รบกวนนักการธนาคารช่วยไขข้อข้องใจให้ผมหน่อยครับ เรื่องนโยบายรีไฟแนนซ์กับรีเทนชั่น

ความเดิม....ลูกชายซื้อบ้าน + กู้จากแบ๊งค์สีเหลือง ไม่ทำ MRTA อัตราดอกเบี้ย 3...4...5 % และปีที่ 4 ขึ้นไป MLR-1.7 (6.6-1.7=4.9)
ก็เริ่มผ่อนมาตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค. 2557 มีโปะบ้างบางครั้ง ซึ่งครบ 3 ปี เมื่อต้นเดือน ก.ย. 2560

ไปขอรีเทนชั่นจากที่เดิม ได้อัตราดอกเบี้ย 4.5 % 3 ปั พอปีที่ 4 กลายเป็น MRR-1.5 ซึ่งนับจากปีที่ 4 สูงกว่าเดิมอีก  
พอดีช่วงนี้มีโปโมรชั่น ธอส. ...Bank of china......CIMB......UOB  ลูกชายก็ไปติดต่อ ซึ่งโปรดี ๆ ทั้งนั้น ในที่สุด เลือกส่งเอกสารขอรีไฟแนนซ์ ธอส.
ธอส. 3 ปีแรก 2.9 ต่อไป MRR-1 (6.75-1) เพราะที่ีทำงานลูกเข้าโครงการ ธอส. แถมฟรีค่าจดจำนอง ฟรีค่าประเมิน(อันนี้จ่ายไปก่อนแล้วเอาใบเสร็จไปเบิกกับ ธอส.)

พอกลับไป แบ๊งค์เดิมก็ยืนยันรีเทนชั่นเท่าเดิม นอกจากนี้ถามเพื่อนคนอื่นที่ผ่อนกับแบ๊งค์อื่นครบ 3 ปีแล้ว ไปขอรีเทนชั่นกับแบ๊งค์นั้น ๆ  ก็ได้ผลลัพท์แบบเดียวกัน

แม้แต่คนที่ผ่อนกับ ธอส. ปีที่ 4 ดอกเบี้ย 5% เศษ พอไปขอรีเทนชั่นก็ไม่ได้ถูกลงมากมาย คงได้แค่ 4 % กว่าใน 3 ปีถัดไป + ค่ารีเทนชั่น

สรุป เหมือนจะให้ลูกค้าตัดสินในรีไฟแนนซ์  ...ตอนนี้ลูกผมรีไฟแนนซ์มาอยู่ ธอส. เรียบร้อยแล้ว

ผมจึงอยากเรียนถามว่า

การรักษาลูกค้าเดิม กับวิธีจัดโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์แบบนี้ ธนาคาร ได้อะไร เสียอะไร เพราะดูแล้วรายได้จากผลรวมของดอกเบี้ยไม่ได้เพิ่มขึ้น(กรณีรีไฟแนนซ์)
1. ลูกค้าเดิมประวัติดีมาตลอด คงไม่มีใครทนเสียดอกแพง ถึงแม้รีเทนชั่นก็ยังแพงอยู่ ธนาคารเสียลูกค้าแน่
2. จัดโปรโมชั่นรีไฟแนนซ์ ดอกถูก เสียลูกค้าเก่า ได้ลูกค้าใหม่มา แต่ดอกถูกเริ่มนับ 3 ปีใหม่ เป็นแบบนี้แทบทุกแบ๊งค์
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่