สวัสดีค่ะเพื่อนๆพี่ๆน้องๆทุกคน  นี่เป็นการรีวิวครั้งแรกของเราใน Pantip วันนี้เราจะไปกันที่ จังหวัดกาญจนบุรีกันนะคะ
โดยเป้าหมายของทริปนี้ก็คือ “ บ้านกกกอด ” นั่นเองค่ะ

พร้อมกันแล้วใช่ไหมคะ งั้นเรามาเริ่มกันเลยดีกว่า

เราออกเดินทางออกจากกรุงเทพฯในตอนเช้าของวันที่ 1 กรกฎาคม 2560 โดยรถยนต์ส่วนตัวค่ะ สำหรับคนไม่ค่อยรู้ทางอย่างเรา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าๆ ตาม Google maps รวมเวลาแวะทานข้าว แวะโน่นนี่แล้วนะคะ

.
.
.

และในที่สุดเราถึงกาญจนบุรีกันแล้วค่ะ หลังจากนั้นก็ขับไปเรื่อยๆ คิดถึงที่เที่ยวไปเพลินๆ เพราะเกรงว่าจะไปถึงบ้านกกกอดก่อนเวลา
เช็คอิน เวลาเช็คอินที่เค้าแจ้งไว้คือ 13.30น. นะคะ

.
.
.

ก่อนที่เราจะเข้าที่พัก เรามาแวะที่นี่กันก่อนนิดนึงดีกว่าค่ะ ที่นี่หลายๆคนคงรู้จักกันบ้างแล้วล่ะค่ะ “สะพานข้ามแม่น้ำแคว” นั่นเองจ้า

นี่ฤดูฝนจริงๆใช่ไหม แดดแรงมาก ด้วยความที่อากาศร้อนมากๆ ทำให้เราใช้เวลาที่นี่ไม่นานมากนัก ลงไปเดินเล่นยังไม่ถึงกลางสะพานเลยค่ะ ตัดสินใจไปต่อดีกว่า คุ้มกับการเสียค่าที่จอดรถ 20 บาทไหมนี่ บอกเลยว่ายังไงก็ต้องคุ้มค่ะ ร้อนเกิ้นนน 5555

.
.
.

ไปกันต่อดีกว่าค่ะ ได้เวลาเช็คอินแล้วววว อีกไม่นานเท่านั้นแหละค่ะ เมฆฝนมาแล้วจ้า รู้สึกเหมือนมาต้อนรับเลยค่ะ ในที่สุดฝนก็ตกลงมาตอนใกล้ถึงที่พักพอดีเลย
จากสะพานข้ามแม่น้ำแคว ขับมาประมาณชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงแล้วค่ะ “ บ้านกกกอด ”

ขอแนะนำให้จองก่อนเข้าพักจะดีกว่านะคะ เพราะเราเชื่อว่าช่วงวันหยุดที่นี่ห้องเต็มแน่นอน ครั้งนี้เราจองล่วงหน้าเกือบเดือนเลยค่ะ
จองไว้เมื่อวันที่ 8 มิ.ย 2560 และเข้าพักในวันที่ 1 ก.ค. 60 ที่นี่มีห้องพักหลายแบบนะคะ มีทั้งห้องแอร์และพัดลม
สามารถติดต่อจองผ่านทางเบอร์ 085-519-1953, 092-580-0058 หรือ ติดต่อทาง facebook เข้าไปที่ www.facebook.com/baankokkodpage ได้เลย

.
.
.

เข้าไปข้างในกันเลย มีเจ้าบุญทิ้งออกมาต้อนรับด้วยค่ะ นางน่ารักสมคำร่ำลือจริงๆ ที่เราจองไว้เป็นบ้านริมบึงค่ะ ราคาจะอยู่ที่ 1,600 บาทค่ะ รวมภาษีแล้วทั้งหมดก็ 1,712 บาท

หลังจากเช็คอินเสร็จแล้ว เข้าห้องกันดีกว่าค่ะ ห้องที่เราได้คือ ห้อง “ กอดเมฆ ” นั่นเอง น่านอนมากค่า เตียงนุ่มมากด้วยค่ะ

.
.
.

ระหว่างทางเดินเข้าห้องฝูงห่านก็มารอรับเช่นกันค่ะ 5 ตัวแหน่ะ พี่เค้าเตือนไว้ว่า ระวังโดนจิก และที่สำคัญห้ามวิ่งหนีเด็ดขาดค่ะ 555
เจ้าของรวมไปถึงคนที่นี่น่ารักมากกกก อัธยาศัยดีทุกคนเลยค่ะ

ด้วยความที่ฝนยังคงเทลงมาอยู่ พอเข้าห้องพักแล้วรู้สึกเหมือนโดนเตียงดูดวิญญาณ  ขอนอนพักสักนิดนึงนะคะ ถ้าฝนหยุดแล้ว เดี๋ยวจะพาออกไปชมบรรยากาศรอบๆกัน

.
.
.

ระหว่างที่นอนเล่นอยู่นั่นรู้สึกหิวค่ะ เลยอยากออกไปหาอะไรรองท้อง เราถามพี่ที่นั่นว่าแถวนี้มีเซเว่นรึเปล่าคะ พี่เค้าบอกมีค่ะ อยู่ไม่ไกลจากตรงนี้มากนัก ขับไปประมาณ 1 กิโลก็ถึงแล้วค่ะ พร้อมกับบอกด้วยว่าวันเสาร์ที่นี่จะมีตลาดนัดชุมชนด้วยนะคะ
ดีเลยค่ะ เรื่องกินเราไม่พลาดอยู่แล้ว เพื่อไม่ให้เสียเวลา ไปกันเลย 5555

พอกลับเข้ามาก็ช่วงเย็นแล้ว ฟ้ายังคงอึมครึมอยู่  ไปค่ะ ออกไปเดินเล่นดูบรรยากาศรอบๆที่นี่กัน

แม้ว่าฝนจะตก บรรยากาศที่นี่ก็ยังดีต่อใจมากๆอยู่ดีค่ะ เดินออกไปอยู่ท่ามกลางเสียงลมของต้นกก บอกเลยค่ะว่าคุ้มมาก ยิ่งกว่าคุ้ม ต้องกลับมาที่นี่อีกแน่นอน

เดินไปเรื่อยๆ ก็จะเจอกับโป๊ะเรือสีแดงๆค่ะ เราจะเห็นเรือจอดเรียงกันอยู่ เราสามารถลงไปพายเรือหรือเล่นน้ำได้นะคะ ทางบ้านกกกอดเค้าจะมีไม้พายเรือกับเสื้อชูชีพให้ด้วยค่ะ

ชมบรรยากาศเสร็จแล้ว พายเรือกันเสร็จแล้ว เริ่มหิวอีกแล้วค่ะ ออกไปหามื้อเย็นทานกัน มื้อนี้เราเลือกไปทานที่ร้าน “ ครัวคุณลุง ” นะคะ อาหารอร่อยดีค่ะ เราสั่งกับข้าวกับข้าวสองจาน จำได้ว่าราคาก็ไม่แพงมากนะคะ แต่ ลืมแชะรูปมาฝากเลยค่ะ แหะๆ  
ร้านครัวคุณลุงจะอยู่ปากทางเข้าไปบ้านกกกอดเลยค่ะ แนะนำให้ไปลองทานดูนะคะ

.
.
.

หนังท้องตึงหนังตาหย่อนค่ะ ด้วยความที่นี่ไม่มี wi-fi ไม่มีทีวี ทำให้บรรยากาศสงบมากๆ เหมาะแก่การพักผ่อนจริงๆ วันนี้เลยเข้านอนไวเป็นพิเศษค่ะ ก่อนนอนก็คิดว่าพรุ่งนี้เช้าจะต้องตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้น  สรุปคือ ไม่เห็นแสงอาทิตย์เลยค่ะ 5555

อรุณสวัสดิ์ค่ะ ตื่นมาล้างหน้าล้างตา แปรงฟัน ไปทานอาหารเช้ากันดีกว่า อาหารเช้าที่นี่ก็จะมีข้าวต้ม ชา กาแฟ รวมไปถึง ขนมปัง ไส้กรอก ไข่ดาวรูปหัวใจด้วย น่ารัก น่าทานมากๆ

ทานมื้อเช้าเสร็จแล้ว เหมือนท้องฟ้าจะเป็นใจนะเช้านี้  ท้องฟ้าใสเชียว ไม่น่าจะมีฝนแล้วมั้ง ไปชมบรรยากาศรอบๆในตอนเช้ากันอีกทีดีกว่าค่ะ  

ออกไปเดินชิวๆ ถ่ายรูปเล่นกันพักใหญ่ เห็นว่าท้องสดใสเลยแพลนว่าจะไปเที่ยวกันต่อ กลับเข้าที่พักไปอาบน้ำแต่งตัว เตรียมตัวไปเที่ยวกาญก่อนกลับกันดีกว่าค่ะ

ได้เวลาเช็คเอ๊าท์แล้วค่ะ ได้เจอกับพี่ที่นั่นพอดี เลยถามว่า แถวนี้มีที่เที่ยวที่ไหนแนะนำบ้างไหมคะ พี่เค้าแนะนำให้ไปเที่ยวเขื่อนศรีนครินทร์กับน้ำตกเอราวัณ