เห็นคนตั้งกระทู้หาคลีนิครักษาสิวเยอะ เลยอยากมาแบ่งปันประสบการณ์รักษาสิวที่เห็นผลให้ได้อ่านกันค่ะ
ขอเท้าความก่อน เราไม่เคยรักษาสิวที่คลีนิคความงามต่างๆเลย จึงไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ รู้แค่ว่ามีค่าใช้จ่ายสูงในการรักษา
ตอนนี้รักษาสิวที่คลีนิคศูนย์แพทย์พัฒนา (เป็นคล้ายๆโรงพยาบาลแต่ไม่มีแอดมิท) ที่แผนกผิวหนังค่ะ
ช่วงเป็นสิวจะเป็นแถวแก้ม คาง จมูกค่ะ หน้าเราตอนแรกที่ยังไม่รักษารู้สึกว่าผิวมัน แต่รักษาสิวหายแล้วรู้สึกว่าแห้งมาก ส่วนตอนนี้ผ่านมาสักพักรู้สึกว่าผิวผสมล่ะ เอ๊ะ ยังไง
*เรามองว่าสิวก็เป็นโรคผิวหนังอย่างนึงที่พบได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุอะไรก็ตาม เราคิดว่าถ้าอยากหายขาดก็ควรไปหาหมอที่โรงพยาบาลดีกว่าไปเสี่ยงทายเอากับคลีนิคความงามต่างๆ และไม่อยากเสียเงินเกินจำเป็นด้วย*
เพราะฉะนั้นเราเลยจะขอแนะนำว่า ถ้าอยากรักษาสิวจริงจังให้ไปแผนกผิวหนังที่โรงพยาบาลต่างๆดู รัฐบาลหรือเอกชนก็แล้วแต่ทุนเลย เป็นทางนึงที่เซฟสุดๆเพราะไม่ต้องกลัวว่าจะโดนเลี้ยงไข้ หรือสิวไม่หาย และเซฟมันนี่ด้วยนะคะคุณน้อง
ตอนนี้กำลังรักษาอยู่ที่ศูนย์แพทย์พัฒนา ค่าหมอประมาณ 500 ค่ายาต่างหาก ยาเรามี benzac/ retin-a/ differin อะไรงี้แวะเวียนมาใช้ตามดุลยพินิจของแพทย์ ส่วนมอยส์เจอไรเซอร์ได้ physiogel สีแดง *ฟังนะคะ ถ้า
อยากประหยัดก็สามารถขออนุญาติคุณหมอมาซื้อข้างนอกได้ *แต่ราคาขึ้นอยู่ที่หาซื้อได้นะคะ ถ้าข้างนอกแพงกว่าก็เอาของง รพ ค่ะ เราซื้อจากช้อปปี้เพราะถูกกว่าเกือบ200 บาท ส่วนโฟมล้างหน้าเป็นของ acne aid สีแดง
เรารักษามาตั้งแต่ปลายเมษายน ทายาตามหมอสั่ง มีลืมบ้าง แต่สิวหายนะจ๊ะขอบอก ช่วงมิถุนาฯหน้าเริ่มเคลียร์แล้ว มีปะทุไม่ถึง3จุด ซึ่งถือว่าน้อยมากสำหรับคนเป็นสิว ตอนนี้เหลือแต่
รอยสิว ก็รักษากันต่อไป
ปล 1 แนะนำว่าต้องปฏิบัติตามที่คุณหมอสั่งอย่างเคร่งครัดถ้าอยากหายไวๆ ที่เราหาอยู่ส่วนใหญ่ช่วงแรกจะนัดเดือนละครั้ง หลังๆก็ค่อยนัดเองได้ แบบยาหมดแล้วค่อยมางี้
ปล 2
สำคัญมากเว่อร์ นังหนูทั้งหลายฟังค่ะ
อย่าลืมทาครีมกันแดดด้วยทุกวันนะ *หาแบบไม่มีแอลกอฮอล์จะดีที่สุด ยิ่งเป็นสิวโดนแสงยูวีแล้วมันจะทำให้รอยเข้มขึ้น ฝ้า กระก็เช่นกัน อย่าจับหน้าบ่อย หรือแคะแกะเกา กดสิวเด็ดขาดนะ ให้มันยุบเองดีที่สุด ถ้าไม่มั่นใจตอนออกไปข้างนอกสิวช้างนักก็ใช้แผ่นแปะสิวซะเลย
ปล 3 อย่าหยุดใช้ยาเองนะ ประสบการณ์ตรงจากใจเจ้ รวมถึงอย่าแอบใช้สิ่งที่คุณหมอห้าม เช่น โทนเนอร์/ เอสเซ้นส์/ เซรั่ม โถๆ ก็หนูอยากอินเทรนด์ ตัดภาพมาตอนแพ้แอลกอฮอล์จร้า *ภาพภูเขาไฟระเบิด* โบกเบนแซคแทบไม่ทัน แถมแย่สุดคือโคตะระแสบหน้า
ปล สุดท้าย หากจะไปหาหมอผิวหนังจริงๆ มีคำถาม สงสัยอะไร ใช้อะไรได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็เตรียมไปถามให้เสร็จสรรพนะคะ จะได้ไม่เป็นภาระแก่ตัวเองค่ะ สงสัยอะไรลิสต์ไปเลย แต่อย่าเยอะมากเดี๋ยวหมอกริ้ว ส่วนใหญ่แกจะแนะนำให้ หยุดลงรองพื้น หยุดใช้แอกลฮอล์ค่ะ แต่ยังดื่มได้นะคะ
ทั้งนี้ขอให้ทุกท่านที่ได้อ่านได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ จุ้บๆ สู้ๆ อยากหายต้องมีวินัย รักษาสิวแล้ว อย่าลืมรักษาสุขภาพกินให้พอดี ออกกำลังกายเบาๆก็ได้ค่ะ ดูแลตัวเอง รักตัวเองนะคะ นอกเรื่องอีกล่ะ 555+
*เขียนไม่สละสลวย ไม่เป็นระเบียบขออภัยจริงๆค่ะ ไม่สันทัดการเขียนเท่าไหร่ เอาให้รู้เรื่องเป็นพอ*
อยากแนะนำคนที่เป็นสิว อยากหาย หน้าใส โดยไม่เสียทรัพย์เยอะ
ขอเท้าความก่อน เราไม่เคยรักษาสิวที่คลีนิคความงามต่างๆเลย จึงไม่สามารถเปรียบเทียบกันได้ รู้แค่ว่ามีค่าใช้จ่ายสูงในการรักษา
ตอนนี้รักษาสิวที่คลีนิคศูนย์แพทย์พัฒนา (เป็นคล้ายๆโรงพยาบาลแต่ไม่มีแอดมิท) ที่แผนกผิวหนังค่ะ
ช่วงเป็นสิวจะเป็นแถวแก้ม คาง จมูกค่ะ หน้าเราตอนแรกที่ยังไม่รักษารู้สึกว่าผิวมัน แต่รักษาสิวหายแล้วรู้สึกว่าแห้งมาก ส่วนตอนนี้ผ่านมาสักพักรู้สึกว่าผิวผสมล่ะ เอ๊ะ ยังไง
*เรามองว่าสิวก็เป็นโรคผิวหนังอย่างนึงที่พบได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุอะไรก็ตาม เราคิดว่าถ้าอยากหายขาดก็ควรไปหาหมอที่โรงพยาบาลดีกว่าไปเสี่ยงทายเอากับคลีนิคความงามต่างๆ และไม่อยากเสียเงินเกินจำเป็นด้วย*
เพราะฉะนั้นเราเลยจะขอแนะนำว่า ถ้าอยากรักษาสิวจริงจังให้ไปแผนกผิวหนังที่โรงพยาบาลต่างๆดู รัฐบาลหรือเอกชนก็แล้วแต่ทุนเลย เป็นทางนึงที่เซฟสุดๆเพราะไม่ต้องกลัวว่าจะโดนเลี้ยงไข้ หรือสิวไม่หาย และเซฟมันนี่ด้วยนะคะคุณน้อง
ตอนนี้กำลังรักษาอยู่ที่ศูนย์แพทย์พัฒนา ค่าหมอประมาณ 500 ค่ายาต่างหาก ยาเรามี benzac/ retin-a/ differin อะไรงี้แวะเวียนมาใช้ตามดุลยพินิจของแพทย์ ส่วนมอยส์เจอไรเซอร์ได้ physiogel สีแดง *ฟังนะคะ ถ้าอยากประหยัดก็สามารถขออนุญาติคุณหมอมาซื้อข้างนอกได้ *แต่ราคาขึ้นอยู่ที่หาซื้อได้นะคะ ถ้าข้างนอกแพงกว่าก็เอาของง รพ ค่ะ เราซื้อจากช้อปปี้เพราะถูกกว่าเกือบ200 บาท ส่วนโฟมล้างหน้าเป็นของ acne aid สีแดง
เรารักษามาตั้งแต่ปลายเมษายน ทายาตามหมอสั่ง มีลืมบ้าง แต่สิวหายนะจ๊ะขอบอก ช่วงมิถุนาฯหน้าเริ่มเคลียร์แล้ว มีปะทุไม่ถึง3จุด ซึ่งถือว่าน้อยมากสำหรับคนเป็นสิว ตอนนี้เหลือแต่รอยสิว ก็รักษากันต่อไป
ปล 1 แนะนำว่าต้องปฏิบัติตามที่คุณหมอสั่งอย่างเคร่งครัดถ้าอยากหายไวๆ ที่เราหาอยู่ส่วนใหญ่ช่วงแรกจะนัดเดือนละครั้ง หลังๆก็ค่อยนัดเองได้ แบบยาหมดแล้วค่อยมางี้
ปล 2 สำคัญมากเว่อร์ นังหนูทั้งหลายฟังค่ะ อย่าลืมทาครีมกันแดดด้วยทุกวันนะ *หาแบบไม่มีแอลกอฮอล์จะดีที่สุด ยิ่งเป็นสิวโดนแสงยูวีแล้วมันจะทำให้รอยเข้มขึ้น ฝ้า กระก็เช่นกัน อย่าจับหน้าบ่อย หรือแคะแกะเกา กดสิวเด็ดขาดนะ ให้มันยุบเองดีที่สุด ถ้าไม่มั่นใจตอนออกไปข้างนอกสิวช้างนักก็ใช้แผ่นแปะสิวซะเลย
ปล 3 อย่าหยุดใช้ยาเองนะ ประสบการณ์ตรงจากใจเจ้ รวมถึงอย่าแอบใช้สิ่งที่คุณหมอห้าม เช่น โทนเนอร์/ เอสเซ้นส์/ เซรั่ม โถๆ ก็หนูอยากอินเทรนด์ ตัดภาพมาตอนแพ้แอลกอฮอล์จร้า *ภาพภูเขาไฟระเบิด* โบกเบนแซคแทบไม่ทัน แถมแย่สุดคือโคตะระแสบหน้า
ปล สุดท้าย หากจะไปหาหมอผิวหนังจริงๆ มีคำถาม สงสัยอะไร ใช้อะไรได้บ้างไม่ได้บ้าง ก็เตรียมไปถามให้เสร็จสรรพนะคะ จะได้ไม่เป็นภาระแก่ตัวเองค่ะ สงสัยอะไรลิสต์ไปเลย แต่อย่าเยอะมากเดี๋ยวหมอกริ้ว ส่วนใหญ่แกจะแนะนำให้ หยุดลงรองพื้น หยุดใช้แอกลฮอล์ค่ะ แต่ยังดื่มได้นะคะ
ทั้งนี้ขอให้ทุกท่านที่ได้อ่านได้ประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ จุ้บๆ สู้ๆ อยากหายต้องมีวินัย รักษาสิวแล้ว อย่าลืมรักษาสุขภาพกินให้พอดี ออกกำลังกายเบาๆก็ได้ค่ะ ดูแลตัวเอง รักตัวเองนะคะ นอกเรื่องอีกล่ะ 555+
*เขียนไม่สละสลวย ไม่เป็นระเบียบขออภัยจริงๆค่ะ ไม่สันทัดการเขียนเท่าไหร่ เอาให้รู้เรื่องเป็นพอ*