#126 $$$$$ โต๊ะน้ำชาแฟนโรงพยาบาล ฿฿฿฿฿ SEP. 27 2017
ขอเชิญเพื่อนๆนักลงทุนและผู้ที่สนใจการลงทุนหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลมาสนทนาแลกเปลี่ยนทรรศนะ แบ่งปันข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และเล่าประสบการณ์การลงทุนสู่กันฟังครับ
สถานการณ์ทั่วไป :
หุ้นไทย ปิดบวก 0.13 % (ปิดที่1669.75 จุด นักลงทุนต่างชาติและสถาบัน เปิดสถานะ short
นักลงทุนบางส่วนมีความมั่นใจว่าผลประกอบการ Q3/60 จะออกมาดี
ปัจจัยบวกมาจากการบริโภคในประเทศ ราคาสินต้าโภคภัณฑ์ฟื้นตัว การท่องเที่ยวขยายตัว
ส.ศ.ก.คาดว่ารายได้ภาคครัวเรือนเกษตร จะเพิ่มขึ้น 3-5%
คาดการณ์ GDP ขยายตัวสูงสุดในรอบห้าปี
ภาคส่งออกและบริการยังเติบโตได้ดี กระทรวงพาณิชย์ปรับเป้าเส่งออกเป็นโต 7%
ภาวะเศรษฐกิจไทยดีขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งจะมีแรงส่งจากการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ที่รอการประมูลอีก 36 โครงการ มูลค่าประมาณ 900,000 ล้านบาท และการลงทุนในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) อีก 1.5-1.6 ล้านล้านบาท ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้ามาอีกกว่า 100,000 ล้านบาท
OPEC มีแนวโน้มขยายระยะเวลาการลดกำลังการผลิต เป็นปัจจัยหนุนกลุ่มพลังงาน
ปัจจัยลบคือ ดอลล่าร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นจากโอกาสเฟดขึ้นดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งปลายปีนี้ กดดันสินทรัพยืเสี่ยงและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ระยะสั้น
สํานักงานพลังงานสากล (EIA) ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปีนี้
สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ยุโรป (ACEA) เปิดเผยว่า ยอดจําหน่ายรถยนต์ในสหภาพยุโรป (EU) เดือนสิงหาคมปรับตัวขึ้นร้อยละ 5.6 สู่ระดับ 865,047 คัน เนื่องได้รับอานิสงค์จากยอดจําหน่ายรถยนต์ในตลาดใหญ่ๆ ที่ยังคงแข็งแกร่ง
FED มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ หลังจากกระทรวงแรงงานเปิดเผยดัชนีผู้บริโภค (CPI)เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนสิงหาคม
บริษัท บริติชปิโตรเลียม (BP) คาดว่า ราคาน้ำมันจะทรงตัวในช่วง 50-60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากปริมาณน้ำมันในตลาดโลกจะลดลง หลังจากทั้ง OPEC และกลุ่มนอก OPEC จะปรับลดกำลังการผลิตลง
ธนาคารกลางจีน (PBOC) รายงานว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนปรับตัวขึ้นต่อเนื่องกับเดือนที่ 7 ในเดือนสิงหาคม โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และจากมาตรการควบคุมเงินทุนของจีน ทั้งนี้ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนปรับตัวขึ้น 1.081 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ แตะ 3.092 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนสิงหาคม
วานนี้ตลาดหุ้นจีน SHANGHAI +0.07% ตลาดหุ้นอินเดีย NIFTY -0.01%
ตลาดหุ้นอเมริกา DJIA -0.05% S&P 500 +0.01% NASDAQ +0.15%
US $ Index +0.12% = 92.92 S&P500 VIX +1.01% = 10.95
ตลาดหุ้นเยอรมัน DAX +0.08% GOLD = 1291.55 USD/Ounce
JPM Global Healthcare -0.56% = 273.92 (+18.62 % จากต้นปี )
หุ้นในกลุ่มร.พ :
(ราคาปิดล่าสุด)
AHC 26.25
BCH 15.1
BDMS 20.7
BH 213
CHG 2.52
CMR 4.02
EKH 6
KDH 92
LPH 8.55
M-CHAI 215
NTV 51.5
RAM 2,946
RJH 25.75
RPH 4.96
SKR 51
SVH 382
TNH 38.5
VIBHA 2.78
VIH 7.90
(การลงทุนมีความเสี่ยง ข้อมูลที่สนทนาแลกเปลี่ยนทรรศนะกันไม่ถือว่าเป็นการชี้นำ ควรศึกษาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจโดยใช้วิจารณญาณของตนเองอย่างละเอียดถี่ถ้วน )
* ตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ใหม่พ.ศ.2559 การคาดการณ์หรือวิเคราะห์ผลการดำเนินงานหรือราคาหุ้น ต้องอยู่บนพื้นฐานข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่บิดเบือนข้อมูลอันจะส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นและการตัดสินใจลงทุน
*ข่าวแนวทางแก้ไขปัญหาอัตราค่ายาและค่ารักษาพยาบาลเป็นสิ่งที่ดี ที่จะช่วยให้เกิดความยุติธรรมกับผู้บริโภคและช่วยให้การบริหารจัดการของ ร.พ.เป็นระบบระเบียบ มีธรรมภิบาลและจริยธรรมเพิ่มสูงขึ้น จะส่งผลดีต่อทั้งผู้ใช้บริการและต่อร.พ.เอง ทำให้สามารถอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนได้ในระยะยาว
*Link เพลงในยูทูป เป็นไปเพื่อความบันเทิง เพื่อเผยแพร่ยกย่องในเกียรติคุณและคุณภาพของเพลง มิได้เป็นไปเพื่อธุรกิจการค้าหรือผลประโยชน์อื่นแต่อย่างใดทั้งสิ้น
* โต๊ะน้ำชาฯไม่ได้มีจุดประสงค์ให้ราคาค่ารักษาพยาบาลและราคาหุ้นแพงเกินจริง มากขึ้นไปอีกเรื่อยๆ แต่มุ่งส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนข่าวสารประสบการณ์ลงทุน เพื่อให้นักลงทุนรายย่อยมีการลงทุนที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซื้อและขายถูกจังหวะ ท่ามกลางสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา 
$$$$$ โต๊ะน้ำชาแฟนโรงพยาบาล ฿฿฿฿฿ SEP. 27 2017
ขอเชิญเพื่อนๆนักลงทุนและผู้ที่สนใจการลงทุนหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลมาสนทนาแลกเปลี่ยนทรรศนะ แบ่งปันข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และเล่าประสบการณ์การลงทุนสู่กันฟังครับ
สถานการณ์ทั่วไป :
หุ้นไทย ปิดบวก 0.13 % (ปิดที่1669.75 จุด นักลงทุนต่างชาติและสถาบัน เปิดสถานะ short
นักลงทุนบางส่วนมีความมั่นใจว่าผลประกอบการ Q3/60 จะออกมาดี
ปัจจัยบวกมาจากการบริโภคในประเทศ ราคาสินต้าโภคภัณฑ์ฟื้นตัว การท่องเที่ยวขยายตัว
ส.ศ.ก.คาดว่ารายได้ภาคครัวเรือนเกษตร จะเพิ่มขึ้น 3-5%
คาดการณ์ GDP ขยายตัวสูงสุดในรอบห้าปี
ภาคส่งออกและบริการยังเติบโตได้ดี กระทรวงพาณิชย์ปรับเป้าเส่งออกเป็นโต 7%
ภาวะเศรษฐกิจไทยดีขึ้นต่อเนื่อง รวมทั้งจะมีแรงส่งจากการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ที่รอการประมูลอีก 36 โครงการ มูลค่าประมาณ 900,000 ล้านบาท และการลงทุนในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) อีก 1.5-1.6 ล้านล้านบาท ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีเม็ดเงินลงทุนไหลเข้ามาอีกกว่า 100,000 ล้านบาท
OPEC มีแนวโน้มขยายระยะเวลาการลดกำลังการผลิต เป็นปัจจัยหนุนกลุ่มพลังงาน
ปัจจัยลบคือ ดอลล่าร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นจากโอกาสเฟดขึ้นดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งปลายปีนี้ กดดันสินทรัพยืเสี่ยงและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ระยะสั้น
สํานักงานพลังงานสากล (EIA) ปรับเพิ่มคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปีนี้
สมาคมผู้ผลิตรถยนต์ยุโรป (ACEA) เปิดเผยว่า ยอดจําหน่ายรถยนต์ในสหภาพยุโรป (EU) เดือนสิงหาคมปรับตัวขึ้นร้อยละ 5.6 สู่ระดับ 865,047 คัน เนื่องได้รับอานิสงค์จากยอดจําหน่ายรถยนต์ในตลาดใหญ่ๆ ที่ยังคงแข็งแกร่ง
FED มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ในการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ หลังจากกระทรวงแรงงานเปิดเผยดัชนีผู้บริโภค (CPI)เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดในเดือนสิงหาคม
บริษัท บริติชปิโตรเลียม (BP) คาดว่า ราคาน้ำมันจะทรงตัวในช่วง 50-60 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากปริมาณน้ำมันในตลาดโลกจะลดลง หลังจากทั้ง OPEC และกลุ่มนอก OPEC จะปรับลดกำลังการผลิตลง
ธนาคารกลางจีน (PBOC) รายงานว่า ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนปรับตัวขึ้นต่อเนื่องกับเดือนที่ 7 ในเดือนสิงหาคม โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และจากมาตรการควบคุมเงินทุนของจีน ทั้งนี้ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนปรับตัวขึ้น 1.081 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ แตะ 3.092 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนสิงหาคม
วานนี้ตลาดหุ้นจีน SHANGHAI +0.07% ตลาดหุ้นอินเดีย NIFTY -0.01%
ตลาดหุ้นอเมริกา DJIA -0.05% S&P 500 +0.01% NASDAQ +0.15%
US $ Index +0.12% = 92.92 S&P500 VIX +1.01% = 10.95
ตลาดหุ้นเยอรมัน DAX +0.08% GOLD = 1291.55 USD/Ounce
JPM Global Healthcare -0.56% = 273.92 (+18.62 % จากต้นปี )
หุ้นในกลุ่มร.พ :
(ราคาปิดล่าสุด)
AHC 26.25
BCH 15.1
BDMS 20.7
BH 213
CHG 2.52
CMR 4.02
EKH 6
KDH 92
LPH 8.55
M-CHAI 215
NTV 51.5
RAM 2,946
RJH 25.75
RPH 4.96
SKR 51
SVH 382
TNH 38.5
VIBHA 2.78
VIH 7.90
(การลงทุนมีความเสี่ยง ข้อมูลที่สนทนาแลกเปลี่ยนทรรศนะกันไม่ถือว่าเป็นการชี้นำ ควรศึกษาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจโดยใช้วิจารณญาณของตนเองอย่างละเอียดถี่ถ้วน )
* ตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ใหม่พ.ศ.2559 การคาดการณ์หรือวิเคราะห์ผลการดำเนินงานหรือราคาหุ้น ต้องอยู่บนพื้นฐานข้อมูลที่ถูกต้อง ไม่บิดเบือนข้อมูลอันจะส่งผลกระทบต่อราคาหุ้นและการตัดสินใจลงทุน
*ข่าวแนวทางแก้ไขปัญหาอัตราค่ายาและค่ารักษาพยาบาลเป็นสิ่งที่ดี ที่จะช่วยให้เกิดความยุติธรรมกับผู้บริโภคและช่วยให้การบริหารจัดการของ ร.พ.เป็นระบบระเบียบ มีธรรมภิบาลและจริยธรรมเพิ่มสูงขึ้น จะส่งผลดีต่อทั้งผู้ใช้บริการและต่อร.พ.เอง ทำให้สามารถอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืนได้ในระยะยาว
*Link เพลงในยูทูป เป็นไปเพื่อความบันเทิง เพื่อเผยแพร่ยกย่องในเกียรติคุณและคุณภาพของเพลง มิได้เป็นไปเพื่อธุรกิจการค้าหรือผลประโยชน์อื่นแต่อย่างใดทั้งสิ้น
* โต๊ะน้ำชาฯไม่ได้มีจุดประสงค์ให้ราคาค่ารักษาพยาบาลและราคาหุ้นแพงเกินจริง มากขึ้นไปอีกเรื่อยๆ แต่มุ่งส่งเสริมให้มีการแลกเปลี่ยนข่าวสารประสบการณ์ลงทุน เพื่อให้นักลงทุนรายย่อยมีการลงทุนที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น ซื้อและขายถูกจังหวะ ท่ามกลางสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา