"ความศรัทธา สามารถสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่และสวยงามได้อย่างไม่น่าเชื่อ" ----นี่เป็นประโยคที่ผมอยากจะมอบให้เป็นคำจำกัดความของ "ถ้ำบาตู" ประเทศมาเลเซีย

ย้อนกลับไปเมื่อช่วงต้นเดือนกรฏาคม 2560 ผมเดินทางไปเที่ยวมาเลเซียคนเดียวแบบกึ่งๆแบ็คแพ็ค คือต้องบอกกึ่งๆ เพราะว่ายังมีติดสบายบ้างในบางมุม  (ใครอยากอ่าน ลองเข้าลิ้งค์นี้ครับ http://www.taychitblog.com/2017/08/kl-beautiful-kl-adventure-malaysia-solo.html )

จุดหมายปลายทางที่ตั้งใจจะไปให้ได้ คือ ตึกแฝด และ ถ้ำบาตู

ภาพจำก่อนมาที่นี่ ก็คือ รูปปั้นสีทองขนาดยักษ์ ตามแบบสถาปัตยกรรมฮินดู ผมอ่านรีวิวจากหลายๆเว็บไซต์แนะนำว่า เป็นที่ที่ควรจะได้ไปเยี่ยมชม หากมีโอกาศไปเที่ยวมาเลเซีย

และก็ไม่พลาดครับ เช้าวันที่2 ของการไปเที่ยวมาเลเซีย ผมตื่นเช้ามุ่งหน้าไปสถานีรถไฟ KL sentral ซึ่งเป็นเป็นสถานีกลางที่รวบรวมเอาระบบขนส่งมวลชนทุกอย่างของกรุงกัวลาลัมเปอร์ไว้ในแห่งเดียว

การไปถ้ำบาตูนั้น ไปไม่ยากเลย  แต่วิธีที่ผมเลือกไปก็คือ การนั่งรถไฟฟ้าไปครับ ซึ่งถ้ำบาตูนั้น เป็นสถานีสุดท้าย ของรถไฟสาย PORT KLANG LINE

นั่งรถไฟแค่แปปเดียว ผมก็มาถึงถ้ำบาตูแล้ว

มันจะง่ายอะไรขนาดนี้ เพราะแค่ลงจากสถานีรถไฟฟ้า เดินลงบันไดมาก็เจอกับทางเข้าถ้ำบาตูเลย

อารมณ์ประมาณ ลงจากบันไดรถไฟฟ้าสถานีสยาม แล้วเหยียบมลงบนลาน ปาร์คพารากอน อะไรยังงั้น

จุดไฮไลต์สำคัญนั้น คงหนีไม่พ้นการได้ไปถ่ายรูปกับ รูปปั้นยักษ์หน้าถ้ำครับ

ผมโชคดีมากครับ เจอคนไทยที่กำลังยืนถ่ายรูปกันอยู่ตรงนั้นพอดี เลยเดินเข้าไปขอความช่วยเหลือ ให้ช่วยถ่ายรูป

บริเวณกว้างด้านหน้านั้น เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตา ต่างเชื้อชาติ ที่เดินกันขวักไขว้ ดูหน้าเวียนหัว ฮ่าๆๆ

เมื่อเราถ่ายรูปก็รูปปั้นแล้ว เราก็ต้องเดินขึ้นบันได 272 ขั้น เพื่อขึ้นไปชมความงามภายในถ้ำ

บริเวณทางขึ้น จะมีเจ้าหน้าที่คอยตรวจคัดกรอง ผู้หญิงที่แต่งกายไม่เหมาะสม นุ่งสั้น เจ้าหน้าที่จะแจกผ้านุ่งให้คนที่นุ่งสั้นไปสักหน่อย ก่อนขึ้นไปด้านบน

บันไดทางขึ้นนั้น ค่อนข้างชัน เนื่องจากเป็นการไต่ความสูงภูเขาหินปูน จนผมต้องเกาะราวบันไดตลอดเวลา ตอนเดินขึ้นไป

เมื่อขึ้นมาถึงด้านบน เราจะได้เจอกับโถงใหญ่ หนึ่งโถง แต่โถงนี้ไม่ค่อยมีอะไรมากนัก เราต้องผ่านโถงนี้ไป แล้วขึ้นบันไดต่ออีกนิด เพื่อขึ้นสู่โถงด้านบนอีกหนึ่งโถ่ง

โถงบนสุด มีสถาปัตยกรรมแบบฮินดูหนึ่งหลัง ผมเองก็เรียกไม่ถูกว่าคืออะไร และรอบๆถ้ำจะมีรูปปั้นอีก 3 จุด

เดินไปเดินมา ไม่มีอะไรแล้ว ตอนนั้นบอกตรงๆ รู้สึกผิดหวัง เพราะการไต่บันไดขึ้นมา หมายมั่นว่าต้องได้เจออะไรที่ร้องว้าว แต่กลับไม่ค่อยมีอะไร หรือจริงๆแล้วผมไม่อินกับความเชื่อฮินดูมั้ง เลยรู้สึกเฉยๆ

แต่ไม่หมดเพียงเท่านั้น ถ้ำบาตู ยังมีของดีซ้อนอยู่ ที่คนไทยหลายๆคน ไม่ค่อยจะรีวิว ให้ได้เห็น

นั้นคือถ้ำด้านหน้า เป็นโซนที่ต้องเสียค่าเข้าชม แต่จ่ายถูกมาก ผมจำตัวเลขไม่ได้ แต่ไม่เกิน 5 ริงกิต แน่นอนครับ

ตรงทางเข้าเราจะได้เจอ รูปปั้นลิงยักษ์สีเขียว สถาปัตยกรรมแบบฮินดูหนึ่งหลัง

ผมเดินผ่านทางลอดเล็กๆเข้าไปในถ้ำ ทันใดนั้น ที่เข้าไปด้านใน ผมก็ได้เจอกับความงามของรูปปั้นเล่าเรื่องต่างๆตามความเชื่อของฮินดู ประกอบการจัดแสงสี ได้อย่างสวยงามลงตัว

ผมกล้ายืนยันเลยว่า โซนนี้เป็น โซนที่คุณควรไป ควรไปมากกว่าโซนปีนบันไดซ่ะอีก

มันสวยมาก รูปปั้นอ้อนช้อย อ้อนช้อยคนละแบบของไทย ดูกลมๆมนๆ แปลกตา

ในแต่ละมุม ผมยืนมองอยู่นานมาก คือมันทึ่งกับความสวยงาม และพยายามทำความเข้าใจเรื่องราวที่ช่างปั้นพยายามถ่ายทอด

คุ้มมากครับ

ไม่น่าเชื่อว่า ความศรัทธาจากจิตใจบริสุทธิ์ของมนุษย์ จะสามารถสร้างสิ่งที่สวยงาม และยิ่งใหญ่ได้เพียงนี้

ไม่รู้ว่าเพื่อนๆที่อ่านอยู่ตอนนี้จะเข้าใจถึงสิ่งที่ผมอธิบายไหม แต่อยากให้ได้ดูภาพที่ผมได้ถ่ายมา ว่ามันอธิบายถึงประโยคก่อนหน้าที่ผมเขียนได้ ไม่มาก ก็น้อยครับ
..........
http://www.taychitblog.com/2017/09/batu-caves.html