อาทิตย์ที่ผ่านมา ดิฉันได้มีโอกาสไปปฏิบัติธรรมที่ "ธรรมธารา" รีสอร์ตซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง
เป็นประสบการณ์ที่ประทับใจมาก ทั้งผ่อนคลาย อยู่ในบรรยากาศธรรมชาติที่สวยงาม และได้เรียนรู้การปฏิบัติธรรม
เจริญสติในอิริยาบท นั่ง ยืน และ เดิน
ระยะเวลาของการปฏิบัติที่ทางธรรมธาราจัด ค่อนข้างสะดวก และเหมาะสำหรับมือใหม่ชิมลางด้านการปฏิบัติธรรม
หรือผู้ที่ไม่สะดวกในการลางาน
เพราะจัดคอร์ส 1 คืน 2 วัน บ้าง หรือ 2 คืน 3 วันบ้าง
ท่านใดสนใจสามารถตามเพจ "ธรรมธารา" ทางเฟสได้ หรือ แอดไลน์ได้ที่ @dhamatara เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ดิฉันขับรถไปโดยตามแผนที่จากกูเกิ้ลแม็ปที่ปักหมุดไว้หน้าเพจ
ไปเรื่อย ๆ ทางบางคล้า ผ่านวัดโจ้โล้สีทอง และผ่านอุทยานพระพิฆเนศ
เมื่อไปถึง จะเจอทางเข้าเป็นรีสอร์ตเรนโบว์อโรคยาลและมีป้ายธรรมธาราติดอยู่ข้าง ๆ
ที่นี่เป็นรีสอร์ตสำหรับพักฟื้นและดูแลสุขภาพแบบองค์รวมค่ะ
แต่ทางคุณวิชาดา เจ้าของรีสอร์ตจะจัดอบรมธรรมะสำหรับผู้สนใจฟรีโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
ประมาณเดือนสองเดือนครั้ง
เข้าไปแล้วจะเจอป้ายนี้ค่ะ
บรรยากาศภายในร่มรื่นมาก มีต้นไม้ใหญ่ ๆ เต็มไปหมด
บริเวณลานสำหรับเดินจงกรมก็สัปปายะมาก อยู่ริมน้ำมองเห็นแม่น้ำบางปะกงสวยงาม
ตอนเช้า ๆ เราสามารถมาใส่บาตรกับหลวงตาซึ่งท่านจะพายเรือบดลำเล็ก ๆ มาบิณฑบาต
ที่นี่ จะฝึกอบรมปฏิบัติธรรมตามแนวของวัดสังฆทาน วันที่ดิฉันไป
พระอาจารย์ทิพย์ปกรณ์ จากวัดถ้ำกฤษณา เขาใหญ่
และพระอาจารย์ประสิทธิ์ จากวัดบุ่งมะแลงน้อย
เป็นผู้มาแสดงธรรมและให้การฝึกอบรมการฝึกกรรมฐาน
ตารางการปฏิบัติธรรมของที่นี่คือ
ตื่นนอน ประมาณตีสามครึ่ง
ลงทำวัตรเช้า ประมาณตีสี่
จากนั้น เดินจงกรม สลับนั่งสมาธิ หรือ ยืนเจริญสติ
พอฟ้าเริ่มสว่าง ก็ถอดรองเท้าไปเดินจงกรมบนสนามหญ้า
จากนั้น จึงไปรับอาหารเช้าเบา ๆ ที่โรงอาหาร
อ้อ...ที่นี่อาหารเป็นมังสวิรัตินะคะ ย่อยง่าย และรสชาติดี
พักผ่อนตามอัธยาศัย อาจไปใส่บาตร เดินเล่นริมน้ำ หรือทำกิจธุระส่วนตัว
ประมาณ แปดโมงมารวมกันเพื่อปฏิบัติรวมอีกครั้ง
จนกระทั่งประมาณสิบโมงกว่า ๆ ถึงสิบเอ็ดโมง จึงรับประทานอาหารเที่ยง ทำกิจธุระส่วนตัว และกลับมาปฏิบัติรวมกันแบบนี้ไปเรื่อย ๆ มีพักเบรคบ้างเป็นระยะ จนถึงเวลาประมาณสามทุ่มกว่า ๆ จึงพักผ่อน
ภาพด้านล่างนี้คือ ห้องปฏิบัติธรรมนะคะ มีเครื่องปรับอากาศเปิดให้ตลอดเวลาที่ปฏิบัติธรรมในนี้ค่ะ
สำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ที่ร่างกายไม่สะดวกที่จะนั่งพื้น ก็มีเก้าอี้จัดไว้ให้ด้วยค่ะ
หรือหากบางท่านต้องการความเป็นส่วนตัวจริง ๆ หรือยังไม่ชินกับการต้องนอนรวม
หากต้องการห้องพักสามารถจองได้ในราคา 4,000 บาท (สำหรับ 2 คืน 3 วัน) โดยเงินจำนวนนี้ ทั้งหมดจะอยู่ในกองผ้าป่าทำบุญที่จะถวายพระอาจารย์ทั้งสองท่านเมื่อสิ้นสุดการอบรมค่ะ
โดยรวมแล้วดิฉันประทับใจกับความสงบ สะอาด ร่มรื่น เป็นระเบียบเรียบร้อยของที่นี่มาก
ระยะเวลาอาจจะสั้นไปสักนิดสำหรับผู้ปฏิบัติที่เพียรเป็นประจำ แต่เหมาะสมสำหรับผู้มีเวลาน้อยและอาจไม่สะดวกลางาน
หลักการปฏิบัติเจริญสติยึดตามแนวของหลวงพ่อสนอง วัดสังฆทาน เน้นให้เจริญสติในทุกอิริยาบท
อาหารมังสวิรัติที่นี่รสชาติดี และย่อยง่าย
เหมือนได้มาปฏิบัติธรรมและพักผ่อนทั้งร่างกายและจิตใจด้วยในเวลาเดียวกัน
ถ้าท่านใดสนใจเรียนเชิญนะคะ
ชวนไปปฏิบัติธรรมที่ "ธรรมธารา" บางคล้า บรรยากาศสัปปายะมาก ๆ ค่ะ
เป็นประสบการณ์ที่ประทับใจมาก ทั้งผ่อนคลาย อยู่ในบรรยากาศธรรมชาติที่สวยงาม และได้เรียนรู้การปฏิบัติธรรม
เจริญสติในอิริยาบท นั่ง ยืน และ เดิน
ระยะเวลาของการปฏิบัติที่ทางธรรมธาราจัด ค่อนข้างสะดวก และเหมาะสำหรับมือใหม่ชิมลางด้านการปฏิบัติธรรม
หรือผู้ที่ไม่สะดวกในการลางาน
เพราะจัดคอร์ส 1 คืน 2 วัน บ้าง หรือ 2 คืน 3 วันบ้าง
ท่านใดสนใจสามารถตามเพจ "ธรรมธารา" ทางเฟสได้ หรือ แอดไลน์ได้ที่ @dhamatara เพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ดิฉันขับรถไปโดยตามแผนที่จากกูเกิ้ลแม็ปที่ปักหมุดไว้หน้าเพจ
ไปเรื่อย ๆ ทางบางคล้า ผ่านวัดโจ้โล้สีทอง และผ่านอุทยานพระพิฆเนศ
เมื่อไปถึง จะเจอทางเข้าเป็นรีสอร์ตเรนโบว์อโรคยาลและมีป้ายธรรมธาราติดอยู่ข้าง ๆ
ที่นี่เป็นรีสอร์ตสำหรับพักฟื้นและดูแลสุขภาพแบบองค์รวมค่ะ
แต่ทางคุณวิชาดา เจ้าของรีสอร์ตจะจัดอบรมธรรมะสำหรับผู้สนใจฟรีโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
ประมาณเดือนสองเดือนครั้ง
เข้าไปแล้วจะเจอป้ายนี้ค่ะ
บรรยากาศภายในร่มรื่นมาก มีต้นไม้ใหญ่ ๆ เต็มไปหมด
บริเวณลานสำหรับเดินจงกรมก็สัปปายะมาก อยู่ริมน้ำมองเห็นแม่น้ำบางปะกงสวยงาม
ตอนเช้า ๆ เราสามารถมาใส่บาตรกับหลวงตาซึ่งท่านจะพายเรือบดลำเล็ก ๆ มาบิณฑบาต
ที่นี่ จะฝึกอบรมปฏิบัติธรรมตามแนวของวัดสังฆทาน วันที่ดิฉันไป
พระอาจารย์ทิพย์ปกรณ์ จากวัดถ้ำกฤษณา เขาใหญ่
และพระอาจารย์ประสิทธิ์ จากวัดบุ่งมะแลงน้อย
เป็นผู้มาแสดงธรรมและให้การฝึกอบรมการฝึกกรรมฐาน
ตารางการปฏิบัติธรรมของที่นี่คือ
ตื่นนอน ประมาณตีสามครึ่ง
ลงทำวัตรเช้า ประมาณตีสี่
จากนั้น เดินจงกรม สลับนั่งสมาธิ หรือ ยืนเจริญสติ
พอฟ้าเริ่มสว่าง ก็ถอดรองเท้าไปเดินจงกรมบนสนามหญ้า
จากนั้น จึงไปรับอาหารเช้าเบา ๆ ที่โรงอาหาร
อ้อ...ที่นี่อาหารเป็นมังสวิรัตินะคะ ย่อยง่าย และรสชาติดี
พักผ่อนตามอัธยาศัย อาจไปใส่บาตร เดินเล่นริมน้ำ หรือทำกิจธุระส่วนตัว
ประมาณ แปดโมงมารวมกันเพื่อปฏิบัติรวมอีกครั้ง
จนกระทั่งประมาณสิบโมงกว่า ๆ ถึงสิบเอ็ดโมง จึงรับประทานอาหารเที่ยง ทำกิจธุระส่วนตัว และกลับมาปฏิบัติรวมกันแบบนี้ไปเรื่อย ๆ มีพักเบรคบ้างเป็นระยะ จนถึงเวลาประมาณสามทุ่มกว่า ๆ จึงพักผ่อน
ภาพด้านล่างนี้คือ ห้องปฏิบัติธรรมนะคะ มีเครื่องปรับอากาศเปิดให้ตลอดเวลาที่ปฏิบัติธรรมในนี้ค่ะ
สำหรับผู้สูงอายุหรือผู้ที่ร่างกายไม่สะดวกที่จะนั่งพื้น ก็มีเก้าอี้จัดไว้ให้ด้วยค่ะ
หรือหากบางท่านต้องการความเป็นส่วนตัวจริง ๆ หรือยังไม่ชินกับการต้องนอนรวม
หากต้องการห้องพักสามารถจองได้ในราคา 4,000 บาท (สำหรับ 2 คืน 3 วัน) โดยเงินจำนวนนี้ ทั้งหมดจะอยู่ในกองผ้าป่าทำบุญที่จะถวายพระอาจารย์ทั้งสองท่านเมื่อสิ้นสุดการอบรมค่ะ
โดยรวมแล้วดิฉันประทับใจกับความสงบ สะอาด ร่มรื่น เป็นระเบียบเรียบร้อยของที่นี่มาก
ระยะเวลาอาจจะสั้นไปสักนิดสำหรับผู้ปฏิบัติที่เพียรเป็นประจำ แต่เหมาะสมสำหรับผู้มีเวลาน้อยและอาจไม่สะดวกลางาน
หลักการปฏิบัติเจริญสติยึดตามแนวของหลวงพ่อสนอง วัดสังฆทาน เน้นให้เจริญสติในทุกอิริยาบท
อาหารมังสวิรัติที่นี่รสชาติดี และย่อยง่าย
เหมือนได้มาปฏิบัติธรรมและพักผ่อนทั้งร่างกายและจิตใจด้วยในเวลาเดียวกัน
ถ้าท่านใดสนใจเรียนเชิญนะคะ