ก่อนอื่นผมสอบในตำแหน่งนักพัฒนาชุมชน ที่สนามสอบเชียงใหม่ครับ ตามที่ทุกท่านที่อ่านกระทู้ผม แล้วได้ไปสอบเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น คงจะพอทราบประเด็นดราม่ากันเกี่ยวกับข้อสอบภาค ก  ซึ่งผมก็ผ่านการสอบมาเหมือนกัน อยากจะขอระบายผ่านกระทู้นี้สักครั้งนึง ในชีวิต
  
      การสอบก็เหมือนปกติทั่วไป กรรมการคุมสอบ เข้มเรื่องการแต่งกาย ของประดับ ตรงนี้ผมพอเข้าใจ ซึ่งผมก็แต่งตัวตามระเบียบไม่ได้มีปัญหาอะไร กรรมการคุมสอบก็ดี อธิบายวิธีการระบายชุดข้อสอบ การเซ็นต์ชื่อลงในกระดาษคำตอบ ซึ่งต้องใช้ปากกา แต่เราจะไม่ให้นำปากกาเข้าไป คนคุมสอบจะเดินแจกปากกาให้เราเซ็นต์เอง ตรงนี้เค้าอธิบายก่อนสอบ 15 นาที ซึ่งก็ดีครับ จะได้ไม่กินเวลา 2 ชั่วโมงในการสอบ
  
      พอเริ่มทำข้อสอบ แกะกระดาษข้อสอบ ก็เป็นปกติแหละครับ ทำได้บ้าง กับไม่ได้บ้าง ข้อที่มั่นใจก็กาลงในกระดาษเลย ( ผมใช้วิธีระบายในภายหลัง ) ข้อที่คิดว่าน่าจะถูกก็กาเลย ส่วนข้อที่ไม่รู้จริง ๆ หนือต้องอาศัยเวลาในการวิเคราะห์เยอะ ผมจะข้ามไปก่อน ทำข้อที่เรามั่นใจ และคิดว่าเรารู้น่าจะถูกที่สุดก่อน ทำไปเรื่อย ๆ จนมาเจอภาษาอังกฤษ นาทีแรกที่เห็นบทความ ก็คิดว่าข้ามไปก่อนเยอะไม่อ่าน เน้นทำอังกฤษส่วนอื่นก่อน ( ในใจตอนนั้นยังคิดว่าน่าจะมี ข้อสอบบทสนทนา หรือ แกรมม่า หรือ อื่น ๆ อีก ) พอพลิกกระดาษข้อสอบไปมา ... พระเจ้า !!!! บอกกับตัวเอง นี่บทความล้วน ๆ เลยนี่หว่า ในใจตอนนั้นบอกกับตัวเองว่า ข้ามไปก่อน ยังไม่ต้องอ่าน เสียเวลา ( ทดเวลาในใจว่าต้องเหลือเวลากลับมาทำอังกฤษ อย่างน้อยที่สุดคือ 20 นาที )

  พอทำไปได้เรื่อย ๆ ภาษาไทย เอิ่มกลอนจะเยอะไปไหน บางข้อคำตอบก็กำกวม เหมือนจะมีข้อถูกเกิน 1 ข้อ บางข้อก็คิดว่าไม่มีคำตอบ บางข้อก็พิมพ์ผิด ต้องเดา ๆ ความหมายเอา แล้วตอบ ส่วน ข้อสอบ พรบ. พอมาลองทำ เอิ่ม ออกแค่เนี้ย ..... แค่เนี้ยจริง ๆ เหรอ อุตสาห์อ่าน จำแทบตาย นั่งคิดท่องหาสูตรคำย่อ จำวัน จำตำแหน่ง จำนวนคน ตามพรบ.ต่าง ๆ ยัดในหัวมาเยอะมาก .... สรุปคือ ออกแค่เนี้ยจริง ๆ ใช่ไหม ได้แต่คิดในใจแล้วรีบ ๆ กา เพื่อจะได้ทำส่วนอื่นให้เร็วที่สุด

  ทำจนหมด ทุกข้อยกเว้นอังกฤษ เหลือบดูเวลาก่อนเริ่มทำ Eng เหลือเวลาอยู่ 18 นาที แม่เจ้าาาาาา 20 ข้อ 18 นาที บทความล้วน ๆ จะทำทันไหม .... ผมใช้วิธีการไม่อ่านบาทความทั้งหมด อ่านอย่างแรกเลยคือ คำถามกับคำตอบ ดูก่อนว่าเค้าถามอะไร แล้วคีย์ ของคำตอบในแต่ละข้อคืออะไร สุดท้ายผมจะกวาดตาเร็ว ๆ เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวแบบเร็ว ๆ ถ้าเห็นว่ามันอยู่ตรงไหน จะเจาะเฉพาะตรงนั้นในการอ่านทำความเข้าใจ สุดท้ายมาระบายทันข้อสุดท้าย ตอนไมค์จากส่วนกลางประกาศบอกหมดเวลาพอดี

  ในใจตอนนั้นโมโหคนออกข้อสอบมาก คือเหมือนแกล้งกัน เวลา 2 ชม. กับภาษาอังกฤษ ที่ให้มายาวมาก ใครจะไปทำทัน ซึ่งทั้งนี้ส่วนตัวก็พยายามมองเป็นกลางว่า เอาหน่า เค้าคงจะเอาภาษาอังกฤษมาเพื่อตัดคะแนน หรือคัดคนที่จะผ่านภาค ก จริง ๆ ก็พอเข้าใจ

  จริง ๆ ผมคิดว่า บทความอังกฤษมันก็ไม่ได้ยากซักเท่าไหร่หรอก แต่ด้วยเวลาที่มันจำกันมาก ๆ มันจะทำให้เรารน ไม่นิ่งพอในการตีบทความ ซึ่งจะยากก็ตรงนี้แหละ

พอทำจบ ก็บอกกับตัวเอง เอาว่ะ ถ้าจะไม่ผ่านก็อังกฤษนี่แหละ ที่จะมาเป็นตัวตัดคะแนนเรา ก็ได้แต่ภาวนาลึก ๆ ว่าข้อที่เราไม่มั่นใจว่าจะถูกหรือไม่ถูก ขอให้เราตัดสินใจทำถูกด้วยเถอะ

พักเที่ยง ..... ครับ พักเที่ยง สักพักในเฟส เริ่มมีแนวข้อสอบที่คล้าย ๆ กัน เหมือน ๆ กันมาโพส ไอ้เราก็ดูผ่าน ๆ คือตอนนั้นไม่อยากเสียสมาธิ อยากรีบ ๆ กินข้าว แล้วนิ่ง ๆ ทบทวนโน๊ตกระดาษ ที่เราจดมาสำหรับการสอบนักพัฒนาชุมชนในรอบบ่าย

  ทำข้อสอบตอนบ่าย บอกก่อนว่าผมจบตรงด้านนี่มา พอทำได้ ก็ระบายไปเรื่อย ๆ สบาย ๆ ค่อย ๆ ทำ มีบางข้อ อ้าว !!!! ซ้ำนี่หว่า เมื้อกี้มีถามข้อนี้ไปแล้วนิ จำได้ ย้อนพลิกหน้ากลับไปดู เออ ว่ะ ซ้ำจริง ก็ไม่คิดอะไร มีเวลาทวน ทำซ้ำถึง 3 ครั้งถึงขนาดมีเวลานั่งตรวจคะแนนให้ตัวเอง แบ่งเป็น 4 เกณฑ์ คือ ข้อไหนที่ถูกชัวร์ ข้อไหนที่มีโอกาศถูก ข้อไหนทีคิดว่า 50-50 ข้อไหนที่คิดว่า ไม่รู้โว้ยอันนี้มั่วจริง นั่งให้คะแนนกับตัวเองจนมั่นใจว่าผ่าน ภาค ข. แน่นอน ขนาดมีเวลานั่งทบทวน 3 รอบ เงยหน้าขึ้นมองนาฬิกา เวลาเหลือ 1 ชม จ้าาาาา ในใจคิด เอาไปทดเวลาในภาค ก ได้ไหมนิ บริหารเวลายังไงนิ ก็คิดกลาง ๆ ว่า อ่อ เค้าคงให้เวลากับคนที่สองพวกช่าง ที่ต้องมีการคำนวนมั้ง ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร นั่งรอเวลาเรื่อยเปื่อย ปัญหาคือ ร้อนมากกกกก ตึกที่มี 6 ชั้นสอบ มี 2 ห้องที่ไม่มีแอร์ มีแต่พัดลมเล็ก ๆ ซึ่ง 1 ใน 2 ห้องนั้น ผมนั่งทำข้อสอบจ้าาาา ออกมาตอนบ่ายสามครึ่ง นี่จะเป็นลม คือมันร้อนจริง ๆ

   พอออกมาภาคบ่าย รีบโทรบอกให้แฟนวนรถมารับ ระหว่างรอแฟน เปิดมือถือดูตามเฟส เห้ยยยย !!!!อะไรว่ะ มีสำนักติว เอาแนวข้อสอบมาเฉลย ที่ติวมาก่อนหน้านั้น เห้ย !!!! ทำไมมันเหมือนกันเลนอ่ะ ทั้งตัวเลข และตัวเลือก ก ข ค ง คือ คัดมาแบบเป๊ะ ๆ ไอ้เราก็งง แต่ก็ตอนนั้นมีสตินะ คือก็คิดว่า เป็นไปได้ป่าว ที่มีคนมาสอบ พอสอบเสร็จแล้วจำ ๆ ให้สำนักติว รีบทำมา เพื่อโปรโมทติวเตอร์ของตนเอง แต่ในใจก็คิดแย้ง ว่าอะไรมันจะเร็วขนาดนั้นเลยเหรอ ตอนนั้นก็อ่านผ่าน ๆ เห็นเฉลย ก็มีที่เราตอบถูกบ้างผิดบ้างตามประสา ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร รีบขับรถข้ามจังหวัดกลับบ้าน ผมสอบเขียงใหม่ ... บ้านอยู่เชียงรายครับ

  ระหว่างทางขากลับ รถเยอะมากกกก รถติด เห็นตำรวจแต่ก็น้อยมากก ก็ติดกันไปตามยถากรรม ระหว่างทางเขียงใหม่เชียงราย มีรถตู้ชนตูดกับรถกระบะ คนลงกันมานี่เสื้อขาวเพียบ

  กลับมาถึงบ้าน ... ด้วยอาการมึน ๆ นอนก็น้อย ก่อนสอบ นอนก็ไม่ค่อยหลับ .... เปิดอ่านมือถือ กลุ่มไลน์ เฟส นี่มาเต็ม แนวข้อสอบก่อนหน้าที่สอบ ที่ผู้จัดทำข้อสอบเอามาออกเต็ม ๆ แบบ ไม่ตัดข้อความ หรือดัดแปลงตัวเลขแต่ประการใด หนำซ้ำ ยังไปตรงกันติวเตอร์บางสำนัก ที่อยู่หน้า ม.ดัง ที่ออกข้อสอบอีก ซึ่งก็อึ้งครับ อึ้ง ว่า เห้ย ...นี่สอบระดับประเทศนะ อาจาร์ยก็ผู้ทรงคุณวฒิระดับมหาวิทยาลัย ไม่คิดจะออกข้อสอบใหม่เลยเหรอ หรือถ้าอยากจะดูแนวข้อสอบ ก็ฉลาดเอามาหน่อยสิ ดัดแปลงตัวเลข แก้โจทย์นิดหน่อยก็ยังจะดูดีกว่าแต่นี้ ลอกมาทั้งดุ้น กระทั้งยังตัวเลือก ก ข ค ง  ซึ่งเหมือนกันทุกตัวอักษร ตรงนี้ผมมองว่า มาตราฐานการออกข้อสอบคืออะไร ออกยาก ออกง่าย มันคนละเรื่องกับการไปลอกข้อสอบที่อื่น แล้วเอามาสอบนะครับ เงินที่คุณได้จากจากออกข้อสอบ นี่ง่ายมาก เพียงแค่เดินไปหาตามร้านหนังสือ หรือชีทติวจากสถาบันไหนก็ได้ แล้วเอามาออกนั้นหรือ ....

   คนที่อ่านกระทู้นี้อาจจะไม่พอใจ แล้วมาด่าผมว่า ก็เตรียมตัวมาน้อย ทำไม่ได้เองแล้วมาโวยวายอะไร ..... ท่านครับ นิ่ง ๆ นะครับ เราเอาประเด็นคำว่า ทำข้อสอบได้ หรือ ไม่ได้ มาวางกองออกไว้ก่อนนะครับ อย่าพึ่งปนกัน ( ผมกล้าบอกเลยว่า ส่วนใหญ่ผมทำได้ครับ มีเพียงอังกฤษเท่านั้น ที่ผมไม่มั่นใจเพราะเวลาน้อยเกินไป )
  
   ปัญหาดังกล่าวนั้น ถ้าเกิดคนออกข้อสอบ เอาข้อสอบจากสถาบันติว หรือชีท หรือหนังสือ มาออกข้อสอบโดยไม่ได้แก้อะไร ตรงนี้ผมมองว่า มันเกิดข้อได้เปรียบเสียเปรียบ ก่อนการสอบที่จะเกิดขึ้นอีกครับ ซึ่งผมมองว่าไม่ยุติธรรมกับคนสอบทั้งหมด จริงอยู่ก็จะมีคนบอกว่า ก็ถ้าคุณเตรียมตัวมาดีคุณก็ทำได้ ใช่ครับ จริง ... แต่มันเกิดข้อได้เปรียบก่อนการสอบแล้ว อย่างที่บอกครับ ทำได้ หรือ ทำไม่ได้ คนละเรื่องนะครับ ที่ผมบอกมันคือความเป็นธรรม และยุติธรรมกับคนทั้งหมด 6 แสนกว่าคน ที่เข้าสอบ

  ที่ผมพูดหรือตั้งกระทู้นี้ มิได้ต้องการมาโวยวาย ให้มาสอบใหม่ แต่ประการใดนะครับ มันไม่สนุกหรอกครับ ค่าเดินทาง ค่าโรงแรม ค่ากินอยู่ ถ้าจะสอบใหม่ ผมเองก็ถอดใจเหมือนกันครับ ค่าที่พักค่ากิน ค่าน้ำมันรถ รวมกันก็เกือบ สามพันบาทแล้วครับ

  แต่ที่ผมมาตั้งกระทู้ตรงนี้เพียงเพื่อสะท้อนความคิดของผม ระบายความในใจ ว่ามาตราฐานการออกข้อสอบคืออะไร ความยุติธรรมในการออกข้อสอบ อยู่ตรงไหน อย่าลืมนะครับ มันคนละประเด็นกับการ ทำได้หรือ ทำไม่ได้ คนละประเด็นกับ ข้อสอบง่าย หรือ ข้อสอบยาก กรุณาแยกแยะกันก่อนนะครับ ผมไปอ่านในเฟสแล้วก็จะมีคนบอกว่า คนที่ออกมาโวยวาย ส่วนใหญ่คือคนที่สอบไม่ได้ อย่างที่ผมบอกครับ ผมกล้าบอกว่าผมทำได้ครับ ยกเว้นอังกฤษที่ไม่ทัน แต่มันคือความยุติธรรมครับ หวังว่าคงเข้าใจนะครับ

  ขอเป็นส่วนหนึ่ง ส่วนเล็กในสังคม สะท้อนถึงผู้ใหญ่ในบ้านเมืองนี่ ที่จะจัดการสอบบรรจุข้าราชการ ขอเถอะครับ ไม่ต้องรีบ เอาให้รัดกุม รอบคอบ ตรวจสอบข้อสอบให้รอบด้าน เพื่อทำให้การสอบให้เป็นธรรมที่สุด ยุติธรรมกับทุกคนครับ

  ส่วนผลออกมาเป็นอย่างไร วันที่ 3 พ.ย 60 ผมพร้อมที่จะยอมรับมันครับ .... เพราะชีวิตก็ต้องก้าวเดินต่อไป

   ( แลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้ครับ แต่ขอสุภาพ พร้อมวิจาร์ณแบบปัญญาชนนะครับ ผมเปิดกว้างทุกความคิดโดยปราศจากอคติเสมอ)