ธนาคารอิสลาม (ไอแบงก์) เชือด 48พนักงาน พัวพันทำแบงก์เจ๊ง
เครดิตภาพ
https://goo.gl/BXU6gT
ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เชือดแล้ว 48 พนักงานพัวพันทำแบงก์เจ๊ง สั่งสอบวินัยร้ายแรง ยื่นเรื่อง ปปช. ฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย ด้าน“วิทัย” รักษาการเอ็มดีป้ายแดง ทำแผนพลิกฟื้นทำกำไรปีหน้า
นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานกรรมการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย(ไอแบงก์) เปิดเผยความคืบหน้าการเร่งดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่กระทำความผิดจนส่งผลให้ธนาคารเสียหาย ตามนโยบายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่า ขณะนี้ได้ลงโทษทางวินัยกับพนักงานของธนาคารแล้ว 48 ราย ในจำนวนนี้มีการลงโทษวินัยร้ายแรง 24 ราย ส่วนคดีอาญาได้ส่งรายชื่อผู้กระทำความผิดให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.) 22 ราย และยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) อีก 16 ราย ด้านคดีแพ่งสอบสวนเสร็จแล้ว 4 ราย อยู่ระหว่างส่งฟ้องอัยการเพื่อเรียกเงินคืนและสอบสวนทางแพ่งอยู่อีก 22 ราย
“ส่วนการหาพันธมิตรผู้ร่วมทุนที่ผ่านมา ได้ตั้งเงื่อนไขว่าเงินทุนของธนาคารจะต้องไม่ติดลบ ทำให้กระทรวงการคลังต้องทำการเพิ่มทุน 18,000 ล้านบาท เพื่อไม่ให้เงินทุนติดลบ แต่ต้องทำการแก้ไขกฎหมายธนาคาร ให้กระทรวงการคลังถือหุ้นเกิน 49% เป็นการชั่วคราว ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา”
https://www.dailynews.co.th/economic/602587
ธนาคารอิสลาม (ไอแบงก์) เชือด 48พนักงาน พัวพันทำแบงก์เจ๊ง - พร้อมทำแผนพลิกฟื้น ทำกำไรปีหน้า
เครดิตภาพ https://goo.gl/BXU6gT
ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย เชือดแล้ว 48 พนักงานพัวพันทำแบงก์เจ๊ง สั่งสอบวินัยร้ายแรง ยื่นเรื่อง ปปช. ฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย ด้าน“วิทัย” รักษาการเอ็มดีป้ายแดง ทำแผนพลิกฟื้นทำกำไรปีหน้า
นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานกรรมการธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย(ไอแบงก์) เปิดเผยความคืบหน้าการเร่งดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่กระทำความผิดจนส่งผลให้ธนาคารเสียหาย ตามนโยบายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่า ขณะนี้ได้ลงโทษทางวินัยกับพนักงานของธนาคารแล้ว 48 ราย ในจำนวนนี้มีการลงโทษวินัยร้ายแรง 24 ราย ส่วนคดีอาญาได้ส่งรายชื่อผู้กระทำความผิดให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.) 22 ราย และยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) อีก 16 ราย ด้านคดีแพ่งสอบสวนเสร็จแล้ว 4 ราย อยู่ระหว่างส่งฟ้องอัยการเพื่อเรียกเงินคืนและสอบสวนทางแพ่งอยู่อีก 22 ราย
“ส่วนการหาพันธมิตรผู้ร่วมทุนที่ผ่านมา ได้ตั้งเงื่อนไขว่าเงินทุนของธนาคารจะต้องไม่ติดลบ ทำให้กระทรวงการคลังต้องทำการเพิ่มทุน 18,000 ล้านบาท เพื่อไม่ให้เงินทุนติดลบ แต่ต้องทำการแก้ไขกฎหมายธนาคาร ให้กระทรวงการคลังถือหุ้นเกิน 49% เป็นการชั่วคราว ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา”
https://www.dailynews.co.th/economic/602587