ความจริงตามแผนเดิมที่คิดกันไว้ ตื่นเช้าแล้วกะจะหาอาหารเช้ากินกัน แล้วไป camera museum กับ blue masion ก่อนกลับมาเช็คเอาท์ แต่ด้วยความที่ยังเอ๋อจากวอดก้าเมื่อวาน เลยจำใจเทแผนทิ้งพรวดเลย เสียดายเหมือนกัน แต่ไม่เป็นไร เราคุยกันแล้วว่าเราจะกลับไปอีก คราวนี้จะเอาให้เป๊ะกว่าเก่าอีกคอยดู เราเลยปรับแผนเป็นว่าไปเดินซื้อของฝากแถว Jetty Chew และ Armenian St. นี่ละ
เริ่มที่การแวะกินข้าวเช้าที่ศูนย์อาหารหัวมุม Armenian St. ที่อยู่ตรงข้าม Jetty Chew เป็นมื้อที่ได้ฟีลต่ำตมสุดละในปีนัง เพื่อนเราสั่งกระทะร้อนมา เป็นเหมือนหมี่กรอบราดหน้ากุ้ง แต่ก็รสแปลกๆ กินไม่หมดด้วย 6 rm หรือไงแหละ ส่วนเราเองเอาไก่ทอดมากินปีกเดียวเอง อันละ 2 rm ซึ่งก็กินไม่หมดเหมือนกัน เพราะยังเบลอๆจากเมื่อคืน ไม่กล้ากินอะไรมาก กลัวจะอ๊อกมากๆเลย กินได้แต่โค้ก
จากนั้นก็เข้ามาช็อปปิ้งของฝากกันต่อเริ่มจาก Jetty Chew และตามด้วย Armenian St. ได้มาก็หลายอย่างอยู่ พวกร้านของฝากตรง Armenian St. มีหลายร้านที่มีของแฮนด์เมดที่น่าสนใจมาก แต่ราคาก็ค่อนข้างสูง อย่างผ้าที่ทอโดยกลุ่มคนพิการนี่สวยมากๆ แต่ราคาก็เป็นพันๆเลย ต้องไปสืบๆมาก่อนว่ามีใครจะอยากได้มั้ย วันหลังกลับมาอีกจะได้ซื้อติดไป หรือพวกย่ามผ้าบ้าติคก็มีสวยๆเยอะเลย
เดินอยู่ราวสองชั่วโมงได้ จนคิดว่าได้ของครบตามต้องการแล้วก็เดินกลับที่พัก กลับมาถึงพวกเรายังพอมีเวลาเอนหลังสักนิดนึง ประมาณ 30-45 นาทีได้ จากนั้นก็เก็บของฝากเข้ากระเป๋า นั่นโน่นนี่ ให้เรียบร้อย ฝรั่งในห้องยังนอนไม่ตื่นกันเลย แต่พวกเราทิ้งโน้ตลาไว้แล้ว จากนั้นก็เช็คเอาท์กันเลยราวๆบ่ายโมง แล้วหอบกระเป๋าเดินเท้าไปที่ Komtar เพื่อไปกินกลางวันที่นั่น ซึ่งเราขอชิมข้าวหมูกรอบเพื่อนไปสองคำ จากนั้นก็กินโค้กล้วนๆเลย เพื่อนมีความพยายามที่จะคีบตุ๊กตาด้วย เสียกันไป 5-6 rm ก็ไม่ได้อะไรกลับมา เลยถอดใจ ไปเดินห้างเปิดหูเปิดตาเล่น จนราวๆบ่ายสองกว่าก็ตัดสินใจขึ้นสาย 401 ไปสนามบินดีกว่า ไปนั่งรอที่โน่นเอา ถึงสนามบินแล้วเราก็ยังไม่ได้กินอะไร ด้อมๆมองๆอยากกินไอติมแมกนั่มก็กลัวกินไม่ลง กินหมากฝรั่งจากเพื่อนไปเม็ดเดียว กว่าจะขึ้นเครื่องก็หกโมงกว่าๆ แถมแยกกันนั่งอีก เรานี่หลับเพลินเลย ตื่นอีกทีก็ 30 นาทีก่อนจะแลนดิ้ง
กระทู้นี้ไม่มีอะไรมาก แต่บทสรุปของเราคือความประทับใจที่ได้ไปเที่ยวกับคนอื่นบ้างหลังจากหยุดเที่ยวไปปีนึงเต็มๆ และเวลาเที่ยวปกติก็ไปคนเดียวตลอด ไม่ค่อยมีโอกาสได้ไปกับใคร การได้มีเพื่อนร่วมทางทำให้เราเรียนรู้ที่จะเปิดใจฟังความเห็นของอีกคนมากขึ้น ทำให้เราเรียนรู้ที่จะใช้เวลากับผู้คนมากขึ้น แล้วก็ได้ทำความรู้จักเพื่อนเราที่เราคิดว่าสนิทกันดีแล้วมากขึ้นด้วย
สรุปค่าใช้จ่ายประจำวัน
- ค่าอาหาร 23 RM
- ค่ารถเมล์ 5.40 RM
Total 28.40 RM
สำหรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดของทริปนี้แบบที่คำณวนคร่าวๆโดยไม่นับรวมพวกของฝากส่วนตัวหรือของที่ซื้อให้ตัวเองใช้งานคนเดียวก็เป็นตามข้างล่างนี่เลย ตอนแรกเราเก็งไว้ที่ 4000 ต้นๆนะ แต่ที่บานออกมาสงสัยจะเป็นค่าเหล้า ฮ่าๆๆ ก็โอเคแหละ ถือว่าเป็นการจ่ายเงินให้ประสบการณ์เมาจนภาพตัดครั้งแรก สุดจริงๆ นี่ก็มีแพลนๆกันไว้แล้วว่าทริปต่อไปจะไปที่ไหนดี ยังไงเดี๋ยวกลับมาทำกระทู้อีกแน่นอนฮะ
ค่าใช้จ่ายในปีนัง (คิดรวม 2 คน ไม่นับของฝากส่วนตัว)
- ค่ากินและเดินทาง 462.75 RM
- ค่าที่พัก 150 RM
Total 612.75 RM
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดต่อคน
- ตั๋วเครื่องบิน 2691.80฿
- ค่าใช้จ่ายในปีนัง 2420 ฿ (307 RM = ค่าเดินทาง+ที่พัก)
Total = 5111 ฿
[My Penang #4] ส่งท้าย Penang กับการซื้อของฝาก
ความจริงตามแผนเดิมที่คิดกันไว้ ตื่นเช้าแล้วกะจะหาอาหารเช้ากินกัน แล้วไป camera museum กับ blue masion ก่อนกลับมาเช็คเอาท์ แต่ด้วยความที่ยังเอ๋อจากวอดก้าเมื่อวาน เลยจำใจเทแผนทิ้งพรวดเลย เสียดายเหมือนกัน แต่ไม่เป็นไร เราคุยกันแล้วว่าเราจะกลับไปอีก คราวนี้จะเอาให้เป๊ะกว่าเก่าอีกคอยดู เราเลยปรับแผนเป็นว่าไปเดินซื้อของฝากแถว Jetty Chew และ Armenian St. นี่ละ
เริ่มที่การแวะกินข้าวเช้าที่ศูนย์อาหารหัวมุม Armenian St. ที่อยู่ตรงข้าม Jetty Chew เป็นมื้อที่ได้ฟีลต่ำตมสุดละในปีนัง เพื่อนเราสั่งกระทะร้อนมา เป็นเหมือนหมี่กรอบราดหน้ากุ้ง แต่ก็รสแปลกๆ กินไม่หมดด้วย 6 rm หรือไงแหละ ส่วนเราเองเอาไก่ทอดมากินปีกเดียวเอง อันละ 2 rm ซึ่งก็กินไม่หมดเหมือนกัน เพราะยังเบลอๆจากเมื่อคืน ไม่กล้ากินอะไรมาก กลัวจะอ๊อกมากๆเลย กินได้แต่โค้ก
จากนั้นก็เข้ามาช็อปปิ้งของฝากกันต่อเริ่มจาก Jetty Chew และตามด้วย Armenian St. ได้มาก็หลายอย่างอยู่ พวกร้านของฝากตรง Armenian St. มีหลายร้านที่มีของแฮนด์เมดที่น่าสนใจมาก แต่ราคาก็ค่อนข้างสูง อย่างผ้าที่ทอโดยกลุ่มคนพิการนี่สวยมากๆ แต่ราคาก็เป็นพันๆเลย ต้องไปสืบๆมาก่อนว่ามีใครจะอยากได้มั้ย วันหลังกลับมาอีกจะได้ซื้อติดไป หรือพวกย่ามผ้าบ้าติคก็มีสวยๆเยอะเลย
เดินอยู่ราวสองชั่วโมงได้ จนคิดว่าได้ของครบตามต้องการแล้วก็เดินกลับที่พัก กลับมาถึงพวกเรายังพอมีเวลาเอนหลังสักนิดนึง ประมาณ 30-45 นาทีได้ จากนั้นก็เก็บของฝากเข้ากระเป๋า นั่นโน่นนี่ ให้เรียบร้อย ฝรั่งในห้องยังนอนไม่ตื่นกันเลย แต่พวกเราทิ้งโน้ตลาไว้แล้ว จากนั้นก็เช็คเอาท์กันเลยราวๆบ่ายโมง แล้วหอบกระเป๋าเดินเท้าไปที่ Komtar เพื่อไปกินกลางวันที่นั่น ซึ่งเราขอชิมข้าวหมูกรอบเพื่อนไปสองคำ จากนั้นก็กินโค้กล้วนๆเลย เพื่อนมีความพยายามที่จะคีบตุ๊กตาด้วย เสียกันไป 5-6 rm ก็ไม่ได้อะไรกลับมา เลยถอดใจ ไปเดินห้างเปิดหูเปิดตาเล่น จนราวๆบ่ายสองกว่าก็ตัดสินใจขึ้นสาย 401 ไปสนามบินดีกว่า ไปนั่งรอที่โน่นเอา ถึงสนามบินแล้วเราก็ยังไม่ได้กินอะไร ด้อมๆมองๆอยากกินไอติมแมกนั่มก็กลัวกินไม่ลง กินหมากฝรั่งจากเพื่อนไปเม็ดเดียว กว่าจะขึ้นเครื่องก็หกโมงกว่าๆ แถมแยกกันนั่งอีก เรานี่หลับเพลินเลย ตื่นอีกทีก็ 30 นาทีก่อนจะแลนดิ้ง
กระทู้นี้ไม่มีอะไรมาก แต่บทสรุปของเราคือความประทับใจที่ได้ไปเที่ยวกับคนอื่นบ้างหลังจากหยุดเที่ยวไปปีนึงเต็มๆ และเวลาเที่ยวปกติก็ไปคนเดียวตลอด ไม่ค่อยมีโอกาสได้ไปกับใคร การได้มีเพื่อนร่วมทางทำให้เราเรียนรู้ที่จะเปิดใจฟังความเห็นของอีกคนมากขึ้น ทำให้เราเรียนรู้ที่จะใช้เวลากับผู้คนมากขึ้น แล้วก็ได้ทำความรู้จักเพื่อนเราที่เราคิดว่าสนิทกันดีแล้วมากขึ้นด้วย
สรุปค่าใช้จ่ายประจำวัน
- ค่าอาหาร 23 RM
- ค่ารถเมล์ 5.40 RM
Total 28.40 RM
สำหรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดของทริปนี้แบบที่คำณวนคร่าวๆโดยไม่นับรวมพวกของฝากส่วนตัวหรือของที่ซื้อให้ตัวเองใช้งานคนเดียวก็เป็นตามข้างล่างนี่เลย ตอนแรกเราเก็งไว้ที่ 4000 ต้นๆนะ แต่ที่บานออกมาสงสัยจะเป็นค่าเหล้า ฮ่าๆๆ ก็โอเคแหละ ถือว่าเป็นการจ่ายเงินให้ประสบการณ์เมาจนภาพตัดครั้งแรก สุดจริงๆ นี่ก็มีแพลนๆกันไว้แล้วว่าทริปต่อไปจะไปที่ไหนดี ยังไงเดี๋ยวกลับมาทำกระทู้อีกแน่นอนฮะ
ค่าใช้จ่ายในปีนัง (คิดรวม 2 คน ไม่นับของฝากส่วนตัว)
- ค่ากินและเดินทาง 462.75 RM
- ค่าที่พัก 150 RM
Total 612.75 RM
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดต่อคน
- ตั๋วเครื่องบิน 2691.80฿
- ค่าใช้จ่ายในปีนัง 2420 ฿ (307 RM = ค่าเดินทาง+ที่พัก)
Total = 5111 ฿