หลังจากค่ายการ์ตูนยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นอย่าง"จิบลิ"ประกาศยุติการผลิตการ์ตูนอย่างไม่มีกำหนดเพื่อปรับโครงสร้างบริษัทใหม่ ส่งผลให้Mary And The Witch's Flower โดยค่ายน้องใหม่อย่าง"โพนอค" ที่ขนทีมงานลูกหม้อเก่าจากจิบลิมาแทบจะยกชุด
กลายเป็นที่จับตามองจากคอหนังและแฟนจิบลิไปทันที ในฐานะผู้สานต่อเจตนารมณ์ของ"จิบลิ" โดยที่โพนอคเองก็ไม่รู้อยากจะรับหน้าที่สานต่อดีหรือเปล่า เพราะไม่ว่ายังไงก็ตามมันจะมาพร้อมความคาดหวังระดับมหาศาลแน่นอน
.
หากแต่ดูเหมือนโพนอคเองกลับหลีกเลี่ยงที่จะเดินตามรอยของจิบลิ ด้วยการทำให้Mary And The Witch's Flower เป็นการ์ตูนนี้เน้นความสนุกกระชับไม่เน้นโครงเรื่องที่ซับซ้อนเกินไปเพื่อให้เข้าถึงคนดูทุกเพศทุกวัย มากกว่าความพยายามที่จะเป็นการ์ตูนที่มาพร้อมความลุ่มลึกอันเป็นเอกลักษณ์ของจิบลิมาโดยตลอด
.
แม้กระทั่งพล็อตเรื่องก็เป็นพล็อตที่ขายได้ทุกยุคทุกสมัย เรื่องราวของเด็กธรรมดาๆในโลกความจริง ที่ต้องหลุดเข้าไปยังโลกพิศดาร ซึ่งอันที่จริงเราเห็นพล็อตแบบนี้กันมาหลายครั้งแล้ว ไม่ว่าจะเป็นในSpirited Away , Harry potter หรือโดราเอมอนเดอะมูฟวี่หลายๆตอน แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ใช่ไหมหล่ะ ว่าพล็อตแบบนี้มันดึงดูดให้เราอยากเข้าไปดูอยู่เสมอ
.
ในกรณีของMary And The Witch's Flower นั้นเป็นเรื่องของหนูน้อยแมรี่ สาวน้อยซุ่มซ่าม ผมฟูสีแดง ที่วันหนึ่งได้ไปพบเจอกับเมล็ดพันธ์ดอกไม้(อะไรซักอย่างจำชื่อไม่ได้แล้ว555) ทำให้เธอหลุดเข้าไปอยู่ในโลกแห่งเวทมนตร์พร้อมทั้งได้รับพลังวิเศษมาด้วย และการที่เธอครอบครองเมล็ดพันธ์ุดอกไม้วิเศษนั้น ทำให้เธอเป็นที่เป้าหมายในการถูกตามล่าของครูใหญ่และด็อกเตอร์แห่งโรงเรียนเวทมนตร์ที่ดูเหมือนจะมีแผนการร้ายอะไรบางอย่าง และแน่นอนว่าจะต้องเดินตามสูตรสำเร็จนั่นคือสถานการณ์พาแมรี่ไปสู่การยับยั้งแผนการนั้น
.
การสร้างหนังซักเรื่องที่เดินตามสูตรสำเร็จมันมีทั้งความง่ายและความยากไปพร้อมๆกัน ที่ว่าง่ายก็เพราะมันเป็นโครงเรื่องที่มีแพทเทิร์นชัดเจนถ้าทำอย่างตั้งใจ ทำยังไงก็สนุก แต่ในขณะเดียวกันคนดูก็เห็นเรื่องราวแบบนี้ผ่านตามานับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งนั่นคือความยากของผู้สร้างว่าจะทำยังไงให้มันยังคงดูสดใหม่อยู่ ซึ่งแน่นอนว่าในกรณีของMary And The Witch's Flower นั้นทำออกมาได้สนุกมาก รอดพ้นจากกับดักแห่งสูตรสำเร็จไปได้แบบสบายหายห่วง สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือการสร้างโลกแห่งเวทมาตร์ที่ไม่ซ้ำซาก มีกฎมีตรรกะเป็นของตัวเอง และที่ชอบที่สุดคือเวทมนตร์ไม่ได้มาจากการฝึกทักษะอย่างเดียวแบบที่เคยเห็นมาตลอดในหนังพ่อมดแม่มดทั้งหลาย แต่เวทมนตร์ในหนังเรื่องนี้ยังเป็นเวทมนตร์ที่สามารถทำการทดลองเหมือนทดลองวิทยาศาสตร์ได้อีกด้วย ซึ่งเป็นไอเดียที่น่าสนใจดี
.
หากแต่จุดอ่อนของหนังกลับเป็นตัวร้ายของเรื่องที่บทหนังไม่ได้สร้างแรงจูงใจที่หนักแน่นมากพอให้เกิดการกระทำที่ร้ายแรงอย่างตัวหนังเกริ่นมาตลอด ว่ามันจะเปลี่ยนแปลงโลกไปตลอดกาล เพราะเท่าที่เรารู้สึกคือไม่เห็นมันจะน่ากลัวอะไรมากมาย แถมคาแร็กเตอร์ของครูใหญ่และด็อกเตอร์ ก็ดูไม่มีความน่ากลัวเอาซะเลย แต่ก็น่าแปลกใจมากๆว่าเรากลับรู้สึกเอาใจช่วยตัวละครแมรี่อย่างมาก และฉากไล่ล่าต่างๆก็ทำได้สนุกมากๆ ทั้งที่ตัวร้ายมีระดับความร้ายกาจที่ต่ำมาก ซึ่งก็เสียดายตรงนี้นิดเดียวจริงๆ ถ้าตัวร้ายมีความลุ่มลึกกว่านี้ มีเหตุผลที่หนักแน่นกว่านี้ จะนำพาหนังเรื่องนี้ให้ไปได้ไกลอีกระดับทันที
.
อย่างไรก็ตาม Mary And The Witch's Flower ก็เป็นการ์ตูนที่ดูสนุกมากๆ ซึ่งต้องชื่นชมผู้กำกับ ฮิโรมาสะ โยเนบายาชิและทีมงาน ทั้งฝีไม้ลายมือในการเล่าเรื่องและงานวาดที่สวยสดงดงามพริ้วไหวเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา ที่แม้ความลุ่มลึกของเนื้อเรื่องอาจจะถูกลดทอนลงแต่เชื่อว่ายังเป็นการ์ตูนที่จับหัวใจของคนดูทุกเพศทุกวัยได้ไม่ยาก
Mary And The Witch's Flower อาจจะไม่ได้ลุ่มลึกระดับจิบลิ แต่ก็สนุกมากนะ ใครไปดูแล้วบ้าง
หลังจากค่ายการ์ตูนยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นอย่าง"จิบลิ"ประกาศยุติการผลิตการ์ตูนอย่างไม่มีกำหนดเพื่อปรับโครงสร้างบริษัทใหม่ ส่งผลให้Mary And The Witch's Flower โดยค่ายน้องใหม่อย่าง"โพนอค" ที่ขนทีมงานลูกหม้อเก่าจากจิบลิมาแทบจะยกชุด
กลายเป็นที่จับตามองจากคอหนังและแฟนจิบลิไปทันที ในฐานะผู้สานต่อเจตนารมณ์ของ"จิบลิ" โดยที่โพนอคเองก็ไม่รู้อยากจะรับหน้าที่สานต่อดีหรือเปล่า เพราะไม่ว่ายังไงก็ตามมันจะมาพร้อมความคาดหวังระดับมหาศาลแน่นอน
.
หากแต่ดูเหมือนโพนอคเองกลับหลีกเลี่ยงที่จะเดินตามรอยของจิบลิ ด้วยการทำให้Mary And The Witch's Flower เป็นการ์ตูนนี้เน้นความสนุกกระชับไม่เน้นโครงเรื่องที่ซับซ้อนเกินไปเพื่อให้เข้าถึงคนดูทุกเพศทุกวัย มากกว่าความพยายามที่จะเป็นการ์ตูนที่มาพร้อมความลุ่มลึกอันเป็นเอกลักษณ์ของจิบลิมาโดยตลอด
.
แม้กระทั่งพล็อตเรื่องก็เป็นพล็อตที่ขายได้ทุกยุคทุกสมัย เรื่องราวของเด็กธรรมดาๆในโลกความจริง ที่ต้องหลุดเข้าไปยังโลกพิศดาร ซึ่งอันที่จริงเราเห็นพล็อตแบบนี้กันมาหลายครั้งแล้ว ไม่ว่าจะเป็นในSpirited Away , Harry potter หรือโดราเอมอนเดอะมูฟวี่หลายๆตอน แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ใช่ไหมหล่ะ ว่าพล็อตแบบนี้มันดึงดูดให้เราอยากเข้าไปดูอยู่เสมอ
.
ในกรณีของMary And The Witch's Flower นั้นเป็นเรื่องของหนูน้อยแมรี่ สาวน้อยซุ่มซ่าม ผมฟูสีแดง ที่วันหนึ่งได้ไปพบเจอกับเมล็ดพันธ์ดอกไม้(อะไรซักอย่างจำชื่อไม่ได้แล้ว555) ทำให้เธอหลุดเข้าไปอยู่ในโลกแห่งเวทมนตร์พร้อมทั้งได้รับพลังวิเศษมาด้วย และการที่เธอครอบครองเมล็ดพันธ์ุดอกไม้วิเศษนั้น ทำให้เธอเป็นที่เป้าหมายในการถูกตามล่าของครูใหญ่และด็อกเตอร์แห่งโรงเรียนเวทมนตร์ที่ดูเหมือนจะมีแผนการร้ายอะไรบางอย่าง และแน่นอนว่าจะต้องเดินตามสูตรสำเร็จนั่นคือสถานการณ์พาแมรี่ไปสู่การยับยั้งแผนการนั้น
.
การสร้างหนังซักเรื่องที่เดินตามสูตรสำเร็จมันมีทั้งความง่ายและความยากไปพร้อมๆกัน ที่ว่าง่ายก็เพราะมันเป็นโครงเรื่องที่มีแพทเทิร์นชัดเจนถ้าทำอย่างตั้งใจ ทำยังไงก็สนุก แต่ในขณะเดียวกันคนดูก็เห็นเรื่องราวแบบนี้ผ่านตามานับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งนั่นคือความยากของผู้สร้างว่าจะทำยังไงให้มันยังคงดูสดใหม่อยู่ ซึ่งแน่นอนว่าในกรณีของMary And The Witch's Flower นั้นทำออกมาได้สนุกมาก รอดพ้นจากกับดักแห่งสูตรสำเร็จไปได้แบบสบายหายห่วง สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือการสร้างโลกแห่งเวทมาตร์ที่ไม่ซ้ำซาก มีกฎมีตรรกะเป็นของตัวเอง และที่ชอบที่สุดคือเวทมนตร์ไม่ได้มาจากการฝึกทักษะอย่างเดียวแบบที่เคยเห็นมาตลอดในหนังพ่อมดแม่มดทั้งหลาย แต่เวทมนตร์ในหนังเรื่องนี้ยังเป็นเวทมนตร์ที่สามารถทำการทดลองเหมือนทดลองวิทยาศาสตร์ได้อีกด้วย ซึ่งเป็นไอเดียที่น่าสนใจดี
.
หากแต่จุดอ่อนของหนังกลับเป็นตัวร้ายของเรื่องที่บทหนังไม่ได้สร้างแรงจูงใจที่หนักแน่นมากพอให้เกิดการกระทำที่ร้ายแรงอย่างตัวหนังเกริ่นมาตลอด ว่ามันจะเปลี่ยนแปลงโลกไปตลอดกาล เพราะเท่าที่เรารู้สึกคือไม่เห็นมันจะน่ากลัวอะไรมากมาย แถมคาแร็กเตอร์ของครูใหญ่และด็อกเตอร์ ก็ดูไม่มีความน่ากลัวเอาซะเลย แต่ก็น่าแปลกใจมากๆว่าเรากลับรู้สึกเอาใจช่วยตัวละครแมรี่อย่างมาก และฉากไล่ล่าต่างๆก็ทำได้สนุกมากๆ ทั้งที่ตัวร้ายมีระดับความร้ายกาจที่ต่ำมาก ซึ่งก็เสียดายตรงนี้นิดเดียวจริงๆ ถ้าตัวร้ายมีความลุ่มลึกกว่านี้ มีเหตุผลที่หนักแน่นกว่านี้ จะนำพาหนังเรื่องนี้ให้ไปได้ไกลอีกระดับทันที
.
อย่างไรก็ตาม Mary And The Witch's Flower ก็เป็นการ์ตูนที่ดูสนุกมากๆ ซึ่งต้องชื่นชมผู้กำกับ ฮิโรมาสะ โยเนบายาชิและทีมงาน ทั้งฝีไม้ลายมือในการเล่าเรื่องและงานวาดที่สวยสดงดงามพริ้วไหวเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา ที่แม้ความลุ่มลึกของเนื้อเรื่องอาจจะถูกลดทอนลงแต่เชื่อว่ายังเป็นการ์ตูนที่จับหัวใจของคนดูทุกเพศทุกวัยได้ไม่ยาก