ตื่นเต้นมากต้องขอพื้นที่ในการรีวิวหน่อยนะคะ ก่อนอื่นขอกล่าวสวัสดีทักทายสำหรับเพื่อนๆที่เข้ามาอ่าน กระทู้ของเราก่อนนะคะ แนะนำตัวก่อนน้า ชื่อมุก นะจ๊ะ ....เรียกว่า น้ามุก ก็ได้จร้า เพราะตอนนี้อายุก็ขึ้นเลข 3+ แล้ว อิอิ แต่ด้วยความอยากให้เข้ากับวัยรุ่นแบบเราๆ ก็ขอแทนตัวเองว่าเราล่ะกันนะจ๊ะ วันนี้เราก็ อยากจะมาเล่าความรู้สึกและประสบการณ์ของการใช้เวลาในการสร้างฝันให้เป็นจริง หลายคนอาจสงสัยมันคืออะไร สำหรับเรา เรื่องราวมันจะยาวๆหน่อย แต่จะตัดให้สั้นเอาแต่เนื้อๆล่ะกันเนอะ
ที่จริงเรื่องมันเริ่มจาก เราทำอาชีพเป็นช่างทำผมในร้านชื่อดังแห่งหนึ่งมาสักระยะ เรียกได้ว่าก็อยู่กับการงานที่เกี่ยวกับความงามเป็นทุนเดิมแล้ว วันหนึ่งก็รู้สึกว่าอยากเปิดร้านเป็นของตัวเอง แต่ไม่อยากทำผมแล้ว ประจวบกับว่าช่วงนั้น เห็นร้านข้างๆมาเปิดใหม่เป็นร้านต่อขนตา ก็เลยเกิดไอเดียขึ้นมา ว่าอยากได้ร้านต่อขนตาสักเป็นร้านเล็กๆก็พอ ตอนนั้นแค่คิดนะ ก็นั่งฟินกับตัวเองเป็นเดือนๆเลย คิดว่าแบบจะเปิดร้านแบบไหน โทนสีอะไร ไปเรื่อยๆ ก็เป็นคนมีความฝันคนหนึ่ง อิอิ จริงๆก็พอรู้นะว่าถ้าเราทำอะไรแบบนี้ได้สักพักมันก็จะเริ่มๆ หมดไฟไปพอทำไปนานๆ สักพักเราก็เริ่มทำอย่างอื่นต่อและก็ลืมๆความฝันตรงนั้นไป แต่พอดีจังหวะที่กำลังจะลืมๆ เพื่อนที่เคยสนิทกันช่วงวัยรุ่น 5555 ( รุ่นนั้นเอ๊าะกว่านี้ตอนนี้ก็ยังเอ๊าะอยู่ 555) ก็บังเอิญมาเยี่ยมพอดี เลยได้มีโอกาสพูดคุยกันในเรื่องนานาสาระในชีวิต ไปสะกิดตรงที่เขาเปิดร้านทำเล็บเนี้ยแหละ ล่ะนางก็มาปรึกษาเราว่าอยากเพิ่มบริการต่อขนตาเข้าไป ไอ้ตอนนั้นคิดขึ้นมาได้ทันทีว่าเราเองก็อยากจะเปิดร้านต่อขนตานีนา วันนั้นก็เลยคุยกันยาวมาก ซึ่งเพื่อนเรานางก็ได้ไปเสาะหาที่เรียนเอาไว้ก่อนแล้วด้วย นาทีนั้น เราก็ด้วยความฝันที่เคยคิดมานาน อยากทำอยู่แล้วเลย ตัดสินเข้าเรียนพร้อมกับเพื่อนสนิททันที ครั้งแรกเราเองไม่ได้มีความรู้เรื่องนี้มาก่อน ก็ต้องเตรียมตัวเยอะเสาะหาความรู้เบื้องต้นให้พอที่จะเข้าใจ คราวๆ ก่อนที่จะไปเรียนจริงๆ เออ ลืมบอกเราเลือกเรียนกับเพื่อนนั้น เป็นสถาบัน ชื่อว่า แลชเพอทิส เห็นเพื่อนบอกว่าร้านเพื่อนนางที่เชียงใหม่ส่งช่างไปเรียน กลับมาลูกค้าแน่นร้านเพราะเทคนิคดีมาก เราก็ตามๆนางไปอะนะ ก็เพื่อนว่าดีก็ว่าดีไปด้วย ( ต้องเชื่อผู้มีความรู้มาก่อน) ในตอนนั้นหลังตัดสินใจเรียนความคิดที่ว่าจะเปิดร้านก็พลั่งพลูเข้ามา ทำเอาไม่ได้หลับได้นอนไป 2 คืนเต็ม ( นั่งคิดวิธีจัดร้าน 555 ก็คิดนะ เกี่ยวอะไรกับที่จะเรียน 5555)
พอถึงวันเรียน เราก็ได้อุปกรณ์มาเยอะมาก 5555 ประเด็นคือใช้ไม่เป็นต้องเริ่มฝึกตั้งแต่พื้นฐานกันเลยก็ว่าได้ สิ่งที่ชอบอย่างมากคือ ขนตาของที่นี่ ความรู้สึกแรกที่จับคือ โห่ววววว นิ่มจัง รู้สึกเขาจะการันตีว่า เบาที่สุดอีกด้วยนะ
เอาภาพอุปกรณ์ คลาส 3D มาโชว์นะ เห็นไหมว่าเยอะจริงจัง (ขออนุญาติขโมยรูปนะคะ เพราะตอนนั้นลืมถ่ายไว้ อันนี้เอามาจากใน Line@ )
ครั้งแรกที่ไปเรียน เราด้วยความที่ไม่เคยทำอะไรประดิษฐ์ประดอย ปราณีตแบบนี้มาก่อน บอกเลย มือไม่นิ่ง ช่วงแรกคือสำหรับเรายากมาก มือสั่นเลยเพราะกลัว ทำผิดๆถูก ครูก็เริ่มสอนแบบพื้นฐานเลย ตั้งแต่จับยังไง ใช้อะไรตรงไหน อันนี้เรียกอะไร โอยยคือสมองมั่วมากตอนนั้น 555 ไมค่อยเข้าใจแต่ก็จดๆๆ พอครูให้ลองฝึกต่อกับกระดาษ เราคือต่อนานมาก
พอไปต่อกับหุ่นนี่ยิ่งแล้วใหญ่ นานคูณ 2 ( ก็ไม่เคยทำมาก่อนเลยนี่นา) แต่แบบ คุณครูที่นี่สอนดีมากจริงๆ แม้เราไม่เป็นเลย ไม่มีประสบการณ์มาก่อน ครูก็คือใจเย็นมากๆ พูดและอธิบาย ล่ะมาสอนจับต่อทีล่ะเส้นยิ้มไปสอนไป 555 ไม่หงุดหงิด ประทับใจ ( อิอิ เป็นเราก็คงหงุดหงิดไปล่ะบอกเลย ) จนสุดท้ายเราก็พยายามใจเย็นค่อยๆทำไปด้วย บังคับมือให้นิ่งจนทำเสร็จ แม้ว่าพอจบมาในครั้งแรก ผลงานจะยังไม่สวยอะไรมากมาย แต่ตอนนั้น รู้สึกดีใจที่ทำได้ ซึ่งหลังจากจบคอร์ส 3D ( เป็นเทคนิคการต่อขนตาแบบเส้นต่อเส้น) มาได้
ก็มีแรงบันดาลใจเยอะขึ้น โชคดีมากเพราะช่วงนั้นทางสถาบันเชิญเทรนเนอร์จากไต้หวั่นมาสอนในไทยเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นอีกเทคนิคนึง คือแบบ จับช่อ ( 6D Starlight) ไอ้เราก็ร้อนวิชา อยากไปเรียนต่อ เลยจะได้ รู้ให้หมดล่ะกลับมาเปิดร้านก็ไปเรียน ( แม้ใจในตอนนั้นจะรู้นะว่ามันคงยากกว่าเพราะเป็นจับช่อ ) แต่ด้วยใจสู้สะอย่าง ไม่ถอยง่ายๆ แน่ อิอิ ถอนหายใจเฮือกยาวววว 55555+
และแล้วก็ลงเรียน แต่ครั้งนี้ก่อนจะเข้าไปเรียนจริง เราฝึกต่อทุกวัน ฝึก ต่อๆๆๆๆ จนนิ้วล๊อก 555( อาการที่ช่างต่อขนตาต้องเคยเป็น ) แต่ก็สู้นะ ตั้งใจจะต่อขนตาแบบจริงจังมากกก พอถึงวันเรียน 6D ก็เลยสนุกมาก ครูสอน ที่เป็นต่างชาติให้ความรู้แบบแน่นเป๊ะ สุดๆเลย และแบบล่ามอธิบายละเอียด เราคือจบมาจากคอร์ส 6D แบบ ทำได้เลย ( อาจเพราะเราฝึกทุกวันจริงๆ) เดี๋ยวๆมีผลงานมาโชว์นะ อิอิ ( ออกตัวเลยว่าอาจไม่สวยเท่าคนอื่นแต่เราตั้งใจทำมาก)
ผลงาน 3D
ผลงาน 6D
งานต่อหัวหุ่นก็มีนะจ๊ะ
แม้ว่าช่วงแรกจะผ่านไปแบบทุลักทะเลเพราะจากคนที่ไม่ต่อขนตามาก่อน แต่หลังจากที่เราฝึกฝน พัฒนา ทุกอย่างมันไม่ใช่เรื่องที่เราทำไมได้นะ มันคือความตั้งใจ ที่เราพร้อมจะทุ่มเทจริงๆ สุดท้ายจากคนที่ไม่เป็นแม้แต่น้อย ก็กลายเป็นคนที่ทำได้ในที่สุด และกำลังจะเปิดร้านเป็นของตัวเองในอีกไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้าแล้วนะ อิอิ
นี่ก็เป็นผลงานบางส่วนของเราเองค่ะ
สุดท้ายนี้ก็คงต้องขอขอบคุณคุณครูที่ใจเย็นกับนักเรียนคนนี้นะคะ และขอบคุณแลชเพอทิสที่เปิดคลาสเรียนคุณภาพ แบบนี้ให้ได้มีโอกาสเข้ามาเก็บเกี่ยวความรู้
( ขอบอกว่าขนตาที่ใช้ต่อ นี่สุดยอดมากกจริงๆ เบา ดีเวอร์ 5555 ชมหน่อยเผื่อเข้ามาอ่านนะคะ )
[CR] จะเปิดร้านแล้วนะ!!!! จากคนทีทำไม่เป็นเลยในวันนั้น เป็นคนที่ทำได้ในวันนี้ค่ะ
ที่จริงเรื่องมันเริ่มจาก เราทำอาชีพเป็นช่างทำผมในร้านชื่อดังแห่งหนึ่งมาสักระยะ เรียกได้ว่าก็อยู่กับการงานที่เกี่ยวกับความงามเป็นทุนเดิมแล้ว วันหนึ่งก็รู้สึกว่าอยากเปิดร้านเป็นของตัวเอง แต่ไม่อยากทำผมแล้ว ประจวบกับว่าช่วงนั้น เห็นร้านข้างๆมาเปิดใหม่เป็นร้านต่อขนตา ก็เลยเกิดไอเดียขึ้นมา ว่าอยากได้ร้านต่อขนตาสักเป็นร้านเล็กๆก็พอ ตอนนั้นแค่คิดนะ ก็นั่งฟินกับตัวเองเป็นเดือนๆเลย คิดว่าแบบจะเปิดร้านแบบไหน โทนสีอะไร ไปเรื่อยๆ ก็เป็นคนมีความฝันคนหนึ่ง อิอิ จริงๆก็พอรู้นะว่าถ้าเราทำอะไรแบบนี้ได้สักพักมันก็จะเริ่มๆ หมดไฟไปพอทำไปนานๆ สักพักเราก็เริ่มทำอย่างอื่นต่อและก็ลืมๆความฝันตรงนั้นไป แต่พอดีจังหวะที่กำลังจะลืมๆ เพื่อนที่เคยสนิทกันช่วงวัยรุ่น 5555 ( รุ่นนั้นเอ๊าะกว่านี้ตอนนี้ก็ยังเอ๊าะอยู่ 555) ก็บังเอิญมาเยี่ยมพอดี เลยได้มีโอกาสพูดคุยกันในเรื่องนานาสาระในชีวิต ไปสะกิดตรงที่เขาเปิดร้านทำเล็บเนี้ยแหละ ล่ะนางก็มาปรึกษาเราว่าอยากเพิ่มบริการต่อขนตาเข้าไป ไอ้ตอนนั้นคิดขึ้นมาได้ทันทีว่าเราเองก็อยากจะเปิดร้านต่อขนตานีนา วันนั้นก็เลยคุยกันยาวมาก ซึ่งเพื่อนเรานางก็ได้ไปเสาะหาที่เรียนเอาไว้ก่อนแล้วด้วย นาทีนั้น เราก็ด้วยความฝันที่เคยคิดมานาน อยากทำอยู่แล้วเลย ตัดสินเข้าเรียนพร้อมกับเพื่อนสนิททันที ครั้งแรกเราเองไม่ได้มีความรู้เรื่องนี้มาก่อน ก็ต้องเตรียมตัวเยอะเสาะหาความรู้เบื้องต้นให้พอที่จะเข้าใจ คราวๆ ก่อนที่จะไปเรียนจริงๆ เออ ลืมบอกเราเลือกเรียนกับเพื่อนนั้น เป็นสถาบัน ชื่อว่า แลชเพอทิส เห็นเพื่อนบอกว่าร้านเพื่อนนางที่เชียงใหม่ส่งช่างไปเรียน กลับมาลูกค้าแน่นร้านเพราะเทคนิคดีมาก เราก็ตามๆนางไปอะนะ ก็เพื่อนว่าดีก็ว่าดีไปด้วย ( ต้องเชื่อผู้มีความรู้มาก่อน) ในตอนนั้นหลังตัดสินใจเรียนความคิดที่ว่าจะเปิดร้านก็พลั่งพลูเข้ามา ทำเอาไม่ได้หลับได้นอนไป 2 คืนเต็ม ( นั่งคิดวิธีจัดร้าน 555 ก็คิดนะ เกี่ยวอะไรกับที่จะเรียน 5555)
พอถึงวันเรียน เราก็ได้อุปกรณ์มาเยอะมาก 5555 ประเด็นคือใช้ไม่เป็นต้องเริ่มฝึกตั้งแต่พื้นฐานกันเลยก็ว่าได้ สิ่งที่ชอบอย่างมากคือ ขนตาของที่นี่ ความรู้สึกแรกที่จับคือ โห่ววววว นิ่มจัง รู้สึกเขาจะการันตีว่า เบาที่สุดอีกด้วยนะ
เอาภาพอุปกรณ์ คลาส 3D มาโชว์นะ เห็นไหมว่าเยอะจริงจัง (ขออนุญาติขโมยรูปนะคะ เพราะตอนนั้นลืมถ่ายไว้ อันนี้เอามาจากใน Line@ )
ครั้งแรกที่ไปเรียน เราด้วยความที่ไม่เคยทำอะไรประดิษฐ์ประดอย ปราณีตแบบนี้มาก่อน บอกเลย มือไม่นิ่ง ช่วงแรกคือสำหรับเรายากมาก มือสั่นเลยเพราะกลัว ทำผิดๆถูก ครูก็เริ่มสอนแบบพื้นฐานเลย ตั้งแต่จับยังไง ใช้อะไรตรงไหน อันนี้เรียกอะไร โอยยคือสมองมั่วมากตอนนั้น 555 ไมค่อยเข้าใจแต่ก็จดๆๆ พอครูให้ลองฝึกต่อกับกระดาษ เราคือต่อนานมาก
พอไปต่อกับหุ่นนี่ยิ่งแล้วใหญ่ นานคูณ 2 ( ก็ไม่เคยทำมาก่อนเลยนี่นา) แต่แบบ คุณครูที่นี่สอนดีมากจริงๆ แม้เราไม่เป็นเลย ไม่มีประสบการณ์มาก่อน ครูก็คือใจเย็นมากๆ พูดและอธิบาย ล่ะมาสอนจับต่อทีล่ะเส้นยิ้มไปสอนไป 555 ไม่หงุดหงิด ประทับใจ ( อิอิ เป็นเราก็คงหงุดหงิดไปล่ะบอกเลย ) จนสุดท้ายเราก็พยายามใจเย็นค่อยๆทำไปด้วย บังคับมือให้นิ่งจนทำเสร็จ แม้ว่าพอจบมาในครั้งแรก ผลงานจะยังไม่สวยอะไรมากมาย แต่ตอนนั้น รู้สึกดีใจที่ทำได้ ซึ่งหลังจากจบคอร์ส 3D ( เป็นเทคนิคการต่อขนตาแบบเส้นต่อเส้น) มาได้
ก็มีแรงบันดาลใจเยอะขึ้น โชคดีมากเพราะช่วงนั้นทางสถาบันเชิญเทรนเนอร์จากไต้หวั่นมาสอนในไทยเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นอีกเทคนิคนึง คือแบบ จับช่อ ( 6D Starlight) ไอ้เราก็ร้อนวิชา อยากไปเรียนต่อ เลยจะได้ รู้ให้หมดล่ะกลับมาเปิดร้านก็ไปเรียน ( แม้ใจในตอนนั้นจะรู้นะว่ามันคงยากกว่าเพราะเป็นจับช่อ ) แต่ด้วยใจสู้สะอย่าง ไม่ถอยง่ายๆ แน่ อิอิ ถอนหายใจเฮือกยาวววว 55555+
และแล้วก็ลงเรียน แต่ครั้งนี้ก่อนจะเข้าไปเรียนจริง เราฝึกต่อทุกวัน ฝึก ต่อๆๆๆๆ จนนิ้วล๊อก 555( อาการที่ช่างต่อขนตาต้องเคยเป็น ) แต่ก็สู้นะ ตั้งใจจะต่อขนตาแบบจริงจังมากกก พอถึงวันเรียน 6D ก็เลยสนุกมาก ครูสอน ที่เป็นต่างชาติให้ความรู้แบบแน่นเป๊ะ สุดๆเลย และแบบล่ามอธิบายละเอียด เราคือจบมาจากคอร์ส 6D แบบ ทำได้เลย ( อาจเพราะเราฝึกทุกวันจริงๆ) เดี๋ยวๆมีผลงานมาโชว์นะ อิอิ ( ออกตัวเลยว่าอาจไม่สวยเท่าคนอื่นแต่เราตั้งใจทำมาก)
แม้ว่าช่วงแรกจะผ่านไปแบบทุลักทะเลเพราะจากคนที่ไม่ต่อขนตามาก่อน แต่หลังจากที่เราฝึกฝน พัฒนา ทุกอย่างมันไม่ใช่เรื่องที่เราทำไมได้นะ มันคือความตั้งใจ ที่เราพร้อมจะทุ่มเทจริงๆ สุดท้ายจากคนที่ไม่เป็นแม้แต่น้อย ก็กลายเป็นคนที่ทำได้ในที่สุด และกำลังจะเปิดร้านเป็นของตัวเองในอีกไม่กี่อาทิตย์ข้างหน้าแล้วนะ อิอิ
สุดท้ายนี้ก็คงต้องขอขอบคุณคุณครูที่ใจเย็นกับนักเรียนคนนี้นะคะ และขอบคุณแลชเพอทิสที่เปิดคลาสเรียนคุณภาพ แบบนี้ให้ได้มีโอกาสเข้ามาเก็บเกี่ยวความรู้