ตำรวจ ปส. เปิดปฎิบัติการ "ชัยยะ สยบไพรี 60/6 ผลพวงของความโลภ" บุกจับ "เอกอ้วน" อดีตผู้ต้องขังตัวการสั่งยาเสพติด ยึดทรัพย์สินกว่า 100 ล้านบาท
พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นำกำลังตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดปฎิบัติการ "ชัยยะ สยบไพรี 60/6 ผลพวงของความโลภ เข้าจับกุมเครือข่ายยาเสพติด รายสำคัญ โดยจุดที่นำสื่อมวลชนเข้ามา คือ บ้านของ นายจิรัฏฐ์ เพ็ญโสภณวิชญ์ ชื่อเดิม นายจรัญ คำสด หรือ เอกอ้วน อดีตผู้ต้องขังคดียาเสพติด ตัวการใหญ่ระดับสั่งการในเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ ทำหน้าที่รวบรวมออเดอร์ยาเสพติดจากภาคต่างๆ และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา โดยเข้ามาที่บ้านพักหรูแห่งหนึ่ง บนถนนราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ ในจังหวัดนนทบุรี ซึ่งผลการตรวจค้น เจ้าหน้าที่พบ นายจิรัฏฐ์ อยู่ในบ้านพักกับภรรยา เจ้าหน้าที่แสดงหมายค้นและหมายจับกุม พร้อมกับนำตรวจค้นในบ้านพัก
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ดำเนินการอายัดทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ อาทิ รถยนต์ 2 คัน เป็นรถเบนซ์ และ รถฮอนด้าซีวิค ป้ายแดง เงินสด 2 ล้านบาท รวมทั้งทรัพย์สินอื่นๆ ไว้ตรวจสอบตาม พรบ.มาตรการ
พล.ต.ท.สมหมาย กล่าวภายหลังการเข้าตรวจค้นว่า ในการเข้าจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าทีมีพยานหลักฐานว่า นายเอกอ้วน จะเป็นผู้รวบรวมออเดอร์ติดต่อประสานงานในการสั่งยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน มีพัฒนาการในการสั่งยาเสพติด โดยการให้บุคคลที่อยู่ในต่างประเทศ มาลงทะเบียนซิมโทรศัพท์มือถือ ก่อนที่จะโทรสั่งยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาจำหน่ายตามออเดอร์ และการจับกุมยาเสพติดเครือข่ายของนายเอกอ้วนในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี นับว่าเป็นการตัดตอนวงจรยาเสพติด ในส่วนของเครือข่ายนายเอกอ้วนได้จำนวนมาก
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ ให้กับ นายจิรัฏฐ์ ทราบ โดยเบื้องต้น นายจิรัฏฐ์ ยังให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่จึงทำบันทึกการจับกุมส่งพนักงานสอบสวนตามขั้นตอน
สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 1 ใช้เวลาสืบสวนนานกว่า 10 เดือน หลังได้รับแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับเครือข่ายยาเสพติดพบความเคลื่อนไหวบัญชีทางการเงินกว่า 100 ล้านบาท เป็นเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญเชื่อมโยงหลายพื้นที่และมีผู้ร่วมขบวนการจำนวนมาก โดยมี เอกอ้วน ทำหน้าที่ประสานงาน เคยถูกจับกุมในคดียาเสพติด เมื่อปี 2555 แต่ศาลก็ยกฟ้องในที่สุด เพราะพยานหลักฐานอ่อน
อย่างไรก็ตาม ปฎิบัติการนี้ตำรวจนำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นรวม 43 จุด แบ่งเป็นพื้นที่ กรุงเทพมหานคร 14 จุด ภาค 1 จำนวน 20 จุด , ภาค3 จำนวน 4 จุด และ ภาค 4 จำนวน 5 จุด มีผู้ต้องหาตามหมายจับศาลรวม 11 คน
http://news.sanook.com/3483278/
"เอกอ้วน" ยังให้การปฎิเสธ อ้างทรัพย์สินเป็นของญาติฝากไว้ รายได้จากร้านอาหารไม่เกี่ยวยาเสพติด ผบช.ปส.เผยยังมีผู้ต้องหาตามจับอีก 5 ราย ดูแลบัญชี
เอกอ้วน" ยังให้การปฎิเสธ อ้างทรัพย์สินเป็นของญาติฝากไว้ รายได้จากร้านอาหารไม่เกี่ยวยาเสพติด ผบช.ปส.เผยยังมีผู้ต้องหาตามจับอีก 5 ราย ดูแลบัญชี
จากกรณีหน่วยปฎิบัติการพิเศษสยบไพรี เจ้าหน้าที่บช.ปส. เปิดปฎิบัติการชัยยะสยบไพรี 60/6 ปิดล้อมตรวจค้นบ้านเป้าหมายค้ายาเสพติดระดับผู้สั่งการรายสำคัญสามารถจับกุมนายจิรัฏฐ์ เพ็ญโสภณวิชญ์ เดิมชื่อนายจรัญ คำสด หรือ “เอกอ้วน” ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 323/2560 ลงวันที่ 9 ก.ย.60 ตรวจยึดทรัพย์สินได้ทั้งหมดรวมกว่า 54 ล้านบาท และจับกุมผู้ต้องหาร่วมขบวนการได้อีก 10 คน เมื่อวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา
ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 13 กันยายน พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธว่าไม่ใช่ตัวกลางคอยติดต่อสั่งยาเสพติดจากกลุ่มว้า โดยทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ ส่วนใหญ่เป็นของญาติและครอบครัวที่นำมาฝากไว้ และเป็นรายได้จากการประกอบ ร้านอาหารชื่อ 555 ชิลชิล ย่านพัฒนาการ ไม่ได้มาจากการค้ายาเสพติด แต่จากการสอบสวนผู้ที่มีชื่อในการครอบครองทรัพย์สินที่ตรวจพบ ทุกคนรับว่าถือครองทรัพย์สินแทนนายจิรัฏฐ์ ส่วนร้านอาหารเชื่อว่าเป็นการอำพรางธุรกิจค้ายาเสพติดเท่านั้น และเชื่อว่ายังมีทรัพย์สินอีกมากที่ต้องขยายผลอายัดต่อไป ซึ่งต้องรอผลการตรวจสอบจาก ปปง. ส่วนเรื่องขบวนการค้ายาเสพติด ยังมีผู้ต้องหาที่ต้องติดตามจับกุมอีกอย่างน้อย 5 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 2 คน สัญชาติเมียนมา ทำหน้าที่ดูแลบัญชีทางการเงินให้กับผู้ว่าจ้างในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน และเป็นผู้ติดต่อแหล่งผลิตให้นายจิรัฏฐ์ ทั้งนี้ตำรวจยังอยู่ระหว่างการขยายผลเครือข่ายรายย่อยที่เชื่อมโยงกับขบวนการนี้ที่เชื่อว่าอาจมีมากกว่า 10 เครือข่าย ส่วนแนวทางการสอบสวนที่เชื่อว่านายปัญญา ยิ้มอำไพ หรือเก่ง ลายพราง เน็ตไอดอลชื่อดังมีส่วนพัวพันกับเครือข่ายยาเสพติดของนายจรัญ ขณะนี้ยังไม่พบเบาะแสหลักฐานความเชื่อมโยง อยู่ระหว่างการขยายผลสอบสวนเพิ่มเติม
พล.ต.ท.สมหมายกล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมสถานการณ์ยาเสพติดตั้งแต่ 1 ต.ค. 59 - 31 ส.ค.ที่ผ่านมา มีการจับกุมคดียาเสพติดแล้ว 238,000 กว่าคดี จับกุมผู้ต้องหาได้มากกว่า 2 แสนคน จับกุมยาเสพติดยาบ้าไปแล้ว 196 ล้านเม็ด ไอซ์ 4,700 กิโลกรัม โคเคน 52 กิโลกรัม กัญชาแห้ง 16,000 กิโลกรัม ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาพบมีการจับกุมยาเสพติดสูงขึ้นกว่า 200%
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/772659
มาลารินยกให้ท่านเป็นฮีโร่ในการปราบปรามยาเสพติดในดวงใจเลยค่ะ
ท่านใช้กฎหมายจัดการอย่างไม่ย่อท้อ
ท่านมีความพยายามที่จะจัดการคนผิดไม่ให้หลุดมือ ซึ่งต้องใช้เวลานาน
แต่ท่านอดทนเพื่อทำงานนี้
หัวใจท่านหล่อมากค่ะ พระเอกสายตำรวจของประชาชนตัวจริง
ไม่มีริ้วรอยให้ใครตำหนิในเรื่องตัดตอนเหมือนยุคลุงที่ชื่อทักษิณ
ขอให้กำลังใจท่านนะคะ..
~มาลาริน~**พระเอกมาแล้ว...👍 ปส.นำโดย พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข บุกรวบ "เอกอ้วน" ค้ายาข้ามชาติ ยึดทรัพย์กว่า 100 ล้าน!
พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด นำกำลังตำรวจปราบปรามยาเสพติด เปิดปฎิบัติการ "ชัยยะ สยบไพรี 60/6 ผลพวงของความโลภ เข้าจับกุมเครือข่ายยาเสพติด รายสำคัญ โดยจุดที่นำสื่อมวลชนเข้ามา คือ บ้านของ นายจิรัฏฐ์ เพ็ญโสภณวิชญ์ ชื่อเดิม นายจรัญ คำสด หรือ เอกอ้วน อดีตผู้ต้องขังคดียาเสพติด ตัวการใหญ่ระดับสั่งการในเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ ทำหน้าที่รวบรวมออเดอร์ยาเสพติดจากภาคต่างๆ และเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา โดยเข้ามาที่บ้านพักหรูแห่งหนึ่ง บนถนนราชพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ ในจังหวัดนนทบุรี ซึ่งผลการตรวจค้น เจ้าหน้าที่พบ นายจิรัฏฐ์ อยู่ในบ้านพักกับภรรยา เจ้าหน้าที่แสดงหมายค้นและหมายจับกุม พร้อมกับนำตรวจค้นในบ้านพัก
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ดำเนินการอายัดทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ อาทิ รถยนต์ 2 คัน เป็นรถเบนซ์ และ รถฮอนด้าซีวิค ป้ายแดง เงินสด 2 ล้านบาท รวมทั้งทรัพย์สินอื่นๆ ไว้ตรวจสอบตาม พรบ.มาตรการ
พล.ต.ท.สมหมาย กล่าวภายหลังการเข้าตรวจค้นว่า ในการเข้าจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าทีมีพยานหลักฐานว่า นายเอกอ้วน จะเป็นผู้รวบรวมออเดอร์ติดต่อประสานงานในการสั่งยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน มีพัฒนาการในการสั่งยาเสพติด โดยการให้บุคคลที่อยู่ในต่างประเทศ มาลงทะเบียนซิมโทรศัพท์มือถือ ก่อนที่จะโทรสั่งยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาจำหน่ายตามออเดอร์ และการจับกุมยาเสพติดเครือข่ายของนายเอกอ้วนในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี นับว่าเป็นการตัดตอนวงจรยาเสพติด ในส่วนของเครือข่ายนายเอกอ้วนได้จำนวนมาก
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหาตามหมายจับ ให้กับ นายจิรัฏฐ์ ทราบ โดยเบื้องต้น นายจิรัฏฐ์ ยังให้การปฏิเสธ เจ้าหน้าที่จึงทำบันทึกการจับกุมส่งพนักงานสอบสวนตามขั้นตอน
สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ ตำรวจปราบปรามยาเสพติด ได้ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 1 ใช้เวลาสืบสวนนานกว่า 10 เดือน หลังได้รับแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับเครือข่ายยาเสพติดพบความเคลื่อนไหวบัญชีทางการเงินกว่า 100 ล้านบาท เป็นเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญเชื่อมโยงหลายพื้นที่และมีผู้ร่วมขบวนการจำนวนมาก โดยมี เอกอ้วน ทำหน้าที่ประสานงาน เคยถูกจับกุมในคดียาเสพติด เมื่อปี 2555 แต่ศาลก็ยกฟ้องในที่สุด เพราะพยานหลักฐานอ่อน
อย่างไรก็ตาม ปฎิบัติการนี้ตำรวจนำกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นรวม 43 จุด แบ่งเป็นพื้นที่ กรุงเทพมหานคร 14 จุด ภาค 1 จำนวน 20 จุด , ภาค3 จำนวน 4 จุด และ ภาค 4 จำนวน 5 จุด มีผู้ต้องหาตามหมายจับศาลรวม 11 คน
http://news.sanook.com/3483278/
"เอกอ้วน" ยังให้การปฎิเสธ อ้างทรัพย์สินเป็นของญาติฝากไว้ รายได้จากร้านอาหารไม่เกี่ยวยาเสพติด ผบช.ปส.เผยยังมีผู้ต้องหาตามจับอีก 5 ราย ดูแลบัญชี
เอกอ้วน" ยังให้การปฎิเสธ อ้างทรัพย์สินเป็นของญาติฝากไว้ รายได้จากร้านอาหารไม่เกี่ยวยาเสพติด ผบช.ปส.เผยยังมีผู้ต้องหาตามจับอีก 5 ราย ดูแลบัญชี
จากกรณีหน่วยปฎิบัติการพิเศษสยบไพรี เจ้าหน้าที่บช.ปส. เปิดปฎิบัติการชัยยะสยบไพรี 60/6 ปิดล้อมตรวจค้นบ้านเป้าหมายค้ายาเสพติดระดับผู้สั่งการรายสำคัญสามารถจับกุมนายจิรัฏฐ์ เพ็ญโสภณวิชญ์ เดิมชื่อนายจรัญ คำสด หรือ “เอกอ้วน” ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 323/2560 ลงวันที่ 9 ก.ย.60 ตรวจยึดทรัพย์สินได้ทั้งหมดรวมกว่า 54 ล้านบาท และจับกุมผู้ต้องหาร่วมขบวนการได้อีก 10 คน เมื่อวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา
ต่อมาเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 13 กันยายน พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. กล่าวว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหายังคงให้การปฏิเสธว่าไม่ใช่ตัวกลางคอยติดต่อสั่งยาเสพติดจากกลุ่มว้า โดยทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ ส่วนใหญ่เป็นของญาติและครอบครัวที่นำมาฝากไว้ และเป็นรายได้จากการประกอบ ร้านอาหารชื่อ 555 ชิลชิล ย่านพัฒนาการ ไม่ได้มาจากการค้ายาเสพติด แต่จากการสอบสวนผู้ที่มีชื่อในการครอบครองทรัพย์สินที่ตรวจพบ ทุกคนรับว่าถือครองทรัพย์สินแทนนายจิรัฏฐ์ ส่วนร้านอาหารเชื่อว่าเป็นการอำพรางธุรกิจค้ายาเสพติดเท่านั้น และเชื่อว่ายังมีทรัพย์สินอีกมากที่ต้องขยายผลอายัดต่อไป ซึ่งต้องรอผลการตรวจสอบจาก ปปง. ส่วนเรื่องขบวนการค้ายาเสพติด ยังมีผู้ต้องหาที่ต้องติดตามจับกุมอีกอย่างน้อย 5 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 2 คน สัญชาติเมียนมา ทำหน้าที่ดูแลบัญชีทางการเงินให้กับผู้ว่าจ้างในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน และเป็นผู้ติดต่อแหล่งผลิตให้นายจิรัฏฐ์ ทั้งนี้ตำรวจยังอยู่ระหว่างการขยายผลเครือข่ายรายย่อยที่เชื่อมโยงกับขบวนการนี้ที่เชื่อว่าอาจมีมากกว่า 10 เครือข่าย ส่วนแนวทางการสอบสวนที่เชื่อว่านายปัญญา ยิ้มอำไพ หรือเก่ง ลายพราง เน็ตไอดอลชื่อดังมีส่วนพัวพันกับเครือข่ายยาเสพติดของนายจรัญ ขณะนี้ยังไม่พบเบาะแสหลักฐานความเชื่อมโยง อยู่ระหว่างการขยายผลสอบสวนเพิ่มเติม
พล.ต.ท.สมหมายกล่าวต่อว่า สำหรับภาพรวมสถานการณ์ยาเสพติดตั้งแต่ 1 ต.ค. 59 - 31 ส.ค.ที่ผ่านมา มีการจับกุมคดียาเสพติดแล้ว 238,000 กว่าคดี จับกุมผู้ต้องหาได้มากกว่า 2 แสนคน จับกุมยาเสพติดยาบ้าไปแล้ว 196 ล้านเม็ด ไอซ์ 4,700 กิโลกรัม โคเคน 52 กิโลกรัม กัญชาแห้ง 16,000 กิโลกรัม ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาพบมีการจับกุมยาเสพติดสูงขึ้นกว่า 200%
http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/772659
มาลารินยกให้ท่านเป็นฮีโร่ในการปราบปรามยาเสพติดในดวงใจเลยค่ะ
ท่านใช้กฎหมายจัดการอย่างไม่ย่อท้อ
ท่านมีความพยายามที่จะจัดการคนผิดไม่ให้หลุดมือ ซึ่งต้องใช้เวลานาน
แต่ท่านอดทนเพื่อทำงานนี้
หัวใจท่านหล่อมากค่ะ พระเอกสายตำรวจของประชาชนตัวจริง
ไม่มีริ้วรอยให้ใครตำหนิในเรื่องตัดตอนเหมือนยุคลุงที่ชื่อทักษิณ
ขอให้กำลังใจท่านนะคะ..