สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ความรักความศรัทธา มาจากไหน
รวมกันด้วยอะไร แปลกประหลาด
คล้ายทุ่มเทบรรจุ วัตถุธาตุ
ให้แคล้วคลาดปลอดภัย ทุกภัยพาล
หนึ่งร่างกายหนึ่งชีวิต หนึ่งจิตใจ
ทำมาจากอะไร แม้อ่อนหวาน
แต่เข้มแข็งแกร่งอยู่ พร้อมสู้งาน
เพื่อชาวบ้านชาวนา ประชาชน
ยิ่งรักยิ่งศรัทธา มาจากไหน
ยิ่งมอบใจให้ไป ไม่หวังผล
ยิ่งจับมือมั่นไป ในมืดมน
ยิ่งรู้ยิ่งลักษณ์คน ยิ่งรักเอย
.....................
ผู้น้อยคิดถึงวันเวลาเก่าๆ สิบกว่าปีก่อน วันที่ท่านนายกฯทักษิณชนะการเลือกตั้ง ต่อมาท่านได้ออกทีวีเพื่อชี้แจงสถานะการณ์ของประเทศ ด้านการเงินการคลัง
ภาพของประชาชน ยืนออกันหน้าทีวี เพื่อรับชมรับฟัง อย่างตั้งใจ เป็นภาพที่ประทับใจมาก ผู้น้อยจำได้ว่า ค่ำวันนั้น ผู้เดินกำลังเดินอยู่ในตลาดโคราช และได้ไปยืนออกับคนอื่นๆ เพื่อรับชมรายการนี้ ส่วนตามร้านค้า ที่ลูกค้านั่งทานข้าวในแผงลอยตลาด แทบทุกคนหยุดการทานข้าว แหงนมองทีวี อย่างตั้งใจฟัง
เวลาผ่านไปเหมือนสายหมอก อาจจะหลงเหลือภาพเลือนรางให้เราจดจำ แต่ที่สำคัญคือ ไม่เคยลืมเลย
ขอน้อมคารวะพี่ท่านคนอุบล ที่นับถือเสมอมาครับ
ถนอมสุขภาพด้วยครับพี่
อาร์ต โฟล์คสวาเกน
รวมกันด้วยอะไร แปลกประหลาด
คล้ายทุ่มเทบรรจุ วัตถุธาตุ
ให้แคล้วคลาดปลอดภัย ทุกภัยพาล
หนึ่งร่างกายหนึ่งชีวิต หนึ่งจิตใจ
ทำมาจากอะไร แม้อ่อนหวาน
แต่เข้มแข็งแกร่งอยู่ พร้อมสู้งาน
เพื่อชาวบ้านชาวนา ประชาชน
ยิ่งรักยิ่งศรัทธา มาจากไหน
ยิ่งมอบใจให้ไป ไม่หวังผล
ยิ่งจับมือมั่นไป ในมืดมน
ยิ่งรู้ยิ่งลักษณ์คน ยิ่งรักเอย
.....................
ผู้น้อยคิดถึงวันเวลาเก่าๆ สิบกว่าปีก่อน วันที่ท่านนายกฯทักษิณชนะการเลือกตั้ง ต่อมาท่านได้ออกทีวีเพื่อชี้แจงสถานะการณ์ของประเทศ ด้านการเงินการคลัง
ภาพของประชาชน ยืนออกันหน้าทีวี เพื่อรับชมรับฟัง อย่างตั้งใจ เป็นภาพที่ประทับใจมาก ผู้น้อยจำได้ว่า ค่ำวันนั้น ผู้เดินกำลังเดินอยู่ในตลาดโคราช และได้ไปยืนออกับคนอื่นๆ เพื่อรับชมรายการนี้ ส่วนตามร้านค้า ที่ลูกค้านั่งทานข้าวในแผงลอยตลาด แทบทุกคนหยุดการทานข้าว แหงนมองทีวี อย่างตั้งใจฟัง
เวลาผ่านไปเหมือนสายหมอก อาจจะหลงเหลือภาพเลือนรางให้เราจดจำ แต่ที่สำคัญคือ ไม่เคยลืมเลย
ขอน้อมคารวะพี่ท่านคนอุบล ที่นับถือเสมอมาครับ
ถนอมสุขภาพด้วยครับพี่
อาร์ต โฟล์คสวาเกน
ความคิดเห็นที่ 9
สวัสดีค่ะ คอา
หากพูดถึงนายกทักษิณ ต้องยอมรับ ในวิสัยทัศน์ และบารมี ที่สามารถดึงคนที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทางมาร่วมงานได้
แต่ถ้าถามว่า เปลี่ยนแปลงการเมืองไทยหรือไม่นั้น ส่วนตัวคิดว่า เปลี่ยนได้แค่ค่านิยม *เลือกทั้งพรรค* แทนที่จะเลือกบุคคล
ในสมัย คทักษิณ ได้เปลี่ยนระบบการ PR จากเวบไซทเห่ยๆ มาเป็นรายการ *นายกพบประชาชน*
การทำ ครมสัญจร ทำให้ชาวบ้านรู้สึกว่า นายก ได้ไปดูแลทุกข์สุขปชชจริงๆ
การลงพื้นที่ ทำให้เข้าใจถูกจุดว่าจะแก้ปัญหาต่างๆอย่างไร
นี่คือวิสัยทัศน์ ที่ล้ำหน้าของท่าน
แต่การเข้าถึง ปชช แบบนั้น ทำโดยไม่เสมอภาค
ซ้ำยังทำให้บาดหมาง ด้วยคำพูด นี่คือสิ่งที่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมืองที่มีนัยยะเช่นกัน
สิ่งที่พลาดอีกอย่าง คือการตอบคำถามทุกอย่างด้วยตนเอง ซึ่งเราเคยมองว่า ควรผ่านโฆษกจะดีกว่า
แต่ด้วยความที่ใครๆก็ตามไม่ค่อยทัน เลยไม่เข้าใจภาพรวมทั้งหมด เลยพูดไม่ถูกใจท่านมั้ง
มันเลยกลายไปเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของนักข่าวว่าจะต้องจ่อไมค์ใส่ปากนายกตลอดเวลา ทำให้ถูกโจมตีด้วยคำถามไร้สาระอยู่บ่อยครั้ง คราวคุณปูจะเห็นได้ชัด คือไร้มารยาทโดยสิ้นเชิง
ข้อดีไม่อยากพูดถึงมาก เพราะทุกอย่างมีจุดได้จุดเสีย
สำหรับคนอย่างเราๆ นักธุรกิจ นักวิชาการ หรือคนระดับชั้นกลางขึ้นไป มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นแบบพรวดพราด จนกลายเป็นความฟุ้งเฟ้อ ทุนนิยม การแข่งขันสูง แต่คุณภาพต่ำ
สมัยนึง ประเทศไทยเรียกว่า สมองไหล คือคนหัวดีออกไปทำงานเมืองนอก
สมัยนี้ การศึกษาอยู่ในระดับต่ำ ทั้งๆที่ไทยมีหลายอย่างทัดเทียมนานาประเทศแล้ว
ไม่อยากคิดว่า ถ้า 4 ปีคราวนั้นสร้างเสร็จสมบบูรณ์ ทุกวันนี้ เราจะเป็นกันยังไง
อาจจะดีขึ้นหรือแย่ลงเราไม่ทราบ
รวยขึ้นแล้วดีขึ้นไหม ไม่รู้
แต่ก็อยากรู้นะ เพราะตอนนี้ มันแย่สุดๆล่ะ
ส่วนการเมือง ที่เราว่าไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยน หมายถึง การพัฒนา และการเรียนรู้ของ ปชช
โอเค ปชชเริ่มมองที่ นโยบาย มากกว่าบุคคล และมองเห็นพรรคมากขึ้นนี่คือจุดเปลี่ยน
แต่การ มองอย่างผิวเผิน เช่น พรรคนี้เคยทำได้ ก็เลือกพรรคนี้ต่อไป โดยไม่มองที่ตัวนโยบายจริงๆ ว่าได้ช่วยอะไรใครได้ *จริงแค่ไหน* มีประโยชน์แค่ไหน * สมควรแก่เวลาไหม? เป็นต้น
การที่มีแนวคิดว่า * เลือกเขามาเพื่อตัดสินใจแทนเราทุกอย่าง* โดยไม่กลับมาคำนึงหรือตรวจสอบคนที่เราเลือกไปเลย ก็ยังเป็นการเมืองภาคประชาชนเดิมๆ
ชอบลุงหมักตอนเป็นนายกมากเหมือนกันค่ะ คอา
ชอบฟังรายการตอนเช้าคุยกับคุณวีระ
เป็นแฟนเหนียวแน่น ฟังวิทยุทุกวันก่อนไปทำงาน
เป็นคนที่ความรู้กว้าง คือ รู้นั่นรู้นี่ รู้ดีไปหมด หลายมิติ หลายวงการ ฟังเพลินดี
คำว่า dead air ก็ได้มาจากท่าน คือ การจัดรายการวิทยุ จะต้องพูดๆๆๆๆตลอดเวลาหรือทำไงก็ได้ให้มีเสียงออกอากาศตลอด ถ้าเงียบ หมายถึงสัญญาณขัดข้อง ก็เรียกว่า dead air
ก็เลยมีคนมาเปรียบกับเหตุการณ์ *พูดไม่ออก* บอกไม่ถูก ว่า dead air บ้าง ก็มีเหมือนกัน ดูสิ เล่าข่าว ยังมีเรื่องเล่าอื่นๆให้เรียนรู้ชอบ ชอบท่านค่ะ
พอได้เป็นนายก กลับสงบเสงี่ยม ด้วยเหตุผลที่ว่า
ตอนผมเป็นผู้ว่า ผมก็ต้องพูดมากๆ เพราะหน้าที่ผู้ว่า คือทำให้เมืองเป็นที่รู้จัก คึกคัก เพื่อกระคุ้นศก (ประมาณนี้) แค่พอเป็นนายก ผมก็ต้องใส่หมวกนายก พูดอะไร อาจจะมีความกระทบกระเทือนต่อประเทศได้ ต้องระวังเป็นพิเศษ เพื่อผลประโยชน์ของชาติ
โหย ฟังแล้วซึ้ง 😍😍
เสียดายท่านจริงๆ เล่นการเมืองมาชั่วชีวิต
แต่ท่าน ก็ได้สร้างคุณประโยชน์ต่อประเทศมากๆ ตามสไตล์ท่าน
แค่ในช่วงสั้นๆ แต่กลับสร้างคลื่นหลายลูก ที่ยังคงกระทบฝั่งมาจนถึงทุกวันนี้
ขอโทษๆๆ แย่งซีนนายกปูกับนายกแม้วซะงั้น 55555
อารมณ์พาไปค่ะ
หากพูดถึงนายกทักษิณ ต้องยอมรับ ในวิสัยทัศน์ และบารมี ที่สามารถดึงคนที่มีความรู้ความสามารถเฉพาะทางมาร่วมงานได้
แต่ถ้าถามว่า เปลี่ยนแปลงการเมืองไทยหรือไม่นั้น ส่วนตัวคิดว่า เปลี่ยนได้แค่ค่านิยม *เลือกทั้งพรรค* แทนที่จะเลือกบุคคล
ในสมัย คทักษิณ ได้เปลี่ยนระบบการ PR จากเวบไซทเห่ยๆ มาเป็นรายการ *นายกพบประชาชน*
การทำ ครมสัญจร ทำให้ชาวบ้านรู้สึกว่า นายก ได้ไปดูแลทุกข์สุขปชชจริงๆ
การลงพื้นที่ ทำให้เข้าใจถูกจุดว่าจะแก้ปัญหาต่างๆอย่างไร
นี่คือวิสัยทัศน์ ที่ล้ำหน้าของท่าน
แต่การเข้าถึง ปชช แบบนั้น ทำโดยไม่เสมอภาค
ซ้ำยังทำให้บาดหมาง ด้วยคำพูด นี่คือสิ่งที่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมืองที่มีนัยยะเช่นกัน
สิ่งที่พลาดอีกอย่าง คือการตอบคำถามทุกอย่างด้วยตนเอง ซึ่งเราเคยมองว่า ควรผ่านโฆษกจะดีกว่า
แต่ด้วยความที่ใครๆก็ตามไม่ค่อยทัน เลยไม่เข้าใจภาพรวมทั้งหมด เลยพูดไม่ถูกใจท่านมั้ง
มันเลยกลายไปเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของนักข่าวว่าจะต้องจ่อไมค์ใส่ปากนายกตลอดเวลา ทำให้ถูกโจมตีด้วยคำถามไร้สาระอยู่บ่อยครั้ง คราวคุณปูจะเห็นได้ชัด คือไร้มารยาทโดยสิ้นเชิง
ข้อดีไม่อยากพูดถึงมาก เพราะทุกอย่างมีจุดได้จุดเสีย
สำหรับคนอย่างเราๆ นักธุรกิจ นักวิชาการ หรือคนระดับชั้นกลางขึ้นไป มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นแบบพรวดพราด จนกลายเป็นความฟุ้งเฟ้อ ทุนนิยม การแข่งขันสูง แต่คุณภาพต่ำ
สมัยนึง ประเทศไทยเรียกว่า สมองไหล คือคนหัวดีออกไปทำงานเมืองนอก
สมัยนี้ การศึกษาอยู่ในระดับต่ำ ทั้งๆที่ไทยมีหลายอย่างทัดเทียมนานาประเทศแล้ว
ไม่อยากคิดว่า ถ้า 4 ปีคราวนั้นสร้างเสร็จสมบบูรณ์ ทุกวันนี้ เราจะเป็นกันยังไง
อาจจะดีขึ้นหรือแย่ลงเราไม่ทราบ
รวยขึ้นแล้วดีขึ้นไหม ไม่รู้
แต่ก็อยากรู้นะ เพราะตอนนี้ มันแย่สุดๆล่ะ
ส่วนการเมือง ที่เราว่าไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยน หมายถึง การพัฒนา และการเรียนรู้ของ ปชช
โอเค ปชชเริ่มมองที่ นโยบาย มากกว่าบุคคล และมองเห็นพรรคมากขึ้นนี่คือจุดเปลี่ยน
แต่การ มองอย่างผิวเผิน เช่น พรรคนี้เคยทำได้ ก็เลือกพรรคนี้ต่อไป โดยไม่มองที่ตัวนโยบายจริงๆ ว่าได้ช่วยอะไรใครได้ *จริงแค่ไหน* มีประโยชน์แค่ไหน * สมควรแก่เวลาไหม? เป็นต้น
การที่มีแนวคิดว่า * เลือกเขามาเพื่อตัดสินใจแทนเราทุกอย่าง* โดยไม่กลับมาคำนึงหรือตรวจสอบคนที่เราเลือกไปเลย ก็ยังเป็นการเมืองภาคประชาชนเดิมๆ
ชอบลุงหมักตอนเป็นนายกมากเหมือนกันค่ะ คอา
ชอบฟังรายการตอนเช้าคุยกับคุณวีระ
เป็นแฟนเหนียวแน่น ฟังวิทยุทุกวันก่อนไปทำงาน
เป็นคนที่ความรู้กว้าง คือ รู้นั่นรู้นี่ รู้ดีไปหมด หลายมิติ หลายวงการ ฟังเพลินดี
คำว่า dead air ก็ได้มาจากท่าน คือ การจัดรายการวิทยุ จะต้องพูดๆๆๆๆตลอดเวลาหรือทำไงก็ได้ให้มีเสียงออกอากาศตลอด ถ้าเงียบ หมายถึงสัญญาณขัดข้อง ก็เรียกว่า dead air
ก็เลยมีคนมาเปรียบกับเหตุการณ์ *พูดไม่ออก* บอกไม่ถูก ว่า dead air บ้าง ก็มีเหมือนกัน ดูสิ เล่าข่าว ยังมีเรื่องเล่าอื่นๆให้เรียนรู้ชอบ ชอบท่านค่ะ
พอได้เป็นนายก กลับสงบเสงี่ยม ด้วยเหตุผลที่ว่า
ตอนผมเป็นผู้ว่า ผมก็ต้องพูดมากๆ เพราะหน้าที่ผู้ว่า คือทำให้เมืองเป็นที่รู้จัก คึกคัก เพื่อกระคุ้นศก (ประมาณนี้) แค่พอเป็นนายก ผมก็ต้องใส่หมวกนายก พูดอะไร อาจจะมีความกระทบกระเทือนต่อประเทศได้ ต้องระวังเป็นพิเศษ เพื่อผลประโยชน์ของชาติ
โหย ฟังแล้วซึ้ง 😍😍
เสียดายท่านจริงๆ เล่นการเมืองมาชั่วชีวิต
แต่ท่าน ก็ได้สร้างคุณประโยชน์ต่อประเทศมากๆ ตามสไตล์ท่าน
แค่ในช่วงสั้นๆ แต่กลับสร้างคลื่นหลายลูก ที่ยังคงกระทบฝั่งมาจนถึงทุกวันนี้
ขอโทษๆๆ แย่งซีนนายกปูกับนายกแม้วซะงั้น 55555
อารมณ์พาไปค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ส่งใจข้ามขอบฟ้าระลึกถึงคนแดนไกล../คนอุบล
แต่บางครั้งเมื่อเรารักใครมากๆความรักนั้นเรามักจะเรียกรักแท้...
ยากที่จะกลับกลายหรือเปลี่ยนแปลงไปได้...
ตั้งแต่ผมรู้จักการเมืองไทย..
ยอมรับว่าผมรักนายกทักษิณ..รักที่วิสัยทัศน์..รักในการพูดจริงทำจริง...
และรักที่ท่านทำสิ่งใหม่ๆให้กับคนรากหญ้าอย่างที่ไม่เคยมีรัฐบาลไหนทำมาก่อน...
ในยุคของนายกทักษิณท่านได้เปลี่ยนโครงสร้างการบริหารประเทศอย่างที่จะเรียกว่า...พลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน...
จึงไม่แปลกที่ท่านได้สร้างศัตรูรอบด้าน เรียกว่าเปิดศึกรอบตัว...
ทั้งวงการแพทย์ วงการยาเสพติด วงการหวยเถื่อน วงการผู้รับเหมา ฯลฯ..
การเปลี่ยนแปลงสังคมไทยถึงขนาดนั้นย่อมมีทั้งผู้ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์...
ผู้ที่ได้ประโยชน์ส่วนใหญ่เป็นชนชั้นรากหญ้าก็ต่างชื่นชมท่าน..
ผมเองแม้จะได้ประโยชน์ทางอ้อมก็ยังอดชื่นชมท่านไม่ได้...แต่ที่ได้ประโยชน์จริงจังและเห็นชัดคือในยุคนั้นเราไปทุกประเทศโดยเฉพาะในกลุ่มอาเซี่ยน..
จะรู้สึกว่าเรามีความภาคภูมิใจในความเป็นคนไทยที่มีผู้นำที่เก่ง จนประเทศอื่นๆอิจฉา...
ส่วนผู้ที่สูญเสียผลประโยชน์ต่างก็เกลียดท่าน...เพราะแน่นอนเพราะท่านไปทุบหม้อข้าวเค้านั่นเอง...
ด้วยผลงานของท่านทำให้การเลือกตั้งต่อๆมาพรรคที่มีนายกทักษิณอยู่เบื้องหลังจึงชนะการเลือกตั้งทุกครั้ง..
จนมาถึงพรรคเพื่อไทยที่นายกยิ่งลักษณ์น้องสาวของท่านนายกทักษิณกระโดดลงมาสมัครรับเลือกตั้ง...
เพียงเวลา49วันเธอก็ก้าวไปสู่การเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงอย่างสมภาคภูมิ...
แต่สุดท้ายท่านนายกยิ่งลักษณ์ก็ต้องซ้ำรอยพี่ชาย...
ด้วยการระเหเรร่อนไปจากแผ่นดินนี้...
ครับ...ท่านทั้งสองสำหรับผมคือตัวแทนของประชาชนที่มาจากการเลือกของเสียงประชาชน...
ในสายตาของคนไหนบางคนท่านอาจจะเป็นคนเลวคนไม่ดี...
แต่สำหรับผมและคนไทยอีกหลายล้านคนยังรักและภาคภูมิใจเสมอว่าครั้งหนึ่งเรามีสองพี่น้องที่ทุ่มเททำงานเพื่อให้คนรากหญ้ามีชีวิตที่ดีขึ้น...
ขอส่งความปรารถนาดีและความรักข้ามขอบฟ้าไปยังอดีตนายกทั้งสอง ขอให้คุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิทั้งหลายได้ปกป้องคุ้มครองท่าน ให้มีสุขภาพแข็งแรงรอดพ้นจากภัยอันตรายทั้งหลายทั้งปวงเทอญ...
คนอุบล