พอดีปีหน้ามีแพลนว่าจะไปฮอกไกโดครับ เพื่อนเลยแนะนำให้ดูหนังเรื่องนี้ เผื่อจะได้แรงบันดาลใจในการไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ
ทีแรกก็เฉยๆ เพราะไม่ใช่คอหนังไทยเท่าไหร่ แต่พอดูจบ
เฮ้ยยย... มันมีอะไรมากกว่าที่คิด
ผมเป็นคนชอบนำหนังมาคิดต่อครับ ผมว่า หนังเรื่องนี้ ถ้าดูอย่างลึกซึ้งจริงๆ แล้ว ช่วงวันที่นางเอกความจำเสื่อมหนึ่งวัน ถึงแม้มันเป็นความจริงของเด่น แต่มันเป็นความฝันของนุ้ยครับ
คือในหนังเราจะรู้ความรู้สึกทุกอย่างของเด่น เพราะเหมือนเป็นเรื่องราวของเด่น แต่เราแทบไม่ได้รู้ความรู้สึกที่แท้จริงของนุ้ยเลย
เราจะรู้ความรู้สึกที่แท้จริงของนุ้ยก็จากสีหน้าที่แสดงออกมาทั้งหมดของเธอ
และจากที่ผมย้อนกลับไปดูรอบที่สอง ผมก็จับความรู้สึกของนุ้ยได้ และถอดระหัสต่างๆ ที่ ผกก ใส่ไว้ในหนัง ในมุมมองของนุ้ยครับ
อย่างแรกเลย เพลง
ฝันลำเอียง ที่ ผกก ใส่เข้ามาในเรื่อง แท้จริงแล้ว มันเป็นเพลงที่สื่อความรู้สึกทั้งหมดของนุ้ยครับ
ลองอ่านเนื้อเพลงทั้งหมดดูนะครับ
ฝันลำเอียง
อยากข่มตานอนทั้งคืน
แล้วฝัน..ถึงกัน
ไม่อยาก ตื่นพบใคร
อยากนอน อยู่ร่ำไป
อย่างนี้ ทั้งคืน
จะหยุดเวลาไว้ฝัน
ได้ไหม..หรือเออ
จิตใจ เราต้องกัน
ผูกพัน แต่แรกเจอ
ต่างคน ต่างรู้ดี
แต่ฝัน ลำเอียง
ไม่เหมือน ความจริง
ทิ้งเราให้หลง ในพะวัง
เจอะกัน เพียงครั้งเดียว
พูดกันเพียงแป๊บเดียว
ยังมิพอ
อยากเหมือน ในฝัน
สุขนั้น เกินพอ
สองเรายั่วเย้า พะนอ
อยากเจอ กันครั้งใด
หลับตา ลงฝันใฝ่
ส่งใจถึงกัน
จะหยุดเวลาไว้ฝัน
ได้ไหม..หรือเออ
จิตใจ เราต้องกัน
ผูกพัน แต่แรกเจอ
ต่างคน ต่างรู้ดี
แต่ฝัน ลำเอียง
ไม่เหมือน ความจริง
ทิ้งเราให้หลง ในพะวัง
เจอะกัน เพียงครั้งเดียว
พูดกันเพียงแป๊บเดียว
ยังมิพอ
อยากเหมือน ในฝัน
สุขนั้น เกินพอ
สองเรายั่วเย้า พะนอ
อยากเจอ กันครั้งใด
หลับตา ลงฝันใฝ่
ส่งใจถึงกัน
.................
เราลองมาไล่เลียงกันตั้งแต่เช้าของวันที่นุ้ยตื่นขึ้นมานะครับ
เธอรู้สึกสับสนที่อยู่ๆ ก็มานอนบนเตียง ทั้งที่ความจำครั้งสุดท้ายของเธอ เธอน่าจะอยู่ในลานหิมะ
เธอได้ทราบเรื่องราวเล็กน้อยจากพนักงานโรงแรมว่า เธอเกิดอุบัติเหตุ และมีเพื่อนชายพามาส่งที่ห้อง และนั่นคือความจริงทั้งหมดที่เธอรู้
..........
บนรถบัส เธอค่อนข้างสับสน เมื่อวานมันเหมือนภาพในฝัน ซึ่งมันไม่ใช่ความจริง (ตามความรู้สึกของนุ้ย)
(หมายเหตุ: ถึงแม้โรคนี้จะฟื้นความจำได้หลังจากผ่านไป 1 วัน แต่ภาพเหตุการ์ณต่างๆ ในวันที่สูญเสียความจำนั้น กลับมีบางส่วนที่ฝังอยู่ในจิตใต้สำนึก จนเหมือนเป็นความฝัน ซึ่งแน่นอน ผู้ชายที่ทำให้เธอมีความสุขมากในความฝัน ไม่ใช่ ท้อป แต่เป็น เด่น ผู้ชายที่ไม่เคยอยู่ในสายตาเธอเลยสักนิด)
..........
ในขณะที่เด่นหันไปมองนอกหน้าต่างรถบัส และเห็นปราสาทน้ำแข็งกำลังถูกรถแมคโครทลายทิ้ง เค้ารู้สึกว่า นั่นคือจุดสิ้นสุดของความสุขที่เพิ่งผ่านไปเพียงแค่ 1 วัน
แต่ในความรู้สึกของนุ้ย มันเหมือนเป็นจุดเริ่มต้นอะไรบางอย่าง
ตัดฉากมาที่ออฟฟิศวันที่นุ้ยกลับมาทำงาน เมื่อเพื่อนสาวเธอถามว่า ได้ไปเที่ยวเทศกาลหิมะรึเปล่า? เธอถึงได้รำลึกถึงความฝันเมื่อคืนนั้นอีกครั้ง แต่ได้ตอบเพื่อนสาวไปว่า ไม่ได้ไป (เพราะเธอคิดว่ามันเป็นเพียงความฝัน)
แต่เมื่อเธอได้เห็นกระดาษและตรายางประทับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ก็ทำให้เธอสับสนอีกครั้ง ว่าตกลงแล้ว
มันคือความฝัน หรือความจริงกันแน่?
ถ้าอย่างงั้น มันจะต้องมีตุ๊กตาของสะสม โดยไม่ต้องคิดเธอล้วงมือไปหยิบตุ๊กตาสะสมในกระเป๋าทันที ซึ่งมันมีจริงๆ แฮ่ะ (แต่เธอก็ยังสับสนอยู่ดี)
ที่จริงเธอเริ่มเกิดความรู้สึกที่ดีขึ้นกับเด่น เพราะเด่นคือผู้ชายในฝันคนนั้น
เธอถึงกับกล้าเดินไปขอสายซิงค์ที่ห้องทำงานเด่น หลังจากที่พยายามหลบหน้าอยู่หลายครั้งก่อนหน้านั้น
และเมื่อเธอรู้ว่าเด่นได้ลาออกไปแล้ว เธอก็รู้สึกแปลกใจนิดๆ
และเมื่อถึงตอนที่เธอดูรูปจากมือถือกับเพื่อนสาวของเธอ เธอก็ได้เจอคลิปปริศนาไฟล์หนึ่ง และเมื่อเธอได้คลิกดู ก็ปรากฎว่า...
เธอถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เพราะที่จริงแล้ว เมื่อคืนนั้น มันไม่ใช่ความฝัน
แต่มันเป็นความจริงทุกประการ!!
ฝันลำเอียง
อยากข่มตานอนทั้งคืน
แล้วฝัน..ถึงกัน
ไม่อยาก ตื่นพบใคร
อยากนอน อยู่ร่ำไป
อย่างนี้ ทั้งคืน
จะหยุดเวลาไว้ฝัน
ได้ไหม..หรือเออ
จิตใจ เราต้องกัน
ผูกพัน แต่แรกเจอ
ต่างคน ต่างรู้ดี
แต่ฝัน ลำเอียง
ไม่เหมือน ความจริง
ทิ้งเราให้หลง ในพะวัง
เจอะกัน เพียงครั้งเดียว
พูดกันเพียงแป๊บเดียว
ยังมิพอ
อยากเหมือน ในฝัน
สุขนั้น เกินพอ
สองเรายั่วเย้า พะนอ
อยากเจอ กันครั้งใด
หลับตา ลงฝันใฝ่
ส่งใจถึงกัน
จะหยุดเวลาไว้ฝัน
ได้ไหม..หรือเออ
จิตใจ เราต้องกัน
ผูกพัน แต่แรกเจอ
ต่างคน ต่างรู้ดี
แต่ฝัน ลำเอียง
ไม่เหมือน ความจริง
ทิ้งเราให้หลง ในพะวัง
เจอะกัน เพียงครั้งเดียว
พูดกันเพียงแป๊บเดียว
ยังมิพอ
อยากเหมือน ในฝัน
สุขนั้น เกินพอ
สองเรายั่วเย้า พะนอ
อยากเจอ กันครั้งใด
หลับตา ลงฝันใฝ่
ส่งใจถึงกัน
.................
ความรู้สึกหลังจากดูแฟนเดย์ (สปอยล์)
ทีแรกก็เฉยๆ เพราะไม่ใช่คอหนังไทยเท่าไหร่ แต่พอดูจบ
เฮ้ยยย... มันมีอะไรมากกว่าที่คิด
ผมเป็นคนชอบนำหนังมาคิดต่อครับ ผมว่า หนังเรื่องนี้ ถ้าดูอย่างลึกซึ้งจริงๆ แล้ว ช่วงวันที่นางเอกความจำเสื่อมหนึ่งวัน ถึงแม้มันเป็นความจริงของเด่น แต่มันเป็นความฝันของนุ้ยครับ
คือในหนังเราจะรู้ความรู้สึกทุกอย่างของเด่น เพราะเหมือนเป็นเรื่องราวของเด่น แต่เราแทบไม่ได้รู้ความรู้สึกที่แท้จริงของนุ้ยเลย
เราจะรู้ความรู้สึกที่แท้จริงของนุ้ยก็จากสีหน้าที่แสดงออกมาทั้งหมดของเธอ
และจากที่ผมย้อนกลับไปดูรอบที่สอง ผมก็จับความรู้สึกของนุ้ยได้ และถอดระหัสต่างๆ ที่ ผกก ใส่ไว้ในหนัง ในมุมมองของนุ้ยครับ
อย่างแรกเลย เพลง ฝันลำเอียง ที่ ผกก ใส่เข้ามาในเรื่อง แท้จริงแล้ว มันเป็นเพลงที่สื่อความรู้สึกทั้งหมดของนุ้ยครับ
ลองอ่านเนื้อเพลงทั้งหมดดูนะครับ
อยากข่มตานอนทั้งคืน
แล้วฝัน..ถึงกัน
ไม่อยาก ตื่นพบใคร
อยากนอน อยู่ร่ำไป
อย่างนี้ ทั้งคืน
จะหยุดเวลาไว้ฝัน
ได้ไหม..หรือเออ
จิตใจ เราต้องกัน
ผูกพัน แต่แรกเจอ
ต่างคน ต่างรู้ดี
แต่ฝัน ลำเอียง
ไม่เหมือน ความจริง
ทิ้งเราให้หลง ในพะวัง
เจอะกัน เพียงครั้งเดียว
พูดกันเพียงแป๊บเดียว
ยังมิพอ
อยากเหมือน ในฝัน
สุขนั้น เกินพอ
สองเรายั่วเย้า พะนอ
อยากเจอ กันครั้งใด
หลับตา ลงฝันใฝ่
ส่งใจถึงกัน
จะหยุดเวลาไว้ฝัน
ได้ไหม..หรือเออ
จิตใจ เราต้องกัน
ผูกพัน แต่แรกเจอ
ต่างคน ต่างรู้ดี
แต่ฝัน ลำเอียง
ไม่เหมือน ความจริง
ทิ้งเราให้หลง ในพะวัง
เจอะกัน เพียงครั้งเดียว
พูดกันเพียงแป๊บเดียว
ยังมิพอ
อยากเหมือน ในฝัน
สุขนั้น เกินพอ
สองเรายั่วเย้า พะนอ
อยากเจอ กันครั้งใด
หลับตา ลงฝันใฝ่
ส่งใจถึงกัน
.................
เราลองมาไล่เลียงกันตั้งแต่เช้าของวันที่นุ้ยตื่นขึ้นมานะครับ
เธอรู้สึกสับสนที่อยู่ๆ ก็มานอนบนเตียง ทั้งที่ความจำครั้งสุดท้ายของเธอ เธอน่าจะอยู่ในลานหิมะ
เธอได้ทราบเรื่องราวเล็กน้อยจากพนักงานโรงแรมว่า เธอเกิดอุบัติเหตุ และมีเพื่อนชายพามาส่งที่ห้อง และนั่นคือความจริงทั้งหมดที่เธอรู้
..........
บนรถบัส เธอค่อนข้างสับสน เมื่อวานมันเหมือนภาพในฝัน ซึ่งมันไม่ใช่ความจริง (ตามความรู้สึกของนุ้ย)
(หมายเหตุ: ถึงแม้โรคนี้จะฟื้นความจำได้หลังจากผ่านไป 1 วัน แต่ภาพเหตุการ์ณต่างๆ ในวันที่สูญเสียความจำนั้น กลับมีบางส่วนที่ฝังอยู่ในจิตใต้สำนึก จนเหมือนเป็นความฝัน ซึ่งแน่นอน ผู้ชายที่ทำให้เธอมีความสุขมากในความฝัน ไม่ใช่ ท้อป แต่เป็น เด่น ผู้ชายที่ไม่เคยอยู่ในสายตาเธอเลยสักนิด)
..........
ในขณะที่เด่นหันไปมองนอกหน้าต่างรถบัส และเห็นปราสาทน้ำแข็งกำลังถูกรถแมคโครทลายทิ้ง เค้ารู้สึกว่า นั่นคือจุดสิ้นสุดของความสุขที่เพิ่งผ่านไปเพียงแค่ 1 วัน
แต่ในความรู้สึกของนุ้ย มันเหมือนเป็นจุดเริ่มต้นอะไรบางอย่าง
ตัดฉากมาที่ออฟฟิศวันที่นุ้ยกลับมาทำงาน เมื่อเพื่อนสาวเธอถามว่า ได้ไปเที่ยวเทศกาลหิมะรึเปล่า? เธอถึงได้รำลึกถึงความฝันเมื่อคืนนั้นอีกครั้ง แต่ได้ตอบเพื่อนสาวไปว่า ไม่ได้ไป (เพราะเธอคิดว่ามันเป็นเพียงความฝัน)
แต่เมื่อเธอได้เห็นกระดาษและตรายางประทับสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ก็ทำให้เธอสับสนอีกครั้ง ว่าตกลงแล้ว
มันคือความฝัน หรือความจริงกันแน่?
ถ้าอย่างงั้น มันจะต้องมีตุ๊กตาของสะสม โดยไม่ต้องคิดเธอล้วงมือไปหยิบตุ๊กตาสะสมในกระเป๋าทันที ซึ่งมันมีจริงๆ แฮ่ะ (แต่เธอก็ยังสับสนอยู่ดี)
ที่จริงเธอเริ่มเกิดความรู้สึกที่ดีขึ้นกับเด่น เพราะเด่นคือผู้ชายในฝันคนนั้น
เธอถึงกับกล้าเดินไปขอสายซิงค์ที่ห้องทำงานเด่น หลังจากที่พยายามหลบหน้าอยู่หลายครั้งก่อนหน้านั้น
และเมื่อเธอรู้ว่าเด่นได้ลาออกไปแล้ว เธอก็รู้สึกแปลกใจนิดๆ
และเมื่อถึงตอนที่เธอดูรูปจากมือถือกับเพื่อนสาวของเธอ เธอก็ได้เจอคลิปปริศนาไฟล์หนึ่ง และเมื่อเธอได้คลิกดู ก็ปรากฎว่า...
เธอถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เพราะที่จริงแล้ว เมื่อคืนนั้น มันไม่ใช่ความฝัน
แต่มันเป็นความจริงทุกประการ!!
อยากข่มตานอนทั้งคืน
แล้วฝัน..ถึงกัน
ไม่อยาก ตื่นพบใคร
อยากนอน อยู่ร่ำไป
อย่างนี้ ทั้งคืน
จะหยุดเวลาไว้ฝัน
ได้ไหม..หรือเออ
จิตใจ เราต้องกัน
ผูกพัน แต่แรกเจอ
ต่างคน ต่างรู้ดี
แต่ฝัน ลำเอียง
ไม่เหมือน ความจริง
ทิ้งเราให้หลง ในพะวัง
เจอะกัน เพียงครั้งเดียว
พูดกันเพียงแป๊บเดียว
ยังมิพอ
อยากเหมือน ในฝัน
สุขนั้น เกินพอ
สองเรายั่วเย้า พะนอ
อยากเจอ กันครั้งใด
หลับตา ลงฝันใฝ่
ส่งใจถึงกัน
จะหยุดเวลาไว้ฝัน
ได้ไหม..หรือเออ
จิตใจ เราต้องกัน
ผูกพัน แต่แรกเจอ
ต่างคน ต่างรู้ดี
แต่ฝัน ลำเอียง
ไม่เหมือน ความจริง
ทิ้งเราให้หลง ในพะวัง
เจอะกัน เพียงครั้งเดียว
พูดกันเพียงแป๊บเดียว
ยังมิพอ
อยากเหมือน ในฝัน
สุขนั้น เกินพอ
สองเรายั่วเย้า พะนอ
อยากเจอ กันครั้งใด
หลับตา ลงฝันใฝ่
ส่งใจถึงกัน
.................