อีกแค่ 3 วัน (28 กันยายน) ที่หนังเฉินหลง เรื่องล่าสุด จะเข้าฉายบ้านเรา เป็นประเทศแรกในโลก ถ้าเป็นยุคก่อน ก็จะใช้คำว่า รอบปฐมทัศน์โลก ซึ่งระยะหลัง หนังที่จะมาเปิดตัวในบ้านเราเป็นที่แรก หรือ ฉายก่อนอเมริกา แทบจะนับเรื่องได้เลย สำหรับ "THE FOREIGNER 2 โคตรพยัคฆ์ผู้ยิ่งใหญ่" นอกจาก เฉินหลง หนังยังได้นักแสดงฮอลลีวู้ดยอดฝีมืออย่าง เพียร์ซ บรอสแนน มาปะทะฝีมือการแสดง และกำกับโดย มาร์ติน แคมป์เบล จาก 007 ทั้ง 2 ภาค (Casino Royale และ Goldeneye)
วันนี้เราจึงคัดหนังของ เฮียเฉินหลง ที่เป็นงาน ดรามา-แอ็คชั่น มาเป็นออเดิร์ฟ เสิร์ฟให้รู้กันว่า นอกจาก แอ็คชั่น-คอมเมดี้ ที่ใครๆก็ยกให้ เฮีย เป็นที่หนึ่งในโลกภาพยนตร์แล้ว หนังในแนว ดรามา-แอ็คชั่น เฮียเฉินหลง ของเรา ก็ยังแสดงออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะ "THE FOREIGNER 2 โคตรพยัคฆ์ผู้ยิ่งใหญ่" ที่เน้นหนักๆว่า เป็นงานดรามาที่สุด ถือเป็นงานที่ “ฉีก” รูปแบบเดิมๆของเฮียอย่างชัดเจนที่สุด
ตัวละคร “ควน” ที่เฮียรับบทนั้น จะมีโอกาสในการแสดงออกทั้งทางสายตา และความสิ้นหวังในการสูญเสียลูกสาว อันหมายรวมถึง ครอบครัว เป็นการแสดงออกด้วยสัญชาติญาณของความเป็น พ่อ เป็นผู้นำครอบครัว ที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อ ทวงคืนความยุติธรรมให้แก่ ลูกสาวผู้สูญเสีย ซึ่งเป็นบทที่แตกต่างจากที่ เฉินหลง เคยมีโอกาสได้แสดง
ย้อนไปเมื่อปี 1993 - 2536 Crime Story - วิ่งสู้ฟัด ภาคพิเศษ ถือเป็นหนังที่สร้างความแตกต่างจากหนังเรื่องก่อนหน้าของ เฉินหลง อย่างชนิดที่ทำให้คนดูตะลึง ในการมอบบทที่ ขึงขัง จริงจัง ไม่มีมุมไหนของหนังที่ออกแนวทะเล้นหรือมอบแก๊กหรือมุกให้คนดูได้แม้แต่ยิ้มมุมปาก หนังหยิบเอาเรื่องการเรียกค่าไถ่ ซึ่งถือเป็นอาชญากรรมที่อุกอาจ ในฮ่องกง ยุคนั้น มาเป็นประเด็นของเรื่อง รวมถึงการวิพากษ์ วงการตำรวจฮ่องกง การฉ้อฉลในหน้าที่ เรื่อยไปถึงทุนนิยม สังคม เศรษฐกิจ ฉากแอ็คชั่นในเรื่องจึงหนักหน่วง รุนแรงสมจริง โดยไม่เน้นบันเทิง เอาใจคนดูแต่อย่างใด

ปี 2009 - 2552 Shinjuku Incident - ใหญ่แค้นเดือด เป็นอีกครั้งที่ เฉินหลง รับบทตัวละครในงาน ดรามาหนักๆ ที่เล่าเรื่องคนจีนอพยพไปใช้ชีวิตในญี่ปุ่น โดยเป็นการเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย โดยแม้จะเป็นงานสร้างของ JCE Movies Limited ของเขาเอง แต่เขาเลือกที่จะไม่ทำหน้าที่ใดๆในเบื้องหลังเลย งานกำกับให้ เอ๋อตงเซิน อำนวยการสร้างก็ยกให้เป็นหน้าที่คนอื่น เหลือแค่ห้อยตำแหน่ง executive producer ไว้เท่านั้น บทหนังเองก็เน้นหนักไปทาง ดรามา ผสมกับ อาชญากรรม มากกว่าจะเป็นแอ็คชั่น ซึ่งทำให้ตัวละครที่ เฉินหลง รับบทนั้น ไม่มีความเหนือมนุษย์อย่างที่ผ่านๆมา แอ็คชั่นในเรื่องจึงดูธรรมดา ไม่ดุเดือด รุนแรง ถือเป็นงานที่น่าจดจำอีกเรื่อง

ถัดมาอีก 2 ปี 2011 - 2554 เฉินหลงเลือกงานอิงประวัติศาสตร์อย่าง 1911- ใหญ่ผ่าใหญ่ ที่ถือเป็นงานเพื่อรำลึกถึงวาระครบรอบ 100 ปี ของการปฏิวัติชิงไห่ หรือการปฏิวัติล้มล้างราชวงศ์ชิง และยังเป็นหนังเรื่องที่ 100 ของเฮียอีกด้วย โดยรับบทเป็น นายพลหวงซิง แกนนำคณะปฏิวัติ ผู้ช่วยคนสำคัญของ ดร.ซุนยัดเซ็น มีบทบาทในการก่อตั้งพรรคก๊กมินตั๋งในเวลาต่อมา แน่นอนว่าหนังเน้นหนักไปที่ ดรามา และฉากแอ็คชั่นในรูปแบบของสงคราม มากกว่าจะเป็นคิวบู๊ ตัวต่อตัว และเรื่องนี้ เฉินหลง ก็ได้ฉีกบทบาทของตัวเองอีกครั้ง เสียดายที่ในบ้านเรา ปีนั้นเป็นปีที่น้ำท่วมหนัก แถมหนังยังเข้าฉายในช่วงที่น้องน้ำกำลังมาเยือน กทม. พอดี ทำให้ลดความยิ่งใหญ่ของตัวหนังพร้อมรายได้ ไปพอสมควร
Police Story 2013 - วิ่งสู้ฟัด 2013 งานที่เน้นดรามาอีกเรื่องของ เฉินหลง ที่เปลี่ยนบทนายตำรวจจากสัญชาติฮ่องกง ไปเป็น ตำรวจจีนแผ่นดินใหญ่ และเปลี่ยนบุคลิกด้วยการตัดผมสั้น เพื่อเน้นให้ตัวละครดูจริงจังและแตกต่าง แม้บทหนังจะดรามาหนัก แต่มีบางอย่างที่ขาดๆเกินๆในบทจนทำให้แอ็คชั่นที่น้อยมาก แลดูไม่ทรงพลังพอที่จะทำให้คนดูอินไปกับตัวละครในช่วงไคลแมกซ์ได้มากพอ
"THE FOREIGNER 2 โคตรพยัคฆ์ผู้ยิ่งใหญ่" จึงถือเป็นงานที่ผสมกันระหว่าง ดรามาหนักๆ อาชญากรรมเดือดๆ และ แอ็คชั่นดิบๆ ที่น่าจะสมบูรณ์และลงตัว จากฝีมือที่ได้รับการการันตีของผู้กำกับระดับฮอลลีวู้ด อย่าง มาร์ติน แคมป์เบล
ไปพิสูจน์กันว่า "THE FOREIGNER 2 โคตรพยัคฆ์ผู้ยิ่งใหญ่" เดือด ดิบ โหด แบบ เฉินหลง และ เลือดเย็น แบบ เพียร์ซ บรอสแนน จะเป็นอย่างไร 28 กันยายน ในโรงภาพยนตร์
5 หนังซีเรียส เฉินหลง ก่อนดู THE FOREIGNER
วันนี้เราจึงคัดหนังของ เฮียเฉินหลง ที่เป็นงาน ดรามา-แอ็คชั่น มาเป็นออเดิร์ฟ เสิร์ฟให้รู้กันว่า นอกจาก แอ็คชั่น-คอมเมดี้ ที่ใครๆก็ยกให้ เฮีย เป็นที่หนึ่งในโลกภาพยนตร์แล้ว หนังในแนว ดรามา-แอ็คชั่น เฮียเฉินหลง ของเรา ก็ยังแสดงออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะ "THE FOREIGNER 2 โคตรพยัคฆ์ผู้ยิ่งใหญ่" ที่เน้นหนักๆว่า เป็นงานดรามาที่สุด ถือเป็นงานที่ “ฉีก” รูปแบบเดิมๆของเฮียอย่างชัดเจนที่สุด
ตัวละคร “ควน” ที่เฮียรับบทนั้น จะมีโอกาสในการแสดงออกทั้งทางสายตา และความสิ้นหวังในการสูญเสียลูกสาว อันหมายรวมถึง ครอบครัว เป็นการแสดงออกด้วยสัญชาติญาณของความเป็น พ่อ เป็นผู้นำครอบครัว ที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อ ทวงคืนความยุติธรรมให้แก่ ลูกสาวผู้สูญเสีย ซึ่งเป็นบทที่แตกต่างจากที่ เฉินหลง เคยมีโอกาสได้แสดง
ย้อนไปเมื่อปี 1993 - 2536 Crime Story - วิ่งสู้ฟัด ภาคพิเศษ ถือเป็นหนังที่สร้างความแตกต่างจากหนังเรื่องก่อนหน้าของ เฉินหลง อย่างชนิดที่ทำให้คนดูตะลึง ในการมอบบทที่ ขึงขัง จริงจัง ไม่มีมุมไหนของหนังที่ออกแนวทะเล้นหรือมอบแก๊กหรือมุกให้คนดูได้แม้แต่ยิ้มมุมปาก หนังหยิบเอาเรื่องการเรียกค่าไถ่ ซึ่งถือเป็นอาชญากรรมที่อุกอาจ ในฮ่องกง ยุคนั้น มาเป็นประเด็นของเรื่อง รวมถึงการวิพากษ์ วงการตำรวจฮ่องกง การฉ้อฉลในหน้าที่ เรื่อยไปถึงทุนนิยม สังคม เศรษฐกิจ ฉากแอ็คชั่นในเรื่องจึงหนักหน่วง รุนแรงสมจริง โดยไม่เน้นบันเทิง เอาใจคนดูแต่อย่างใด
ปี 2009 - 2552 Shinjuku Incident - ใหญ่แค้นเดือด เป็นอีกครั้งที่ เฉินหลง รับบทตัวละครในงาน ดรามาหนักๆ ที่เล่าเรื่องคนจีนอพยพไปใช้ชีวิตในญี่ปุ่น โดยเป็นการเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย โดยแม้จะเป็นงานสร้างของ JCE Movies Limited ของเขาเอง แต่เขาเลือกที่จะไม่ทำหน้าที่ใดๆในเบื้องหลังเลย งานกำกับให้ เอ๋อตงเซิน อำนวยการสร้างก็ยกให้เป็นหน้าที่คนอื่น เหลือแค่ห้อยตำแหน่ง executive producer ไว้เท่านั้น บทหนังเองก็เน้นหนักไปทาง ดรามา ผสมกับ อาชญากรรม มากกว่าจะเป็นแอ็คชั่น ซึ่งทำให้ตัวละครที่ เฉินหลง รับบทนั้น ไม่มีความเหนือมนุษย์อย่างที่ผ่านๆมา แอ็คชั่นในเรื่องจึงดูธรรมดา ไม่ดุเดือด รุนแรง ถือเป็นงานที่น่าจดจำอีกเรื่อง
ถัดมาอีก 2 ปี 2011 - 2554 เฉินหลงเลือกงานอิงประวัติศาสตร์อย่าง 1911- ใหญ่ผ่าใหญ่ ที่ถือเป็นงานเพื่อรำลึกถึงวาระครบรอบ 100 ปี ของการปฏิวัติชิงไห่ หรือการปฏิวัติล้มล้างราชวงศ์ชิง และยังเป็นหนังเรื่องที่ 100 ของเฮียอีกด้วย โดยรับบทเป็น นายพลหวงซิง แกนนำคณะปฏิวัติ ผู้ช่วยคนสำคัญของ ดร.ซุนยัดเซ็น มีบทบาทในการก่อตั้งพรรคก๊กมินตั๋งในเวลาต่อมา แน่นอนว่าหนังเน้นหนักไปที่ ดรามา และฉากแอ็คชั่นในรูปแบบของสงคราม มากกว่าจะเป็นคิวบู๊ ตัวต่อตัว และเรื่องนี้ เฉินหลง ก็ได้ฉีกบทบาทของตัวเองอีกครั้ง เสียดายที่ในบ้านเรา ปีนั้นเป็นปีที่น้ำท่วมหนัก แถมหนังยังเข้าฉายในช่วงที่น้องน้ำกำลังมาเยือน กทม. พอดี ทำให้ลดความยิ่งใหญ่ของตัวหนังพร้อมรายได้ ไปพอสมควร
Police Story 2013 - วิ่งสู้ฟัด 2013 งานที่เน้นดรามาอีกเรื่องของ เฉินหลง ที่เปลี่ยนบทนายตำรวจจากสัญชาติฮ่องกง ไปเป็น ตำรวจจีนแผ่นดินใหญ่ และเปลี่ยนบุคลิกด้วยการตัดผมสั้น เพื่อเน้นให้ตัวละครดูจริงจังและแตกต่าง แม้บทหนังจะดรามาหนัก แต่มีบางอย่างที่ขาดๆเกินๆในบทจนทำให้แอ็คชั่นที่น้อยมาก แลดูไม่ทรงพลังพอที่จะทำให้คนดูอินไปกับตัวละครในช่วงไคลแมกซ์ได้มากพอ
"THE FOREIGNER 2 โคตรพยัคฆ์ผู้ยิ่งใหญ่" จึงถือเป็นงานที่ผสมกันระหว่าง ดรามาหนักๆ อาชญากรรมเดือดๆ และ แอ็คชั่นดิบๆ ที่น่าจะสมบูรณ์และลงตัว จากฝีมือที่ได้รับการการันตีของผู้กำกับระดับฮอลลีวู้ด อย่าง มาร์ติน แคมป์เบล
ไปพิสูจน์กันว่า "THE FOREIGNER 2 โคตรพยัคฆ์ผู้ยิ่งใหญ่" เดือด ดิบ โหด แบบ เฉินหลง และ เลือดเย็น แบบ เพียร์ซ บรอสแนน จะเป็นอย่างไร 28 กันยายน ในโรงภาพยนตร์