จริงๆ แล้วในไทยเรามีสถานที่ท่องเที่ยวแนวย้อนยุคอยู่มากมาย กระจายตัวอยู่หลายจังหวัด บางแห่งทำเป็นรูปแบบตลาดย้อนยุค หรือบางครั้งอาจเป็นการจำลองบรรยากาศให้พอรู้สึกถึงกลิ่นไอของอดีตตามงานเทศกาลประจำปีต่างๆ แต่สำหรับที่นี่ "เมืองมัลลิกา ร.ศ.124" ทำให้เราเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสู่ยุคนั้นได้จริงๆ
จากที่เราได้อ่านเว็บไซต์ของเมืองมัลลิกา มีข้อมูลระบุไว้ว่า...
"เมืองมัลลิกา เป็นเมืองย้อนยุคของวิถีชีวิตชาวสยามบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ วิถีชีวิตของชาวสยามในยุค ร.ศ.๑๒๔ มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมายหลายด้าน ที่เด่นชัดมากคือการประกาศเลิกทาส เมื่อทาสได้รับความเป็นไทพวกเขาต้องใช้ชีวิตอยู่อาศัยและทำมาหากินด้วยตนเอง ไม่ได้อยู่ภายใต้อาณัติหรือการดูแลของบรรดาเจ้าขุนมูลนายอีกต่อไป พวกเขาต้องดำรงชีวิตให้อยู่รอด พึ่งตนเอง และอยู่ร่วมกับคนสยามทุกหมู่เหล่า การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเหล่านี้นับเป็นรากเหง้าสำคัญของคนไทยในยุคปัจจุบัน"
ทั้งหมดนี้สะท้อนออกมาให้เราเห็นได้ตั้งแต่รูปแบบการก่อสร้างและการตกแต่งของโซนต่างๆ เครื่องแต่งกายของเจ้าหน้าที่ วิธีการจับจ่ายใช้สอยยามเมื่อเราก้าวเข้าสู่บริเวณด้านใน ไปจนถึงคำพูดแบบย้อนยุคของพนักงาน "ทุกคน" เริ่มตั้งแต่ลานจอดรถเลยทีเดียว เรียกได้ว่าทางเมืองมัลลิกาใส่ใจในรายละเอียดมากๆ และยิ่งทึ่งหนักขึ้นไปอีกเมื่อได้รู้ว่าก่อนการก่อสร้างเมืองมัลลิกาแห่งนี้ ทางอาจารย์ ชาตรี ปกิตนนทกานต์ ผู้ออกแบบทางสถาปัตยกรรม ได้มีการผูกเรื่องเพื่อการออกแบบที่สมจริงเอาไว้ด้วย โดยมีตัวละครหลักคือ "แม่มะลิ" หญิงสาวลูกชาวนาที่อาศัยอยู่ในชุมชนแห่งนี้ โห...ทำกันขนาดนี้เลย
จากโครงเรื่องนี้เองทำให้เกิดนึกสนุก อยากจะลองเป็นตัวละครที่เมืองมัลลิกาแห่งนี้ดูบ้าง จึงขออนุญาติหยิบยกเอาโครงเรื่องที่อาจารย์ ชาตรี ปกิตนนทกานต์ ได้วางเอาไว้มาเขียนเป็นรีวิวแนวนิยาย เพื่อถ่ายทอดความอลังการของเมืองมัลลิกาดูสักครั้ง แล้วมาลองดูกันว่าวิถีชีวิตชาวสยามบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้จะสวยงามน่าสัมผัสเพียงใด
[CR] ลองเปลี่ยนเมียเป็นนางในนิยายดูดีกว่า ที่เมืองมัลลิกา ร.ศ.124
จริงๆ แล้วในไทยเรามีสถานที่ท่องเที่ยวแนวย้อนยุคอยู่มากมาย กระจายตัวอยู่หลายจังหวัด บางแห่งทำเป็นรูปแบบตลาดย้อนยุค หรือบางครั้งอาจเป็นการจำลองบรรยากาศให้พอรู้สึกถึงกลิ่นไอของอดีตตามงานเทศกาลประจำปีต่างๆ แต่สำหรับที่นี่ "เมืองมัลลิกา ร.ศ.124" ทำให้เราเหมือนได้ย้อนเวลากลับไปสู่ยุคนั้นได้จริงๆ
จากที่เราได้อ่านเว็บไซต์ของเมืองมัลลิกา มีข้อมูลระบุไว้ว่า...
"เมืองมัลลิกา เป็นเมืองย้อนยุคของวิถีชีวิตชาวสยามบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๕ วิถีชีวิตของชาวสยามในยุค ร.ศ.๑๒๔ มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมากมายหลายด้าน ที่เด่นชัดมากคือการประกาศเลิกทาส เมื่อทาสได้รับความเป็นไทพวกเขาต้องใช้ชีวิตอยู่อาศัยและทำมาหากินด้วยตนเอง ไม่ได้อยู่ภายใต้อาณัติหรือการดูแลของบรรดาเจ้าขุนมูลนายอีกต่อไป พวกเขาต้องดำรงชีวิตให้อยู่รอด พึ่งตนเอง และอยู่ร่วมกับคนสยามทุกหมู่เหล่า การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตเหล่านี้นับเป็นรากเหง้าสำคัญของคนไทยในยุคปัจจุบัน"
ทั้งหมดนี้สะท้อนออกมาให้เราเห็นได้ตั้งแต่รูปแบบการก่อสร้างและการตกแต่งของโซนต่างๆ เครื่องแต่งกายของเจ้าหน้าที่ วิธีการจับจ่ายใช้สอยยามเมื่อเราก้าวเข้าสู่บริเวณด้านใน ไปจนถึงคำพูดแบบย้อนยุคของพนักงาน "ทุกคน" เริ่มตั้งแต่ลานจอดรถเลยทีเดียว เรียกได้ว่าทางเมืองมัลลิกาใส่ใจในรายละเอียดมากๆ และยิ่งทึ่งหนักขึ้นไปอีกเมื่อได้รู้ว่าก่อนการก่อสร้างเมืองมัลลิกาแห่งนี้ ทางอาจารย์ ชาตรี ปกิตนนทกานต์ ผู้ออกแบบทางสถาปัตยกรรม ได้มีการผูกเรื่องเพื่อการออกแบบที่สมจริงเอาไว้ด้วย โดยมีตัวละครหลักคือ "แม่มะลิ" หญิงสาวลูกชาวนาที่อาศัยอยู่ในชุมชนแห่งนี้ โห...ทำกันขนาดนี้เลย
จากโครงเรื่องนี้เองทำให้เกิดนึกสนุก อยากจะลองเป็นตัวละครที่เมืองมัลลิกาแห่งนี้ดูบ้าง จึงขออนุญาติหยิบยกเอาโครงเรื่องที่อาจารย์ ชาตรี ปกิตนนทกานต์ ได้วางเอาไว้มาเขียนเป็นรีวิวแนวนิยาย เพื่อถ่ายทอดความอลังการของเมืองมัลลิกาดูสักครั้ง แล้วมาลองดูกันว่าวิถีชีวิตชาวสยามบริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้จะสวยงามน่าสัมผัสเพียงใด