เรื่องมันก็มีอยู่ว่า วันนั้นเขาขอผมไปทำธุระกับรูมเมทที่ต่างอำเภอเป็นเวลา 3 ชั่วโมง (ซึ่งตอนแรกผมก็ไม่ได้เอะใจอะไร ตอนนั้นผมคิดว่าเขาคงไปทำธุระจริงๆ) วันต่อมาเขาขอผมอีกครั้ง ผมคิดว่ามันต้องมีอะไรบางอย่างแน่ๆ ถึงไปบ่อยขนาดนั้น วันถัดมาเขาก็ขอผมไปอีก (ผมเริ่มที่จะโมโห ทำไมถึงต้องบ่อยนักที่นั่นมีดีอะไร) ตลอดเวลาที่เขาขอผมไปต่างอำเภอ ผมก็พยายามที่จะถามว่า ทำไมถึงไปบ่อย ไปทำอะไร แล้วทำไมถึงกลับค่ำๆมืดๆ (แต่เขาก็บ่ายเบี่ยงที่จะตอบคำถามผมมาโดยตลอด จนผมมารู้ในภายหลังว่าไม่ว่าญาติเขาเสีย ต้องไปอยู่เฝ้าศพกับคนงาน และแฝดผู้พี่) นั่นเป็นบ่อเกิดของการทะเลาะกันระหว่างผมกับเขา เนื่องจากผมเป็นที่ต้องการคำตอบทันที ไม่ชอบการบ่ายเบี่ยง ส่วนเขาชอบบ่ายเบี่ยงที่จะตอบคำถามผม ครั้งนั้นผมจำได้ว่า ทั้งด่าทั้งทะเลาะกัน แบบขึ้น "กู" ตั้งแต่อยู่ในห้องจนกระทั่งเดินออกมาจากหอ [ถ้าเป็นคุณ คุณจะรู้สึกอย่างไร? เมื่อแฟนของคุณไม่ยอมบอกความจริงให้คุณฟัง] วันต่อมาเขาได้นำศพญาติไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด ซึ่งตลอดระยะเวลาที่เขาอยู่บ้าน ผมก็พยายามทำใจให้เย็นลง แล้วแชทคุยกันกับเขาตลอด แต่คนที่เป็นฝ่ายยอมรับเรื่องราวทุกอย่างคือตัวผมเอง ส่วนเขาก็ยังยึดว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกเสมอ แล้วเขาก็พิมพ์ข้อความมาบอกผมว่า “ตัว เค้าขอเวลา 1 อาทิตย์ เค้าขอเคลียทุกอย่างให้จบก่อน เค้าอยากอยู่คนเดียว” แล้วผมก็ถามเขาไปว่า “ก็ได้ แต่หลังจาก 1 อาทิตย์ แล้วตัวกับเค้าจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมหรือเปล่า” เขาก็ตอบผมว่า “แก้วที่มันร้าวคงยากที่กลับคืนมาเป็นเหมือนเดิม” พอผมอ่านจบผมอึ้งมากกับประโยคดังกล่าว จนอาเวลาผ่านไป 1 อาทิตย์ เขาก็กลับมาอยู่ที่หอ แต่วันนั้นผมรู้สึกแปลกๆ ปกติผมไปหาเขาที่หอจะไม่มีรถมอเตอร์ไซด์จอดอยู่หน้าหอของเขา แต่วันนั้นไปผมเห็น รถมอเตอร์ไซด์จอดอยู่หน้าหอของเขา ผมรู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก แล้วผมมองไปที่หน้าหอเขา ไฟหน้าหอก็เปิดแถมยังล็อกประตูห้องอีก มันทำให้ผมวิตกกังกลมาก ไม่นานนักเขาก็เปิดประตูพร้อมกับเดินออกมาพร้อมกับผู้ชายเจ้าของรถมอเตอร์ไซด์ที่จอดหน้าหอ ผมรู้สึกหน้าชาไปหมด แต่ผมก็มองเขาคนที่เป็นแฟนผม เขาแสดงสีหน้า ท่าทางเมินเฉยมาก ยังกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วเขาก็พูดขึ้นว่า “จะไปตลาด” พอพูดจบเขาก็รีบซ้อนท้ายไปกับผู้ชายคนดังกล่าว แบบไม่ใยดีผมเลย แม้แต่จะหันหลังมองผมก็ยังไม่มี... [ถ้าเป็นคุณ คุณจะรู้สึกอย่างไร?]
ถ้าเป็นคุณ คุณจะรู้สึกอย่างไร (3)