สวัสดีชาวพันทิปทุกท่าน
วันนี้เราจะมาเล่าถึงการไปพบจิตแพทย์ ของเราให้ฟัง
คือเราได้สูญเสียคุณแม่ จากนั้นไม่นานเราก็ตกงานทั้งๆที่เราเรียนมาสูง เราถูกหลายคนดูถูก เรามีผู้ชายคนนึงเป็นที่พึ่งทางใจ เรารู้จักเขาด้วยความบังเอิญ เขาจะคอยให้กำลังใจและคอยช่วยเหลือเราเสมอ เขาเป็นคนหล่อ รวย หน้าที่การงานดี ซึ่งต่างกับเรามาก เวลาเขาลงรูปแล้วไปเม้น หรือออนอยู่เราทักไป แต่ก่อนเขาตอบนะ แต่พักหลังเขาไม่ตอบ ถ้าเป็นแต่ก่อนก็เฉยๆ แต่ตอนนี้พอเขาไม่ตอบเรา เรานั่งร้องไห้ และมีคนที่รู้จักเขาทีหลังเรางี้แต่เขาให้ความสนิทกว่า เราก็จะเกิดทัศนะคติลบว่า เขาสวยใช่มะ เขารวยนี่ ใช่สิฉันมันกระจอกสินะ มันวนเวียนในหัวจนเก็บมาร้องไห้ อ่านในเน็ตพบว่ามันเป็นอาการของโรคซึมเศร้า ปกติเราจะรักษาโรงพยาบาลเอกชน เพราะว่ามันสะดวกสบายกว่า เราก็ไปถามโรงพยาบาลเอกชนแห่งนึง เขาบอกว่า ค่าแพทย์อ่ะ 3000 ไม่รวมยา เรายอมรับอ่ะ จ่ายไม่ไหว เลยเลือกที่จะมา รพ.รัฐของจังหวัด โดยไม่บอกใคร
บรรยากาศตอนรอหมอ เป็นอะไรที่หดหู่มาก มันเงียบ พอใกล้ถึงคิวเราเราก็เรียกเราเข้าไปนั่งรอ หน้าห้องมีเก้าอี้ให้เรานั่งรอ ในห้องตรวจมีหมอกับคนไข้นั่งคุยกัน โดยเปิดประตูไว้ เรารู้สึกไม่โอเค รู้สึกไม่ส่วนตัว มันหดหู่พิกล จนอยากร้องไห้แบบ ฉันไม่ปรึกษาแล้วได้ไหม แล้วพอถึงคิว หมอก็ถามเราเป็นอะไรมา ด้วยอารมณ์ชิวๆ เราค่อยๆเล่า เขาไม่กดดันเรานะ แต่ ณ จุดนั้น อยากร้องไห้มากๆ แล้วทีนี้คนที่รอข้างนอกก็แอบฟังที่เราคุยกับหมอ หมอเลยหันไปบอกว่า ข้างนอกอย่าแอบฟังครับ แล้วปิดประตู เราเล่าสิ่งที่อยู่ในใจออกมา หมอก็แนะแนวทางคิดให้ เราถามหมอว่าเราเป็นโรคซึมเศร้ารึเปล่า หมอบอกเรามีภาวะซึมเศร้าแน่นอน แต่เป็นรึเปล่า ต้องดูว่า กินยาไป1เดือนแล้วจิตใจแจ่มใส ถือว่าโอเค ถ้ายังขุ่นมัว ต้องมาหาใหม่ แล้วปรับตัวยา หมอบอกดีแล้วที่เรามาหา เพราะถ้าปล่อยไว้จะรักษายาก เบ็ดเสร็จเราเสียค่ายาแค่ 169 บาทเอง
ใครคิดว่าตัวเองมีแนวโน้มเป็น ไปปรึกษาเถอะค่ะ มันไม่แพงเลย ใจเราแจ่มใส ใครก็อยากคุยด้วย
เมื่อฉันไปหาจิตแพทย์
วันนี้เราจะมาเล่าถึงการไปพบจิตแพทย์ ของเราให้ฟัง
คือเราได้สูญเสียคุณแม่ จากนั้นไม่นานเราก็ตกงานทั้งๆที่เราเรียนมาสูง เราถูกหลายคนดูถูก เรามีผู้ชายคนนึงเป็นที่พึ่งทางใจ เรารู้จักเขาด้วยความบังเอิญ เขาจะคอยให้กำลังใจและคอยช่วยเหลือเราเสมอ เขาเป็นคนหล่อ รวย หน้าที่การงานดี ซึ่งต่างกับเรามาก เวลาเขาลงรูปแล้วไปเม้น หรือออนอยู่เราทักไป แต่ก่อนเขาตอบนะ แต่พักหลังเขาไม่ตอบ ถ้าเป็นแต่ก่อนก็เฉยๆ แต่ตอนนี้พอเขาไม่ตอบเรา เรานั่งร้องไห้ และมีคนที่รู้จักเขาทีหลังเรางี้แต่เขาให้ความสนิทกว่า เราก็จะเกิดทัศนะคติลบว่า เขาสวยใช่มะ เขารวยนี่ ใช่สิฉันมันกระจอกสินะ มันวนเวียนในหัวจนเก็บมาร้องไห้ อ่านในเน็ตพบว่ามันเป็นอาการของโรคซึมเศร้า ปกติเราจะรักษาโรงพยาบาลเอกชน เพราะว่ามันสะดวกสบายกว่า เราก็ไปถามโรงพยาบาลเอกชนแห่งนึง เขาบอกว่า ค่าแพทย์อ่ะ 3000 ไม่รวมยา เรายอมรับอ่ะ จ่ายไม่ไหว เลยเลือกที่จะมา รพ.รัฐของจังหวัด โดยไม่บอกใคร
บรรยากาศตอนรอหมอ เป็นอะไรที่หดหู่มาก มันเงียบ พอใกล้ถึงคิวเราเราก็เรียกเราเข้าไปนั่งรอ หน้าห้องมีเก้าอี้ให้เรานั่งรอ ในห้องตรวจมีหมอกับคนไข้นั่งคุยกัน โดยเปิดประตูไว้ เรารู้สึกไม่โอเค รู้สึกไม่ส่วนตัว มันหดหู่พิกล จนอยากร้องไห้แบบ ฉันไม่ปรึกษาแล้วได้ไหม แล้วพอถึงคิว หมอก็ถามเราเป็นอะไรมา ด้วยอารมณ์ชิวๆ เราค่อยๆเล่า เขาไม่กดดันเรานะ แต่ ณ จุดนั้น อยากร้องไห้มากๆ แล้วทีนี้คนที่รอข้างนอกก็แอบฟังที่เราคุยกับหมอ หมอเลยหันไปบอกว่า ข้างนอกอย่าแอบฟังครับ แล้วปิดประตู เราเล่าสิ่งที่อยู่ในใจออกมา หมอก็แนะแนวทางคิดให้ เราถามหมอว่าเราเป็นโรคซึมเศร้ารึเปล่า หมอบอกเรามีภาวะซึมเศร้าแน่นอน แต่เป็นรึเปล่า ต้องดูว่า กินยาไป1เดือนแล้วจิตใจแจ่มใส ถือว่าโอเค ถ้ายังขุ่นมัว ต้องมาหาใหม่ แล้วปรับตัวยา หมอบอกดีแล้วที่เรามาหา เพราะถ้าปล่อยไว้จะรักษายาก เบ็ดเสร็จเราเสียค่ายาแค่ 169 บาทเอง
ใครคิดว่าตัวเองมีแนวโน้มเป็น ไปปรึกษาเถอะค่ะ มันไม่แพงเลย ใจเราแจ่มใส ใครก็อยากคุยด้วย