สวัสดีครับ ก่อนอื่นก็ขอแนะนำตัวก่อนเลย
ผมชื่อ แมค ครับ ผู้หญิงก็ไม่ใช้ผู้ชายก้ไม่เชิง
สิงสถิตอยู่ในห้องบลูมานาน แต่ไม่เคยสมัครหรือแสดงความคิดเห็นใด อ่านอย่างเดียวค่ะคุณขา
เคยได้อาศัยข้อมูลจากพันทิพย์ ฉายเดี่ยวไปเกาหลีมาแล้ว ไงก็ต้องขอบคุณกระทุ้ต่างๆด้วยนะ
วันนี้คึกมากเลยอยากจะมารีวิว ประสบการณ์ ท่องโลกที่ มาเลเซียมา แค่2คืน เที่ยวจริงๆแค่1วัน แต่ได้อะไรคุ้มสุดๆครับ
ตามชมได้เลยค่ะคุณ พูดเลยว่าดีมาก
เริ่มกันเลยแล้วกัน
******เราคิดเป็นเงินไทยเลยนะ ตีเอาง่ายๆขี้เกียจคิดเศษ 1 ริงกิต = 10 บาท******
******เราใช้กล้อง ไอโฟนถ่าย ภาพที่ได้ก็ถูๆไถๆนะ*******
การเดินทางนั้นแมคเลือกที่จะจองขากลับก่อน แปลกปะละ ? 5555
ก็ไปส่องราคาตั๋ว เรียกว่าเฟ้นหาตั๋วราคาเบาๆเลยละ
เลยได้มาดังนี้
AK 882 11 May 2014, 1130 (11:30 AM) ถึงดอนเมือง 11 May 2014, 1240 (12:40 PM)
จากนั้นก็ตะโกนดังๆว่า ชั้น....ชนะ!!! เพราะค่าตั๋วที่ได้แค่ 79.70 ริงกิต 805 บาทเอง คุณคะ หาที่ไหนไม่ได้แล้ว ตั๋วรวมSkybus จาก Kl sentral มา สนามบินด้วยนะเออ
จริงเราจองตั๋วกลับล่วงหน้าประมาณ 3 อาทิตย์ได้
ส่วนขาไปนั้นเรากะว่าจะนั่งรถไฟไป คิดว่าใกล้ๆค่อยจองก็ได้
ใกล้วันที่จะไปเข้ามาทุกที กลับไม่รู้สึกว่าอยากนั่งรถไฟเลย ไม่อยากนั่งนานๆ
เลยตัดสินใจไปเครื่องแบบเดิม พอคิดได้ก็ไปหาตั๋วถูกๆอีกครั้ง
ปรากฏว่า ราคา 8 – 9 ร้อยไม่มีอีกแล้ว อึ้งแปป คิดในใจว่าจะทิ้งตั๋ว800แล้วไม่ไปดีไหม
แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็ไปอยู่ดี จึงสอยตั๋ว Malindo Air
ซึ่งจองผ่าน Thai Lion Air ได้เลย ตั๋วราคาถูกสุดอยู่ที่ 1,845 บาท หาถูกๆสุดๆได้แค่นั้นจริงๆ
ส่วนเรื่องที่พักเราจองผ่าน booking.com ชื่อ fernloft Kualu Lumpur @ China Town
เป็นห้องนอนรวมชายหญิงเตียง 2 ชั้น ราคา 500 บาท 2 คืน
**จริงแล้วเราไม่เคยนอนแบบนี้มาก่อน แต่งบที่จำกัดเลยลองนอน**
สรุปแล้วก็สนุกดี ได้คุยกับคนโน้นคนนี้ ดีไปอีกแบบ
9 พฤษภาคม 57 รีบมาสนามบิน เช็คอิน เรียบร้อย เหลือเวลาอีกนานกว่าเครื่องจะออก
เราเป็นคนหนึ่งที่ชอบการนั่งเครื่องมาก มันสนุกตอนเครื่องจะเทคออฟ ตื่นเต้นดี
เพราะมาก่อนเวลาเลยต้องมานั่งมองเครื่องบินแบบนี้ ระหว่างรอเที่ยวบินตัวเอง
จากนั้นก็ได้ยินเสียงประกาศเรียกผู้โดยสาร ก็ไม่รีบร้อนเท่าไหร่นะ แค่วิ่งไปต่อแถวเท่านั้นเอง
หลังจากขึ้นเครื่องมาก็หาที่นั่งอย่างเร็ว เก็บกระเป๋าแล้วก็นั่งเลย คือมันดีอะแก !!!
สายการบินต้นทุนต่ำแต่มีจอ PTV ไม่แค่แสดงภาพไก่กานะจ๊ะ
ยังมีสื่อความบันเทิงด้วย เพลง ภาพยนตร์ เกม โอ้ยยยยยย สารพัด เรามีหน้าที่เล่นก็เล่นไป
รอก่อนนะแก ให้เราบินก่อน
สักพักก็จะออกอ้าวไทยล๊าว
ดูหนังกันสักหน่อย
นั่งมองฟ้าสักพักก็ถึงแล้ว KLIA2
ออกจากเครื่องปีปก็หาบูทโทรศัพท์ปั๊บ
สิ่งแรกที่หาเลยคือบูทจำหน่ายซิมการ์ด ซึ่งที่เราดูๆไว้คือ DiGi UMI
ซึ่งพอเอาเข้าจริงหาไม่เจอ เราเจอบูทของ Tune Talk ก็เลยจำยอมใช้ Tune Talk
ซึ่งคือมันดีมากนะ แค่ 10 ริงกิตเอง แต่เราต้องกดสมัครโปรเองนะ โปรเป็นวันอะ
คือที่ที่เราไปมันมี3gตลอดนะ ได้โทรกลับหาแม่ด้วย
แต่เสียงมันดีเลย์อะ ไม่รู้ว่าเป็นทุกเครือข่ายเปล่านะ เราก็พึงเคยโทรออกต่างประเทศครั้งแรก ตื่
นเต้นสุด สิ่งแรกที่ถามแม่คือ “แม่ๆ เบอร์แมคมีกี่ตัว เยอะไหม?”555555555555
ได้ซิมเสร็จก็รีบมาซื้อตั๋วรถเข้าเมือง เราใช้บริการของ SKY Bus 10 ริงกิตจ้า
พอถึง KL Sentral ก็ยืนมึนงงสักพักนึง ตั้งสติได้ก็ดิ่งไปซื้อตั๋วขึ้นรถไฟฟ้าของบ้านเขา
อยู่หน้าตู้ซื้อตั๋วนานมากใช้ไม่เป็นอะแก.......เลยขอให้พี่ที่ยืนต่อแถวข้างหลังแกช่วยซื้อให้
จากนั้นก็ขึ้นมาชานฃาลานั่งจาก KL Sentral ไป Pasar Sani ค่าโดยสาร 1 ริงกิต
ขึ้นไป1สถานีก็ถึงที่พักเราแล้ว
หลังจากเช็คอิน ชำระเงิน ก็เอาของไปเก็บ แวะทักทายเพื่อนร่วมเตียง เอ้ย ร่วมห้องสักพัก
ก็ออกมาเดิน ไชน่าทาวน์บ้านเขา ซึ่งไชน่าทาวน์ อยู่ใกล้กับที่พักมาก เดินไปได้สบายๆ
บรรยากาศไชน่าทาวน์ที่กัวลาฯ
เดินไปจนสุดซอยก็ยังไม่รู้จะกินอะไร ระหว่างทางกลับก็เดินหลับตาแวะเข้าไปกินเมนูนี้
จิ้มๆในเมนูไปได้มาดังรูป
ราคา 65 บาท
ขากลับแวะซื้อทิชชู่ไป 15 บาท
กินอิ่มแล้วก็นอนหลับเป็นตาย 1 วันผ่านไปไม่ได้อะไรเลยจ้า 55555
วันที่2
รีบตื่นมาเพื่อที่จะไปเที่ยว รู้สึกว่าตัวเอง งัวเงียมาก
ก็มานั่งรถไฟไปเที่ยว ปีโตรนาสทวินทาวเวอร์ โดยขึ้นจาก Pasar Sani ไป KLCC 4สถานีก็ถึงแล้วจ้า
ค่าโดยสาร 16 บาท
แปปเดียวเองก็ถึงแล้ว ตึกแฝด พระเอกของเรา
คือวันนี้อึมครึมมาก เมฆมาแรงมากอะเธอ เหมือนฝนจะตก
หลังจากเหล่หนุ่มๆแถวตึกแฝดมานานพอแล้ว ก็ขึ้นรถไฟกลับ KL sentral เพื่อนที่จะไป ถ้ำบาตู Batu Cave
ค่ารถไฟจาก KLCC ไป KL sentral 16 บาทเท่าเดิม
ถึงKL sentral แล้วก็ซื้อตั๋วไป ถ้าบาตู Batu Cave
ราคาตั๋วประมาณ20บาท
บรรยากาศภายในชานชาลา
นั่งไปประมาณ20นาทีก็ถึงแล้ว
จากนั้นไม่นานฝนก็ตกดั่งฟ้ารั่ว แต่เราไม่กลัวเพราะเราพกร่มมา
ถึงถ้ำแล้ว นี่คือบรรยากาศภายในถ้ำ
แต่เนื่องด้วยฝนตก กลิ่นมูลนก มูลค้างคาวแบบ แก คือบับ จะเป็นลม
สูดดมบรรยากาศไปสักพักเริ่มไม่ไหว สมองสั่งการให้กลับ
ระหว่างทางก็เจอเจ้าถิ่น
คือตอนขามาฝนตกเดินแบบรีบๆไม่ได้ดูซ้ายขวาเลย
สิ่งที่พลาดคือ...
เที่ยวครบก็ซื้อตั๋วกลับ 20 บาทเท่าเดิม
ขากลับไม่มีคนเลย
พอกลับมาถึง Kl Sentral ตามแผนแล้วเราต้องไป เก้นติ้งต่อ
แต่พอสักพักตระหนักได้ เห้ยย...แก.....เรายังไม่ได้กินข้าวเลยนะ ณ จุดนี้หิวละ เรื่องนี้ริวต้องยุ่งซะหน่อย
เลยไปจัด แซนวิสมากับน้ำขวดใหญ่1ขวด ทริปประหยัดอดๆอยากๆ
แซนวิส 25
ค่าน้ำ 28
จากนั้นก็ลงไปชั้นล่างซื้อตั๋วรถบัสไป เกนติ้ง ตั๋วเป็นตั๋วเที่ยวเดียว+ค่าขึ้นกระเช้า ราคา 10.30 ริงกิต
ตอนนั้นให้ไป 11 ริงกิต นางไม่ถอนให้.............เราก็ไม่เรียกร้อง สรุปเหมือนราคาตั๋ว 11 ริงกิต
พอถึงแล้วก็เข้ามาในอาคาร เพื่อไปขึ้นกระเช้ากัน
เริ่มออกจากอาคารแล้ว
สักพักฝนก็เทมาเลยจ้ะ คือธรรมดาก็น่ากลัวอยู่แล้ว ฝนตก ฟ้าร้อง หื้ม....ดี๊ดี
พอสักพักฝนหยุด ตามด้วยหมอกจ้า
สักพักก็ถึงละ เก้นติ้งไฮแลนด์
อุ้ยยย.....เจอแฟนเรา ชอบรถรุ่นนี้อะ อีโว้คของข้า
สวนสนุกที่นี่จะแบ่งออกเป็นโซนใหญ่ๆได้2อย่างคือ
1.อินดอร์ธีมพาร์ค
2.เอ้าดอธีมพาร์ค
แต่ตอนที่เราไปนั้น เอ้าดอร์ ปิด ก็เลยอดเล่นเครื่องเล่นแบบเอ็กตรีมเลย T^T
จริงๆชอบเอ้าดอร์อยู่แล้ว 555555555555555555 สาบานไม่ได้คิดอะไร
สุดท้ายได้แค่เดินเล่นในอินดอร์ ไม่ได้เล่นอะไรเลย ไม่ได้กินอะไรเลย
ไม่เสียเงินสักบาทในนี้
ก็มีการแสดงนั้นโน้นนี่ให้ดูอยู่นะ
บรรยากาศก็เป็นแบบนี้ ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปอะในนี้
เรามีเวลาน้อยต้องทำเวลาเลยรีบกลับ ซื้อตั๋วลงกระเช้า 60 บาทจ้า
ก็คิดว่าจะไม่มีอะไรแล้วละ ปรากฏว่า
คุณขา.....หมอกแบบ โอ้ย ไม่รู้ชะตากรรม ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้ายจริงๆ
หลังจากพบปะกับหมอกแล้ว เราก็มาถึงอาคารด้านล่าง ซื้อตั๋วรถบัสราคา 43 บาท เพื่อกลับ KL sentralกัน
[CR] 4000 บาท คนเดียว ก็เที่ยวมาเลได้ ตึกแฝด ถ้ำบาตู เก้นติ้ง เมอเดก้า ฯลฯ
ผมชื่อ แมค ครับ ผู้หญิงก็ไม่ใช้ผู้ชายก้ไม่เชิง
สิงสถิตอยู่ในห้องบลูมานาน แต่ไม่เคยสมัครหรือแสดงความคิดเห็นใด อ่านอย่างเดียวค่ะคุณขา
เคยได้อาศัยข้อมูลจากพันทิพย์ ฉายเดี่ยวไปเกาหลีมาแล้ว ไงก็ต้องขอบคุณกระทุ้ต่างๆด้วยนะ
วันนี้คึกมากเลยอยากจะมารีวิว ประสบการณ์ ท่องโลกที่ มาเลเซียมา แค่2คืน เที่ยวจริงๆแค่1วัน แต่ได้อะไรคุ้มสุดๆครับ
ตามชมได้เลยค่ะคุณ พูดเลยว่าดีมาก
เริ่มกันเลยแล้วกัน
******เราคิดเป็นเงินไทยเลยนะ ตีเอาง่ายๆขี้เกียจคิดเศษ 1 ริงกิต = 10 บาท******
******เราใช้กล้อง ไอโฟนถ่าย ภาพที่ได้ก็ถูๆไถๆนะ*******
การเดินทางนั้นแมคเลือกที่จะจองขากลับก่อน แปลกปะละ ? 5555
ก็ไปส่องราคาตั๋ว เรียกว่าเฟ้นหาตั๋วราคาเบาๆเลยละ
เลยได้มาดังนี้
AK 882 11 May 2014, 1130 (11:30 AM) ถึงดอนเมือง 11 May 2014, 1240 (12:40 PM)
จากนั้นก็ตะโกนดังๆว่า ชั้น....ชนะ!!! เพราะค่าตั๋วที่ได้แค่ 79.70 ริงกิต 805 บาทเอง คุณคะ หาที่ไหนไม่ได้แล้ว ตั๋วรวมSkybus จาก Kl sentral มา สนามบินด้วยนะเออ
จริงเราจองตั๋วกลับล่วงหน้าประมาณ 3 อาทิตย์ได้
ส่วนขาไปนั้นเรากะว่าจะนั่งรถไฟไป คิดว่าใกล้ๆค่อยจองก็ได้
ใกล้วันที่จะไปเข้ามาทุกที กลับไม่รู้สึกว่าอยากนั่งรถไฟเลย ไม่อยากนั่งนานๆ
เลยตัดสินใจไปเครื่องแบบเดิม พอคิดได้ก็ไปหาตั๋วถูกๆอีกครั้ง
ปรากฏว่า ราคา 8 – 9 ร้อยไม่มีอีกแล้ว อึ้งแปป คิดในใจว่าจะทิ้งตั๋ว800แล้วไม่ไปดีไหม
แต่เหนือสิ่งอื่นใดก็ไปอยู่ดี จึงสอยตั๋ว Malindo Air
ซึ่งจองผ่าน Thai Lion Air ได้เลย ตั๋วราคาถูกสุดอยู่ที่ 1,845 บาท หาถูกๆสุดๆได้แค่นั้นจริงๆ
ส่วนเรื่องที่พักเราจองผ่าน booking.com ชื่อ fernloft Kualu Lumpur @ China Town
เป็นห้องนอนรวมชายหญิงเตียง 2 ชั้น ราคา 500 บาท 2 คืน
**จริงแล้วเราไม่เคยนอนแบบนี้มาก่อน แต่งบที่จำกัดเลยลองนอน**
สรุปแล้วก็สนุกดี ได้คุยกับคนโน้นคนนี้ ดีไปอีกแบบ
9 พฤษภาคม 57 รีบมาสนามบิน เช็คอิน เรียบร้อย เหลือเวลาอีกนานกว่าเครื่องจะออก
เราเป็นคนหนึ่งที่ชอบการนั่งเครื่องมาก มันสนุกตอนเครื่องจะเทคออฟ ตื่นเต้นดี
เพราะมาก่อนเวลาเลยต้องมานั่งมองเครื่องบินแบบนี้ ระหว่างรอเที่ยวบินตัวเอง
จากนั้นก็ได้ยินเสียงประกาศเรียกผู้โดยสาร ก็ไม่รีบร้อนเท่าไหร่นะ แค่วิ่งไปต่อแถวเท่านั้นเอง
หลังจากขึ้นเครื่องมาก็หาที่นั่งอย่างเร็ว เก็บกระเป๋าแล้วก็นั่งเลย คือมันดีอะแก !!!
สายการบินต้นทุนต่ำแต่มีจอ PTV ไม่แค่แสดงภาพไก่กานะจ๊ะ
ยังมีสื่อความบันเทิงด้วย เพลง ภาพยนตร์ เกม โอ้ยยยยยย สารพัด เรามีหน้าที่เล่นก็เล่นไป
รอก่อนนะแก ให้เราบินก่อน
สักพักก็จะออกอ้าวไทยล๊าว
ดูหนังกันสักหน่อย
นั่งมองฟ้าสักพักก็ถึงแล้ว KLIA2
ออกจากเครื่องปีปก็หาบูทโทรศัพท์ปั๊บ
สิ่งแรกที่หาเลยคือบูทจำหน่ายซิมการ์ด ซึ่งที่เราดูๆไว้คือ DiGi UMI
ซึ่งพอเอาเข้าจริงหาไม่เจอ เราเจอบูทของ Tune Talk ก็เลยจำยอมใช้ Tune Talk
ซึ่งคือมันดีมากนะ แค่ 10 ริงกิตเอง แต่เราต้องกดสมัครโปรเองนะ โปรเป็นวันอะ
คือที่ที่เราไปมันมี3gตลอดนะ ได้โทรกลับหาแม่ด้วย
แต่เสียงมันดีเลย์อะ ไม่รู้ว่าเป็นทุกเครือข่ายเปล่านะ เราก็พึงเคยโทรออกต่างประเทศครั้งแรก ตื่
นเต้นสุด สิ่งแรกที่ถามแม่คือ “แม่ๆ เบอร์แมคมีกี่ตัว เยอะไหม?”555555555555
ได้ซิมเสร็จก็รีบมาซื้อตั๋วรถเข้าเมือง เราใช้บริการของ SKY Bus 10 ริงกิตจ้า
พอถึง KL Sentral ก็ยืนมึนงงสักพักนึง ตั้งสติได้ก็ดิ่งไปซื้อตั๋วขึ้นรถไฟฟ้าของบ้านเขา
อยู่หน้าตู้ซื้อตั๋วนานมากใช้ไม่เป็นอะแก.......เลยขอให้พี่ที่ยืนต่อแถวข้างหลังแกช่วยซื้อให้
จากนั้นก็ขึ้นมาชานฃาลานั่งจาก KL Sentral ไป Pasar Sani ค่าโดยสาร 1 ริงกิต
ขึ้นไป1สถานีก็ถึงที่พักเราแล้ว
หลังจากเช็คอิน ชำระเงิน ก็เอาของไปเก็บ แวะทักทายเพื่อนร่วมเตียง เอ้ย ร่วมห้องสักพัก
ก็ออกมาเดิน ไชน่าทาวน์บ้านเขา ซึ่งไชน่าทาวน์ อยู่ใกล้กับที่พักมาก เดินไปได้สบายๆ
บรรยากาศไชน่าทาวน์ที่กัวลาฯ
เดินไปจนสุดซอยก็ยังไม่รู้จะกินอะไร ระหว่างทางกลับก็เดินหลับตาแวะเข้าไปกินเมนูนี้
จิ้มๆในเมนูไปได้มาดังรูป
ราคา 65 บาท
ขากลับแวะซื้อทิชชู่ไป 15 บาท
กินอิ่มแล้วก็นอนหลับเป็นตาย 1 วันผ่านไปไม่ได้อะไรเลยจ้า 55555
วันที่2
รีบตื่นมาเพื่อที่จะไปเที่ยว รู้สึกว่าตัวเอง งัวเงียมาก
ก็มานั่งรถไฟไปเที่ยว ปีโตรนาสทวินทาวเวอร์ โดยขึ้นจาก Pasar Sani ไป KLCC 4สถานีก็ถึงแล้วจ้า
ค่าโดยสาร 16 บาท
แปปเดียวเองก็ถึงแล้ว ตึกแฝด พระเอกของเรา
คือวันนี้อึมครึมมาก เมฆมาแรงมากอะเธอ เหมือนฝนจะตก
หลังจากเหล่หนุ่มๆแถวตึกแฝดมานานพอแล้ว ก็ขึ้นรถไฟกลับ KL sentral เพื่อนที่จะไป ถ้ำบาตู Batu Cave
ค่ารถไฟจาก KLCC ไป KL sentral 16 บาทเท่าเดิม
ถึงKL sentral แล้วก็ซื้อตั๋วไป ถ้าบาตู Batu Cave
ราคาตั๋วประมาณ20บาท
บรรยากาศภายในชานชาลา
นั่งไปประมาณ20นาทีก็ถึงแล้ว
จากนั้นไม่นานฝนก็ตกดั่งฟ้ารั่ว แต่เราไม่กลัวเพราะเราพกร่มมา
ถึงถ้ำแล้ว นี่คือบรรยากาศภายในถ้ำ
แต่เนื่องด้วยฝนตก กลิ่นมูลนก มูลค้างคาวแบบ แก คือบับ จะเป็นลม
สูดดมบรรยากาศไปสักพักเริ่มไม่ไหว สมองสั่งการให้กลับ
ระหว่างทางก็เจอเจ้าถิ่น
คือตอนขามาฝนตกเดินแบบรีบๆไม่ได้ดูซ้ายขวาเลย
สิ่งที่พลาดคือ...
เที่ยวครบก็ซื้อตั๋วกลับ 20 บาทเท่าเดิม
ขากลับไม่มีคนเลย
พอกลับมาถึง Kl Sentral ตามแผนแล้วเราต้องไป เก้นติ้งต่อ
แต่พอสักพักตระหนักได้ เห้ยย...แก.....เรายังไม่ได้กินข้าวเลยนะ ณ จุดนี้หิวละ เรื่องนี้ริวต้องยุ่งซะหน่อย
เลยไปจัด แซนวิสมากับน้ำขวดใหญ่1ขวด ทริปประหยัดอดๆอยากๆ
แซนวิส 25
ค่าน้ำ 28
จากนั้นก็ลงไปชั้นล่างซื้อตั๋วรถบัสไป เกนติ้ง ตั๋วเป็นตั๋วเที่ยวเดียว+ค่าขึ้นกระเช้า ราคา 10.30 ริงกิต
ตอนนั้นให้ไป 11 ริงกิต นางไม่ถอนให้.............เราก็ไม่เรียกร้อง สรุปเหมือนราคาตั๋ว 11 ริงกิต
พอถึงแล้วก็เข้ามาในอาคาร เพื่อไปขึ้นกระเช้ากัน
เริ่มออกจากอาคารแล้ว
สักพักฝนก็เทมาเลยจ้ะ คือธรรมดาก็น่ากลัวอยู่แล้ว ฝนตก ฟ้าร้อง หื้ม....ดี๊ดี
พอสักพักฝนหยุด ตามด้วยหมอกจ้า
สักพักก็ถึงละ เก้นติ้งไฮแลนด์
อุ้ยยย.....เจอแฟนเรา ชอบรถรุ่นนี้อะ อีโว้คของข้า
สวนสนุกที่นี่จะแบ่งออกเป็นโซนใหญ่ๆได้2อย่างคือ
1.อินดอร์ธีมพาร์ค
2.เอ้าดอธีมพาร์ค
แต่ตอนที่เราไปนั้น เอ้าดอร์ ปิด ก็เลยอดเล่นเครื่องเล่นแบบเอ็กตรีมเลย T^T
จริงๆชอบเอ้าดอร์อยู่แล้ว 555555555555555555 สาบานไม่ได้คิดอะไร
สุดท้ายได้แค่เดินเล่นในอินดอร์ ไม่ได้เล่นอะไรเลย ไม่ได้กินอะไรเลย
ไม่เสียเงินสักบาทในนี้
ก็มีการแสดงนั้นโน้นนี่ให้ดูอยู่นะ
บรรยากาศก็เป็นแบบนี้ ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปอะในนี้
เรามีเวลาน้อยต้องทำเวลาเลยรีบกลับ ซื้อตั๋วลงกระเช้า 60 บาทจ้า
ก็คิดว่าจะไม่มีอะไรแล้วละ ปรากฏว่า
คุณขา.....หมอกแบบ โอ้ย ไม่รู้ชะตากรรม ชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้ายจริงๆ
หลังจากพบปะกับหมอกแล้ว เราก็มาถึงอาคารด้านล่าง ซื้อตั๋วรถบัสราคา 43 บาท เพื่อกลับ KL sentralกัน