ขนาดทำให้ผมทั้งประหลาดใจ (และหดหู่ใจ) เลยทีเดียว เป็นจุดไคล์แม็กซ์หนังและบทสรุปของเรื่อง
จุดหักมุมที่ว่านี้จริงๆแล้วก็ถูกสอดแทรกไว้ในเรื่องผ่าน Symbol ต่างๆ เช่น เสียงพิมพ์ดีด เป็นหนึ่งใน Symbol ที่แทรกเข้ามาตลอด หรือสีหนังที่ดูฟุ้งคล้ายอยู่ในภวังค์ ก็เป็นอีก Symbol เช่นกัน หนังใช้ Symbol ต่างๆได้อย่างแนบเนียน
ผมชอบที่หนังมีชื่อเรื่องว่า
' Atonement ' ที่มีความหมายว่า
' การไถ่โทษ , การทำดีชดเชยความผิด ' มันสะท้อนแก่นหนังออกมาได้ชัดเจน ร็อบบี้และเซซิเลียต้องมีชะตากรรมที่พลิกผัน ทั้งสองต้องพบกับความเจ็บปวดที่ยากเกินจะรับได้ เพราะคำพูดเพียงคำเดียวของคนบางคน แต่เปลี่ยนชีวิตทั้งสองไปอย่างสิ้นเชิง และต่อให้คนๆนั้นจะมาขอโทษหรือไถ่บาปให้ ก็ไม่อาจแก้ไขผลของการกระทำได้อีกแล้ว อีกทั้งบางทีคนที่ต้องการรับการไถ่บาปก็อาจจะไม่ได้มีชีวิตอยู่รอรับฟังจนกว่าจะรับการขอโทษจริงๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สุดท้ายเซซิเลียและร็อบบี้ ก็ไม่ได้ฟังคำขอโทษจากไบรโอนี่ ซึ่งมันสายเกินไปแล้ว แถมไบรโอนี่ก็ไม่กล้าพูดออกมาอีกด้วย
ฉาก Long take อันยิ่งใหญ่ ณ ดันเคิร์ก
อีกฉากที่ผมว่าไม่พูดถึงไม่ได้คือ ฉาก Long take ในเหตุการณ์อพยพที่ดันเคิร์ก เป็นช็อตที่ถ่ายได้สวยงาม และสื่ออารมณ์บรรยากาศของเหตุการณ์ตรงนั้นได้ออกมาชัดมาก การลำดับภาพในฉากนี้ก็ทำได้เยี่ยมเหมือนงานศิลปะชิ้นงาม ถือเป็นหนึ่งในไม้เด็ดแล้วก็สร้างชื่อให้กับหนังเรื่องนี้มาก
นอกจากนี้องค์ประกอบศิลป์ในหนังก็สวย ทั้งคอสตูม บรรยากาศหนัง โลเคชันในหนังที่ดูสมจริง ยาวไปจนกระทั่ง Cinematography ทำได้สวยรื่นตา
Elegy for Dunkirk - Atonement - HD
นักแสดง
ในส่วนนักแสดงถือว่าเล่นได้ดีทุกคนครับ มีที่ชอบเป็นพิเศษคือ
James McAvoy (ในบทร็อบบี้) เล่นดีมาก จนผมแปลกใจว่าทำไมแกถึงอดเข้าชิงออสการ์ซะงั้น ยังมีตัวละครนำอีกสองคนทั้ง
Keira Knightley (เซซิเลีย) และ
Saoirse Ronan (ไบรโอนี่ตอนเด็ก) ก็แสดงได้ดีมากทั้งคู่
[Saoirse Ronan เข้าชิงออสการ์ด้วย]
ดนตรีประกอบภาพยนตร์ - สื่อถึงความเจ็บปวดและความโหยหา
Atonement OST - 01. Briony
ดนตรีของ Atonement ได้รับการประพันธ์โดย
Dario Marianelli ซึ่งบอกเลยว่าดนตรีประกอบภาพยนตร์ของ Atonement โคตรเพราะเลย ทั้งดูเศร้า เจ็บปวด โหยหาบางอย่าง รวมทั้งทำให้บรรยากาศหนังหดหู่มาก อีกอย่างที่ชอบก็เสียงพิมพ์ดีดนี่แหละ
Atonement Soundtrack-Farewell
สรุป
สำหรับผม
Atonement ผมให้คะแนน
8.3/10 (เป็นหนังที่ทั้งเจ็บปวดและสวยงามในเวลาเดียวกัน) แม้ว่าจะไม่ได้ชอบที่สุด แต่ก็เป็นหนังที่ผมประทับใจและมีคุณค่าให้น่าจดจำ การบรรยายความเจ็บปวดผ่านบรรยากาศหนัง ความรู้สึกของการสำนึกผิดแต่ก็สายเกินแก้ ถือได้ว่าเป็นหนังที่งดงามทั้งแก่นและเนื้อเรื่อง บทหนัง องค์ประกอบทุกอย่างในหนังพิถีพิถันมาก ซึ่งพอดูไปแล้วผมก็นึกได้ถึงบรรยากาศของเรื่อง
Cold Mountain (2003) มีฟีลบรรยกาศหนังคล้ายกันบ้าง แต่ไม่เหมือนกันซะทีเดียว (Cold Mountain เป็นอีกเรื่องที่ผมอินสุดๆ 555)
ข้อควรระวังในการดูหนังเรื่องนี้ : การดำเนินเรื่องที่เนิบอาจทำให้หลับได้และสไตล์หนังไม่เหมาะกับคนต้องการบันเทิงแน่นอน แต่เหมาะกับคนที่ชอบดูหนังสายรางวัล โดยเฉพาะคนที่อยากดูหนังโศกนาฏกรรมรักเรื่องเยี่ยม Atonement ถือว่าตอบโจทย์มาก
" คำพูดเพียงคำเดียวอาจเปลี่ยนชีวิตไปตลอดกาล แม้ว่าอยากจะลบล้างบาปที่ตัวเองกระทำไว้ แต่ก็สายเกินที่จะแก้ไข "
8.3/10
----------------------------------------------------------------------
Atonement (2007) (Imdb)
Fledgling writer Briony Tallis, as a thirteen-year-old, irrevocably changes the course of several lives when she accuses her older sister's lover of a crime he did not commit.
Director: Joe Wright
Writers: Ian McEwan (novel), Christopher Hampton (screenplay)
Stars: Keira Knightley, James McAvoy, Brenda Blethyn | See full cast & crew »
----------------------------------------------------------------------
ป.ล. สำหรับคนที่ดูแล้วหรือยังไม่ได้ดู ก็สามารถมาคุยกันได้นะครับ ชอบฉากไหน ประทับใจเรื่องใด ก็มาคุยแลกเปลี่ยนกัน
(เพิ่มเติม) ระหว่างการหาข้อมูล ผมไปเจอกระทู้น่าสนใจ เป็นบทวิเคราะห์หนังจากนิตยสาร
Bioscope ใครสนใจอยากอ่านรายละเอียดหนังเชิงลึก ก็เข้าไปอ่านดูได้นะครับ (ถือเป็นอีกกระทู้ที่ดีมากๆ) เป็นกระทู้ของคุณ
kaizank
= "Atonement" ชีวิตพลิกผันเพราะเด็กเลี้ยงแกะ =
[CR] (Review หนังรางวัล) Atonement (2007) : คำพูดเพียงคำเดียวเปลี่ยนชีวิตไปตลอดกาล
Atonement เรื่องราวของโศกนาฏกรรมรัก เนื้อเรื่องเริ่มต้นในช่วงก่อนยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 ณ ประเทศอังกฤษ Robbie Turner (James McAvoy) เด็กหนุ่มผู้มีอนาคตไกล ผู้ได้รับการอุปการะจากบ้านของตระกูล Tallis ซึ่งตระกูลนี้มีลูกสาวอยู่สองคนคือ พี่สาว Cecilia Tallis (Keira Knightley) และน้องสาว Briony Tallis ร็อบบี้และเซซิเลียต่างชอบกันและกัน ทว่าต่อมาได้เกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้นในบ้าน ทำให้ร็อบบี้ต้องกลายเป็นแพะรับผิดโดนจับเข้าคุก อนาคตของเขาที่วาดฝันไว้ต้องดับวูบในทันที เรื่องราวทั้งหมดพลิกผันเพราะคำพูดเพียงคำเดียว สุดท้ายเราก็ต้องลุ้นว่าเขาจะมีโอกาสได้เจอกับเซซิเลียและอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขหรือไม่ ?
เป็นหนังที่ทั้งเจ็บปวดและสวยงามในเวลาเดียวกัน
Atonement เป็นหนังที่น่าประทับใจ ด้วยสไตล์หนังแบบเนิบๆ (ทรงหนักไปทางสไตล์หนังยุโรป) เน้นละเมียดละไม ละเอียดลึกซึ้ง ทำให้หนังดูประณีต ผสมผสานกับบทอันหนักแน่น การตัดต่อหนัง การตัดสลับเล่าเรื่องไปมาช่วยให้หนังดูมีชั้นเชิง ความโดดเด่นอีกอย่างที่ทำให้หนังเหนือชั้น ก็คือจุดหักมุม Atonement มีจุดหักมุมชนิดพลิกเรื่องทั้งเรื่อง ขนาดทำให้ผมทั้งประหลาดใจ (และหดหู่ใจ) เลยทีเดียว เป็นจุดไคล์แม็กซ์หนังและบทสรุปของเรื่อง
จุดหักมุมที่ว่านี้จริงๆแล้วก็ถูกสอดแทรกไว้ในเรื่องผ่าน Symbol ต่างๆ เช่น เสียงพิมพ์ดีด เป็นหนึ่งใน Symbol ที่แทรกเข้ามาตลอด หรือสีหนังที่ดูฟุ้งคล้ายอยู่ในภวังค์ ก็เป็นอีก Symbol เช่นกัน หนังใช้ Symbol ต่างๆได้อย่างแนบเนียน
ผมชอบที่หนังมีชื่อเรื่องว่า ' Atonement ' ที่มีความหมายว่า ' การไถ่โทษ , การทำดีชดเชยความผิด ' มันสะท้อนแก่นหนังออกมาได้ชัดเจน ร็อบบี้และเซซิเลียต้องมีชะตากรรมที่พลิกผัน ทั้งสองต้องพบกับความเจ็บปวดที่ยากเกินจะรับได้ เพราะคำพูดเพียงคำเดียวของคนบางคน แต่เปลี่ยนชีวิตทั้งสองไปอย่างสิ้นเชิง และต่อให้คนๆนั้นจะมาขอโทษหรือไถ่บาปให้ ก็ไม่อาจแก้ไขผลของการกระทำได้อีกแล้ว อีกทั้งบางทีคนที่ต้องการรับการไถ่บาปก็อาจจะไม่ได้มีชีวิตอยู่รอรับฟังจนกว่าจะรับการขอโทษจริงๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ฉาก Long take อันยิ่งใหญ่ ณ ดันเคิร์ก
อีกฉากที่ผมว่าไม่พูดถึงไม่ได้คือ ฉาก Long take ในเหตุการณ์อพยพที่ดันเคิร์ก เป็นช็อตที่ถ่ายได้สวยงาม และสื่ออารมณ์บรรยากาศของเหตุการณ์ตรงนั้นได้ออกมาชัดมาก การลำดับภาพในฉากนี้ก็ทำได้เยี่ยมเหมือนงานศิลปะชิ้นงาม ถือเป็นหนึ่งในไม้เด็ดแล้วก็สร้างชื่อให้กับหนังเรื่องนี้มาก
นอกจากนี้องค์ประกอบศิลป์ในหนังก็สวย ทั้งคอสตูม บรรยากาศหนัง โลเคชันในหนังที่ดูสมจริง ยาวไปจนกระทั่ง Cinematography ทำได้สวยรื่นตา
ในส่วนนักแสดงถือว่าเล่นได้ดีทุกคนครับ มีที่ชอบเป็นพิเศษคือ James McAvoy (ในบทร็อบบี้) เล่นดีมาก จนผมแปลกใจว่าทำไมแกถึงอดเข้าชิงออสการ์ซะงั้น ยังมีตัวละครนำอีกสองคนทั้ง Keira Knightley (เซซิเลีย) และ Saoirse Ronan (ไบรโอนี่ตอนเด็ก) ก็แสดงได้ดีมากทั้งคู่ [Saoirse Ronan เข้าชิงออสการ์ด้วย]
ดนตรีประกอบภาพยนตร์ - สื่อถึงความเจ็บปวดและความโหยหา
สำหรับผม Atonement ผมให้คะแนน 8.3/10 (เป็นหนังที่ทั้งเจ็บปวดและสวยงามในเวลาเดียวกัน) แม้ว่าจะไม่ได้ชอบที่สุด แต่ก็เป็นหนังที่ผมประทับใจและมีคุณค่าให้น่าจดจำ การบรรยายความเจ็บปวดผ่านบรรยากาศหนัง ความรู้สึกของการสำนึกผิดแต่ก็สายเกินแก้ ถือได้ว่าเป็นหนังที่งดงามทั้งแก่นและเนื้อเรื่อง บทหนัง องค์ประกอบทุกอย่างในหนังพิถีพิถันมาก ซึ่งพอดูไปแล้วผมก็นึกได้ถึงบรรยากาศของเรื่อง Cold Mountain (2003) มีฟีลบรรยกาศหนังคล้ายกันบ้าง แต่ไม่เหมือนกันซะทีเดียว (Cold Mountain เป็นอีกเรื่องที่ผมอินสุดๆ 555)
ข้อควรระวังในการดูหนังเรื่องนี้ : การดำเนินเรื่องที่เนิบอาจทำให้หลับได้และสไตล์หนังไม่เหมาะกับคนต้องการบันเทิงแน่นอน แต่เหมาะกับคนที่ชอบดูหนังสายรางวัล โดยเฉพาะคนที่อยากดูหนังโศกนาฏกรรมรักเรื่องเยี่ยม Atonement ถือว่าตอบโจทย์มาก
Fledgling writer Briony Tallis, as a thirteen-year-old, irrevocably changes the course of several lives when she accuses her older sister's lover of a crime he did not commit.
Director: Joe Wright
Writers: Ian McEwan (novel), Christopher Hampton (screenplay)
Stars: Keira Knightley, James McAvoy, Brenda Blethyn | See full cast & crew »