การท่องเที่ยวที่ตอบโจทย์ผมได้ดีที่สุด คือ การท่องเที่ยวที่ได้สัมผัสกับบรรยากาศดั้งเดิมมากที่สุด ยังเห็นผู้คนประกอบอาชีพดั้งเดิม ไม่ได้เปิดที่พักหรือร้านขายของที่ระลึกเสียหมด และในวันหนึ่งที่ผมเบื่อหน่ายจากการอ่านหนังสือเขียนรายงาน ได้ตัดสินใจปั่นจักรยานออกไปที่ชนบททางเหนือของ Groningen อย่างไร้จุดหมาย โดยไม่รู้เลยว่า สิ่งที่รอคอยผมอยู่ระหว่างทาง คือ สิ่งที่ผมปรารถนาจะได้สัมผัสมาเนิ่นนาน
ตอนเหนือของ Groningen ประกอบด้วยหมู่บ้านเกษตรกรรมขนาดเล็กมากมาย ชาวบ้านทำปศุสัตว์วัวและแกะบนที่ราบเขียวขจีอันแสนกว้างใหญ่ที่ครั้งหนึ่งเคยจมอยู่ใต้น้ำทะเล จนกระทั่งจิตวิญญาณของความไม่ยอมแพ้ของชาวดัทช์ได้ทำให้น้ำทะเลร่นถอยไป ด้วยการสร้างเนินดิน หรือ dijk (ไดก์) กั้นไว้ตั้งแต่หลายศตวรรษที่แล้ว
เมื่อสภาวะแวดล้อมเอื้ออำนวยต่อการตั้งถิ่นที่อยู่ ภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมก็ได้เริ่มก่อตัวขึ้น อาคารบ้านเรือนที่ก่อสร้างด้วยอิฐสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ก่อตัวเป็นหมู่บ้าน ซึ่งไม่อาจสมบูรณ์ได้เลยหากปราศจากกังหันลมที่วิดน้ำและบดข้าวสาลีจนเป็นแป้ง หล่อเลี้ยงผู้คนมานานเนิ่นนาน
เสียงกังหันลมตอกกับครกไม้ สายลมเย็นสบายแห่งต้นฤดูใบไม้ผลิที่พัดโชยไอดินกลิ่นหญ้า คลอเคลียดอกแดนดิไลออนสีเหลืองทอง กลีบดอกเชอร์รี่ที่โรยราเต้นระบำกลางสายลม เสียงของวัวและแกะที่ร้องเรียกหากัน เกิดเป็นสุนทรียภาพที่ยากเกินพรรณนาด้วยถ้อยคำ
ธรรมชาติได้เยียวยาทั้งกายและจิตใจ ให้ผมพร้อมมาสู้กับกองหนังสือและรายงานตรงหน้าอีกครั้งหนึ่ง
-------------
ใครสนใจการเรียน การทำงาน และการท่องเที่ยวแนว hidden gems ในยุโรป ก็ขอเชิญไปเยี่ยมชมหรือพูดคุยกันได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจครับ
https://www.facebook.com/IRememberEurope/
ไอดิน กลิ่นหญ้า สายลม กับชนบทในเนเธอร์แลนด์ภาคเหนือ
ตอนเหนือของ Groningen ประกอบด้วยหมู่บ้านเกษตรกรรมขนาดเล็กมากมาย ชาวบ้านทำปศุสัตว์วัวและแกะบนที่ราบเขียวขจีอันแสนกว้างใหญ่ที่ครั้งหนึ่งเคยจมอยู่ใต้น้ำทะเล จนกระทั่งจิตวิญญาณของความไม่ยอมแพ้ของชาวดัทช์ได้ทำให้น้ำทะเลร่นถอยไป ด้วยการสร้างเนินดิน หรือ dijk (ไดก์) กั้นไว้ตั้งแต่หลายศตวรรษที่แล้ว
เมื่อสภาวะแวดล้อมเอื้ออำนวยต่อการตั้งถิ่นที่อยู่ ภูมิทัศน์ทางวัฒนธรรมก็ได้เริ่มก่อตัวขึ้น อาคารบ้านเรือนที่ก่อสร้างด้วยอิฐสีแดงอันเป็นเอกลักษณ์ก่อตัวเป็นหมู่บ้าน ซึ่งไม่อาจสมบูรณ์ได้เลยหากปราศจากกังหันลมที่วิดน้ำและบดข้าวสาลีจนเป็นแป้ง หล่อเลี้ยงผู้คนมานานเนิ่นนาน
เสียงกังหันลมตอกกับครกไม้ สายลมเย็นสบายแห่งต้นฤดูใบไม้ผลิที่พัดโชยไอดินกลิ่นหญ้า คลอเคลียดอกแดนดิไลออนสีเหลืองทอง กลีบดอกเชอร์รี่ที่โรยราเต้นระบำกลางสายลม เสียงของวัวและแกะที่ร้องเรียกหากัน เกิดเป็นสุนทรียภาพที่ยากเกินพรรณนาด้วยถ้อยคำ
ธรรมชาติได้เยียวยาทั้งกายและจิตใจ ให้ผมพร้อมมาสู้กับกองหนังสือและรายงานตรงหน้าอีกครั้งหนึ่ง
-------------
ใครสนใจการเรียน การทำงาน และการท่องเที่ยวแนว hidden gems ในยุโรป ก็ขอเชิญไปเยี่ยมชมหรือพูดคุยกันได้ที่เฟสบุ๊คแฟนเพจครับ https://www.facebook.com/IRememberEurope/