สวัสดีเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคนนะคะ กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่เราตั้งจริงจังเป็นครั้งแรก ปกติมีID ไว้อ่านแล้วก็แสดงความคิดเห็นมากกว่า >///< ถ้าพิมพ์งงๆ พิมพ์ผิดหรือแท็กผิดยังไงอย่าว่ากันเน้อ
สำหรับกระทู้นี้เราแค่อยากมาแชร์เรื่องราวของเราจากการเป็นสิวเห่อเต็มหน้าจนมาถึงวันนี้ที่เรียกได้ว่าหายเป็นปกติ (
ไม่นับรวมรอยสิวนะคะ T^T) ในระยะเวลา 1 ปีเต็มที่ผ่านมา ย้ำนะคะแค่มาแชร์ไม่ได้มาเป็นหน้าม้าหรือจะขายของแต่อย่างใด
เราอยากให้คนที่เจอปัญหาคล้ายๆแบบเรามีกำลังใจว่ามันมีทางรักษาจริงๆ สู้ๆใจเย็นๆ แต่รายละเอียดการรักษาหรือใช้ยาที่ใช้ อาจไม่ละเอียดอะไรมากนะคะ เพราะเราไม่ได้ตั้งใจจะมาเขียนเป็นเรื่องราวขนาดนี้ตั้งแต่แรก เลยไม่ได้จดบันทึกหรือถ่ายรูปอะไรไว้มาก
ตอนนั้นสติแตกอย่างเดียวเลย....ชีวิตดราม่ามาก
....มาเข้าเรื่องกันเลย....
EP1.ต้นตอ
โดยปกติแล้วเราเป็นคนหน้ามันค่ะก็แต่ไม่ได้มากมาย รูขุมขนตรงแก้มแอบกว้างเหมือนกัน รวมๆก็ไม่ได้แย่อะไรมาก ส่วนเรื่องสิวอักเสบหัวแดงๆก็มีขึ้นบ้างประปราย เม็ด 2เม็ด เยอะหน่อยก็ก่อนมีประจำเดือน บีบแล้วก็หาย (
เราเป็นคนมือไม่อยู่สุขเห็นสิวเป็นต้องบีบ อย่าทำตามเน้อเพราะมันเป็นที่มาของหลุมสิวที่อยู่บนหน้าเราทุกวันนี้นี่เอง ) แล้วก็มีสิวอุดตันนิดหน่อย ตอนนั้นครีมอะไรใช้ได้หมดไม่เคยแพ้อะไรเลย เรียกได้ว่าเป็นคนหน้าหนา เอ่ยหน้าแข็งแรง!
เรื่องมีอยู่ว่าด้วยความที่มีสิวอุดตันเราก็เลยลองหาข้อมูลพวกยาหรือผลิตภัณฑ์ลดสิวอุดตันในพันทิปนี่แหละค่ะ แล้วก็ได้มารู้จักกับเจ้า
Benzac ที่หลายๆคนบอกใช้ดีมาก ด้วยความที่ไม่เคยแพ้อะไรเลยก็จัดซิคะรออะไร ก็ซื้อแบบ Benzac 5% 15 กรัมหลอดเล็กมาลองใช้ โดยใช้ทาทั่วหน้าก่อนล้างหน้า ช่วงแรกๆก็ 5-10 นาทีก็ปกติไม่แพ้ ไม่มีอาการผิดปกติใดใด พอผ่านไปหลายวันหน่อยก็ค่อยๆทิ้งไว้นานขึ้นๆ บางครั้งเป็นชั่วโมงเลยก็มี ตอนนั้นก็รู้สึกเฉยๆไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง หลังจากใช้ไปได้ประมาณ1เดือนยาก็หมดแล้วเราก็ไม่ได้ซื้อมาใช้ต่ออีก หลังจากหยุดทาไปได้ประมาณ2สัปดาห์ก็เริ่มมีสิวเม็ดใหญ่ขึ้นข้างๆแก้ม(
เราไม่มั่นใจว่าเกี่ยวกันไหมนะ แต่นอกจาก Benzac เราก็ไม่ได้ใช้อะไรแปลกจากปกติเลย) จากหนึ่งเม็ดเป็นสองเม็ดเป็นสามเม็ด ก็ตามสไตล์ค่ะ บีบ บีบ บีบ แต่มันไม่หายค่ะ บีบออกแล้วก็เป็นอีก ตอนแรกเป็นข้างเดียวต่อมาเป็นทั้งสองข้างเลย เราเริ่มสัมผัสได้ว่า เห้ย...เป็นอะไรหว่า มันเริ่มไม่ปกติแล้วนะ แต่ก็ยังชะล้าใจไม่ได้ไปหาหมอเพราะก็ยังไม่เยอะมาก เดี๋ยวก็คงหายแหละ
จากนั้นเจ้าสิวตัวดีก็ทยอยพาเพื่อนของมันมาอยู่บนหน้าเราเยอะขึ้นเรื่อยๆ ทั้งแก้ม หน้าผาก คาง เยอะแยะไปหมด จนเราตัดสินใจไม่แต่งหน้าไปทำงานก็ไว้ว่ะ...แต่ขอมีคิ้วอย่างหนึ่ง
(ผู้หญิงทุกคนคงเข้าใจ 5555 เพราะคิ้วเป็นมงกุฎของหน้า ถึงเเม้หน้าจะพังมงกุฎต้องยังคงอยู่) คิดดูโหดร้ายขนาดไหนสำหรับผู้หญิงที่ต้องไปทำงานหน้าสด แต่ดีที่งานที่เราทำถึงแม้จะต้องเจอคนเยอะแต่ใส่แมส(หน้ากากอนามัย)ตลอด ประกอบกับเราตัดผมหน้าม้าถือเป็นการช่วยอำพรางได้
(บางคนอาจจะคิดว่าเราแพ้แมสกับเอาผมลงมาปิดหน้ารึป่าว แต่เราก็ใส่แมสกับตัดหน้าม้ามาเป็นปีก็ไม่ได้มีสิวขึ้นนะเลยคิดว่าไม่น่าจะใช่) ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่ได้ไปหาหมอนะเพราะยังไม่ตรงกับวันหยุดงาน
EP2. ต้องไปหาหมอแล้วล่ะ
ปัญหามันเริ่มก่อตัวขึ้นแล้วค่ะ เพราะปกติเราแต่งหน้าไปทำงาน ก็ไม่ค่อยมีใครเห็นว่าเป็นสิวแต่พอไม่แต่งหน้าเท่านั้นแหละเริ่มมีพี่ๆที่ทำงานถามว่าไปทำอะไรมาทำไมสิวขึ้นแล้วคำถามก็ทยอยกันมาอย่างต่อเนื่องสลับสับเปลี่ยนคนถาม สังคมทำงานที่มีผู้หญิงเยอะๆมันน่ากลัวตรงนี้แหละค่ะ ถามกันทุกวันจนเราเริ่มเครียดแบบเออ...ไปหาหมอก็ได้
แต่เราไม่อยากไปรักษาตามคลินิก หรือสถาบันเสริมความงามค่ะ ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายแล้วก็กลัวเค้าเลี้ยงไข้ด้วย กลัวไม่หายขาด ดีที่ตอนเรียนเราเรียนอยู่ใกล้ๆอนุสาวรีย์ชัยฯเดินผ่านหน้าสถาบันโรคผิวหนังของกรมการแพทย์ตรงข้างๆโรงพยาบาลราชวิถีเกือบทุกวัน นึกได้เลยลองหาข้อมูลดู
ก็น่าจะโอเคนะ !! พอถึงวันหยุดงาน(เราหยุดงานวันธรรมดานะ สบายหน่อย) ก็ไปเลยค่ะ เพราะเป็นโรงพยาบาลเฉพาะด้านผิวหนังและเป็นโรงพยาบาลของรัฐ
วันนั้นเราเลยรีบตื่นแต่ไก่โห่ เดินทางไปถึงรพ.ประมาณ หกโมนิดๆ อ้อตอนที่เราไปเค้าย้ายอาคารไปอยู่หลังโรงพยาบาลเด็กเป็นการชั่วคราวนะ แต่ก็อยู่ใกล้กับที่เดิมแหละ ไปถึงก็ทำประวัติต่างๆตามขั้นตอนแล้วก็รอพบหมอ ขนาดไปเช้าคนยังเยอะเลย แต่เค้ามีห้องตรวจเยอะ มีหมอเยอะ แป๊บเดียวก็ได้พบหมอแล้ว สิ่งที่ชอบมากๆและรู้สึกว่าที่นี่แตกต่างจากรพ.รัฐที่อื่นที่เราเคยไปมาคือเค้ามีใบนำทาง ที่บอกว่าเราจะต้องไปติดต่อตรงไหน 1 2 3 ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย...เสียดาย พอเข้าไปพบหมอคุณหมอผู้หญิงหน้าเด็กมาก น่ารัก ฮาๆ คุณหมอก็ถามอาการ เราก็เล่าอาการและก็บอกว่าก่อนหน้านี้ใช้ Benzac มาไม่มั่นใจว่าเกี่ยวไหม คุณหมอก็สั่งยาให้แล้วก็ถ่ายรูปไว้เพื่อติดตามผล ยาที่หมอจ่ายให้มี 2 ตัวคะ
- Epiduo 0.1%/2.5% gel 15 กรัม1 หลอด ให้มาทา
- ยาปฏิชีวนะ Doxycycline ให้กินติดต่อกันจนหมด
และนัดมาดูอาการอีกทีเดือนหน้า จำไม่ได้ว่าค่ายากี่บาทแต่ไม่แพง
EP3. ฟีคสุด
เหมือนทุกอย่างจะจบลงแบบสวยงาม แต่ไม่เลยค่ะนี่แค่จุดเริ่มต้นของหน้าพัง พัง พังหนักมากของเรา T^T
(อ้อตั้งแต่วันที่ไปหาหมอเราก็ถ่ายรูปหน้าตัวเองไว้ทุกๆวันเลยถ่ายถี่ๆอยู่เกือบ3เดือน เรียกได้ว่าโทรศัพท์มีแต่รูปหน้าสิวของตัวเอง กะถ่ายเก็บไว้ดูว่ามันหายหรือเป็นเยอะขึ้น อย่าตกใจกันน่ามันน่ากลัวนิดนึ่งทุกวันนี้เรานั่งดูยังรับไม่ได้อยู่เลย) หลังจากกลับจากหาหมอเราก็พยามยามทายา กินยาตรงเวลาไม่ลืม ไม่ขาด งดทาครีมหรือใช้เครื่องสำอางนอกเหนือจากที่หมอให้ ทำตัวเป็นคนไข้ที่ดีแบบอยากหายแล้ว กลัวไม่หาย
แล้วสิ่งที่กลัวมันก็เป็นจริงค่ะ มันไม่หาย ในช่วงสัปดาห์แรกหลังจากหาหทอ เจ้าสิวตัวดีผุดขึ้นมาเรื่อยๆไม่ดีขึ้นแล้วยังแย่กว่าเดิมอีก อาการแย่ขึ้นอย่างรวดเร็วค่ะ ช่วงสัปดาห์ที่ 3 หน้าเราเละมาก ทั้งแดง ทั้งอักเสบ สิวหลายๆหัวรวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ งื้อออออ ร้องไห้แป๊บ
มันทั้งเจ็บทั้งน่าเกลียด ส่องกระจกทีไรเราร้องไห้ตลอด ยิ่งอาการหนักขึ้นคนก็มารุมล้อมถามกันมากขึ้น
เป็นอะไรทำไมสิวชึ้นเยอะ? ไปทำอะไรมา? แพ้ครีมอะไรรึป่าว? พี่รู้จักคลินิกตรง...รักษาดีมากเลย ใช้.......นี่สิ สิวจะได้หาย ทำไมไม่ไปรักษา? ไปหาหมอมารึยัง? หน้าเสียหมดแล้ว
สารพัดคำถาม และคำแนะนำหลังไหลมา
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แบบที่เราไม่ได้ร้องขอ ก็เข้าใจว่าทุกคนหวังดีและเป็นห่วงจริงๆ แต่มันทำให้เราเครียดหนักมาก และหมดความมั่นใจในตัวเองไปเลย เราเครียดและอายจนไม่อยากออกจากห้องไปไหนเลย ไม่อยากเจอใคร
ดราม่าจริงๆเห็นไหม เราให้กำลังใจตัวเองว่าเดี๋ยวมันก็หาย เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น
(จริงๆเราก็คิดนะว่าจะกลับไปหาหมอดีไหมเพราะมันไม่หายแต่ก็ไม่กล้าคิดแต่ว่าอีกไม่กี่วันก็ถึงวันหมอนัดแล้ว ซึ้งถ้าวันนั้นเราไปหาหมอมันอาจจะดีกว่านี้ก็เป็นได้)
ช่วงวันหยุดเรานี่หมกตัวอยู่แต่ในห้อง จะลงมาก็แค่ซื้อข้าวขึ้นไปกินมันยิ่งทำให้เราทั้งเครียดทั้งเหงา เพราะปกติหยุดงานเราจะไปเที่ยว ไปเดินเล่น ถ่ายรูปเล่น จตุจักรบ้าง วังหลังบ้าง เยาวราชบ้าง แบบทำงานมาทั้งสัปดาห์ก็พักผ่อนชิลๆให้ผ่อนคลาย ช่วงนั้นนี่งดหมดทั้งเที่ยวทั้งถ่ายรูป เรียกได้ว่า Facebook เงียบมากจนเพื่อนๆสงสัยว่าหายไปไหน555 นี่เป็นรูปที่เราถ่ายไว้ตอนนั้น หน้าสด na app เราว่าต้องมีคนตกใจกันบ้างแหละ 555 ถือเป็นกระทู้พลีชีพกันเลยทีเดียว (
เขิล)
EP4. ไปเที่ยวกัน
แล้วอยู่ๆก็มีเพื่อนคนหนึ่งนางทักมาชวนไปคิชฌกูฏกับพี่ๆทีทำงานของนางค่ะ ไปรถส่วนตัวด้วย ตอนแรกเราจะไม่ไปแต่คิดไปคิดมาไปทำบุญบ้างเผื่ออะไรๆจะดีประกอบกับอยากไปอยู่แล้ว ก็หอบหน้าสิวไปค่ะ ”ขึ้นตอนกลางคืนมืดๆไม่ค่อยมีใครเห็นหรอก” เพื่อนพูดปลอบใจเรา555 ไม่รู้คิดผิดรึคิดถูกเพราะคนที่เคยไปจะรู้ว่าการเดินทางไปคิชฌกูฏ ตอนนั่งรถขึ้นไปมันเป็นทางดิน โอโหฝุ่นตลบอบอวนไปหมดเลย
หน้าฉานนนนนนนนน แต่ก็สนุกแล้วก็รู้สึกผ่อนคลายไปได้เยอะ ประกอบกับพี่ๆที่ทำงานของเพื่อนน่ารักมากไม่มีใครพูดให้เราเครียดเลย...พอลงมาจากเขา แวะล้างหน้าแปรงฟัน เรา รู้สึกได้เลยว่าหน้านี้ระบมไปหมด หน้าบวมเป่งเลย แบบสิวที่มีทุกอณูมันประทุออกมาหมด ตายแน่ๆเลย
เราพยายามไม่สนใจมากเที่ยวให้สนุกค่อยว่ากัน เดี๋ยวกลับไปก็ถึงวันนัดหมอแล้ว
แชร์ประสบการณ์>>>1ปีเต็มที่ฉันผ่านมา:จากสาวหน้าสิวเป็นสาวหน้า(เกือบ)ใส
สำหรับกระทู้นี้เราแค่อยากมาแชร์เรื่องราวของเราจากการเป็นสิวเห่อเต็มหน้าจนมาถึงวันนี้ที่เรียกได้ว่าหายเป็นปกติ (ไม่นับรวมรอยสิวนะคะ T^T) ในระยะเวลา 1 ปีเต็มที่ผ่านมา ย้ำนะคะแค่มาแชร์ไม่ได้มาเป็นหน้าม้าหรือจะขายของแต่อย่างใด
เราอยากให้คนที่เจอปัญหาคล้ายๆแบบเรามีกำลังใจว่ามันมีทางรักษาจริงๆ สู้ๆใจเย็นๆ แต่รายละเอียดการรักษาหรือใช้ยาที่ใช้ อาจไม่ละเอียดอะไรมากนะคะ เพราะเราไม่ได้ตั้งใจจะมาเขียนเป็นเรื่องราวขนาดนี้ตั้งแต่แรก เลยไม่ได้จดบันทึกหรือถ่ายรูปอะไรไว้มาก ตอนนั้นสติแตกอย่างเดียวเลย....ชีวิตดราม่ามาก
EP1.ต้นตอ
โดยปกติแล้วเราเป็นคนหน้ามันค่ะก็แต่ไม่ได้มากมาย รูขุมขนตรงแก้มแอบกว้างเหมือนกัน รวมๆก็ไม่ได้แย่อะไรมาก ส่วนเรื่องสิวอักเสบหัวแดงๆก็มีขึ้นบ้างประปราย เม็ด 2เม็ด เยอะหน่อยก็ก่อนมีประจำเดือน บีบแล้วก็หาย (เราเป็นคนมือไม่อยู่สุขเห็นสิวเป็นต้องบีบ อย่าทำตามเน้อเพราะมันเป็นที่มาของหลุมสิวที่อยู่บนหน้าเราทุกวันนี้นี่เอง ) แล้วก็มีสิวอุดตันนิดหน่อย ตอนนั้นครีมอะไรใช้ได้หมดไม่เคยแพ้อะไรเลย เรียกได้ว่าเป็นคนหน้าหนา เอ่ยหน้าแข็งแรง!
เรื่องมีอยู่ว่าด้วยความที่มีสิวอุดตันเราก็เลยลองหาข้อมูลพวกยาหรือผลิตภัณฑ์ลดสิวอุดตันในพันทิปนี่แหละค่ะ แล้วก็ได้มารู้จักกับเจ้า Benzac ที่หลายๆคนบอกใช้ดีมาก ด้วยความที่ไม่เคยแพ้อะไรเลยก็จัดซิคะรออะไร ก็ซื้อแบบ Benzac 5% 15 กรัมหลอดเล็กมาลองใช้ โดยใช้ทาทั่วหน้าก่อนล้างหน้า ช่วงแรกๆก็ 5-10 นาทีก็ปกติไม่แพ้ ไม่มีอาการผิดปกติใดใด พอผ่านไปหลายวันหน่อยก็ค่อยๆทิ้งไว้นานขึ้นๆ บางครั้งเป็นชั่วโมงเลยก็มี ตอนนั้นก็รู้สึกเฉยๆไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลง หลังจากใช้ไปได้ประมาณ1เดือนยาก็หมดแล้วเราก็ไม่ได้ซื้อมาใช้ต่ออีก หลังจากหยุดทาไปได้ประมาณ2สัปดาห์ก็เริ่มมีสิวเม็ดใหญ่ขึ้นข้างๆแก้ม(เราไม่มั่นใจว่าเกี่ยวกันไหมนะ แต่นอกจาก Benzac เราก็ไม่ได้ใช้อะไรแปลกจากปกติเลย) จากหนึ่งเม็ดเป็นสองเม็ดเป็นสามเม็ด ก็ตามสไตล์ค่ะ บีบ บีบ บีบ แต่มันไม่หายค่ะ บีบออกแล้วก็เป็นอีก ตอนแรกเป็นข้างเดียวต่อมาเป็นทั้งสองข้างเลย เราเริ่มสัมผัสได้ว่า เห้ย...เป็นอะไรหว่า มันเริ่มไม่ปกติแล้วนะ แต่ก็ยังชะล้าใจไม่ได้ไปหาหมอเพราะก็ยังไม่เยอะมาก เดี๋ยวก็คงหายแหละ
จากนั้นเจ้าสิวตัวดีก็ทยอยพาเพื่อนของมันมาอยู่บนหน้าเราเยอะขึ้นเรื่อยๆ ทั้งแก้ม หน้าผาก คาง เยอะแยะไปหมด จนเราตัดสินใจไม่แต่งหน้าไปทำงานก็ไว้ว่ะ...แต่ขอมีคิ้วอย่างหนึ่ง(ผู้หญิงทุกคนคงเข้าใจ 5555 เพราะคิ้วเป็นมงกุฎของหน้า ถึงเเม้หน้าจะพังมงกุฎต้องยังคงอยู่) คิดดูโหดร้ายขนาดไหนสำหรับผู้หญิงที่ต้องไปทำงานหน้าสด แต่ดีที่งานที่เราทำถึงแม้จะต้องเจอคนเยอะแต่ใส่แมส(หน้ากากอนามัย)ตลอด ประกอบกับเราตัดผมหน้าม้าถือเป็นการช่วยอำพรางได้ (บางคนอาจจะคิดว่าเราแพ้แมสกับเอาผมลงมาปิดหน้ารึป่าว แต่เราก็ใส่แมสกับตัดหน้าม้ามาเป็นปีก็ไม่ได้มีสิวขึ้นนะเลยคิดว่าไม่น่าจะใช่) ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่ได้ไปหาหมอนะเพราะยังไม่ตรงกับวันหยุดงาน
EP2. ต้องไปหาหมอแล้วล่ะ
ปัญหามันเริ่มก่อตัวขึ้นแล้วค่ะ เพราะปกติเราแต่งหน้าไปทำงาน ก็ไม่ค่อยมีใครเห็นว่าเป็นสิวแต่พอไม่แต่งหน้าเท่านั้นแหละเริ่มมีพี่ๆที่ทำงานถามว่าไปทำอะไรมาทำไมสิวขึ้นแล้วคำถามก็ทยอยกันมาอย่างต่อเนื่องสลับสับเปลี่ยนคนถาม สังคมทำงานที่มีผู้หญิงเยอะๆมันน่ากลัวตรงนี้แหละค่ะ ถามกันทุกวันจนเราเริ่มเครียดแบบเออ...ไปหาหมอก็ได้
แต่เราไม่อยากไปรักษาตามคลินิก หรือสถาบันเสริมความงามค่ะ ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายแล้วก็กลัวเค้าเลี้ยงไข้ด้วย กลัวไม่หายขาด ดีที่ตอนเรียนเราเรียนอยู่ใกล้ๆอนุสาวรีย์ชัยฯเดินผ่านหน้าสถาบันโรคผิวหนังของกรมการแพทย์ตรงข้างๆโรงพยาบาลราชวิถีเกือบทุกวัน นึกได้เลยลองหาข้อมูลดู ก็น่าจะโอเคนะ !! พอถึงวันหยุดงาน(เราหยุดงานวันธรรมดานะ สบายหน่อย) ก็ไปเลยค่ะ เพราะเป็นโรงพยาบาลเฉพาะด้านผิวหนังและเป็นโรงพยาบาลของรัฐ
วันนั้นเราเลยรีบตื่นแต่ไก่โห่ เดินทางไปถึงรพ.ประมาณ หกโมนิดๆ อ้อตอนที่เราไปเค้าย้ายอาคารไปอยู่หลังโรงพยาบาลเด็กเป็นการชั่วคราวนะ แต่ก็อยู่ใกล้กับที่เดิมแหละ ไปถึงก็ทำประวัติต่างๆตามขั้นตอนแล้วก็รอพบหมอ ขนาดไปเช้าคนยังเยอะเลย แต่เค้ามีห้องตรวจเยอะ มีหมอเยอะ แป๊บเดียวก็ได้พบหมอแล้ว สิ่งที่ชอบมากๆและรู้สึกว่าที่นี่แตกต่างจากรพ.รัฐที่อื่นที่เราเคยไปมาคือเค้ามีใบนำทาง ที่บอกว่าเราจะต้องไปติดต่อตรงไหน 1 2 3 ไม่ได้ถ่ายรูปไว้เลย...เสียดาย พอเข้าไปพบหมอคุณหมอผู้หญิงหน้าเด็กมาก น่ารัก ฮาๆ คุณหมอก็ถามอาการ เราก็เล่าอาการและก็บอกว่าก่อนหน้านี้ใช้ Benzac มาไม่มั่นใจว่าเกี่ยวไหม คุณหมอก็สั่งยาให้แล้วก็ถ่ายรูปไว้เพื่อติดตามผล ยาที่หมอจ่ายให้มี 2 ตัวคะ
- Epiduo 0.1%/2.5% gel 15 กรัม1 หลอด ให้มาทา
- ยาปฏิชีวนะ Doxycycline ให้กินติดต่อกันจนหมด
และนัดมาดูอาการอีกทีเดือนหน้า จำไม่ได้ว่าค่ายากี่บาทแต่ไม่แพง
EP3. ฟีคสุด
เหมือนทุกอย่างจะจบลงแบบสวยงาม แต่ไม่เลยค่ะนี่แค่จุดเริ่มต้นของหน้าพัง พัง พังหนักมากของเรา T^T (อ้อตั้งแต่วันที่ไปหาหมอเราก็ถ่ายรูปหน้าตัวเองไว้ทุกๆวันเลยถ่ายถี่ๆอยู่เกือบ3เดือน เรียกได้ว่าโทรศัพท์มีแต่รูปหน้าสิวของตัวเอง กะถ่ายเก็บไว้ดูว่ามันหายหรือเป็นเยอะขึ้น อย่าตกใจกันน่ามันน่ากลัวนิดนึ่งทุกวันนี้เรานั่งดูยังรับไม่ได้อยู่เลย) หลังจากกลับจากหาหมอเราก็พยามยามทายา กินยาตรงเวลาไม่ลืม ไม่ขาด งดทาครีมหรือใช้เครื่องสำอางนอกเหนือจากที่หมอให้ ทำตัวเป็นคนไข้ที่ดีแบบอยากหายแล้ว กลัวไม่หาย
แล้วสิ่งที่กลัวมันก็เป็นจริงค่ะ มันไม่หาย ในช่วงสัปดาห์แรกหลังจากหาหทอ เจ้าสิวตัวดีผุดขึ้นมาเรื่อยๆไม่ดีขึ้นแล้วยังแย่กว่าเดิมอีก อาการแย่ขึ้นอย่างรวดเร็วค่ะ ช่วงสัปดาห์ที่ 3 หน้าเราเละมาก ทั้งแดง ทั้งอักเสบ สิวหลายๆหัวรวมตัวกันเป็นกลุ่มใหญ่ๆ งื้อออออ ร้องไห้แป๊บ มันทั้งเจ็บทั้งน่าเกลียด ส่องกระจกทีไรเราร้องไห้ตลอด ยิ่งอาการหนักขึ้นคนก็มารุมล้อมถามกันมากขึ้น
สารพัดคำถาม และคำแนะนำหลังไหลมา [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ก็เข้าใจว่าทุกคนหวังดีและเป็นห่วงจริงๆ แต่มันทำให้เราเครียดหนักมาก และหมดความมั่นใจในตัวเองไปเลย เราเครียดและอายจนไม่อยากออกจากห้องไปไหนเลย ไม่อยากเจอใคร ดราม่าจริงๆเห็นไหม เราให้กำลังใจตัวเองว่าเดี๋ยวมันก็หาย เดี๋ยวมันก็ดีขึ้น (จริงๆเราก็คิดนะว่าจะกลับไปหาหมอดีไหมเพราะมันไม่หายแต่ก็ไม่กล้าคิดแต่ว่าอีกไม่กี่วันก็ถึงวันหมอนัดแล้ว ซึ้งถ้าวันนั้นเราไปหาหมอมันอาจจะดีกว่านี้ก็เป็นได้)
ช่วงวันหยุดเรานี่หมกตัวอยู่แต่ในห้อง จะลงมาก็แค่ซื้อข้าวขึ้นไปกินมันยิ่งทำให้เราทั้งเครียดทั้งเหงา เพราะปกติหยุดงานเราจะไปเที่ยว ไปเดินเล่น ถ่ายรูปเล่น จตุจักรบ้าง วังหลังบ้าง เยาวราชบ้าง แบบทำงานมาทั้งสัปดาห์ก็พักผ่อนชิลๆให้ผ่อนคลาย ช่วงนั้นนี่งดหมดทั้งเที่ยวทั้งถ่ายรูป เรียกได้ว่า Facebook เงียบมากจนเพื่อนๆสงสัยว่าหายไปไหน555 นี่เป็นรูปที่เราถ่ายไว้ตอนนั้น หน้าสด na app เราว่าต้องมีคนตกใจกันบ้างแหละ 555 ถือเป็นกระทู้พลีชีพกันเลยทีเดียว (เขิล)
EP4. ไปเที่ยวกัน
แล้วอยู่ๆก็มีเพื่อนคนหนึ่งนางทักมาชวนไปคิชฌกูฏกับพี่ๆทีทำงานของนางค่ะ ไปรถส่วนตัวด้วย ตอนแรกเราจะไม่ไปแต่คิดไปคิดมาไปทำบุญบ้างเผื่ออะไรๆจะดีประกอบกับอยากไปอยู่แล้ว ก็หอบหน้าสิวไปค่ะ ”ขึ้นตอนกลางคืนมืดๆไม่ค่อยมีใครเห็นหรอก” เพื่อนพูดปลอบใจเรา555 ไม่รู้คิดผิดรึคิดถูกเพราะคนที่เคยไปจะรู้ว่าการเดินทางไปคิชฌกูฏ ตอนนั่งรถขึ้นไปมันเป็นทางดิน โอโหฝุ่นตลบอบอวนไปหมดเลย หน้าฉานนนนนนนนน แต่ก็สนุกแล้วก็รู้สึกผ่อนคลายไปได้เยอะ ประกอบกับพี่ๆที่ทำงานของเพื่อนน่ารักมากไม่มีใครพูดให้เราเครียดเลย...พอลงมาจากเขา แวะล้างหน้าแปรงฟัน เรา รู้สึกได้เลยว่าหน้านี้ระบมไปหมด หน้าบวมเป่งเลย แบบสิวที่มีทุกอณูมันประทุออกมาหมด ตายแน่ๆเลย เราพยายามไม่สนใจมากเที่ยวให้สนุกค่อยว่ากัน เดี๋ยวกลับไปก็ถึงวันนัดหมอแล้ว