ประสบการณ์การสอบ IELTS ครั้งล่าสุด

ก่อนที่จะเริ่มกันก็ขอสวัสดีผู้ที่เข้ามาอ่านในกระทู้นี้นะครับ  

เนื่องจากที่ผมพึ่งไปสอบ IELTS มา ก็เลยอยากจะมาเล่าประสบการณ์และสิ่งที่ควรและไม่ควรทำให้ฟังนะครับ โดยในกระทู้นี้ สิ่งที่พยายามจะfocusเป็นประเด็นหลักเลยก็จะอยู่ที่ การที่เราจะผ่านการสอบนี้ไปได้อย่างลื่นไหลมากที่สุดอย่างไร? โดยจะเขียนแบ่งให้เป็นช่วงๆนะครับ

เริ่มเลยนะครับ

1. Online Registration till Registration on Test Day
ก็จะเริ่มจากการที่เราลงทพเบียน online กับทาง British Council ก่อน แล้วเราก็จะได้ e-mailตอบกลับมาหาเราครับ e-mail ที่ว่านี้จะเป็นใบเสร็จก่อนนะครับ ส่วนพอใกล้ๆจะสอบแล้ว ทาง BC เค้า จะส่งสถานที่สอบมาอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นที่โรงแรมLandmarkแถวๆเพลินจิต นานา ประมาณนั้นครับ สิ่งที่อยากเตือนอย่างแรกเลยคือ หนึ่ง อ่านสิ่งที่เค้าบอกมาให้ใน e-mail ให้ละเอียดครับ แล้วก็พยายามจำ candidate number ไว้ซะ มันจะง่ายต่อกับทั้งชีวิตcandidateและinvigilatorนะครับ สอง เตรียม passport หรือ บัตรประจำตัวประชาชน ที่up-to-dateไปด้วยนะครับ อย่าลืมเด็ดขาด!!!!! ที่บอกว่าup-to-date ก็เพราะเห็นบางคนโดนdenied การเข้าสอบเพราะหน้าเราในบัตรมันไม่ได้update มานานอ่ะครับ ก็ระวังไว้ครับ

2. Registration on Test Day
ส่วนใหญ่สอบประมาณ9โมงนะครับ ในระบบเค้าจะแจ้งมาอยู่แล้วให้ไปregisterได้ตั้งแต่ ก่อนแปดโมงนู้นนนนนน ยิ่งเร็วได้ยิ่งดีครับ คนเยอะมากกกกกตอนสอบ แล้วส่วนใหญ่ก็จะดูงงมากกกกกกกกกกกก เหมือนงงว่าฉันจะไปไหนต่อดี...
จุดแรก ขึ้นliftมาชั้น7ครับ ถัดไปก็เดินไปดูบอร์ดซะ ไปดูว่าชื่อเราอยู่ที่ row ไหน โดยถ้าจำไม่ผิดมี 7 rows นะครับ ดูให้ดีๆเพราะrow นี้แหล่ะสำคัญมากกกกกก
จุดสอง ดูrow เสร็จแล้วไปต่อแถวครับ เตรียม1)identification document 2)copy of that document เตรียมไปแค่2อย่าง ที่เหลือเค้าจะพาเอาเข้าไปฝากของในห้องฝากนะครับ เอาไปได้มี...identification document, ขวดนํ้าไม่มีฉลาก, เสื้อกันหนาว แค่นี้ครับ เครื่องเขียนเค้าจะมีไว้ให้อยู่ในห้องสอบแล้วครับ ไม่ต้องเอาไป
จุดสาม หลังจากการฝากของแล้ว เราก็ไปregisterกันเสียทีครับ  โดยในห้องregisterเนี่ย เราก็ต้องดูหมายเลขrowที่เราเจอที่บอร์ดนะครับ ในห้องจะมีแบ่งแถวregisterเป็น rowๆ ไป มี 7 rows นะครับ สมมุติว่าผมได้row6 ผมก็เดินไปต่อแถวของrow6 ครับ ไปถ่ายรูป fingerprint scan(นิ้วชี้ขวา กดยํ้าๆประมาณ5รอบครับ)  เสร็จแล้วไปต่อแถวข้างกัน รอยืนยันตัวตนแล้วก็เดินไปแสกนตัวต่อครับ  
จุดสี่ แสกนตัวเสร็จก็ไปรอเจ้าหน้าที่ ที่ทางเข้าห้องสอบครับ จะมีเจ้าหน้าที่เดินมาถามcandidate number แล้วพาเราไปนั่งที่ ที่นั่งของเราครับ

3. Before testing begins
พอไปนั่งที่โต๊ะสอบของเราแล้วเนี่ย เค้าก็จะมีเลย 1)recieverพร้อมหูฟัง(เอาไว้สำหรับlistening) 2)ดินสอสองแท่ง+ยางลบ1ก้อน 3) stickerระบุที่นั่งของเรา(จะมีข้อมูลสำคัญบอกอยู่ เวลาสอบเสร็จ ดึงออกมาด้วยครับ)...เวลาที่ไปนั่งก็เอาหูฟังมาเช็คก่อนเลยครับ เสียงออกปกติรึปล่าวไรงี้ เค้าจะเปิดเพลงแจ๊สๆไว้ให้ฟังเพื่อทดสอบอยู่แล้วครับ

เมื่อถึงเวลาก็จะมีคนมาบรีฟให้ครับ แล้วก็เริ่มสอบกันเลย...

เตือน!!!!!!!!ห้ามทำเกินเวลาเด็ดขาดนะครับ แค่วิสองวิก็ไม่ได้นะครับ มีคนโดนdenied การออกTest Report Formมาแล้วนะครับ อย่าเสี่ยงกับแค่อีกไม่กี่คำ เดี๊ยวจะไม่ได้อะไรเลยจากการสอบยกเว้นจากการเสียเงิน6,900บาทกับอีกสามชั่วโมงที่ปวดหัวไปฟรีๆ
4. After the test
พอสอบเสร็จ หายใจหายคอเสร็จก็ลอกstickerออกมาจากโต๊ะครับ อ่านให้ดีว่าlisteningของเราอ่ะ วันไหน กี่โมง แนะนำให้รายงานตัวประมาณ30-40นาทีก่อนเวลาที่เราจะต้องlisteningจริงๆนะครับ เค้าจะแจ้งเราในห้องสอบว่าสอบชั้นไหนนะคร้าบบ

5. Speaking Test
สำหรับการสอบนี้ ก็อยากจะยํ้านะครับว่า ไปก่อนซัก30-40นาทีก่อนเวลาในsticker ไปถึงในชั้นของตัวเองก็ยื่นidentification document ให้เค้านะครับ แล้วก็นั่งรอ จากนั้นเค้าจะเรียกชื่อ ให้เราเอาของฝากเค้าไว้ แสกนนิ้ว แล้วก็นั่งรอที่เก้าอี้ที่เค้าบอก(เก้าอี้จะมีเบอร์ติดอยู่ นั่งตามเบอร์ที่เจ้าหน้าที่บอกครับ)

พอถึงเวลาเค้าก็จะเรียกไปสอบ พอสอบเสร็จก็กลับไปเอาของแล้วก็เสร็จแล้วคร้าบบบ รอTest Report Form ในอีก13วันได้เบย

Conclusion
ก็หวังว่าที่เขียนมาไว้ด้านบนจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ หากใครมีคำถามก็ถามมาได้เลยครับ จะพยายามตอบเท่าที่ตอบได้นะครับ สุดท้ายก็ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่านนะคร้าบบบบ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่