ฮัลโหล++ เพื่อนๆทุกคนจร้า ปุ้ย นะงับ

วานเน้จะมาบอกเคล็ดไม่ลับสำหรับการหารายได้ ที่แบบอันนี้ ปุ้ยเองก็เพิ่งจะไปร่ำเรียนมาสดๆร้อนๆ (ร้อนวิชาๆ) 555 +
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนนะว่า เราก็เป็นหนึ่งใน อาชีพ ช่างต่อขนตาแล้วนะตอนนี้ อิอิ ...... ซึ่งในตอนแรก ก็รู้ตัวว่ายังต่อขนตาได้ไม่ดีและก็พยายามฝึกเยอะๆ เพราะไม่เคยต่อมาก่อน ตอนนั้นมือใหม่ ตอนนี้มืออาชีพแล้วนะเออ อิอิ  เริ่มเรื่องจุดเริ่มต้นมันอยู่ตรงที่ เรา ได้สมัครไปเรียน คลาสสอนต่อขนตา ของสถาบัน “ แลชเพอทิส” เป็นสถาบันที่เพิ่งเปิดใหม่ อันมีรากฐานมาจากร้านต่อขนตาอันโด่งดัง ซึ่ง แรกๆยอมรับว่าไปเพราะ อยากรู้  แค่อยากต่อได้ ไรงี้ ล่ะประกอบกับเราดูผลงานของช่างของที่ร้าน(รากฐานที่บอกไปข้างต้น)  เขาต่ออกมาได้สวยงามจริงจัง ตอนเข้าร่วมในคลาสแรก เราเลือกลงเรียน ในคลาสที่ มีครูต่างประเทศมาสอน (ไต้หวัน) ครั้งแรกเป็นการต่อเทคนิค 3D ที่ปูพื้นฐานของคนไม่เคยต่อมาก่อน ให้ได้ลองมาจับTweezer (ศัพท์อุปกรณ์ของช่างต่อขนตาน้า)

(นี่ไง เจ้า Tweezer)

ต่อกันสดๆ  ซึ่งตอนนั้นตื่นเต้นนะ เพราะเขาสอนต่อปฏิบัติ อารมณ์คนไม่เคยทำไรแบบนี้มาเลยก็ รู้สึกว่า มันเป็นสิ่งใหม่ๆ ไรงี้ แต่พอลองทำ คือบอกเลยว่า ยากกกกกกกกกกกกก 55555 ตอนเรียนๆอยู่คิดในใจ (โอ้ยยย เขาทำกันได้ยังไงนั่น ) ตอนนั้นเริ่มท้อ นะ เพราะมันยากสำหรับเรา เกิ้น ช่วงที่กำลังฝึกกับกระดาษ เรารู้สึกเลยว่าคนที่ทำอาชีพนี้ได้ ต้อมมือเบา ใจเย็น สุดๆ เพราะเจ้านางขนตากว่าจะต่อได้แต่ล่ะเส้นนี่คือ ต้องปาณีต ไปอี๊กก ตอนนั้นครูที่เป็นคนไทย เดินมาสอนเราจับ (Tweezer) นานมากกกก 555 เชื่อไหมตอนเริ่มคือเราทำไม่ได้เลยนะ แต่ด้วยความที่ครูเดินมาบ่อยจัด(คงรู้ว่าเรายังทำไม่ได้) 5555 ทำให้เราอะ จากได้แรกๆ 1 เส้น 2 เส้น เราก็ฝึกๆไปเรื่อย รู้ตัวอีกทีคือเสร็จ ตอนนั้นแค่ต่อกับกระดาษ รู้สึกดีใจหนักมาก 5555 โหยยพี่ผ่านล่ะงับ แรงฮึดเริ่มมาเลยพอทำได้ จำได้เลยว่า มีการบ้าน โผมนี่รีบทำก่อนเลย ครั้งแรกนะ พอทำได้มันจะเริ่มมีแรง ซึ่ง ต้องอดทนช่วงแรกนิสนึง ผ่านคลาส 3D มาตอนนั้นบอกได้คำเดียว มันเจ๋งแหะ ช่วงนั้น ออกมาต่อขนตาแบบจริงจัง ที่ร้านเลยนะ จากคนทำไม่เป็นทำได้ มีลูกค้ามาติดเราด้วยนะ เพราะเราพัฒนา

(ตอนนั้นนี่คือคนเยอะมาหลายกล้องมองไม่ถูก 555)

.....................หลังจากเราเรียน 3D ไปในตอนแรกก็ไปฝึกฝนฝีมือเรื่อยๆจนบอกได้เลยว่าลูกค้าชอบ เรียกว่าต่อลูกค้ากันมือหงิกไปข้าง แต่ในช่วงนั้นก็ยังรู้สึกว่า ด้วยเทคนิค 3D ตอนนี้ในตลาดขนตามันคือ ทุกคนกะคงทำได้ เลยคิด อัฟค่าตัวฝีมือตัวเอง 5555 ง่ายๆว่าต้องหาเทคนิคเพิ่ม และก็เหมือนฟ้ามาโปรดจร้า ช่วงที่เราคิดอยากหาเทคนิคเพิ่มอยู่นั้น ( 3เดือนหลังเรียน 3Dไป) ก็มี Line@ เด้งมา ว่า มีเปิดสอน 6D จริงๆเราพอรู้อยู่ว่ามีช่างเริ่มต่อแบบ 6D กันบ้างแล้ว และ ที่ร้านใกล้เคียงเขาก็ต่อกัน แต่ สำหรับเรา อะไรที่คนอื่นทำได้ เราก็คิดว่าเราเองก็ต้องทำได้ จร้า (มั่นไปอี๊ก) ตอนนั้นเลยตัดสินใจลงเรียน ไปอีกรอบ ซึ่งก็ยังคงเลือกเรียนที่เดิมอยู่นะ ( แลชเพอทิส) เหตุผลง่ายๆของเราคือ เอาเทคนิคมาเพิ่ม มาอัพค่าตัว และการต่อ 6D (ลืมบอกๆมันคือการต่อแบบจับช่อ ) แต่ที่ เราเรียน มันเทพกว่า (เขาว่างั้น )

(รูปนี้ไปก๊อปมาจาก FB เขานะ แหะๆ)

เรียกว่า 6D  Starlight Eyelash Extensions Course ซึ่งเป็นเทคนิคใหม่ ยังไม่มีใครสอน ในประเทศไทย ซึ่งค่อนข้างยาก อันนี้ฟังๆเขามาอีกที ซึ่ง เรานี่พุ่งเลยได้ยินตอนแรก แถม มีเทคนิคให้ต่อได้เร็ว อีก ตอนนั้น เรากะคิดไว้ล่ะว่าเอาล่ะ ยากบะลัยโลกไหมนิ แต่กะ เตรียมใจๆ 555 ประกอบกับว่า เป็นการเรียนกับ ครูไต้หวันอีกรอบ ทำให้เราค่อนข้างมั่นใจว่าต้องได้อะไรกลับมาเหมือนครั้งแรกแน่นอน ตอนนั้นคิดอย่างเดียวต้องทำให้เป็น ต้องเก่ง ต้องทำออกมาได้ดี ชัวๆ เพราะอย่างน้อยมีพื้นฐานมาบ้างแล้ว (มีความหวังสุดชีวิต 555) ก็นะเสียเงินไปแล้วนิน่า ไม่ใช่น้อยๆเด้.............
ตอนนั้นเรา ตั้งใจสุดๆ เอาเส่ๆๆ ยากนักต้องทำได้ คนอื่นเขาก็ทำได้ (ตั้งใจเรียนตั้งใจฝึก สู้งับ) ตอนเราไปเรียนเราไปกับพี่ๆที่ร้านอีก2 คนนะคะ ชวนกันไป คือรอบนี้มีเพื่อน ก็อุ่นจายยย

(ถ่ายรูปกันพร้อมหน้าเปรียบว่าตัวเองเป็นนางแบบ อิอิ เรื่องสวยขอให้บอกค่ะ)

(งือออออออ)

สรุปวันมาเรียน เสียใจเล็กน้อย ครูห้ามถ่ายวีดีโอเด็ดขาดเลย T.T  (เสียใจ) ลืมบอกไปว่า ครูคนที่สอน 3D กับ 6D เป็นคนละคนกันนะงับ แม้จะเป็นครูจากประเทศไต้หวันเหมือนกัน  แต่ด้วยเทคนิคที่ต่างกัน ( ความยากนี่ไม่ใช่เล่นๆนะฮาฟ) การสอนนี่ก็แตกต่างไปอีกกกกก

(คุณครูไต้หวัน Karina)

โชคดีที่ ล่ามคนไทยอธิบายได้เข้าใจสุดๆ เรียกได้ว่าครูพูดอะไรมา แปลคำต่อคำ บางทีคือยาวกว่าที่ครูพูด ทำให้นักเรียนอย่างเรา ปลื้มปริม จดรายละเอียดแทบไม่ทัน 55555 ตอนเรียน 6D เหมือนเราได้กลับมากระตุ้นความรู้เดิมของ 3D เหมือนกันนะเพราะ ถึงเทคนิคจะต่างกัน แต่รายละเอียดเบื้องต้นก็ไม่ต่างมาก สำหรับส่วนตัวคือ เรียน 3D จะเน้นตอนเราเริ่มต้น ดีสำหรับคนที่เคยเรียนมาก่อนเลย จะทำให้เราผ่านไปเป็นสเตปๆ เข้าใจง่าย และทำได้ไม่ยาก แต่ถ้าหากเดินมาเรียน 6D ก็จะไปเร็วหน่อย คิดว่าเหมาะกับคนที่มีความรู้มาบ้างแล้ว จะทำให้ไปเร็วและโฟกัส เทคนิคได้ดีเลยล่ะ อารมณ์เหมือนผ่านระดับของการเรียนไรทำนองนั้น ป.1 ขึ้น ป.2 อิอิ แม้ว่ามันจะยากนะ ( แบบของใหม่ก็นะ) แต่พอฝึกไปเรื่อยๆจะเริ่มเข้าใจและมีเทคนิคในการทำมากขึ้น เราก็เป็นอีกคนนึงที่แบบ เกือบล่ะ เกือบถอดใจ จนสุดท้าย คิดว่า ต้องทำได้ดิ จนทำได้ ถามว่าผลงานครั้งแรกสวยไหม

อะโชว์การบ้านวันแรกหลังเรียน ทฤษฎีและฝึกต่อกับกระดาษปายยย

ถ้าคนทำเป็นแล้วจะรู้ว่ายังต้องพัฒนาอีกพอสมควร แต่เราภูมิจายยน้า อิอิ กะไอ้ทั้งหมดเนี้ย กินเวลาปาไปค่อนคืนเลยทีเดียว *0* พอเอามาส่งให้ ครูดูในวันเรียน วันที่2 ก็มีการแนะนำกลับมา

เราโอเครมากกับการเรียนกับ ที่นี่ ได้ความรู้คำแนะนำ อะไรมากมายที่แบบ ไม่รู้ที่อื่นได้มากกว่าหรือป่าวนะ แต่เราขอบอกคำเดียวว่าชอบ สถาบันนี้จริงๆจากใจคะ หลังจากเรียน เสร็จ การต่อกับคนนี่ก็เป็นอีกวิธีฝึกที่หิน เลยนะ 5555(มีรูปมาฝากๆๆ)

ตอนนั้นมือสั่นกว่าตอน ฝึก3D แรกๆสะอีก แต่ สู้อิอิ  ครั้งนี้ใช้เวลา นานโฮก 555 (ไม่ถนัดอ่าเพิ่งทำเข้าใจหน่อยน้า) ใช้เวลาปาไป 2ชม. กว่า ก็นะ เล่นเอามือเกร็งนิสหน่อย ต้องขอบคุณนางแบบเป็นการใหญ่ พยายามเร็วแล้วนะจีๆๆ  
ทุกอย่างผ่านมาได้แบบดีมากเลยสำหรับเรา

++++และนี่ก็เป็นการเพิ่มรายได้ขั้นที 2 ของเรา+++

ในมุมของช่างต่อขนตาคนนึง..น้า เราอยากแนะนำเพื่อนๆนะคะว่า การพัฒนาฝีมือเพิ่มทักษะของเราเป็นอีกทางนึงของการสร้างรายได้ให้ตัวเอง ซึ่งการไม่หยุดเรียนรู้มันจะช่วยให้เราพัฒนาไปได้เรื่อยๆ แล้ว เงินจะไปไหนล่ะ จริงมะ... ไม่มีใครได้ในสิ่งที่อยากได้หรอกค่ะ เราจะได้ในสิ่งที่เราคู่ควรกับมันต่างหาก ....ขอบคุณ “ แลชเพอทิส” กับหลักสูตรดีๆในวันนั้น ที่ทำให้ปุ้ยได้พัฒนาตัวเองจนได้มีวันนี้นะคะ