7 เป็น 7 ตาย กับรถไฟสายสีม่วง

ตั้งแต่ดูหนัง "7 เป็น 7 ตาย" แล้ว บอกเลยว่า ยังไม่ค่อยจะเข้าถึงหรอก กับอารมณ์ที่ประชากรที่ล้นเหลือ แน่นและแออัด.... แต่หลังจากได้ใช้บริการ รถไฟสายสีม่วง หลังวันที่ 10 กันยายน 2560 เป็นต้นมา จากเดิมที เมื่อคุณมารอ อาจจะมีความแน่น จนคุณเผลออุทานออกมาเบาๆ ว่า "เชรี๊ยยยยย จะปลาประป๋องไปไหน" แต่ขบวนถัดไปคุณก็จะโล่งใจ เพราะมันจะว่าง และโล่งปลอดโปร่งให้คุณสามารถที่จะโพสต์ท่าเดินเข้า หรืออาจจัดแคมเปญเดินแคทวอร์คกันได้เลยทีเดียว แต่เมื่อเกิดการเชื่อมต่อกับสายสีน้ำเงิน (ในวงเล็บ ในใจทุกคนคิดไว้ว่า โอ๊ยย รวมกันแล้วก็ยังเบๆ ฉันยังสามารถเดินแคทวอร์คได้สบ๊าย) ตามนั้น!!! ความเป็นจริงหลังวันที่ 10 กันยายน 2560 วันแรกของการขึ้นสายสีม่วงไปทำงานที่สุทธิสาร ปกติผมก็จะมีโอกาสขึ้นทั้งจาก ลาดพร้าว (จากห้องตนเอง) และจากบางซื่อ (จากห้องแฟน)

วันแรกจากลาดพร้าว
ปกติเข้างาน 09.00 น. ไปจากลาดพร้าว 2 สถานีก็ถึงครับ ไปทำงาน 08.30 ก็ทันจ้า และนี่คือสิ่งที่คิดไว้!!! เมื่อมาพบกับวันแรกของการเชื่อมสายสีม่วง ผมก็พบว่า เอ๋!!! ช่วงนี้เขามีจัดงานอะไรกับแถวสถานีหรือเปล่านะ ทำไมแถวยืนรอมันช่างยาววววววว!!!! จนรามไปถึงที่รอรถไฟอีกฝั่งได้ขนาดนี้ ขบวนแรกผ่านไปด้วยความจำยอม ไม่สามารถขึ้นได้จ๊ะ มันแน่นชนิดที่ คนรอหัวแถวยังไม่สามารถแทรกเข้าไปได้ คิดในใจว่าเดียวขบวนต่อไปก็คงโล่ง ทำไมเราถึงจะต้องอัดกันเข้าไปนะ (บอกกับตัวเองว่า ไม่เป็นไร เรารอขบวนต่อไปได้ ยังไปทำงานทัน 08.40) และเมื่อ ขบวนที่รอคอมมาถึง ฉันพบกับความจริงว่า ที่ที่ฉันยืนรอนั้น... มันไม่ได้ขยับตั้งแต่ขบวนแรก (นี่มันยังเข้าไม่ได้ขยับไปไหนเลยนี่นา ยืนรอกันครบเท่าเดิมเลย เพื่อนร่วมชะตากรรมเอ๋ย) กว่าจะได้ขึ้น นั่นคือ ขวบที่ 3 และเป็นการขึ้นที่ พุ่งทะยานเข้าไปแบบเดอะแมททริค (มันต้องใช้ความแขม่วอย่างมากเลยทีเดียว) และคุณจะได้รับการตอบรับจากคนในขบวนอย่างอบอุ่ม ออกไปทางร้อน ด้วยคลื่นพลังความมืดและจิตสังหารรุนแรงอย่างที่คุณจะคาดคิดได้ (ผมหรี่ตามอง ในใจคิดว่า เขาคงหิวข้าวแหล่ะ ดูซิ พร้อมจะกินหัวผมแล้ว) จากนั้นผมก็พยายามยืนอย่างเจี๊ยมเจี้ยม สงบเสงี่ยม ไม่เช่นนั้น อาจจะไม่ถึงที่ทำงานได้จ้า และเมื่อถึงที่ทำงาน ฉันก็พบว่า ฉันไม่สามารถมาทำงาน 08.30 ได้อีก เพราะตอนนี้ มันเลทไปแล้ว 5 นาที... และกว่าจะกระแซะออกมาได้นั้น ยากยิ่งกว่าการเข้าไปอีกครับพี่น้อง....

วันแรกจากบางซื่อ (สองวันถัดมา และเคย!!!! เป็นต้นสถานี)
ฉันก็เข้าใจสถานะการณ์ของต้นสถานีและช่วงเวลาเร่งด่วนได้ว่า แถวมันจะยาวๆ หน่อย คือยาวตั้งแต่ เดินเข้าประดูตรวจกระเป๋าแล้ว อีกไม่มากนักคงจะถึงบันไดเลื่อน และเมื่อคุณผ่านเข้าที่รอรถไฟ คุณจะพบกับแถวรอที่อาจจะมีการเล่นหาง หางงอบ้าง หางพับบ้าง หรือหางม้วนอยู่หลายทบบ้าง บางซื่อมันก็จะประมาณนี้แหล่ะ วันนี้ก็คงไม่ต่างกัน ยาวเท่าๆ เดิม เพิ่มเติมคือ ไม่ได้เข้าสถานีอยู่พักใหญ่ ยืนแช่อยู่แถวๆ ประตูตรวจกระเป๋า และเมื่อคุณผ่านเข้าไปรอรถไฟได้ จากที่เคยรอ 1-2 ขบวน คุณอาจต้องรอถึง 5 ขบวนเลยก็เป็นได้ เว้นแต่!!! คุณจะสามารถหดร่างกาย หรือมีพลังอัดกระแทก-ดัน คุณก็อาจจะมีโอกาสเข้าไปได้ประมาณขบวนที่ 3 หรือ 4 ก็เป็นได้

สรุปคือ หลังจากการย้ายต้นสถานีไปเป็น สถานีเตาปูน นั้น พวกสถานี บางซื้อ, กำแพงเพชร, จตุจักร, พหล, สุทธิสาร, รามไปจนถึงพระราม 9 มันคือช่วงปัญหาประชากรแออัดจริงๆ และเป็นสถานะการณ์ที่ค่อนข้างดุเดือน และมีวี่แววที่จะเพิ่มระดับความรุนแรงทางด้านอารมณ์มากจ๊ะ ผมได้มีโอกาสยืนระหว่างรอยต่อขบวนแล้วพบว่า ช่วงจอดระหว่างสถานี มักจะเกิด สงครามเล็กๆ จิตสังหารหน่อย ความหงุดหงิด สายตาของคนที่ไม่ได้เข้าขบวน สายตาของคนที่โดนอัดกระแทก สายตาคนเบียด หรือแม้แต่คนที่ยืนรออยู่ด้วยกัน ถึงตอนนี้... ผมเข้าใจแล้วว่า เมื่อประชากรกับจำนวนพื้นที่ใช้บริการที่ไม่เพียง จะเป็นยังไงนี่ขนาดเป็นรถไฟฟ้านะ นี่ขนาดเป็นประเทศเล็กๆนะ ไม่อยากจะนึกถึงตอนที่ประชากรเพิ่มขึ้นจริงๆ หรือตอนที่ประชากรล้นจริง การแก่งแย่งเพิ่มขึ้น หรือพื้นที่ในการใช้บริการแต่ละวันที่มันลดน้อยลง... อืมม... อีกหน่อยคงมีตีกันบนรถไฟ หรือไม่ก็ทะเลาะกันเรื่องขึ้นรถไฟเกิดขึ้น คือสีหน้าทุกคนมีความพร้อมบวก

เม่าแพนด้า
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่