HOW To Pass the CPA Exam for Dummies !!

กระทู้สนทนา
*อรรถาธิบาย*
    สวัสดีครับ เพื่อนชาวพันทิพทุกท่าน วันนี้กระผมมีเรื่องที่คาดว่าอาจจะมีประโยชน์กับผู้ที่ความสนใจที่จะเป็นผู้สอบบัญชีรับอนุญาตแห่งประเทศไทยมาแชร์ให้อ่านกันครับ จุดเริ่มต้นมีอยู่ว่า มีพี่ชายที่ผมเคารพท่านหนึ่ง(ใช้ชื่อว่าลิง) ทำงานที่เดียวกัน เขาสอบ CPA ผ่านครับ เขาเกิดมีดำริขึ้นว่า จะเขียนสเตตัสเฟซบุ๊คยาวๆ เขียนเล่าประสบการณ์การสอบ ตั้งแต่เริ่มเข้าทำงาน เริ่มอ่านสอบ จนสอบผ่าน ให้เพื่อนๆในเฟซอ่านกัน เพราะว่าน่าจะสามารถกลายเป็นแนวทางคร่าวๆให้น้องๆที่ยังไม่เคยสอบ เพื่อนๆ หรือพี่ๆที่ยังสอบไม่ผ่านกันได้ โดย ร่วมกันเขียนกับเพื่อนของพี่เขาอีกคน(ใช้ชื่อว่าตุ๋ม) ที่สอบผ่านCPA ไปก่อนหน้าแล้ว เดี๋ยวจะเห็นได้จากข้างล่างว่าสำนวนการเขียนค่อนข้างจะออกลำลองเอามากๆ เพราะกะจะเขียนให้เพื่อนๆที่รู้จักกันได้อ่านนี่แหละครับ

หลังจากนั้นสเตตัสก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จทีเดียว มีคนแชร์ออกไปร่วม 6-700 ครั้งแล้ว ตัวผมเห็นว่าน่าจะเป็นประโยชน์ดี ถ้าได้เอาสเตตัสนี้มาเผยแพร่ในอีกช่องทางหนึ่ง ก็คือ ppantip.com ผมเลยบอกกล่าวกับพี่ลิง แล้วก็เอาบทความมาลงให้เพื่อนๆชาวพันทิพได้อ่านกันครับ

บทความนี้ค่อนข้างจะใกล้เคียงกับของเดิมมาก เรื่องการสะกดคำ หรือมุกอะไรก็ออกจะดูกวนๆหน่อย ตามประสาพี่ผมสองคนนี้ครับ แต่ก็ขอให้เพื่อนๆชาวพันทิพที่บังเอิญได้เข้ามาอ่าน คิดซะว่ากำลังอ่านบทความจากเพื่อน(ร่วมอาชีพ) คนนึงก็แล้วกัน ขอให้โชคดีในการสอบครับ  <January_Jean>
(เพิ่มเติม พวกชื่อคนที่ไม่ใช่บุคคลสาธารณะ ผมจะขอใส่เป็น <ข้อมูลปกปิด> เอาไว้ละกันนะครับ)

เทคนิคพิชิต CPA by ตุ๋ม ลิง

               สวัสดีครับเพื่อนๆพี่ๆน้องๆชาวบัญชีทุกคน โพสต์นี้อาจจะยาวหน่อยนะครับ โดยที่เราจะมาพูดถึงวิธีการเตรียมการเข้าสอบ CPA หรือผู้ตรวจสอบบัญชีนั้นเอง ย้ำนะครับว่าแค่วิธีการเตรียมตัว เพราะคงไม่สามารถไปสอนติวได้นะครับ แต่ถ้าน้องๆสาวๆอินบอคมาโลดพี่ช่วยเต็มที่ (หลอกๆ)

               โอเคครับ เริ่มต้นการสอบผู้ตรวจสอบบัญชีสำหรับใครที่ยังไม่รู้คือ วิชาที่ต้องสอบมีทั้งหมด 6 วิชานะครับในปัจจุบันนี้ ซึ่งประกอบไปด้วย บัญชี1 บัญชี2 สอบบัญชี1 สอบบัญชี2 กฎหมาย1 กฎหมาย2 ซึ่งจะสามารถสอบได้ทันทีเมื่อขึ้นทะเบียนเลย 4 ตัว คือ บัญชี1 บัญชี2 กฎหมาย1 กฎหมาย2 ส่วนอีกสองตัวที่เหลือจะสอบได้ก็ต้องทำงานครบ1ปี และเก็บชมครบ 1 พันชม(อันนี้ต้องยื่นชมกับสภาก่อนนะ ไม่ใช่เหนว่าครบแระจะกดได้เลย) โดยปีนึงจะเปิดสอบ 3 ครั้ง คือเดือน มีค, กค และ พย ซึ่งวิชาที่สอบจะเรียงตามด้านบนตลอด จะสอบเสร็จภายใน 3 อาทิตย์ นอกจากนี้ถ้าเราสอบผ่าน 1 ตัว แต่ละตัวที่ผ่านเราจะเก็บอายุของมันไว้ได้ 4 ปีถึงจะหลุดครับ พูดถึงเรื่องข้อสอบนิดนึง ข้อสอบทุกวิชา คะแนนเต็ม 100 คะแนน แบ่งเป็นอัตนัย 60 คะแนน ปรนัย 40 คะแนน โดยจะผ่านที่ 60 คะแนน (ปรนัยควรจะได้ 30 คะแนนขึ้นไป เพื่อความอุ่นใจ) สถานที่สอบมีที่เดียวคือ ม.หอการค้าไทย จริงๆสามารถเอารถไปจอดได้นะ แต่ต้องหาดีๆ

            โดยการเล่าของครั้งนี้จะผ่านจากสองมุมมองของคนที่สอบผ่านไป พูดให้น่าตื่นเต้นหน่อยก็คือคนนึงใช้เวลาสอบ CPA สำเร็จภายใน 1 ปี โดยที่ไม่ได้ผ่านแบบที่พวกเทพๆผ่านกันนะ ไม่แบบผ่าน 4 ตัวในครั้งเดียว และอีกสองตัวตอนครบ1ปี สำหรับคนเทพๆเหล่านั้นผมชาบูทุกคนครับ respect โย่วว ซึ่งคนนี้ไม่ใช่ใคร เพื่อนรักผมเอง นาย<ข้อมูลปกปิด> (ตุ๋ม) และคนที่สองไม่ต้องสืบผมเองครับ นาย<ข้อมูลปกปิด> (ลิง) วิธีการสอบของผมฉีกจากเพื่อนผมพอสมควร คือผมจะเก็บครั้งละตัวไปเรื่อยๆ ครั้งไหนไม่ผ่านก็เบิ้ลตัวที่ไม่ผ่านเข้าไปสอบในครั้งต่อไป ของผมจะนานหน่อย ประมาณ 2 ปี น่าสนใจอะจิ สนใจพวกผมหรอ อ่อป่าว สนใจที่จะเขียนเนี่ย โอเค หวานเจี๊ยบ

     ประเด็นแรก เรียกว่าประเด่นหลักๆเลยการแบ่งเวลา

           (ลิง) สำหรับผมนะ ความยากของข้อสอบ CPA จะดูยากไปทันทีหากเราไม่มีเวลาอ่าน เชื่อว่าหลายๆคนที่อ่านโพสต์นี่ทำงานออดิท งานที่เรารักแน่นอน ก็จะเข้าใจได้ดีว่า ทำงานก้เหนื่อยแล้วกุจะเอาเวลาที่ไหนไปอ่านว่ะ งั้นผมจะขอลองแชร์วิธีการอ่านของผมดูนะ คือที่แน่นอนนิสัยของผมเปนคนอ่านหนังสือรอบเดียวไม่ได้ มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแระ คือขั้นต่ำต้องสองรอบ ผมเลยตั้งกับตัวเองไว้ว่าทุกครั้งที่มีการสอบ CPA 1 เดือนก่อนสอบผมจะต้องอุทิศให้กับตัวเอง คือแน่นอนสังสรรค์ลดลง ออกกำลังกายลดลง เที่ยวลดลง แต่ที่เพิ่มแน่ๆ น้ำหนักสึส การแบ่งเวลาของผม สำหรับวันธรรมดา แน่นอนเราต้องทำงาน เลิกงานก้ดึก ผมคนนึงที่ช่วงนั้นผมจะพยายามรีบให้ตัวเองทำงานให้เสจไม่เกินสักทุ่ม cut-off ตัวเองให้ได้ถึงบ้านก้จะโซโล่ตั้งแต่ 3 ทุ่ม ถึงเที่ยงคืนหรือไม่ก้ตีหนึ่งถ้าติดพัน ส่วนเสาร์ อาทิตย์ก็จะอ่านทั้งวันครับ อาจจะเริ่มบ่ายๆจนไปถึงมืดนะ ไม่ใช่แบบอ่านตลอดนะ อ่านพักไปบ้าง shopee บ้าง คือหาไรทำก็ได้ที่ไม่take time มากแต่ทำให้เราผ่อนคลายแระพร้อมจะอ่านมันต่อ โอเคผมยอมรับว่าเหนื่อยมาก เหนื่อยกว่าการสอบไหนๆในชีวิตผมทั้งหมด และโคดยืดเยื้อ ซึ่งเชื่อว่าถ้าเพื่อนๆผ่านชอตการแบ่งเวลานี้ไปได้ CPA ก้จะง่ายขึ้นเยอะ

          เรื่องนึงที่ค่อนข้างสำคัญ ที่ผมรีบสอบไม่ใช่เพราะอยากจะคูลหรืออยากเฟี้ยวนะครับ หลักๆที่คิดคือการทำงาน ออดิท 2 ปีแรกงานเรายังไม่หนักมาก พอเข้าปีที่สามเราจะโดนหั่นเวลาลง เพราะเราจะเปน ซีเนียอินชาร์ต ที่มีภาระหน้าที่เพิ่มขึ้น
เอาจิงๆผมอยากให้เพื่อนๆคิดว่า เป้าหมายในการเป็นออดิท คืออะไร โอเคข้อแรก เงินดี ตรงสาย แต่ลึกๆเราเข้ามาเพราะเราอยากมีลายเซ็น เปนของตัวเอง เป็นผู้ตรวจสอบบัญชีหรือป่าว

          (ตุ๋ม) สำหรับผม การแบ่งเวลาเป็นเรื่องสำคัญมาก หลักๆผมใช้วิธีตั้งเป้าหมายเป็นเรื่องๆ ไม่ได้เป็นชั่วโมงที่อ่าน เช่น วิชาบัญชี 1 ผมจะต้องใช้อ่านจบเรื่องนี้ ภายในวีคนี้นะ แค่นั้นพอ สำหรับวันทำงานคนที่ทำงานออดิทบางทีงานก็อยู่ในช่วงที่หนักจริงจัง ผมก็เป็นเหมือนกัน แต่ผมจะใช้วิธีการ ซื้อเวลาให้ได้มากที่สุดก่อนช่วงสอบซัก 2เดือน คือนั่งแท็กซี่กับบ้านทุกวันกลับให้ไวที่สุดหลังเลิกงาน รีบอาบน้ำ และอ่านหนังสือต่อ ผมจะไม่นอนเกินตี1เพราะจะตื่นไม่ไหว ยอมรับว่าช่วงนั้นเหนื่อยสุดใจเลย แต่พอผ่านมาได้ก็คุ้ม สำหรับวันเสาร์อาทิตย์ แน่นอนผมจะลุยอ่านอย่างเดียวเลยครับสองวัน(สละเวลาเที่ยวบ้าง) เก็บให้ได้มากที่สุด บางทีการนัดเพื่อนมาติวก็เป็นการลดเวลาอ่านได้ดีเหมือนกัน แถมทำให้เราเข้าใจมากขึ้นด้วย แต่ผมจะทำแบบนี้แค่ สองเดือนก่อนสอบนะ ไม่งั้นไม่ไหวหวะชีวิตเครียดเกินจุด ขอแค่มีความอดทนเพียงช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้นก็พอ ( ไม่ต้องอดทนไปทั้งชีวิตครับ5555)

     ประเด็นที่สองคือการวางแผนการสอบ

         (ลิง) แน่นอนว่า CPA มีหลายตัว แต่ละรอบความยากง่าย มีปะป่นคละๆกันไป คือข้อนี้ต้องทำใจว่า นอกจากจะเก่งแล้วต้องดวงเฮงด้วยนะครับ เหมือนแทงหวยถูกอ่ะ ซึ่งถ้ามุมมองผมนะ สำหรับคนที่สอบครั้งแรกหรือเด็กที่พึ่งจบแระยังมีไฟ ผมอยากให้พวกคุณอ่ะ ลุยเลยยย บัญชี 1 กม.2 วิชาบช1สอบตัวแรกเลย ส่วนวิชากม2(สอบตัวสุดท้าย)จะมี gap ของเวลาห่างออกไป 15 วัน เต็มๆ ซึ่งถ้าคุณวางแผนดีๆนะ หวานเจี๊ยบอ่ะบอกเลย สำหรับผมสองวิชานี้น่าจะเป็นวิชาที่ยากสุดแล้วนะ ถ้าผ่านสองตัวนี้ไปจะมีกำลังใจขึ้นเยอะจิงๆไม่ได้โม้ หลายๆคนบอกว่าสอบ กม1 ก่อนสิจะได้แบบทำให้เราอยากจะอ่านตัวอื่นต่อ เพราะตัวนี้น่าจะง่ายสุดในบรรดา 6 ตัว ซึ่งก้แล้วแต่มุมมองนะ เพราะก็ยอมรับว่าผมเป็นคนสอบ กม.1 ตัวแรกแระตัวเดียวเหมือนกัน จิงๆตอนนั้นอยากสอบสองตัว แต่ติดรับปริญญา ไม่งั้นนะ รูเหลือง จริงผมแค่มองว่า สองตัวที่ผมแนะนำถ้าผ่านนะ สุโค่ยโซ่ยแหลกแน่นอน พอผ่านสองตัวนี้นะ เราสามารถเดินยืดได้เลย ดังนั้นโอเคถ้าเริ่มสอบ บช1 กม2 รอบที่จะถึงนี้เดือน พย รอบหน้าก็จะเดือน มีค (รอบนี้สภาค่อนข้างปราณีเรานะ) ซึ่งแต่มันคือช่วง year-end นั่นเอง ช่วงนั้นผมไม่บังคับใครนะ เพราะแต่ละคนคงงานหนักจิงๆ ผมอยากให้สอบสักตัวนึง อาจจะต้องเจียดเวลาให้หน่อยถ้าทำได้ ก้คงอยากให้ลงวิชา กม1 เบาๆหน่อย หรือไม่ก็ลงวิชาที่ไม่ผ่านรอบที่แล้วสักตัว แต่ถ้าไม่ได้ ก้ไปรอบเดือน กค เลยครับ รอบนั้นถือว่าจะเปน off season ของaudit ถ้าไม่นับสาย FS นะ คือเอาจิงรอบนั้นเป็นไปได้ก็ลงสักสองตัว ก็จะเปน บช2 กม1 หรือถ้าใครไม่รีบอย่างผม ทีละตัวก็ได้ เรื่อยๆมาเรียงๆ อ่าถ้าในเคสที่ไม่ผ่านเนี่ย หลักจากเซง หรือเศร้าเสียใจมาแล้ว เราต้องเอาวิชาเดิมนั้นแหละครับ มาเปนแรงผลักดันให้เรา โดยผมมีความคิดนะ ไม่ผ่านรอบนี้ รอบหน้าลุยต่อเลย เหมือนคุณได้อ่านหนังสือน้อยลงกว่าเดิม และข้อนึงที่ผมเชื่อนะการอ่านหนังสือ ทุกวิชาของ CPA มันช่วยในการทำงานคุณได้จริง มันทำให้คุณไปfight กับ manager ได้ หลอกๆ ไปแลกเปลี่ยนความเหนดีก่า 555

รอบการสอบของผม

พย 58(รอบแรกหลังจากเรียนจบ) ลงกม1 ผล ผ่าน
มีค 59 ลงกม2 ผล ผ่าน
กค 59 ลงบช1 บช2 (อ่านแต่บัญชี 1 ไป เปนช่วงoff –seasonจิงๆ เที่ยวยับ) ผล ไม่ผ่านทั้งคู่จ้า
พย 59 ลงบช1 สอบบัญชี2 (จะสอบบัญชี2 ได้ต้องทำงานครบก่อนนะ เหนมั้ยว่ารอบนี้ผมเบิ้ลตัวที่ไม่ผ่าน แค้นจัด) ผล ผ่านทั้งคู่
มีค 60 ลงบช2 ผล ผ่าน
กค 60 ลงสอบบัญชี 1 ผล ผ่าน
สรุปง่ายๆของผมอ่ะ จะสอบไปได้แค่ครั้งละตัว แต่แค่อยากให้เปิดหัวด้วยสองตัวนั้นก่อนจิมๆ หลังจากนั้นก็กดทีละตัว คือที่ผมกดทีละตัว เพราะ เนื้อหาแต่ละตัวเยอะจริงๆครับ เยอะจนอ่านไงก็จำได้ไม่หมด เพราะมันมีข้อสอบอัตนัยที่ สัดส่วนสูงมากกก ค่อยเก็บทีละตัวก้เปนแนวทางเลือกที่ดีถ้าไม่คิดมาก

(ตุ๋ม) ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ผมไปลงเรียนพิเศษแบบรัวๆเลย เรียกได้ว่าสถาบันไหนเด็ด ผมลงหมด เคยคำนวณค่าเรียนนะ หมดไปประมาณสามหมื่นได้ จริงๆมันก็ over investmentแหละครับแต่ผมมองว่าเสียตังไป มันก็ได้บ้างนะ ถึงบางทีจะได้ไม่เต็มก็ตาม(เดี่ยวเขียนต่อข้างล่างว่าลงที่ไหนบ้าง) มาถึงการวางแผนสอบดีกว่า สำหรับผมใช้วิธีต่างจากข้างบนหวะ ผมอยากผ่านๆให้เร็วที่สุดครับเพราะเบื่อการยืดเยื้อมาก ผมเน้นลงให้เยอะที่สุดเพราะผมลงเรียนพิเศษบางวิชาตั้งแต่ก่อนจบ (ปี4เทอม2) มองการณ์ไกลจัด 5555 คือรอบแรกผมลง สามตัว คือ บช 2 กม 1,2 จริงๆจะลง บช1ด้วยแต่ลงไม่ได้ติดรับปริญญา ตอนนั้นอ่านแบบหูดับตับไหม้ อ่านสามตัวนี้โหดจัดนะครับ แบบพักเที่ยงก็อ่าน สรุปรอบนั้นผ่านตัวนึงคือ กม1
แต่จะบอกว่ามันไม่เฟลนะ คือความรู้ผมยังอยู่ไง แล้วต่อจากนั้นมันก็อ่านเบาลงเรื่อยๆ ทีนี้รอบต่อไปผมก็ลงสามตัวอีก กม2 บช1 ,2 อ่าน บช2กับ กม2นิดเดียว ส่วนบัญชี 1ไปลองข้อสอบ 5555 สรุปคือผ่าน กม2 รอบต่อจากนั้น ผมสอบ บช1,2พร้อมกัน สรุป ผ่านจ้า โดยที่ บช2ผมอ่านแค่สองวัน เพราะมันเหมือนอ่านตุนไว้นานแล้ว คือสรุปกลยุทธผมมันจะเหนื่อยจัดในตอนแรก ย้ำว่าแค่ครั้งแรก ถ้าเรามีเวลาเตรียมตัวดีๆ เช่นผมเตรียมตั้งแต่จบใหม่ๆหรือยังไม่จบ พอมันซ้ำเรื่อยๆ โอกาสผ่านก็จะเยอะขึ้น แล้วอีกอย่างนะครับ การสอบบางทีเราดวงเฮงอ่านตรงพอดีเราก็ผ่าน เพราะฉะนั้น สำหรับผมคิดว่าควรลงสอบให้มากที่สุดเท่าที่อ่านไหว เพราะจะกวาดความน่าจะเป็นของทุกวิชาในรอบนั้น เกิดเราอ่านตรงมาพอดี เราก็ผ่านเลย

อันนี้สรุปว่าผ่านรอบไหนบ้าง
พย 58(รอบแรกหลังจากเรียนจบ) ลงกม1 กม 2 บช2 ผล ผ่าน กม1
มีค 59 ลง กม2,บช1,2 ผล ผ่าน กม2
กค 59 ลงบช1 บช2 (ผ่าน บช1 บช2)
พย 59 ลงสอบบัญชี1 สอบบัญชี2 (ผล ผ่านทั้งคู่= ผ่านหมดแล้วจ้า)

(ต่อคอมเม้นท์ล่างครับผม)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่