รีวิว : เกาะช้าง 2 วัน 1 คืน ณ.เอวา รีสอร์ท เกาะช้าง วันที่ 30/9– 1/10/2560 (Review : Koh-Chang)

สวัสดีเพื่อน ๆ  ชาวพันทิปทุกคน กระทู้นี้เราจะมาทำรีวิวเที่ยว “เกาะช้าง หน้าฝน พัก กิน นอน เอวา รีสอร์ท เกาะช้าง” ในเวลาเพียง 2 วัน 1 คืนเท่านั้น บอกใครก็มีแต่คนต่างตกใจ ไปทำไมคืนเดียว นี่ก็อยากไปหลายวันนะแต่ติดตรงที่ยังไม่สามารถลางานได้ น่าเสียดาย TT’ ยังไงก็ไปติดตามดูกันได้เลยจ้า รูปมันอาจจะเยอะหน่อย ๆ นะ อิ้อิ้ 😊

เวลา 23.30 น.
​ขึ้นรถไปลุยเกาะช้างกันเลยดีกว่า ^^ การเที่ยวครั้งนี้เราฝากชีวิตไว้กับรถทัวร์ “เชิดชัยทัวร์” รอบ 23.30 น. ขึ้นรถที่สถานีขนส่งเอกมัย เดินทางง่ายๆด้วยรถไฟฟ้า bts ลงสถานทีเอกมัยได้เลยเดินมานิดเดียวก็ถึงแล้วสถานีขนส่งเอกมัย ราคาตั๋วคนละ 230 บาท




เวลา 4.15 น.
เย้ !!!! ถึงแล้วววววว ~ สถานีขนส่งตราด ลงจากรถนั่งรอที่สถานีขนส่งไม่ถึง 5 นาทีก็มีคนขับรถสองแถวมาจัดการให้เราไปขึ้นรถสองแถวเพื่อไปต่อ มีผู้ร่วมเดินทางบนรถสองแถวอย่างเต็มคันรวมกัน 10 คนนั่งกันแน่นเอียด หลังคารถก็ต่ำเหลือเกิน หายใจลำบากมากๆ แต่ก็ทนเอาเพื่อเกาะช้าง อิอิ ราคารถสองแถวคนละ 80 บาท นั่งเมื่อยๆ มาเรื่อยๆ ประมาณ 30 นาทีรถสองแถวก็พาเรามาที่จุดซื้อตั๋วขึ้นเรือ **ตั๋วเรือไป-กลับเราสามารถซื้อพร้อมตั๋วรถทัวร์ขามาเลยก็ได้นะ ไป-กลับคนละ 150 บาท** แต่จะขึ้นเรือที่ท่าเรือเซ็นเตอร์พ้อยนะจ้ะ เราก็เอาตั๋วเรือที่เราซื้อพร้อมกับตั๋วรถทัวร์ขามายื่นให้กับคนขายตั๋ว และคนขายตั๋วก็เปลี่ยนตั๋วให้เราและแนะนำให้เราซื้อตั๋วรถทัวร์ขากลับเลย ซึ่งจะรวมค่ารถตู้ที่ไปส่งเราที่รีสอร์ทคนละ 90 บาท,ค่าตั๋วรถทัวร์กลับคนละ 230 บาท,ค่ารถสองแถวคนละ 80 บาท **แนะนำว่าซื้อเลยก็ดีนะเพราะเราไม่ต้องจัดการอะไรเลยรอแค่จะกลับเท่านั้น เค้าจะบอกว่าให้นั่งเรือรอบไหนแล้วเราก็จะได้กลับรถรอบไหน**พอเราซื้อเรียบร้อยแล้วคนจัดการขายตั๋วก็ให้เรานั่งรอสักพัก ใกล้เวลาจะมีรถพาเราไปที่ท่าเรือเซ็นเตอร์พ้อย



เวลา 5.00 น.
​คนจัดการขายตั๋วเรียกให้เราไปขึ้นรถตู้เพื่อไปยังท่าเรือใช้เวลาเดินทางจากจุดขายตั๋วเรือไปท่าเรือเซ็นเตอร์พ้อยประมาณ 5 นาที และรถตู้ก็ไปเข้าแถวต่อคิวขึ้นเรือ รอเรือประมาณครึ่งชม.

เวลา 5.30 น.
​ยังขึ้นเรือไม่ได้ก็เดินชมความสวยงามของท้องทะเลและท้องฟ้ายามเช้ากันไปก่อน







เวลา 6.00 น.
​คนจัดการเรือ เรียกผู้โดยสารขึ้นเรือ เรือใหญ่มากสามารถบรรจุคนได้เยอะ บรรจุรถได้หลายคัน แถมมีของขายบนเรือด้วย เรือแล่นมาเรื่อยๆประมาณ 30 กว่านาที หลังจากนั้นใกล้ถึงเกาะช้างคนขับรถตู้ก็มาตามเราไปขึ้นรถตู้ พอรถตู้ลงจากเรือรถตู้ก็จะนำเราไปส่งตามแต่ละที่พัก ดีไปอีก ตอนแรกก็คิดนะว่าจะเหมือนเกาะล้าน เกาะสีชังอะไรทำนองนั้นแบบถึงท่าเรือก็มีรถมอไซต์ให้เช่าขับไปเก๋ๆแต่เปล่าเลย ขนาดนั่งรถตู้เพื่อไปที่พักนะคือแบบความรู้สึกแต่ละจุดมันไกลกันมาก โค้งก็เยอะ ทางบางจุดก็ชัน โค้งหักเยอะพอตัว ต้องคนขี่เก่งๆหน่อย แต่ถนนดีนะ ทำทางเป็นบางช่วง ดีแล้วที่รถตู้มาส่งเราที่ที่พักเลย







เวลา 7.00 น.
​ถึงแล้วจ้า Hello~ Awa resort Koh-Chang เดินข้ามถนนมาปุ๊ปพนักงานก็เดินมารับกระเป๋าเราทันทีเลย พาเราไป lobby เพื่อทำการเช็คอิน เช็คอินรอก่อนได้แต่ยังไม่สามารถเข้าห้องได้เนื่องจากผู้พักก่อนหน้ายังไม่เช็คเอ้าก็รอเข้าห้องพักประมาณ 14.00 น.ไป แต่เราสามารถฝากกระเป๋าไว้ที่ lobby ได้เลย พนักงานจะเอากระเป๋าเราไปเก็บไว้ในห้องเก็บกระเป๋าอย่างดี ยังเข้าห้องพักไม่ได้แต่เราสามารถเดินเล่น ถ่ายรูปตามมุมต่างๆของรีสอร์ทได้เลยนะ รีสอร์ทมีพร้อมทั้งสระว่ายน้ำที่มีความยาวมาก มีห้องอาหาร 2 ห้อง มีบาร์ริมสระ มีบริการนวดสปา อยู่ติดทะเล มีชานให้นั่งดินเนอร์ชมทะเล มีที่นั่งริมทะเล มีต้นมะพร้าวเก๋ๆ ทุกอย่างถูกวางไว้อย่างลงตัว







เวลา 8.00 น.
​ออกไปขี่รถชมเกาะช้างกันดีกว่า เดินไปเช่ารถมอไซต์ ร้าน “ลุงกะป้า” ซึ่งอยู่ข้างรีสอร์ทเลย เดินออกมาจากรีสอร์ทเลี้ยวขวาเช่ามอไซต์กันโล้ดดดดด ราคาเช่ารถเก่าวันละ 200 บาท รถใหม่ป้ายแดงวันละ 300 บาท ค่ามัดจำ 2,000 บาทพร้อมบัตรประชาชน (ค่ามัดจำโหดมาก) อย่าลืมพกหมวกกันน็อคด้วยนะ เพราะคุณลุงเจ้าของร้านบอกว่าตำรวจชอบตั้งด่าน หลังจากนั้นก็ขี่รถเพื่อไปหาร้านข้าวทานกันแต่มันคงยังเช้าอยู่ไม่มีร้านไหนเปิดเลยหาของกินยากมากเช้าแบบนี้ เลยขี่ไปเรื่อยๆ เจอทางเข้าน้ำตกคลองพลูเราก็เลี้ยวตามป้ายขี่ตามทางมาเรื่อยๆเอารถมาจอดหน้าทางเข้าอุทยานเสียค่าจอด 10 บาท แต่ถ้าเราจ่ายค่าเข้าอุทยานแล้วก็สามารถขี่เข้าไปจอดฟรีได้เลย แต่ด้วยความรีบร้อนทำให้เราต้องเสียเงิน 10 บาท ฮ่าๆๆ ค่าเข้าอุทยานคนละ 40 บาท เดินเข้าไปชมธรรมชาติ คือฟินมาก อากาศดีมากเลย




​หลังจากนั้นขับรถมาเรื่อยๆ ไปเดินเล่นหาดทรายขาว หวังว่าจะไปนั่งกินข้าวที่หาดทรายขาว แต่ฟ้าฝนก็ไม่เป็นใจ ทำท่าทางจะตก มืดมาเชียว ทางเข้าหาดทรายขาวหายากมาก แนะนำให้ไปจอดไว้หน้าเซเว่นแล้วเดินเข้าข้างๆเซเว่นเลย เดินเอาเท้าเหยียบน้ำทะเลแปปเดียวเท่านั้น ฝนลงเม็ดทันที เลยตัดสินใจขี่รถกลับที่พักเพื่อไปนั่งรอ นั่งเล่น นอนเล่นที่รีสอร์ทดีกว่า พนักงานเอาหมอนมาให้หนุนหัวด้วย พนักงานที่นี้บริการดีจริงๆ นั่งรอ นอนรอ ไปสักพักถึงเวลาเข้าห้องพักได้ ก็จะมีพนักงานลากกระเป๋าพาเราไปห้องพัก ห้องพักที่เราจองเราจองผ่าน Agoda ห้องละ 3,038 บาทรวมอาหารเช้า (เป็นการจองที่เราประทับใจมาก เนื่องจากเราจองผิดวันซึ่งเป็นวันที่ต้องเช็คอินไปแล้วแต่พนักงาน Agoda ก็จัดการติดต่อกับทางรีสอร์ทเปลี่ยนวันเข้าพักให้เราได้ อีกเรื่องหนึ่งของความประทับใจจาก Agoda) ห้องที่เราจอง คือ ห้อง Deluxe Beach Front เป็นห้องที่อยู่ชั้น 2 เปิดประตูระเบียง เปิดม่านออก สามารถมองเห็นทะเลได้เลยจากห้องพัก ห้องพักสะอาด กว้างมาก ห้องน้ำก็กว้างมาก แบ่งเป็นสัดส่วนได้อย่างลงตัว มีอุปกรณ์ครบครัน คือแบบไม่ต้องพกอะไรมาเลยก็ได้ แค่เอาเสื้อผ้ามาอย่างเดียวพอ รูปข้างล่างจะเป็นรูปเกี่ยวกับห้องที่เราพักทั้งหมด















เวลา 12.00 น.
​เที่ยงพอดีฝนเจ้าก็หยุดตก แดดก็ออกเปรี้ยงทันที เราก็ไม่รอช้าเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เข้ากับทะเลซะหน่อยแล้วออกไปลุยหาร้านอร่อยๆกินกันดีกว่า จากที่เราศึกษารีวิวในพันทิปมาบ้างเราก็เลยตามพันทิปไปกินร้านนี้เลย “ไอยรา ซีฟู้ด” วิวของร้านอาหารดี กินริมน้ำ นั่งมองคลื่น รับลมเย็น อาหารอร่อย ราคาไม่แพง กับข้าว 3 อย่าง ข้าวเปล่า 2 จาน น้ำแข็ง 1 ถัง น้ำเปล่า 1 ขวดใหญ่ ทั้งหมดนี้ 600 บาท สำหรับเราอร่อยทุกอย่างเลย
​หลังจากทานอาหารเที่ยงเสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็ขี่รถไปแก้มือ เดินโชบทะเลที่หาดทรายขาวอีกครั้ง เดินเหยียบน้ำทะเล ได้รูปสวยๆ จนหายอยากแล้วก็กลับรีสอร์ทไปนอนพักกันดีกว่า นอนพักสักพักตื่นมาก็ 4 โมงเย็นเตรียมตัวพาแฟนไปว่ายน้ำแต่เบาะนั่งริมสระว่ายน้ำก็เต็ม ไม่เป็นไรไปเดินถ่ายรูปเล่น นั่งชิวริมหาดก็ได้ นอนฟังเสียงคลื่นไปชิวๆ รอไปทานอาหารเย็นนี้กัน หลังจากนั้นก็ไปเตรียมอาบน้ำแต่งตัวลงมาดินเนอร์











แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่