ไร้รอยเบรก! ครูขับเก๋ง หลุดโค้งชนเสาไฟฟ้า ไฟลุกท่วม เสียชีวิตคาซาก จ.อำนาจเจริญ
ชาวบ้านผวาโค้งมรณะ เกิดอุบัติเหตุจนมีคนตายบ่อยครั้ง ล่าสุดครูวัย 55 ปี หลับในขับเก๋งหลุดโค้งชนเสาไฟฟ้า ไฟลุกท่วมรถทั้งคัน ชาวบ้านผ่านมาเห็นนำคนขับออกมาได้แต่สุดท้ายไม่รอดคาดดับคาที่
เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ร.ต.อ.ภัคภพ พูลเพิ่ม พนักงานสอบสวน สภ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีอุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า เกิดไฟลุกท่วมรถทั้งคัน ที่บริเวณถนนขาออกสายอำนาจเจริญ-อุบลราชธานี ห่างจากหมู่บ้านโคกกลาง อ.ลืออำนาจ ประมาณ 300 เมตร ที่เกิดแหตุมีชายวัยกลางคนเสียชีวิต 1 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่กู้ภัย และแพทย์เวร รพ.ลืออำนาจ รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับบริเวณดังกล่าวช่วยกันนำร่างของชายวัยกลางคนทราบชื่อภายหลังคือ นายวิศิษฎ์ศักดิ์ จันทพันธ์ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 ม.8 ต.ข้าวปุ้น อ.กุดข้าวปุ้น จ.อุบลราชธานี ข้าราชการครูบำนาญออกมาจากรถคันดังกล่าวแล้ว
จากการตรวจสอบพบว่าชายคนดังกล่าวได้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะเสียชีวิตตั้งแต่ตอนที่เกิดอุบัติเหตุและติดอยู่ในรถแล้ว ใกล้กันพบรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า วีออส เกิดไฟลุกท่วมทั้งคัน ชนกับเสาไฟฟ้า เจ้าหน้าที่และชาวบ้านพากันนำน้ำมาระงับเพลิงที่ลุกท่วมรถแต่ไม่เป็นผล จึงได้ประสานขอรถดับเพิลงจากเทศบาลลืออำนาจ ให้เข้ามาฉีดน้ำสกัดเพลิงที่ลุกท่วมรถ ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีจึงสามารถดับไฟที่ไหม้รถได้
จากการสอบถามนายไพรินทร์ ศรีประชัย ชาวบ้านผู้เห็นการณ์เป็นคนแรก เล่าว่า ตนเพิ่งกรีดยางที่สวนเสร็จจะนำน้ำยางที่กรีดได้ไปขายในตัวอำเภอลืออำนาจ โดยขณะขับผ่านมาที่จุดเกิดเหตุเห็นรถคันดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุชนกับเสาไฟฟ้าและมีไฟลุกท่วม ตนจึงพยายามช่วยและนำร่างของคนขับที่ติดอยู่ในรถออกมา ซึ่งตอนนั้นตนเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนขับรถคันดังกล่าวตายแล้วหรือยังมีชีวิตอยู่ พอช่วยออกมาได้จึงได้รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมารู้อีกครั้งว่าเสียชีวิตแล้วก็ตอนที่ทางเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงและมาตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถาม นายชัยนันท์ บุญแปลง อายุ 38 ปี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ละแวกนั้นทำให้ทราบว่าที่บริเวณดังกล่าวมีการเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และมีผู้เสียชีวิตทุกครั้งที่เกิดอุบัติเหตุ จนชาวบ้านต่างพากันผวาเรียกจุดดังกล่าวว่าโค้งมรณะ เนื่องจากก่อนหน้านี้ที่มีการก่อสร้างถนนใหม่ก็มีรถชนเสาไฟฟ้าตายคาที่เช่นกัน
และเมื่อปีที่แล้วก็มีครูที่กำลังขับรถกลับบ้านที่อำเภอลืออำนาจก็เกิดอุบัติเหตุชนเสาไฟฟ้าและตายที่จุดดังกล่าวเช่นกัน ทำให้ชาวบ้านต่างพากันหวาดกลัว เนื่องจากถนนดังกล่าวไม่ได้มีชำรุดหรือมีหลุมมีบ่อ มีไฟส่องสว่างเห็นถนนอย่างชัดเจน และถึงแม้เป็นทางโค้งก็ไม่ได้โค้งอันตรายมากจนพอที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
ด้าน ร.ต.อ.ภัคภพ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการเบรกรถหรือการเกิดการชนเฉี่ยวชน ก่อนที่รถคันดังกล่าวจะพุ่งชนเสาไฟฟ้าแต่อย่าใด ส่วนสาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุนั่นคาดว่าคนขับน่าจะหลับในขณะที่ขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุ จนทำให้เสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า จนกระทั่งมีคนมาพบเห็นและแจ้งมายังเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ก็ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว และได้ติดต่อให้ญาติของผู้ตายมาศพของผู้ตายไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_507196 
ไร้รอยเบรก! ครูขับเก๋ง หลุดโค้งชนเสาไฟฟ้า ไฟลุกท่วม เสียชีวิตคาซาก จ.อำนาจเจริญ
ชาวบ้านผวาโค้งมรณะ เกิดอุบัติเหตุจนมีคนตายบ่อยครั้ง ล่าสุดครูวัย 55 ปี หลับในขับเก๋งหลุดโค้งชนเสาไฟฟ้า ไฟลุกท่วมรถทั้งคัน ชาวบ้านผ่านมาเห็นนำคนขับออกมาได้แต่สุดท้ายไม่รอดคาดดับคาที่
เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ร.ต.อ.ภัคภพ พูลเพิ่ม พนักงานสอบสวน สภ.ลืออำนาจ จ.อำนาจเจริญ ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีอุบัติเหตุรถยนต์เสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า เกิดไฟลุกท่วมรถทั้งคัน ที่บริเวณถนนขาออกสายอำนาจเจริญ-อุบลราชธานี ห่างจากหมู่บ้านโคกกลาง อ.ลืออำนาจ ประมาณ 300 เมตร ที่เกิดแหตุมีชายวัยกลางคนเสียชีวิต 1 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ประสานไปยังเจ้าหน้าที่กู้ภัย และแพทย์เวร รพ.ลืออำนาจ รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านที่อยู่ใกล้กับบริเวณดังกล่าวช่วยกันนำร่างของชายวัยกลางคนทราบชื่อภายหลังคือ นายวิศิษฎ์ศักดิ์ จันทพันธ์ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 ม.8 ต.ข้าวปุ้น อ.กุดข้าวปุ้น จ.อุบลราชธานี ข้าราชการครูบำนาญออกมาจากรถคันดังกล่าวแล้ว
จากการตรวจสอบพบว่าชายคนดังกล่าวได้เสียชีวิตแล้ว ซึ่งคาดว่าน่าจะเสียชีวิตตั้งแต่ตอนที่เกิดอุบัติเหตุและติดอยู่ในรถแล้ว ใกล้กันพบรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า วีออส เกิดไฟลุกท่วมทั้งคัน ชนกับเสาไฟฟ้า เจ้าหน้าที่และชาวบ้านพากันนำน้ำมาระงับเพลิงที่ลุกท่วมรถแต่ไม่เป็นผล จึงได้ประสานขอรถดับเพิลงจากเทศบาลลืออำนาจ ให้เข้ามาฉีดน้ำสกัดเพลิงที่ลุกท่วมรถ ใช้เวลาประมาณ 20 นาทีจึงสามารถดับไฟที่ไหม้รถได้
จากการสอบถามนายไพรินทร์ ศรีประชัย ชาวบ้านผู้เห็นการณ์เป็นคนแรก เล่าว่า ตนเพิ่งกรีดยางที่สวนเสร็จจะนำน้ำยางที่กรีดได้ไปขายในตัวอำเภอลืออำนาจ โดยขณะขับผ่านมาที่จุดเกิดเหตุเห็นรถคันดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุชนกับเสาไฟฟ้าและมีไฟลุกท่วม ตนจึงพยายามช่วยและนำร่างของคนขับที่ติดอยู่ในรถออกมา ซึ่งตอนนั้นตนเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคนขับรถคันดังกล่าวตายแล้วหรือยังมีชีวิตอยู่ พอช่วยออกมาได้จึงได้รีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และมารู้อีกครั้งว่าเสียชีวิตแล้วก็ตอนที่ทางเจ้าหน้าที่เดินทางมาถึงและมาตรวจสอบ
ผู้สื่อข่าวยังได้สอบถาม นายชัยนันท์ บุญแปลง อายุ 38 ปี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ละแวกนั้นทำให้ทราบว่าที่บริเวณดังกล่าวมีการเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และมีผู้เสียชีวิตทุกครั้งที่เกิดอุบัติเหตุ จนชาวบ้านต่างพากันผวาเรียกจุดดังกล่าวว่าโค้งมรณะ เนื่องจากก่อนหน้านี้ที่มีการก่อสร้างถนนใหม่ก็มีรถชนเสาไฟฟ้าตายคาที่เช่นกัน
และเมื่อปีที่แล้วก็มีครูที่กำลังขับรถกลับบ้านที่อำเภอลืออำนาจก็เกิดอุบัติเหตุชนเสาไฟฟ้าและตายที่จุดดังกล่าวเช่นกัน ทำให้ชาวบ้านต่างพากันหวาดกลัว เนื่องจากถนนดังกล่าวไม่ได้มีชำรุดหรือมีหลุมมีบ่อ มีไฟส่องสว่างเห็นถนนอย่างชัดเจน และถึงแม้เป็นทางโค้งก็ไม่ได้โค้งอันตรายมากจนพอที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้
ด้าน ร.ต.อ.ภัคภพ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการเบรกรถหรือการเกิดการชนเฉี่ยวชน ก่อนที่รถคันดังกล่าวจะพุ่งชนเสาไฟฟ้าแต่อย่าใด ส่วนสาเหตุที่เกิดอุบัติเหตุนั่นคาดว่าคนขับน่าจะหลับในขณะที่ขับรถมาถึงจุดเกิดเหตุ จนทำให้เสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า จนกระทั่งมีคนมาพบเห็นและแจ้งมายังเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ก็ลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว และได้ติดต่อให้ญาติของผู้ตายมาศพของผู้ตายไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_507196