สามีเห็นแก่ตัวมาก

สวัสดีค่ะ
มีเรื่องจะปรึกษา ยาวหน่อยนะคะขีวิตคู่ไม่มีความสุข ลูกชายอายุ 1 ขวบ 6 เดือน เลี้ยงลูกคนเดียว ไม่มีคนช่วย สามีก็ไม่ช่วยเลย ช่วยอย่างเดียวคือเรื่องเงิน
สามีให้เงินเดือนละ 7 พันบาท แต่ใช้งานเราทุกอย่าง ยิ่งกว่าคนใช้ เราต้องทำงานบ้านทุกอย่าง ทั้งเลี้ยงลูก ทำกับข้าว ล้างจาน  สามี เลิกงานกลับบ้านมาก็นอนดูแต่ทีวี ชวนลูกดูด้วย ถ้าว่างก็เล่นแต่มือถือ มีอยู่ 2 อย่างนี่แล่ะ ที่ทำเป็นกิจวัตร ลูกชวนเล่นของเล่นก็ไม่ค่อยจะสนใจ

เราทำงานบ้านคนเดียวทำทุกอย่าง จริงๆมันก็คืองานของแม่บ้านน้ำถูกแล้ว แต่น้ำใจน่ะมีบ้างไหม ช่วยเหลือกันบ้างเล็กๆน้อย อย่างเช่นเลิกงานมาก็ช่วยลูกแลลูกบ้าง เราทำกับข้าวไป ก็ต้องวิ่งมาคอยดูลูกที่เล่นซน เพราะสามีไม่สนใจ ตั้งแต่ลูกเกิดมาตัวแดงๆ ไม่เคยช่วยเลี้ยง ไม่เคยต้องเหนื่อยอะไร เปลี่ยนผ้าอ้อมให้ลูกยังทำไม่ได้ เพราะรังเกลียดอึลูก เราทั้งให้นม และตื่นมาเลี้ยงลูกตอนกลางคืน ไม่เคยต้องให้สามีตื่นมาช่วยเลย ไม่เคยช่วยล้างขวดนม งานบ้านยิ่งไม่ต้องพูด  ไม่เคยช่วยเลย ทำเองหมด ทั้งซักผ้าอ้อม เช็ดฉี่อึ สารพัด สามีเป็นคนรักสะอาด แต่ชอบชี้นิ้วสั่งอย่างเดียว กินตรงไหน วางตรงนั้น จานชามไม่เคยเก็บ ไม่เคยล้าง

เวลาเราอยู่กับลูก 2 คน ลูกจะน่ารัก เชื่อฟัง ดื้อเล็กน้อย แต่เวลาสามีอยู่ลูกจะดื้อมาก เพราะพ่อชอบให้ท้าย เวลาลูกดื้อซน ก็จะคอยเรียกแต่เราให้ไปดู ลูกรื้อของ ปีนป่ายบันได ตัวเองก็นอนเฉยดูแต่ทีวี แต่สั่งให้เราไปจัดการ ทั้งๆที่เราต้องทำงานบ้านสารพัด แทบจะไม่ได้นั่งเลย ให้ช่วยเลี้ยงลูก ก็เอามือถือยื่นให้ ปล่อยให้ลูกเปิดยูทูปดูเอง เลี้ยงแบบมักง่าย เอาสบายเข้าว่า เราเลี้ยงของเรา งดจอทุกอย่าง แต่พอสามีเลิกงานมา ทำทุกอย่างพังหมด พอแย่งมือถือ ลูกก็กรี๊ดๆ ๆๆๆ หนูกลายเป็นแม่ใจร้ายไปเลย อยากเลิกกับสามีมากควรทำไงดี ปรึกษาผู้ใหญ่ มีแต่บอกให้ทนๆๆ เวลาอยู่กันสามคนพ่อแม่ลูก หนูจะอารมณ์ร้ายมาก เพราะสามีไม่สนใจลูก ใช้แต่ให้เราคอยเลี้ยง บางทีเลยทำให้   ใจอยากเลิกมากๆ ชีวิตไม่มีความสุข มีสามีก็เหมือนไม่มี เพราะทำเองทุกอย่าง ตั้งแต่งานบ้านยันงานช่างและทำสวน เราควรจะอดทนต่อ หรือเดินออกมาเพื่อสุขภาพจิตที่ดี ทุกวันนี้เครียดมากๆ เครียดเพราะสามีเห็นแก่ตัว ทั้งเครียดและเบื่อ ทะเลาะกันเสียงดังแทบจะทุกวัน เพราะเรื่องที่เค้าไม่เคยสนใจลูก ไม่เคยช่วยอะไรเลย เราควรต้องทนเหมือนที่ผู้ใหญ่แนะนำเหรอคะ

เราว่าเราหน้าที่ภรรยาได้ดีทุกอย่าง ไม่เคยต้องพึ่งพาสามีอะไรเลย ทำทั้งงานบ้าน งานช่าง ทำกับข้าว ซักผ้า กวาดผ้า ถูบัาน ไม่เคยขาดตกบกพร่อง มีเรื่องอะไร ธุระอะไรก็จัดการ ไม่เคยต้องถึงมือ เรื่องบนเตียงก็ทำให้ได้ดีไม่เคยขาด แล้วมันยุติธรรมกับเราเหรอ  ที่จะมาเอาเปรียบเรา หน้าที่สามีที่ดีก็ทำไม่ได้ ไม่เคยว่า แต่หน้าที่พ่อที่ดี ยิ่งไม่ได้เรื่อง ให้เงินเราเดือนละ 7 พัน แต่อยากให้เราหารายได้เสริม แต่ตัวเองเคย support อะไรเราได้บ้าง ขายของในเน็ต ไปส่งของให้เราได้มั้ย มีแต่บอกให้เรานั่งวินไปเอง แถมเรายังต้องกระเตงลูกไปอีกเหรอ ถัาเราออกไปหางานทำ เราจะทีรายได้ต่อเดือนที่มากกว่านี้ ถึงแม้ว่าจะต้องเอาลูกไปอยู่เนิร์ส แต่ชีวิตเราก็มีโอกาสก้าวหน้ากว่านี้ไม่ใช่เหรอ ไม่ใช่ว่าต้องมุดหัวอยู่แต่ในบ้าน ทำงานบ้านงกๆ สามีก็ไม่เคยเอาใจ มีแต่พูดจากวนประสาท วันๆก็เอาแต่นอนติดเตียง ดูแต่ทีวี ชีวิตไม่ทำอะไรที่มีประโยชน์เลย พาลูกไปวิ่ง ไปเล่นตามสวน ก็ไม่พาไป แค่ซื้อของเล่นในบิ๊กซี อันละ 89 บาท ลูกบอลสีๆแบบในบ้านบอล ยังบ่นว่าแพง แต่ซื้อเสื้อผ้าให้ตัวเอง เป็นพัน ไม่เห็นเคยเสียดาย

เราว่าเป้าหมายเรากับสามีมันคนละทางกันละ ทุกวันนีเราทำเพื่อลูก แต่สามีทำเพื่อตัวเอง  มีเราไว้เพราะตัวเองสบาย ไม่ให้เราออกไปทำงาน เพราะไม่อยากจ่ายค่าเดย์แคร์ แต่มาพูดกดดันให้เราหารายได้เพิ่ม ทั้งๆที่ลูกยังเล็ก ติดแม่แจ ทำอะไรส่วนตัวยังไม่ได้เลย ตัวเองก็เงินเดือนไม่ใช่จะน้อย เงินพิเศษก็มี แต่เห็นแก่ตัวเอง ให้เงินเดือนเรา 7 พัน แต่พูดใส่เราเหมือนกับว่าดีถมเถแล้วที่ให้

อ้อมีอีกเรื่อง เค้าเคยทำร้ายร่างกายเราต่อหน้าลูก ตอนนั้นลูกอายุ 8 เดือน จากนั้นมา ลูกจะเกลียด กรี๊ดร้อง โวยวาย เวลาเห็นพ่อแม่เข้าใกล้กัน แม้จะหยอกกัน กอดกันก็ตามที เหมือนเค้ามีอาการฝังใจกับภาพแบบนี้ไปแล้ว เราควรจะทนอยู่กับสภาพนี้จริงๆเหรอ อนาคตเราดับวูบลงทุกๆวัน ตั้งแต่แต่งงานอยุ่กับคนๆนี้ วันๆเลี้ยงแต่ลูก สังคมไม่มี สามีก็ไม่พาออกไปไหน จะพาไปก็แต่โลตัส บิ๊กซี ไปซื้อของมาให้เราทำกับข้าว ชีวิตเราไม่ต่างจากคนใช้ ถ้าสามีเราเป็นที่พึ่งพิง พึ่งพาให้เราได้ เราจะไม่รุ้สึกแบบนี้เลย แต่ทุกวันนี้รุ้สึกอย่างเดียวว่าโดนเอาเปรียบ สามีเห็นแก่ตัวสุดๆ  ขอคำแนะนำทีค่ะ เราต้องทำยังไงต่อไปดี เราหมดใจแล้ว ตอนนี้ ไม่เหลือแม้ความรู้สึกใดๆอีก ถ้าเราเดินออกไปทุกอย่างคือพังแน่นอน  ขอคำแนะนำจากคนที่มีประสบการณ์ด้วยค่ะ คิดไม่ตกจริงๆ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
เรียนด้วยความจริงใจนะครับ และผมไม่ใช่ กรูรู ความรัก

**ย้ำนะครับ คห ไม่ได้ชักจูงหรือโยงใย ใดๆทั้งสิ้น เพราะปัญหาครอบครัวเป็นปัญหาใหญ่ระดับโลก**

ผมแบ่งออกเป็น 2 แบบนะครับ

หากต้องแยกทาง และตัดสินใจได้ดีแล้ว สิ่งที่คุณต้องมีคือ

1.ความรู้
2.ความสามารถ
3.เงิน
4.คนเลี้ยงดูบุตร

4 ปัจจัยนี้ ถือว่าคุณ จำเป็นต้องมี เพราะหากคุณแยกทาง แน่นอนครับ คุณต้อง เหนื่อยมากขึ้น เพราะต้องเลี้ยงดูตัวเองและบุตร ที่สำคัญหากคุณต้องออกไปทำงาน คุณจะต้องมีคนที่วางใจว่าจะเลี้ยงบุตรของคุณได้จริงๆ  ส่วนกฏข้อห้ามไม่ให้ลูกจับ มือถือหรือดู Youtube อันนี้ส่วนตัวผมคิดว่า เรามาสามารถให้บุตรเล่นได้ครับ  ถ้าจะเล่นก็เล่นเกมส์ที่เสริมสร้างพัฒนาการ เปิดเพลงการ์ตูนภาษาอังกฤษ หรือ สื่อการเรียนรู้ๆต่างๆ แต่ต้องกำหนดว่า  1 วันกี่ชั่วโมง

พอจะเข้าใจอยู่นะครับว่า เด็กยังเล็กมาก และคุณก็คงจะเหนื่อยมาก รู้สึกท้อแท้ผิดหวัง แต่เรื่องแบบนี้ก็เกิดขึ้นกับทุกคน ที่ไม่ได้วางแผนชีวิตครอบครัว เมื่อมีปัญหาที่ตามมาทีหลัง นั่นคือผลของกรรมที่เราทำครับ  (และผมเป็นคนนอก ผมคงตัดสินใครไม่ได้ และไม่มีสิทธิ์ในการตัดสินใคร ว่าดีหรือไม่ดี ผมไม่ใช่ ตุลาการ )

หากไม่ได้แยกทางกันละ
- แน่นอนครับ ทุกคนคือเจ้านายตัวเอง และเลือกทางเดินของตัวเอง
- ถ้าผมเป็น ผญ และผมตกอยู่ในสถานะการณ์แบบนี้  (แต่มันเทียบกันไม่ได้นะครับ) สิ่งแรกที่ผมจะทำคือ  
- อดทน อดทน อดทน และก็อดทน ไม่ใช่-อดทน เพื่อความรัก หรือเพื่อใคร แต่อดทนเพื่อลูก เพราะลูกไม่นานลูกคุณก็จะเข้าโรงเรียน นั่นหมายความว่า คุณจะมีเวลาไปทำงาน หรือหารายได้  สิ่งสำคัญ หากคุณรู้สึกว่ามันแย่ มันไม่ OK ฉันอยากเปลี่ยนแปลง สิ่งแรกคือ " ความคิด " ก่อนเลย เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงคนอื่นได้ แต่เราเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ เราต้องคิด + สุดๆเช่น สามีไม่ช่วยเลี้ยงบุตร เพราะเขาเหนื่อยจากทำงานแล้ว ให้เขาได้พักผ่อน ทำในสิ่งที่เขาอยากจะทำไปเถอะ (ถ้าคิดแบบนี้คุณจะสบายใจขึ้น) อะไรที่หนักเกินก็ปล่อยวาง ทั้งความคิด และการกระทำ

เช่น ปกติกวาดบ้านทุกวัน ก็ กวาดวันเว้นวัน หรือไม่ก็บอก สามีช่วยซื้ออุปกรณ์ที่เบาแรงเราในการทำงาน ( แต่สามีก็จะบ่นๆ ใช้ลูกอ้อนเดียวก็หามาให้ )
ล้างจาน  หากเหนื่อยมาก ก็ สมมุติกินเย็น ก็แช่ไว้ เช้ากินเสร็จก็แช่ไว้ บ่ายๆค่อยล้างหรือตอนที่หายเหนื่อยจากเลี้ยงลูก หรือเวลาลูกหลับ
ซักผ้า - ก็คำนวนเอาว่า สัปดาห์นึงต้องใส่ กี่ชุด ซักรีดไว้ทีเดียวเลยสำหรับชุดทำงาน
เลี้ยงลูก - หากมันเหนื่อยมากท้อแท้ สิ้นหวังกับชีวิต ก็เอาไปให้เที่ยว บ้านแม่ผัว หรือบ้านเรา เอาไปให้เขาเลี้ยงซะมั้ง วันครึ่งวัน


5555555555+ ผมก็พูดได้ไม่ถูกต้องทั้งหมดหรอกครับ เพราะมันไม่ใช่ชีวิตของผม  แต่ผมอยากจะฝากไว้ว่า ทุกคนมีทางเลือกเป็นของตัวเองเสมอ เมื่อเปลี่ยนแปลงผู้อื่นไม่ได้ ก็ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง

สิ่งสำคัญคือ ชีวิตคู่ ทุกคนย่อมมีความเห็นแก่ตัวอยู่แล้ว ความรักแท้มีแค่พ่อแม่  แต่อยู่ที่ว่า เราเปิดใจยอมรับมันมากแค่ไหน ในข้อเสียของเขา หากมันเยอะ ก็จงเลือกมองสิ่งดีๆที่เขามี คุณจะหาความสมบูรณ์แบบในชีวิตคู่ มันหายากครับเพราะวุฒิภาวะคนเราไม่เท่ากัน
ความคิดเห็นที่ 49
ระวัง อย่ามีเพิ่มด้วยนะคะ

ความคิดเห็นที่ 44
เข้ามาให้กำลังใจค่ะ
เราอยากแนะนำว่า
1. หางานทำค่ะ หางานให้ได้แล้วก็...
2. หาเนิสเสอรี่
3. คุยกับสามีว่า ค่าเนิสเสอรี่ หารกันนะ คนละครึ่ง 7,000 ชั้นไม่เอาแล้ว หารค่าใช้จ่าย เรื่องลูก กันก็พอ
4. แบ่งงานบ้านกันทำ ถ้าไม่ทำก็กองไว้ ไม่ซักผ้า ก็ซักของตัวเอง รีดของตัวเอง ของลูกพอ
6. ทำกับข้าวก็ทำพอแค่ตัวเองกินคนเดียว กินในครัวเลยก็ได้
ตอนเย็นคุณอาจจะยังต้องเหนื่อยดูแลลูกอยู่ดี
แต่อย่างน้อย ชีวิตก็ไม่โดนกดขี่ข่มเหง ทางจิตใจค่ะ


ถ้าสามี อยากได้อะไรเพิ่มเติม ก็มาคุยกัน แต่ทุกอย่างต้องมีข้อแลกเปลี่ยน เช่นสามีต้องช่วยล้างจาน ตากผ้า ไม่ช่วยก็ไม่ต้องกิน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่