นับเป็นเวลาเดือนกว่า กับรถ New R15 2017 ซึ่งตอนแรกไม่มีแผนว่าจะซื้อด้วยซ้ำ (เพราะตอนนั้นยังขับ M-slaz จ่ายกับข้าว) แต่ด้วยความตั้งใจอยากลองระบบใหม่ที่ Yamaha เคลมว่าดีอย่าง VVA และ slipper clutch ที่ดูเย้ายวนมากชวนให้เสียเงิน และสุดท้าย Yamaha ก็ได้เงินจากผมไปโดยไม่ต้องอ้อมค้อม โดยที่ผมไม่ได้เข้าร่วมทดสอบใดๆทั้งสิ้น (เพราะมีประสบการณ์ติดตัวมาจากรถใหญ่อยู่แล้ว) ตอนเวลาที่ได้รถอาการเหมือนคนขี้ไม่ออก อยากกดมันสัก 140 แต่ทำได้แต่ 5000รอบต่อนาที กับความเร็วไม่เกิน 80 Km/h (หงุดหงิดมาก เลยรีบบดให้ครบ 1000. กม.)
รถจ่ายกับข้าวคันที่ว่า (Mslaz)
โอเคมาเข้าเรื่องกันก่อนดีกว่า ในช่วงอาทิตย์แรกผมพยายามบดรันอินให้ได้ 1000 ก.ม. เพื่อเข้ารับการเปลี่ยนถ่ายของเหลว และ ไส้กรองน้ำมันเครื่อง และ เช็คระบบต่างๆตามข้อกำหนดของศูนย์บริการ ตอนที่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องไม่รอช้าหยิบ Repsol 1+D 10W40 1 ลิตร สังเคราะห์ 100% ออกมาจากกระเป๋า ยื่นให้ช่าง ช่างทำหน้างง ผมบอกไม่ต้องงง ผมจะใช้อันนี้
ช่างถามทำไมถึงไม่ใช้ Yamalube คำตอบที่ให้ไปคือ กลางสี่แยกไฟแดงคนยังร้อน รถจะไม่ร้อนคงเป็นไปไม่ได้ (เพราะคันเก่าเคยใช้แล้วกลางไฟแดงรถคนอื่นพัดลมดังกันสนุกสนาน รถผมเงียบก็ต้องยอมรับแหละน้ำมันเครื่องมันดี) ช่างถามแน่ใจนะ ก่อนจะใส่ลงไป ผมก็ยิ้มๆ บอกแน่ใจแล้วละ (รอบหน้าจะใส่ 300V 10W40)
เมื่อเซอร์วิสเสร็จ พร้อมกลับบ้านไหนๆ มันก็หมด 1000 กม. แรกก็ขอหน่อยเหอะ (อั้นมานาน) ขากลับโซโล่ยาวๆมาเลยเพื่อลองทั้งหมดของรถที่มี แต่ก็นะ หวังไว้ 140 ไวๆ ก็ไม่ได้ไวแบบที่คิดเอาไว้ ลากกันพอสมควรกว่าจะได้ 140 ถ้าเทียบกับค่ายเพื่อนบ้านแล้วบอกตรงๆ เขาไปกันนานแล้ว 140 เราก็ตามไป แอบแรงไปแซงเอาทางโค้ง ผลปรากฏคือ
1. VVA ที่ Yamaha นำเสนอตอนโฆษณาที่ช่วยเรื่องอัตราเร่งรอบปลายตั้งแต่ 7,500 รอบขึ้นไปจนถึงกล่องตัดที่ 10,000 รอบ VVA ทำงาน พอได้ลองปับผมก็เฉยๆ มันไม่ได้เพิ่มจนสัมผัสได้ว่าเฮ้ยมันมีแรงกระชาก แต่มันก็ทำเอาตกใจคือมันไปแบบนิ่มๆคือค่อยๆไปแบบนิ่มๆ ไปเรื่อยๆ แปปเดียวหมดเกียร์ ก็ทำเอาประหลายใจดีเหมือนกัน แม้ว่ามันจะมี VVA มาชดเชยเรื่องระบบกำลังของรถ ให้สู้พวก 150R ของค่ายอื่นๆได้ (พวกนั้น 2 แคม 4 วาล์ว แถมรถขนาดเล็กกว่า ยางเล็กกว่า ทางตรงยาวๆ เขาได้เปรียบตอนรอบปลาย แต่ความหล่อเราได้เปรียบ) แต่ก็น่าจะยากหน่อยเพราะอย่างที่บอกมันไม่ได้กระชากจนรู้สึกว่าเฮ้ยมันมี แต่รวมๆประทับใจเหมือนกัน เพราะมันเหมือนไปนิ่มๆเนียลๆ แต่เริ่มเห็นประโยชร์จริงๆ ตอนที่เข้าโค้งครับ และ จังหวัออกจากโค้งที่เป็น เรซซิ่งไลน์
2. slipper clutch ชื่อมันก็บอกอยู่แล้ว คลัชที่สามารถลื่นได้ แต่เสียดายที่มันไม่ใช่ Fully slipper clutch มันยังเป็นแค่กึ่ง slipper clutch คือถ้าให้พูดแบบตรงๆศัพท์ชาวบ้านเลยก็คือมันไม่เหมือนของรถใหญ่ 600CC อัพที่มี slipper clutch (เลย) แต่ก็มีผลกับการลดแรงกระชากเวลามาเร็วๆแล้วตบเกียร์ลง มันก็ท่อนกำลังฉุดลงไปได้ไม่เยอะเท่าไร แต่ก็ดีกว่าล้อล็อคแน่นอน (ซึ่ง 150CC ผมขับมาก็ยังไม่เคยเจออาการล้อล็อค แต่คนอื่นอาจจะเจอมาแล้ว) อารมณ์แบบว่า เกรียร์ 6 กดกลับไป 4 ตบลง 2 เกียร์ ปล่อยคลัชปับ ล้อยังปัดอยู่ ไม่ได้เหมือน Fully slipper clutch แบบรถใหญ่ที่กล่าวมา แต่ก็กระชากหน่อยลงจนสัมผัสได้ว่า มันโอเครอยู่ระดับนึ่ง
อันนี้ประสบการณ์บทหนึ่ง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ประสบการณ์ของผมคือ ตอนขับรถใหญ่พิกัด 1000 CC (หลายปีแล้วครับ)ลอง slipper clutch ครั้งแรกคือด้วยความที่ไม่เคยขับ slipper clutch มาก่อนลองขับครั้งแรกเกือบตายตรงที่รถมาเร็วๆบนถนนหลัก แล้วด้วยความที่ชินกับการใช้ Engine Break เลยกดลงไปปรากฏว่ารถไหลครับเพราะ slipper clutch ติดรถนี้แหละ ดีที่เบรกทันไม่งั้นชนกับคันหน้า อันนี้ด้วยความไม่รู้และความประมาท (แบบโง่ๆ) หลังจากนั้นมากพอรู้ว่ามันทำอะไรได้ ก็กดมันส์แทบทุกโค้งเลยที่นี้ (เหมือนตอนแรกที่รู้จัก quickshifter พอลองปับอยากให้รถมันมีสัก 50 เกียร์)
3. อาการเลี้ยงปลาในรถ (น้ำเข้าหน้าปัด) ตอนแรกคิดว่าโชคดีเห็นคนอื่นเป็นแต่เราไม่เป็น ปรากฏล้างรถปับน้ำเข้าตามท่านอื่นเลย เปล่าเลยที่จริงฉีดน้ำอัดเข้าไปบริเวณหน้ารถ และ หน้าปัด ยังไงน้ำก็เข้าเพราะมันมีปัญหาที่กระจกครอบหน้าปัดนั้นแหละ น้ำมันเลยซึ่มเข้าได้ทุกทิศที่เราฉีด ซ้ำร้ายกว่านั้น น้องที่รู้จักกัน น้ำเข้าแม้กระทั้งไฟเลี้ยวทุกดวง บางคันเป็นไอน้ำในไฟเลี้ยวเลยก็มี แสดงว่าได้ของแท้กันทุกคัน (ของปลอมไม่มีปัญหาเขาแซวกันแบบนี้)
4. อาการเบรกหาย ไม่ใช่รถผมที่มีอาการดังกล่าวนะครับ เพราะทุกคนรู้สึกได้ว่า เบรกหน้าเดิมๆ ถ้าไม่กดลงลึกจริงๆ มันจะเหมือนเบรกว่าวไปเลย แทบไม่รู้สึกว่ามันเบรก แต่เอาเข้าจริงๆพอลองได้ทำความเข้าใจ ถึงได้ทราบว่าจริงๆมันเบรกแต่เพราะโช็คหน้ากับยาง 100/80/17 นี้แหละที่ทำให้เรารู้สึกไปเองว่าเบรกมันว่าว เนื่องจากมันนิ่ม และ โช็คหน้าทีมีขนาดใหญ่กว่าของ M-slaz ความกระด่างไม่มี มีแต่ความนิ่ม โอเคไม่เป็นไรถ้าเข้าใจผิดไป แต่เบรกหลังเนี้ย บอกตรงๆ กดแรงแค่ไหน ก็เหมือนเอานิ้วไปบีบเสาร์ไฟฟ้า จะให้มันหักมันไม่หักหรอก แต่ไม่มีแรงต้านจากล้อหลังเลย ก็ต้องแก้ไขโดยการไปหาตัวดึงกระทุ้งหลังที่ดึงได้ลึกกว่าเดิมมาใส่แทนไม่งั้นมาเร็วๆ เบรกไม่ทันก็คงเหนื่อยกู้ภัยอีกนั้นแหละ
5. อาการปวดข้อมือเพราะสรีระของรถมันผิดไป ถ้ามันจะเป็นสปอร์ตมันต้องก้ม ก้มคือตำแหน่งของแฮนด์จะต้องอยู่ต่ำกว่าเอวของคนขับ แต่เปล่าเลยจากรูปนี้จะเห็นว่า พอไปคล่อมจริงๆ แฮนด์กับแผงคอมยังอยู่เหนือเอว จังหวะที่ต้องขับจริง จะต้องก้มเพื่อเอาแขนกับมือไปยันกับแฮนด์ พอขับไปนานๆจะเริ่มรู้สึกแล้วว่า ปวดมือข้อมือและนิ้ว เพราะมันตึงไปหมด ทางแก้คือ (ซึ่งแก้แล้ว) ไปปาดเบาะคนขับ และ คนซ้อนให้สูงขึ้นกว่าเดิม เพื่อก้มง่ายๆ ไม่ต้องเอาแขนไปยัน ปรากฏหายปวดครับ แต่โคตะระเขย่งมากตอนติดไฟแดง เรียนบันเล่กลางไฟแดง หรือ จิงโจ้กลางไฟแดงในกรุงเทพ ประมาณนั้นแล้วกัน
6. ยังไม่เจออาการน้ำมันเครื่องหาย แต่คงจะต้องมากกว่า 10,000 กม. แล้วมาดูกันอีกที
======================================
โอเคแหละพอรับได้กับทุกข้อที่กล่าวมาพอเรารู้ปัญหาของรถ เราก็ต้องแก้ (ทั้งๆที่บางข้อไม่ใช้ปัญหาของ Yamaha แต่เป็นปัญหาของ...... นี้แหละ)
1. Yamaha เคลมหน้าปัดทุกตัว ไฟเลี้ยวทุกตัว ได้ที่ศูนย์บริการ Yamaha เพียงแจ้งเรื่องเคลมไว้ และรออะไหล่มาไปเปลี่ยนได้เลย ข้อนี้ผมบอกตรงๆ บางศูนย์บริการมันก็หัวหมอเกินไปนะ ไม่ได้ซื้อรถที่เขา เขาไม่เคลมไม่ดำเนินการใดๆให้ (อย่าให้ถึงกับต้องชี้เป้าเดียวจะบันเทิง) ซึ่งบอกตามตรงรถค่ายนี้แพง คนก็ยอมซื้อเพราะสวยและอื่นๆก็โอเคกับสเป็ค แต่กราบขอร้องเหอะ อย่า 2 มาตรฐานแบบที่กล่าวไว้เลย ดูอย่าง Wing Center เป็นตัวอย่างแล้วกันซื้อที่ไหนไม่ว่า เสียตรงไหนเคลมได้แถวนั้น แม้จะมีค่าบริการก็ตาม เขาก็โอเคแล้วกันว่าเคลมได้ ฝาก Yamaha Thailand ไว้ด้วยนะครับ ปัญหานี้เรื้อรังมานานมาก (โคตะระนานตั้งแต่สมัย R15 ตัวแรกขายคิดเอาแล้วกันว่ากี่ปี) ส่วนไอ้น้ำเข้าไฟเลี้ยว ผมก็ไม่ได้อะไรมาก เปลี่ยนไฟเลี้ยว LED ของ Rizoma ไปแทนเรียบร้อย เสียเงินรอบเดียว จบทุกปัญหาดีกว่า
2. อาการที่ว่าปวดนิ้วเวลาย้ำเบรกย้ำคลัช ผมก็แก้ด้วยสิ่งที่ทดแทนได้โดยไม่ต้องไปตั้งสายให้รอบคลัชเพี้ยน หรือ ไล่น้ำมันเบรกใหม่ ก็เปลี่ยนยกชุดไปเลยทั้งสองข้าง ก้านคลัชตอนแรกจะใช้ของ Biker แต่ก็นะเรื่องราคาไหนๆจะแพงแล้ว ก็ลง CRG ไปเลยแล้วกัน สะดวกตรงที่ปรับสายเอาได้โดยไม่ต้องมานั้งตั้งให้เสียเวลา สับเอาง่ายๆถ้ามันสูงไปก็ปรับลงมา ถ้ามันต่ำไปก็ปรับสูงขึ้นไปสะดวกสบายดี เวลาขับในเมืองหรือออกทรืป ไม่ต้องตั้งสาย ส่วนฝั้งเบรก ตอนแรกจะเอาโลโก้ขาวเบอร์ 19 แต่มาคิดถึงคนที่โดยขโมยอะไหล่กันรายวันก็เสี่ยวๆ เลยเอาแค่ก้านพับปรับระดับได้พอคู่ละ 900 กว่าบาท งานแข็งๆใช้แทนกันได้ลงตัวดี
3. อาการเบรกหลังหายๆ กดไม่อยู่ ก็แก้โดยการเอาตัวดึงกระทุ่งหลังรุ่นอื่นมาใส่แทนเพื่อให้มันกดเบาๆแล้วดึงได้จนสุด ในข้อนี้ผมใช้ของ GTR หาได้แถวบ้านราคาไม่แพง 200 - 350 แล้วแต่ร้าน
========================================
หมดแล้วครับสำหรับสิ่งที่เจอแล้วเอามาแบ่งปันกัน โอกาศหน้าไปลองคล่อมตัวไหนมาจะเอาแบ่งปันแนวทางการซ่อมต่อครับ
P.s. หลายคนตามจากกระทู้เก่าผมเยอะมากขอตั้งกลุ่มสำหรับทุกรุ่นไว้เลยแล้วกันครับ
https://www.facebook.com/groups/YZFandM/
P.s. กระทู้เก่า
https://ppantip.com/topic/36041963
เดียวถ้าไม่ผิดอะไรหลังจากที่ทำคลิปเสร็จ จะเอาคลิปมาลงอีกกระทู้เรื่อง Top Speed , อัตราเร่ง , และ จังหวะโค้งในสนาม มาดูกันว่า ทั้งหมดทั้งมวลคุ้มกับเงินที่เสียไปมากน้อยแค่ไหน แต่บอกตรงๆ ยาง 100 / 80 / 17 - 140 / 70 / 17 ให้ฟิวที่ดีในการเลี้ยวโค้งมาก แต่ถ้าได้ 100 / 70 / 17 จากโรงงานมาเลยจะมันส์มากครับ
[พูดคุย] 1 เดือน 1 วัน กับ All New R15 2017 ปัญหาเก่าที่จบไป และ ปัญหาใหม่ที่กำลังมี
นับเป็นเวลาเดือนกว่า กับรถ New R15 2017 ซึ่งตอนแรกไม่มีแผนว่าจะซื้อด้วยซ้ำ (เพราะตอนนั้นยังขับ M-slaz จ่ายกับข้าว) แต่ด้วยความตั้งใจอยากลองระบบใหม่ที่ Yamaha เคลมว่าดีอย่าง VVA และ slipper clutch ที่ดูเย้ายวนมากชวนให้เสียเงิน และสุดท้าย Yamaha ก็ได้เงินจากผมไปโดยไม่ต้องอ้อมค้อม โดยที่ผมไม่ได้เข้าร่วมทดสอบใดๆทั้งสิ้น (เพราะมีประสบการณ์ติดตัวมาจากรถใหญ่อยู่แล้ว) ตอนเวลาที่ได้รถอาการเหมือนคนขี้ไม่ออก อยากกดมันสัก 140 แต่ทำได้แต่ 5000รอบต่อนาที กับความเร็วไม่เกิน 80 Km/h (หงุดหงิดมาก เลยรีบบดให้ครบ 1000. กม.)
โอเคมาเข้าเรื่องกันก่อนดีกว่า ในช่วงอาทิตย์แรกผมพยายามบดรันอินให้ได้ 1000 ก.ม. เพื่อเข้ารับการเปลี่ยนถ่ายของเหลว และ ไส้กรองน้ำมันเครื่อง และ เช็คระบบต่างๆตามข้อกำหนดของศูนย์บริการ ตอนที่เปลี่ยนน้ำมันเครื่องไม่รอช้าหยิบ Repsol 1+D 10W40 1 ลิตร สังเคราะห์ 100% ออกมาจากกระเป๋า ยื่นให้ช่าง ช่างทำหน้างง ผมบอกไม่ต้องงง ผมจะใช้อันนี้
ช่างถามทำไมถึงไม่ใช้ Yamalube คำตอบที่ให้ไปคือ กลางสี่แยกไฟแดงคนยังร้อน รถจะไม่ร้อนคงเป็นไปไม่ได้ (เพราะคันเก่าเคยใช้แล้วกลางไฟแดงรถคนอื่นพัดลมดังกันสนุกสนาน รถผมเงียบก็ต้องยอมรับแหละน้ำมันเครื่องมันดี) ช่างถามแน่ใจนะ ก่อนจะใส่ลงไป ผมก็ยิ้มๆ บอกแน่ใจแล้วละ (รอบหน้าจะใส่ 300V 10W40)
เมื่อเซอร์วิสเสร็จ พร้อมกลับบ้านไหนๆ มันก็หมด 1000 กม. แรกก็ขอหน่อยเหอะ (อั้นมานาน) ขากลับโซโล่ยาวๆมาเลยเพื่อลองทั้งหมดของรถที่มี แต่ก็นะ หวังไว้ 140 ไวๆ ก็ไม่ได้ไวแบบที่คิดเอาไว้ ลากกันพอสมควรกว่าจะได้ 140 ถ้าเทียบกับค่ายเพื่อนบ้านแล้วบอกตรงๆ เขาไปกันนานแล้ว 140 เราก็ตามไป แอบแรงไปแซงเอาทางโค้ง ผลปรากฏคือ
1. VVA ที่ Yamaha นำเสนอตอนโฆษณาที่ช่วยเรื่องอัตราเร่งรอบปลายตั้งแต่ 7,500 รอบขึ้นไปจนถึงกล่องตัดที่ 10,000 รอบ VVA ทำงาน พอได้ลองปับผมก็เฉยๆ มันไม่ได้เพิ่มจนสัมผัสได้ว่าเฮ้ยมันมีแรงกระชาก แต่มันก็ทำเอาตกใจคือมันไปแบบนิ่มๆคือค่อยๆไปแบบนิ่มๆ ไปเรื่อยๆ แปปเดียวหมดเกียร์ ก็ทำเอาประหลายใจดีเหมือนกัน แม้ว่ามันจะมี VVA มาชดเชยเรื่องระบบกำลังของรถ ให้สู้พวก 150R ของค่ายอื่นๆได้ (พวกนั้น 2 แคม 4 วาล์ว แถมรถขนาดเล็กกว่า ยางเล็กกว่า ทางตรงยาวๆ เขาได้เปรียบตอนรอบปลาย แต่ความหล่อเราได้เปรียบ) แต่ก็น่าจะยากหน่อยเพราะอย่างที่บอกมันไม่ได้กระชากจนรู้สึกว่าเฮ้ยมันมี แต่รวมๆประทับใจเหมือนกัน เพราะมันเหมือนไปนิ่มๆเนียลๆ แต่เริ่มเห็นประโยชร์จริงๆ ตอนที่เข้าโค้งครับ และ จังหวัออกจากโค้งที่เป็น เรซซิ่งไลน์
2. slipper clutch ชื่อมันก็บอกอยู่แล้ว คลัชที่สามารถลื่นได้ แต่เสียดายที่มันไม่ใช่ Fully slipper clutch มันยังเป็นแค่กึ่ง slipper clutch คือถ้าให้พูดแบบตรงๆศัพท์ชาวบ้านเลยก็คือมันไม่เหมือนของรถใหญ่ 600CC อัพที่มี slipper clutch (เลย) แต่ก็มีผลกับการลดแรงกระชากเวลามาเร็วๆแล้วตบเกียร์ลง มันก็ท่อนกำลังฉุดลงไปได้ไม่เยอะเท่าไร แต่ก็ดีกว่าล้อล็อคแน่นอน (ซึ่ง 150CC ผมขับมาก็ยังไม่เคยเจออาการล้อล็อค แต่คนอื่นอาจจะเจอมาแล้ว) อารมณ์แบบว่า เกรียร์ 6 กดกลับไป 4 ตบลง 2 เกียร์ ปล่อยคลัชปับ ล้อยังปัดอยู่ ไม่ได้เหมือน Fully slipper clutch แบบรถใหญ่ที่กล่าวมา แต่ก็กระชากหน่อยลงจนสัมผัสได้ว่า มันโอเครอยู่ระดับนึ่ง
อันนี้ประสบการณ์บทหนึ่ง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
3. อาการเลี้ยงปลาในรถ (น้ำเข้าหน้าปัด) ตอนแรกคิดว่าโชคดีเห็นคนอื่นเป็นแต่เราไม่เป็น ปรากฏล้างรถปับน้ำเข้าตามท่านอื่นเลย เปล่าเลยที่จริงฉีดน้ำอัดเข้าไปบริเวณหน้ารถ และ หน้าปัด ยังไงน้ำก็เข้าเพราะมันมีปัญหาที่กระจกครอบหน้าปัดนั้นแหละ น้ำมันเลยซึ่มเข้าได้ทุกทิศที่เราฉีด ซ้ำร้ายกว่านั้น น้องที่รู้จักกัน น้ำเข้าแม้กระทั้งไฟเลี้ยวทุกดวง บางคันเป็นไอน้ำในไฟเลี้ยวเลยก็มี แสดงว่าได้ของแท้กันทุกคัน (ของปลอมไม่มีปัญหาเขาแซวกันแบบนี้)
4. อาการเบรกหาย ไม่ใช่รถผมที่มีอาการดังกล่าวนะครับ เพราะทุกคนรู้สึกได้ว่า เบรกหน้าเดิมๆ ถ้าไม่กดลงลึกจริงๆ มันจะเหมือนเบรกว่าวไปเลย แทบไม่รู้สึกว่ามันเบรก แต่เอาเข้าจริงๆพอลองได้ทำความเข้าใจ ถึงได้ทราบว่าจริงๆมันเบรกแต่เพราะโช็คหน้ากับยาง 100/80/17 นี้แหละที่ทำให้เรารู้สึกไปเองว่าเบรกมันว่าว เนื่องจากมันนิ่ม และ โช็คหน้าทีมีขนาดใหญ่กว่าของ M-slaz ความกระด่างไม่มี มีแต่ความนิ่ม โอเคไม่เป็นไรถ้าเข้าใจผิดไป แต่เบรกหลังเนี้ย บอกตรงๆ กดแรงแค่ไหน ก็เหมือนเอานิ้วไปบีบเสาร์ไฟฟ้า จะให้มันหักมันไม่หักหรอก แต่ไม่มีแรงต้านจากล้อหลังเลย ก็ต้องแก้ไขโดยการไปหาตัวดึงกระทุ้งหลังที่ดึงได้ลึกกว่าเดิมมาใส่แทนไม่งั้นมาเร็วๆ เบรกไม่ทันก็คงเหนื่อยกู้ภัยอีกนั้นแหละ
5. อาการปวดข้อมือเพราะสรีระของรถมันผิดไป ถ้ามันจะเป็นสปอร์ตมันต้องก้ม ก้มคือตำแหน่งของแฮนด์จะต้องอยู่ต่ำกว่าเอวของคนขับ แต่เปล่าเลยจากรูปนี้จะเห็นว่า พอไปคล่อมจริงๆ แฮนด์กับแผงคอมยังอยู่เหนือเอว จังหวะที่ต้องขับจริง จะต้องก้มเพื่อเอาแขนกับมือไปยันกับแฮนด์ พอขับไปนานๆจะเริ่มรู้สึกแล้วว่า ปวดมือข้อมือและนิ้ว เพราะมันตึงไปหมด ทางแก้คือ (ซึ่งแก้แล้ว) ไปปาดเบาะคนขับ และ คนซ้อนให้สูงขึ้นกว่าเดิม เพื่อก้มง่ายๆ ไม่ต้องเอาแขนไปยัน ปรากฏหายปวดครับ แต่โคตะระเขย่งมากตอนติดไฟแดง เรียนบันเล่กลางไฟแดง หรือ จิงโจ้กลางไฟแดงในกรุงเทพ ประมาณนั้นแล้วกัน
6. ยังไม่เจออาการน้ำมันเครื่องหาย แต่คงจะต้องมากกว่า 10,000 กม. แล้วมาดูกันอีกที
======================================
โอเคแหละพอรับได้กับทุกข้อที่กล่าวมาพอเรารู้ปัญหาของรถ เราก็ต้องแก้ (ทั้งๆที่บางข้อไม่ใช้ปัญหาของ Yamaha แต่เป็นปัญหาของ...... นี้แหละ)
1. Yamaha เคลมหน้าปัดทุกตัว ไฟเลี้ยวทุกตัว ได้ที่ศูนย์บริการ Yamaha เพียงแจ้งเรื่องเคลมไว้ และรออะไหล่มาไปเปลี่ยนได้เลย ข้อนี้ผมบอกตรงๆ บางศูนย์บริการมันก็หัวหมอเกินไปนะ ไม่ได้ซื้อรถที่เขา เขาไม่เคลมไม่ดำเนินการใดๆให้ (อย่าให้ถึงกับต้องชี้เป้าเดียวจะบันเทิง) ซึ่งบอกตามตรงรถค่ายนี้แพง คนก็ยอมซื้อเพราะสวยและอื่นๆก็โอเคกับสเป็ค แต่กราบขอร้องเหอะ อย่า 2 มาตรฐานแบบที่กล่าวไว้เลย ดูอย่าง Wing Center เป็นตัวอย่างแล้วกันซื้อที่ไหนไม่ว่า เสียตรงไหนเคลมได้แถวนั้น แม้จะมีค่าบริการก็ตาม เขาก็โอเคแล้วกันว่าเคลมได้ ฝาก Yamaha Thailand ไว้ด้วยนะครับ ปัญหานี้เรื้อรังมานานมาก (โคตะระนานตั้งแต่สมัย R15 ตัวแรกขายคิดเอาแล้วกันว่ากี่ปี) ส่วนไอ้น้ำเข้าไฟเลี้ยว ผมก็ไม่ได้อะไรมาก เปลี่ยนไฟเลี้ยว LED ของ Rizoma ไปแทนเรียบร้อย เสียเงินรอบเดียว จบทุกปัญหาดีกว่า
2. อาการที่ว่าปวดนิ้วเวลาย้ำเบรกย้ำคลัช ผมก็แก้ด้วยสิ่งที่ทดแทนได้โดยไม่ต้องไปตั้งสายให้รอบคลัชเพี้ยน หรือ ไล่น้ำมันเบรกใหม่ ก็เปลี่ยนยกชุดไปเลยทั้งสองข้าง ก้านคลัชตอนแรกจะใช้ของ Biker แต่ก็นะเรื่องราคาไหนๆจะแพงแล้ว ก็ลง CRG ไปเลยแล้วกัน สะดวกตรงที่ปรับสายเอาได้โดยไม่ต้องมานั้งตั้งให้เสียเวลา สับเอาง่ายๆถ้ามันสูงไปก็ปรับลงมา ถ้ามันต่ำไปก็ปรับสูงขึ้นไปสะดวกสบายดี เวลาขับในเมืองหรือออกทรืป ไม่ต้องตั้งสาย ส่วนฝั้งเบรก ตอนแรกจะเอาโลโก้ขาวเบอร์ 19 แต่มาคิดถึงคนที่โดยขโมยอะไหล่กันรายวันก็เสี่ยวๆ เลยเอาแค่ก้านพับปรับระดับได้พอคู่ละ 900 กว่าบาท งานแข็งๆใช้แทนกันได้ลงตัวดี
3. อาการเบรกหลังหายๆ กดไม่อยู่ ก็แก้โดยการเอาตัวดึงกระทุ่งหลังรุ่นอื่นมาใส่แทนเพื่อให้มันกดเบาๆแล้วดึงได้จนสุด ในข้อนี้ผมใช้ของ GTR หาได้แถวบ้านราคาไม่แพง 200 - 350 แล้วแต่ร้าน
========================================
หมดแล้วครับสำหรับสิ่งที่เจอแล้วเอามาแบ่งปันกัน โอกาศหน้าไปลองคล่อมตัวไหนมาจะเอาแบ่งปันแนวทางการซ่อมต่อครับ
P.s. หลายคนตามจากกระทู้เก่าผมเยอะมากขอตั้งกลุ่มสำหรับทุกรุ่นไว้เลยแล้วกันครับ
https://www.facebook.com/groups/YZFandM/
P.s. กระทู้เก่า
https://ppantip.com/topic/36041963
เดียวถ้าไม่ผิดอะไรหลังจากที่ทำคลิปเสร็จ จะเอาคลิปมาลงอีกกระทู้เรื่อง Top Speed , อัตราเร่ง , และ จังหวะโค้งในสนาม มาดูกันว่า ทั้งหมดทั้งมวลคุ้มกับเงินที่เสียไปมากน้อยแค่ไหน แต่บอกตรงๆ ยาง 100 / 80 / 17 - 140 / 70 / 17 ให้ฟิวที่ดีในการเลี้ยวโค้งมาก แต่ถ้าได้ 100 / 70 / 17 จากโรงงานมาเลยจะมันส์มากครับ