สวัสดีค่า ใกล้ปลายปีแบบนี้ เดาว่าต้องมีคนกำลังวางแผนไปชมใบไม้เปลี่ยนสีที่ญี่ปุ่นกันเยอะแน่นวล
วันนี้เลยอยากมาแชร์ไอเดีย "แผนเที่ยวเกียวโต" แบบ One Day Trip โดยเดินทางจากโอซาก้า
เพื่อไปชมใบไม้เปลี่ยนสี พร้อมไฮไลท์ของฤดูใบไม้ร่วงอย่างการนั่งรถไฟสายโรแมนติกชมใบไม้เปลี่ยนสีค่ะ

แผนนี้เป็นแผนแบบกึ่งสำเร็จรูปคือสามารถใช้ตามรอยได้ตามนี้เป๊ะๆ เลย หรือว่าจะนำไปประยุกต์ใช้กับแผนของตัวเองก็ได้น้า
เพราะฉะนั้นเราขอไม่ลงเวลาที่แน่นอนนะ จะใช้เป็นการเรียงลำดับสถานที่แทน เพราะแต่ละคนก็จัดการเวลาไม่เหมือนกันเนอะ ^^


เอาล่ะ.. ก่อนเริ่มก็ต้องมาแนะนำจังหวัดเกียวโตคร่าวๆ ก่อนตามทำเนียม : )
"เกียวโต" เป็นหนึ่งในเมืองยอดนิยมในแถบคันไซค่ะ หลายคนนิยมพ่วงเกียวโตเข้าไปในทริปคันไซ
โดยอาจจะตั้งต้นปักหลักนอนที่โอซาก้าแล้วค่อยนั่งรถไฟไปเที่ยวยังจังหวัดใกล้เคียง
ซึ่งแน่นอนว่า เราสามารถ One Day Trip ไปเที่ยวเกียวโตจากโอซาก้าแบบเช้า - เย็นกลับได้เช่นกัน
แต่ไม่แนะนำให้อัดทุกสถานที่ท่องเที่ยวไว้ใน 1 วันนะคะ เพราะเกียวโตไม่ใช่จังหวัดเล็กๆ
อีกทั้งระบบคมนาคมหลักยังคงใช้ Bus หรือ รถเมล์ รถไฟใต้ดินมีแต่ก็ไม่ครอบคลุมทุกสถานที่
ฉะนั้นเวลาในการเดินทางระหว่างสถานที่อาจต้องเผื่อช่วงเวลารถติดเข้าไปด้วย

เกียวโต เป็นเมืองหลวงเก่าที่เคยเรืองนามเรื่องศิลปะวัฒนธรรม ศาสนา และประวัติศาสตร์
ฉะนั้นสถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่จึงเน้นไปที่วัฒนธรรม และศาสนา
ส่วนใหญ่เป็นวัด วัง ที่อยู่ร่วมกับธรรมชาติและปัจจุบันได้อย่างกลมกลืน

หลายคนตกหลุมรักเกียวโต หลงรักในวิถีชีวิตเรียบง่ายดั้งเดิม
โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิ และใบไม้เปลี่ยนสี ที่นี่ยิ่งได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษ
ถ้ายังไม่มีไอเดียว่าควรวางแผนเที่ยวเกียวโตยังไง ลองดูแผนนี้เป็นตัวอย่าง
แล้วนำไปปรับใช้กับแผนของตัวเองได้นะคะ หรือจะเดินทางตามนี้เลยก็ได้

Arashiyama ⇨ Togetsukyo Bridge ⇨ Sagano Bamboo Forest ⇨ Kinkaku-ji

สำหรับแผนนี้เป็นแผนเที่ยวเกียวโตฝั่งตะวันตกค่ะ ทุกสถานที่จะอยู่ในโซนเดียวกัน
สามารถเดินทางถึงกันได้โดยใช้เวลาไม่นาน พร้อมแล้วก็เริ่มเลย ป่ะ! เริ่มแผน!!


01
ARASHIYAMA
☝️ เดินทางจาก : โอซาก้า
✍️ วิธีการเดินทาง : ขึ้นรถไฟ Hankyu Kyoto Line จากสถานี Umeda ลงสถานี Katsura เพื่อเปลี่ยนสายรถไฟเป็น Hankyu Arashiyama Line ลงสถานี Arashiyama
⌚ ใช้เวลา : 1 ชั่วโมง
⌨️ ค่าเดินทาง : 400 เยน

“อาราชิยามะ” เขตท่องเที่ยวยอดนิยมทางตะวันตกของเมืองเกียวโต
เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ เพราะเป็นจุดรวมขุมทรัพย์ด้านธรรมชาติมากมาย
จะมาเที่ยวช่วงไหน ฤดูกาลไหนก็สวยงาม โดยเฉพาะช่วงฤดูใบไม้ผลิที่มีดอกซากุระเบ่งบาน
หรือฤดูใบไม้ร่วงที่เต็มไปด้วยสีสันเหลืองทองอร่ามก็สวยงามไม่แพ้กันค่า


สำหรับแผนนี้สามารถใช้ Kansai Thru Pass (KTP) ได้ตลอดเส้นทางนะคะ ไม่ต้องเสียค่าเดินทางเพิ่มเลย
แต่ใครที่เดินทางมาเกียวโตด้วย KTP ก็จะต้องมาตั้งต้นที่สถานีรถไฟ Hankyu Arashiyama ค่า




02
สะพานโทเง็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge)
☝️ เดินทางจาก : Hankyu Arashiyama Starion
✍️ วิธีการเดินทาง : เดินจากสถานีรถไฟ Hankyu Arashiyama
⌚ ใช้เวลา : ประมาณ 10 นาที

สัญลักษณ์ของอาราชิยามะ บางคนเรียก “สะพานข้ามจันทร์ (Moon Crossing Bridge)”
เป็นสะพานไม้ที่ทอดยาวข้ามแม่น้ำโฮสุโดยมีทิวทัศน์สองข้างทางเป็นธรรมชาติป่าเขาที่งดงาม
นับเป็นจุดแรกของการเริ่มต้นในการเที่ยวอาราชิยามะของคนที่เดินทางมาด้วยรถไฟ Hankyu ค่ะ


อีกหนึ่งกิจกรรมในการมาเที่ยวอาราชิยามะคือนั่งเรือล่องไปในแม่น้ำโฮสุเพื่อชมวิวทิวทัศน์สองข้างทาง
ถ้ามีเวลาเยอะๆ ลองดูก็ได้นะคะ เห็นเขาว่าจะได้อีกบรรยากาศหนึ่งเลย (แต่ราคาแรงเอาเรื่องอยู่น้า ><)




03
ป่าไผ่ซากาโนะ (Sagano Bamboo Forest)
☝️ เดินทางจาก : สะพานโทเง็ตสึเคียว
✍️ วิธีการเดินทาง : เดินเล่นมาเรื่อยๆ จากสะพานข้ามจันทร์
⌚ ใช้เวลา : ประมาณ 15-20 นาที

อีกหนึ่งแลนด์มาร์กของอาราชิยามะที่ควรปัดหมุดเช็คอิน
เป็นเส้นทางเดินเล็กๆ ที่มีระยะทางเพียง 500 เมตร เท่านั้นค่ะ
แต่ก็ให้ฟิลตระการตาไปด้วยวิวป่าไผ่สูงใหญ่ขนาบข้างไปตลอดเส้นทางเลย


แล้วถ้าใครอยากเที่ยวอาราชิยามะแบบสเปเชียลขึ้นไปอีก
สามารถวางแผนเพื่อนั่งรถไฟสายโรแมนติก (Sagano Romantic Train) ได้นะคะ
แต่วิธีการเดินทางจะกลับกันจากแผนนี้ คือจะต้องนั่งรถไฟไปตั้งต้นที่สถานี JR Umahori
หรือสถานี JR Saga-Arashiyama เพื่อเดินต่อไปขึ้นรถไฟสายโรแมนติกที่จะเป็นสายพิเศษ
แยกออกมาจากสายปกติ ซึ่งไม่สามารถใช้พาสอะไรได้ ต้องซื้อเพิ่มเท่านั้นค่ะ
เดี๋ยวเราจะใส่ข้อมูลสำหรับการวางแผนนั่งรถไฟสายโรแมนติกไว้ให้ด้านล่างใน คห.ที่ 2 น้า : )



04
Kinkaku-ji
☝️ เดินทางจาก : อาราชิยามะ
✍️ วิธีการเดินทาง : ขึ้นรถไฟ Randen Arashiyama Line จากสถานี Arashiyama (Keifuku Line)
ลงสถานี Katabiranotsuji เพื่อเปลี่ยนสายรถไฟเป็น Randen Kitano Line ลงสถานี Kitanohakubaicho
แล้วต่อรถบัสสาย 101, 102, 204 หรือ 205 ลงป้าย Kikakuji-michi
⌚ ใช้เวลา : ประมาณ 30-40 นาที (ขึ้นอยู่กับสภาพจราจร)
⌨️ ค่าเดินทาง : ค่ารถไฟ 220 เยน / ค่ารถบัส 230 เยน


“คินคะคุจิ” หรือที่คนไทยเรียกกันคุ้นปากว่า “วัดทอง” นับเป็นวัดเก่าแก่ของเกียวโต
รวมถึงเป็นต้นแบบปราสาทของท่านโชกุนในเรื่อง ‘อิคคิวซัง เณรน้อยเจ้าปัญญา’ ผู้โด่งดังด้วย
จุดเด่นสะดุดตาคือพลับพลาสีทองอร่ามตั้งโดดเด่นอยู่กลางน้ำ สวยงามจนได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นหนึ่งในมรดกโลก
ถ้าใครมีโอกาสแวะมา อย่าลืมเขียนแผ่นไม้ขอพรตรงบริเวณใกล้กับทางออกด้วยนะคะ
โดยพรยอดฮิตที่ได้รับการขอมากที่สุดก็คือ “ขอให้ฉลาดเหมือนอิคคิวซัง” นั่นแลค่า


นี่เป็นไอเดียสำหรับการวางแผนเที่ยวเกียวโตแบบ One Day Trip ค่ะ
อันที่จริงเกียวโตยังมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอีกมากเลยนะคะ
เอาไว้คราวหน้าจะมาแบ่งปันแผนเที่ยวเกียวโต และที่อื่นๆ อีกน้า
ส่วนแผนนี้ก็สามารถนำไปปรับใช้กับแผนของตัวเอง หรือจะเที่ยวตามนี้เลยก็ได้
เพราะเป็นแผนที่ใช้เที่ยวมาแล้วจริง ฉะนั้นตามรอยได้ ไม่มีหลงจ้า

สำหรับข้อมูลการนั่งรถไฟสายโรแมนติก เราขอต่อใน คห. ถัดไปน้า
อยากแยกส่วนให้ชัดเจน เพราะถ้าจะนั่งรถไฟสายโรแมนติกอาจจะต้องวางแผนเพิ่ม
ทั้งนี้แอบสงสัยอะไรตรงไหน ปรึกษาได้เลยนะคะ เรายินดีให้คำปรึกษาเท่าที่จะช่วยได้ค่า : )

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เราทำเว็บไซต์และเพจเกี่ยวกับท่องเที่ยว มีแผนเที่ยวสำเร็จรูปหลายแผนที่นำมาแชร์กันค่ะ
ยังไงขออนุญาตฝากไว้สำหรับคนที่อยากหาข้อมูลเรื่องท่องเที่ยวเพิ่มเติมค่ะ ^^
Website : http://www.movearound-journey.com
Facebook : https://www.facebook.com/movearoundjourney