สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
ประเด็นไม่ใช่อยู่ที่จะเป็นชาวจีนหรือไม่ครับ แต่เพราะในสายตาของราชสำนักต้าชิงแล้ว พระเจ้ากรุงธนบุรีทรงละเมิดคุณธรรมข้อสำคัญของชาวจีนคือ "ความกตัญญู" ทำให้ราชสำนักต้าชิงยากจะให้ความยอมรับในฐานะพระเจ้าแผ่นดินได้ครับ
ทั้งนี้ตามความเห็นบนกล่าวคือต้าชิงทราบข่าวจากพระยาราชาเศรษฐีหมักเทียนตื๊อ (鄚天賜) เจ้าเมืองพุทไธมาศซึ่งอุปถัมภ์เชื้อพระวงศ์กรุงเก่าคือเจ้าจุ้ยโอรสเจ้าฟ้าอภัย กับเจ้าศรีสังข์โอรสเจ้าฟ้าธรรมธิเบศรไว้ ทำให้ต้าชิงตำหนิพระเจ้ากรุงธนบุรีที่ตั้งตนเป็นใหญ่แทนที่จะอุปถัมภ์ค้ำชูเชื้อพระวงศ์เก่าอย่างแรง โดยมีหนังสือส่งมาว่า
“หวังได้รับตราตั้งโดยมิชอบเพื่อเป็นเครื่องมือตั้งตนเหรือผู้อื่น มิได้สำนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแลพระเมตตาของเจ้านายเก่า อีกทั้งมิได้สืบหาองค์รัชทายาท เพื่อกอบกู้ชาติแลโจมตีอริศัตรู ถือว่าผิดคุณธรรม จริยธรรม แลทำตนเกินศักดิ์”
คณะทูตที่พระเจ้ากรุงธนบรีส่งมาจีนเพื่อเจรจาขอตราคำหับเพื่อทำการค้ากับราชสำนักต้าชิงเมื่อ พ.ศ.๒๓๑๑ จึงถูกตีกลับ เพราะในสายตาของต้าชิงและหมักเทียนตื๊อนั้น เห็นว่าเชื้อสายของพระเจ้าแผ่นดินกรุงศรีอยุทธยาอย่างกรมหมื่นเทพพิพิธ เจ้าจุ้ย เจ้าศรีสังข์นั้นมีความชอบธรรมมากกว่า นอกจากนี้ทางต้าชิงก็ไม่คิดจะส่งหนังสือใดๆ ไปสยามด้วยถ้าเชื้อพระวงศ์อยุทธยายังไม่ได้ครองราชย์
นอกจากนี้ จวินจีต้าเฉินหรือเสนาบดีสภาของราชสำนักต้าชิงได้ร่างหนังสือส่งให้หลี่ซื่อเหยา (李侍堯) ผู้เป็นเหลียงกว่างจ่งตู (兩廣總督) หรืออุปราชมณฑลกว่างตง-กว่างซี ให้ส่งต่อไปถึงพระเจ้ากรุงธนบุรีเพื่อตำหนิการครองราชสมบัติเองแทนที่จะสนบสนุนเจ้าราชวงศ์เก่าว่า
“...พื้นเพท่านเป็นชาวจีนย่อมรู้ดีถึงคุณธรรม จริยธรรม อันเป็นธรรมะสูงสุด จักไม่เคยรู้หลักคำสอนเรื่องนามนิยมเลยหรือ จึงปรากฏว่า เสียซื่อลู่ (พิษณุโลก) ลู่คุน (นครศรีธรรมราช) เกาเลี่ย (โคราช) รวม ๓ เมือง ต่างก็มีความเดือดเนื้อร้อนใจในศัตรูร่วมกัน อันเนื่องมาจากการที่ท่านตั้งตนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน”
แต่พอพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงปราบปรามพุทไธมาศและเชื้อพระวงศ์กรุงเก่าหมดแล้ว ต้าชิงเห็นว่าหมดผู้ชอบธรรมที่จะอ้างสิทธิขึ้นครองแผ่นดินได้อีก และเห็นว่าพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงควบคุมสถานการณ์ได้หมดแล้วก็จำต้องปล่อยเลยตามเลย นอกจากนี้พระเจ้ากรุงธนบุรีเองก็ทรงพยายามเพียรสร้างไมตรีกับจีนด้วยการส่งเชลยพม่าและทหารจีนที่ตกเป็นเชลยพม่าให้ต้าชิงอยู่เป็นระยะ จีนจึงมีท่าทีทางบวกต่อพระเจ้ากรุงธนบุรีมากขึ้น จนกระทั่งได้รับอนุญาตให้ฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างในอดีตใน ซึ่งพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงส่งคณะทูตชุดแรกมาใน พ.ศ. ๒๓๒๔
ทั้งนี้ตามความเห็นบนกล่าวคือต้าชิงทราบข่าวจากพระยาราชาเศรษฐีหมักเทียนตื๊อ (鄚天賜) เจ้าเมืองพุทไธมาศซึ่งอุปถัมภ์เชื้อพระวงศ์กรุงเก่าคือเจ้าจุ้ยโอรสเจ้าฟ้าอภัย กับเจ้าศรีสังข์โอรสเจ้าฟ้าธรรมธิเบศรไว้ ทำให้ต้าชิงตำหนิพระเจ้ากรุงธนบุรีที่ตั้งตนเป็นใหญ่แทนที่จะอุปถัมภ์ค้ำชูเชื้อพระวงศ์เก่าอย่างแรง โดยมีหนังสือส่งมาว่า
“หวังได้รับตราตั้งโดยมิชอบเพื่อเป็นเครื่องมือตั้งตนเหรือผู้อื่น มิได้สำนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแลพระเมตตาของเจ้านายเก่า อีกทั้งมิได้สืบหาองค์รัชทายาท เพื่อกอบกู้ชาติแลโจมตีอริศัตรู ถือว่าผิดคุณธรรม จริยธรรม แลทำตนเกินศักดิ์”
คณะทูตที่พระเจ้ากรุงธนบรีส่งมาจีนเพื่อเจรจาขอตราคำหับเพื่อทำการค้ากับราชสำนักต้าชิงเมื่อ พ.ศ.๒๓๑๑ จึงถูกตีกลับ เพราะในสายตาของต้าชิงและหมักเทียนตื๊อนั้น เห็นว่าเชื้อสายของพระเจ้าแผ่นดินกรุงศรีอยุทธยาอย่างกรมหมื่นเทพพิพิธ เจ้าจุ้ย เจ้าศรีสังข์นั้นมีความชอบธรรมมากกว่า นอกจากนี้ทางต้าชิงก็ไม่คิดจะส่งหนังสือใดๆ ไปสยามด้วยถ้าเชื้อพระวงศ์อยุทธยายังไม่ได้ครองราชย์
นอกจากนี้ จวินจีต้าเฉินหรือเสนาบดีสภาของราชสำนักต้าชิงได้ร่างหนังสือส่งให้หลี่ซื่อเหยา (李侍堯) ผู้เป็นเหลียงกว่างจ่งตู (兩廣總督) หรืออุปราชมณฑลกว่างตง-กว่างซี ให้ส่งต่อไปถึงพระเจ้ากรุงธนบุรีเพื่อตำหนิการครองราชสมบัติเองแทนที่จะสนบสนุนเจ้าราชวงศ์เก่าว่า
“...พื้นเพท่านเป็นชาวจีนย่อมรู้ดีถึงคุณธรรม จริยธรรม อันเป็นธรรมะสูงสุด จักไม่เคยรู้หลักคำสอนเรื่องนามนิยมเลยหรือ จึงปรากฏว่า เสียซื่อลู่ (พิษณุโลก) ลู่คุน (นครศรีธรรมราช) เกาเลี่ย (โคราช) รวม ๓ เมือง ต่างก็มีความเดือดเนื้อร้อนใจในศัตรูร่วมกัน อันเนื่องมาจากการที่ท่านตั้งตนเป็นใหญ่ในแผ่นดิน”
แต่พอพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงปราบปรามพุทไธมาศและเชื้อพระวงศ์กรุงเก่าหมดแล้ว ต้าชิงเห็นว่าหมดผู้ชอบธรรมที่จะอ้างสิทธิขึ้นครองแผ่นดินได้อีก และเห็นว่าพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงควบคุมสถานการณ์ได้หมดแล้วก็จำต้องปล่อยเลยตามเลย นอกจากนี้พระเจ้ากรุงธนบุรีเองก็ทรงพยายามเพียรสร้างไมตรีกับจีนด้วยการส่งเชลยพม่าและทหารจีนที่ตกเป็นเชลยพม่าให้ต้าชิงอยู่เป็นระยะ จีนจึงมีท่าทีทางบวกต่อพระเจ้ากรุงธนบุรีมากขึ้น จนกระทั่งได้รับอนุญาตให้ฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างในอดีตใน ซึ่งพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงส่งคณะทูตชุดแรกมาใน พ.ศ. ๒๓๒๔
สมาชิกหมายเลข 6609676 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3845599 ถูกใจ, มาภา...แสงจากพระจันทร์ ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 779487 ถูกใจ, Nopphum ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2841724 ถูกใจ, Two Trees of Valinor ถูกใจ, Humble ถูกใจ, maya-chan ถูกใจ, Pripproud352 ถูกใจรวมถึงอีก 5 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
ช่วงแรกๆของการครองราชย์พระเจ้าตากสิน ทำไมจีนไม่ยอมรับการเป็นกษัตริย์สยามละครับ