ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ยุคสังคมผู้สูงอายุ และบุคลากรที่เชี่ยวชาญในด้านสาขาต่างๆ เริ่มหายไป บางอย่าง บางวิชาเราก็ต้องเข้าใจว่าไม่มีใครแทนได้ และอีกอย่างที่สำคัญคือประเทศเราสร้างคนขึ้นมาแทนไม่ทัน ซึ่งช่วงอายุห่างกันมาก ต้นไม้ที่เกิดใหม่ก็ยังอายุน้อย นี่ก็เป็นเหตุผลที่ต้องนำมาวิเคราะห์อีกประการ
บางคนก็มีความสามารถจนมหาลัยต้องการ ทั้งความรู้ วัยวุฒิ บารมี และความสามารถในการบริหาร ซึ่งเรื่องนี้มันต้องสะสมประสบการณ์และไม่มีในตำรา มันเป็นคุณลักษณะเฉพาะตัวซึ่งใครๆ ก็ไม่สามารถทำได้
บางคนอายุยังน้อยก็อยากขึ้นไปนั่งเก้าอี้บริหาร คุณสมบัติการสมัครครบอย่างเดียว แต่ อย่างอื่นไม่มีเลย แบบนี้ก็อีกอย่างหนึ่ง แต่สิ่งที่สำคัญคือการขึ้นมาเพื่อให้ตัวเองมีอำนาจ หรือจะขึ้นมาเพื่อให้หน่วยงานมีอำนาจ อันนี้ก็ต้องว่ากันยาวๆ
สิ่งที่น่าเป็นกังวลมากที่สุดคือประสบการณ์จะเอามาจากไหน มันต้องเริ่มที่ละน้อยไหม จากผู้ช่วย ขยับไปเรื่อยๆ จนเป็นที่ยอมรับของคนในหน่วยงานแบบนี้ก็ต้องนำมาวิเคราะห์กัน
น่าเห็นใจบางมหาลัยที่มีคนต้องการขึ้นบริหารเยอะจนไม่มีใครจะทำงานแบบนี้ก็น่าห่วง
บางมหาลัยก็แบ่งพรรค แบ่งพวก แบ่งกลุ่ม ก็เนื่องจากมองแต่ประโยชน์ส่วนตน
คงเป็นเหตุผลเพียงพอที่นำเสนอ ใครที่มีความเห็นเพิ่มเติมก็เสนอมาได้นะ
มุมมอง...การตั้งอธิการบดี อายุเกิน 60 ปี มีผลร้ายผลเสียอย่างไร?
บางคนก็มีความสามารถจนมหาลัยต้องการ ทั้งความรู้ วัยวุฒิ บารมี และความสามารถในการบริหาร ซึ่งเรื่องนี้มันต้องสะสมประสบการณ์และไม่มีในตำรา มันเป็นคุณลักษณะเฉพาะตัวซึ่งใครๆ ก็ไม่สามารถทำได้
บางคนอายุยังน้อยก็อยากขึ้นไปนั่งเก้าอี้บริหาร คุณสมบัติการสมัครครบอย่างเดียว แต่ อย่างอื่นไม่มีเลย แบบนี้ก็อีกอย่างหนึ่ง แต่สิ่งที่สำคัญคือการขึ้นมาเพื่อให้ตัวเองมีอำนาจ หรือจะขึ้นมาเพื่อให้หน่วยงานมีอำนาจ อันนี้ก็ต้องว่ากันยาวๆ
สิ่งที่น่าเป็นกังวลมากที่สุดคือประสบการณ์จะเอามาจากไหน มันต้องเริ่มที่ละน้อยไหม จากผู้ช่วย ขยับไปเรื่อยๆ จนเป็นที่ยอมรับของคนในหน่วยงานแบบนี้ก็ต้องนำมาวิเคราะห์กัน
น่าเห็นใจบางมหาลัยที่มีคนต้องการขึ้นบริหารเยอะจนไม่มีใครจะทำงานแบบนี้ก็น่าห่วง
บางมหาลัยก็แบ่งพรรค แบ่งพวก แบ่งกลุ่ม ก็เนื่องจากมองแต่ประโยชน์ส่วนตน
คงเป็นเหตุผลเพียงพอที่นำเสนอ ใครที่มีความเห็นเพิ่มเติมก็เสนอมาได้นะ