สวัสดีครับ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่เขียนเกี่ยวกับการรีวิวหนัง เลยเลือกหนังนอกกระแส นอกจนแทบจะถูกลืมไปแล้ว คือเรื่อง ดึกดำดึ๋ย ปี 2546 ผลงานกำกับเรื่องแรกของป๋าเทพ (และเรื่องสุดท้าย? รึเปล่าไม่ทราบ) โดยหนังไม่ประสบความสำเร็จ
นี่คือโปสเตอร์หนังครับ
ตัวหนังได้รับการวิจารณ์อย่างหนักหน่วง แต่ผมก็ยังหาข้อดี มารีวิวในพันทิพจนได้
ออกตัวว่า เป็นความชอบส่วนบุคคล ผมเชื่อว่าคนส่วนมากดูแล้ว อาจจะเครียดกับความแป้ก กริบ ของหนัง
ส่วนตัวแล้วผมเอ็นจอยกับหนังตลอดเรื่อง ถือได้ว่าเป็นหนังแนวใหม่ สิ่งที่เสพไม่ใช่ความเพอร์เฟ็ค สมจริงของหนัง แต่เป็นความปลอม ไม่ได้สัดได้ส่วน
ความบกพร่อง งุ่มง่ามของหนังซะมากกว่า
ในส่วนของหนังตะวันตก ก็คงจะมีเรื่อง The Room ที่ถือว่าเป็นสไตล์หนังเดียวกับเรื่องนี้ ฝรั่งเรียกว่า หนัง Cult หรือ หนังแนว ซึ่งมีผู้ชมเฉพาะกลุ่มจริงๆครับ
เริ่มแรกเปิดฉากมาเป็นรถคาราวานสภาพสนิมๆ ขับอยู่บนพื้นที่ห่างไกล แห้งแล้ง ผมเข้าใจว่า ตามหนังต้องการจะสื่อถึงทวีปแอฟริกา มีการตกแต่งด้วยกระบองเพชรสีเขียวปี๋ น่าจะทำด้วยพลาสติก ดูปลอมมากๆ หญิงคนดำป้อนนมลูกบนรถ มีเสียงซาวนด์แทร็กเด็กร้องไห้ ซึ่งฟังดูก็รู้ว่าเป็นเสียงซาวนด์แทร็กสำเร็จรูป
ชายคนดำคนหนึ่งเห็นอะไรหยดลงมาบนไหล่ตัวเอง เลยเอามือป้าย แล้วมาดม แล้วอุทานว่า "ฟัคคคค ขี้เป็ด" (สำเนียงต่างชาติ) ตรงนี้บอกตรงๆว่าผมฮาก๊ากเลย ผมเข้าใจว่าวิญญูชน (คนทั่วไป) คงไม่ขำ แต่ผมหัวเราะกับความไม่ได้สัดได้ส่วนของบทหนัง ทำไมต้องมีเป็ดบนหลังคารถ ทำไมต้องขี้ ทำไมต้องอุทานว่า ขี้เป็ด หาอะไรมาเช็ดไม่ได้หรอ และสุดท้ายผมขำให้กับความงุนงงว่า ฉากนี้มันมีอยู่ในหนังเพื่ออะไรวะ คือ ไม่มีก็ได้ เหมือนภาพที่ผ่านไปในชีวิตประจำวัน ไม่มีความหมาย ไม่จำเป็นกับหนัง ไม่ได้ปูทางเข้าสู่ใจความของเรื่อง
ต่อมาเป็นฉากผู้โดยสารในรถ (ส่วนมากเป็นคนผิวดำ แต่มีฝรั่งผู้หญิงหลงมาคนนึง ซึ่งผมตลกที่ว่า มันหลุดคอนเซ็ปต์มากๆ มีฝรั่งมาทำไม) ผู้โดยสารเถียงกันในรถ เป็นเสียงโวยวายๆ จากนั้นคนขับรถก็ตะโกน น่าจะเป็นคำว่า "ค-ยยยยยยย" แต่ปรากฎว่าไม่ได้รำคาญผู้โดยสารทะเลาะกัน แต่เป็นชายทั้ง4ที่หลับและกรนอยู่หลังรถ คือ นักแสดงนำ ทั้ง4คน ป๋าเทพ เด่น ดอกประดู่ คุณสามารถ พยัคฆ์อรุณ และคุณเขาทราย หลังจากคนขับรถโวยวายสักพัก ก็โดนชายผิวดำเตะปาก (โดยเท้ายื่นมาจากเบาะหลัง) แล้วก็พูดอะไรสักอย่าง ส่งท้ายด้วยคำว่า "ไอค-ย"
จากนั้นคุณโจอี้ ซึ่งในบทน่าจะเป็นกระเป๋ารถเมล์ ตะโกนเรียกผู้โดยสาร "หาดใหญ่ สงขลา อนุสาวรีย์ ไปมั้ยคร้าบบบบ" จากนั้นก็เจอรถมอเตอร์ไซค์ขับมาข้างหน้า แต่รถเบรคไม่ดี คุณโจอี้เลยลงไปดึงรถให้เบรค สุดท้ายก็ชนมอเตอร์ไซค์ แล้วคุณโจอี้ก็ลงไปทะเลาะกับคนผิวดำข้างทาง
การเบรคทำให้นักแสดงนำทั้ง4ตื่น
จากนั้น ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วเดินทางต่อ???
นักแสดงนำทั้ง4 คุยกัน ป๋าเทพบอกว่ารับงานมา จะไปสืบสวนคดีฆาตกรรมที่หมู่บ้านนึง แต่ดูจากการพูด ผมคิดว่า น่าจะไม่มีการเขียนบทขึ้น เพราะป๋าเทพพูดตะกุกตะกัก น่าจะเป็นการด้นสดของนักแสดง ซึ่งมันดูกระอักกระอ่วนมากๆ
จากนั้นก็มีขบวนแห่ บั้งไฟ??? โดยหัวพญานาคเป็นโฟมตัดมาพ่นสีสเปรย์ แต่เพลงที่ร้องโห่เป็นเพลงพื้นเมืองแอฟริกา และในขบวนแห่เป็นคนผิวดำ??
แต่ใส่เสื้อลายดอกและมีกลองยาว???
และอีกครั้ง ขบวนแห่นี้ก็มาเดินผ่านฉากไปโดยไม่มีความหมายอะไรกับเรื่อง 555
จากนั้นรถเสีย คุณโจอี้กับคนขับ และผู้ชายอ้วนในรถทะเลาะกัน ส่วนมากมีแต่เสียงโวยวาย กับคำว่า ไอค-ย ไอคว-าย กวนติน
จากนั้นคุณเด่นก็ยื่นหัวออกไปนอกหน้าต่าง มีเด็กผิวดำ ยืนฉี่บนหลังคา คุณเด่นด่าว่า ไอ้ดำ ไอ้นิโกร พ่อแม่ไม่สั่งสอน
ตรงนี้ผมฮาให้กับความ ignorance ที่สร้างประโยคนี้ออกมาได้ ในตะวันตกถือเป็นคำหยาบและถือว่าลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ แต่คนไทยไม่รู้ว่ามันคือคำหยาบ และ ทำให้เกิดประโยคนี้ในหนัง ยิ่งกว่านั้น คนผิวดำในหนังก็ไม่รู้สึกอะไรด้วย และรับมาเล่นเรื่องนี้ซะด้วย
จากนั้นทั้ง4ก็เดินไป เจอกระท่อมแบบไทย มีตายายกำลังกินลาบเลือด จากนั้นหลานสาวตายายก็กลายเป็นผี???
เดี๋ยวนะ เมื่อกี้เพิ่งอยู่แอฟริกา ตอนนี้เจอกระท่อมและมีผีไทย
จากนั้นตายายก็กลายเป็นผี ญี่ปุ่น โดยตาที่แสดงโดยพ่อดมชวนชื่น ใส่วิกสีฟ้า
เมื่อกี้อยู่ไทย ตอนนี้กลายเป็นผีญี่ปุ่น??
จากนั้นทั้ง4ก็หนีไป เจอกับเมืองคาวบอย คาวบอยแล้ว????
โดยในsaloon มีคนผิวดำด้วย สรุปคือยังอยู่ในแอฟริกา?
พอเข้าโรงแรมในsaloon ชั้นล่างคนก็หายหมด คุณสีเทาที่เป็นเจ้าของ กลายเป็นผี อีกแล้ว??
จากนั้นทั้ง4ก็หนีออกมา มีร้านข้าวแกง?? พอจะกินข้าวแกง ป้าคนขายก็กลายเป็นผี??
พอหนีไปก็เจอ แก๊งคาวบอย มีนายอำเภอ แถมยังใช้หน่วยเอเคอร์ด้วย
หลังจากชักปืนยิงกัน ก็หนีมา
เจอกลุ่มคนป่า ซึ่งรอบนี้เป็นคนไทยทาตัวดำ?? จากนั้นทั้ง4คนก็มีฉากเลิฟซีนกับผู้หญิงผิวดำ???
เพื่ออะไร?
จากนั้นก็เจอวัดไทย? มีคุณกรุงศรีวิไลเป็นหลวงพ่อ สรุปว่าวัดกินเนื้อคน
และหลวงพ่อก็สนับสนุนให้กินเนื้อคน
ทั้ง4คนก็จะพาหลวงพ่อไปขี้นศาล??? (ขึ้นศาลเลยไม่แจ้งตำรวจหรอ)
สุดท้ายก็พาหลวงพ่อขึ้นรถคันเดิมกลับกรุงเทพ ไปขึ้นศาล โดยละม่อมด้วย ไม่ต้องจับหลวงพ่ออะไรเลย หลวงพ่อก็เดินขึ้นรถเอง
จบลงที่ฉากป๋าเทพ ยื่นเรื่องขอทำหนังกับผู้จัดการ ซึ่งแสดงโดยสายันต์ สรุปว่า ที่ผ่านมาคือแผนทำหนังของป๋าเทพทั้งหมด
แค่นี้แหละครับ
ถือเป็นหนังที่ไม่ make sense อะไรเลย
แต่โดยรวมแล้วผมตลกให้ความงงงวยของหนัง พูดง่ายๆคือ เหมือนเราดูการแสดงของเพื่อนหน้าชั้นเรียน มีมุกตลกเล็กๆน้อยๆเฉพาะกลุ่ม
ความสนุกของมันไม่ใช่ความเพอร์เฟ็ค แต่มันคือความไม่ได้สัดได้ส่วน ไม่เป็นเหตุเป็นผลของการแสดง
รีวิวหนังเก่า นอกกระแส "ดึก ดำ ดึ๋ย" (2003) ในความฮากริบมีความฮาในระดับcritical
นี่คือโปสเตอร์หนังครับ
ตัวหนังได้รับการวิจารณ์อย่างหนักหน่วง แต่ผมก็ยังหาข้อดี มารีวิวในพันทิพจนได้
ออกตัวว่า เป็นความชอบส่วนบุคคล ผมเชื่อว่าคนส่วนมากดูแล้ว อาจจะเครียดกับความแป้ก กริบ ของหนัง
ส่วนตัวแล้วผมเอ็นจอยกับหนังตลอดเรื่อง ถือได้ว่าเป็นหนังแนวใหม่ สิ่งที่เสพไม่ใช่ความเพอร์เฟ็ค สมจริงของหนัง แต่เป็นความปลอม ไม่ได้สัดได้ส่วน
ความบกพร่อง งุ่มง่ามของหนังซะมากกว่า
ในส่วนของหนังตะวันตก ก็คงจะมีเรื่อง The Room ที่ถือว่าเป็นสไตล์หนังเดียวกับเรื่องนี้ ฝรั่งเรียกว่า หนัง Cult หรือ หนังแนว ซึ่งมีผู้ชมเฉพาะกลุ่มจริงๆครับ
เริ่มแรกเปิดฉากมาเป็นรถคาราวานสภาพสนิมๆ ขับอยู่บนพื้นที่ห่างไกล แห้งแล้ง ผมเข้าใจว่า ตามหนังต้องการจะสื่อถึงทวีปแอฟริกา มีการตกแต่งด้วยกระบองเพชรสีเขียวปี๋ น่าจะทำด้วยพลาสติก ดูปลอมมากๆ หญิงคนดำป้อนนมลูกบนรถ มีเสียงซาวนด์แทร็กเด็กร้องไห้ ซึ่งฟังดูก็รู้ว่าเป็นเสียงซาวนด์แทร็กสำเร็จรูป
ชายคนดำคนหนึ่งเห็นอะไรหยดลงมาบนไหล่ตัวเอง เลยเอามือป้าย แล้วมาดม แล้วอุทานว่า "ฟัคคคค ขี้เป็ด" (สำเนียงต่างชาติ) ตรงนี้บอกตรงๆว่าผมฮาก๊ากเลย ผมเข้าใจว่าวิญญูชน (คนทั่วไป) คงไม่ขำ แต่ผมหัวเราะกับความไม่ได้สัดได้ส่วนของบทหนัง ทำไมต้องมีเป็ดบนหลังคารถ ทำไมต้องขี้ ทำไมต้องอุทานว่า ขี้เป็ด หาอะไรมาเช็ดไม่ได้หรอ และสุดท้ายผมขำให้กับความงุนงงว่า ฉากนี้มันมีอยู่ในหนังเพื่ออะไรวะ คือ ไม่มีก็ได้ เหมือนภาพที่ผ่านไปในชีวิตประจำวัน ไม่มีความหมาย ไม่จำเป็นกับหนัง ไม่ได้ปูทางเข้าสู่ใจความของเรื่อง
ต่อมาเป็นฉากผู้โดยสารในรถ (ส่วนมากเป็นคนผิวดำ แต่มีฝรั่งผู้หญิงหลงมาคนนึง ซึ่งผมตลกที่ว่า มันหลุดคอนเซ็ปต์มากๆ มีฝรั่งมาทำไม) ผู้โดยสารเถียงกันในรถ เป็นเสียงโวยวายๆ จากนั้นคนขับรถก็ตะโกน น่าจะเป็นคำว่า "ค-ยยยยยยย" แต่ปรากฎว่าไม่ได้รำคาญผู้โดยสารทะเลาะกัน แต่เป็นชายทั้ง4ที่หลับและกรนอยู่หลังรถ คือ นักแสดงนำ ทั้ง4คน ป๋าเทพ เด่น ดอกประดู่ คุณสามารถ พยัคฆ์อรุณ และคุณเขาทราย หลังจากคนขับรถโวยวายสักพัก ก็โดนชายผิวดำเตะปาก (โดยเท้ายื่นมาจากเบาะหลัง) แล้วก็พูดอะไรสักอย่าง ส่งท้ายด้วยคำว่า "ไอค-ย"
จากนั้นคุณโจอี้ ซึ่งในบทน่าจะเป็นกระเป๋ารถเมล์ ตะโกนเรียกผู้โดยสาร "หาดใหญ่ สงขลา อนุสาวรีย์ ไปมั้ยคร้าบบบบ" จากนั้นก็เจอรถมอเตอร์ไซค์ขับมาข้างหน้า แต่รถเบรคไม่ดี คุณโจอี้เลยลงไปดึงรถให้เบรค สุดท้ายก็ชนมอเตอร์ไซค์ แล้วคุณโจอี้ก็ลงไปทะเลาะกับคนผิวดำข้างทาง
การเบรคทำให้นักแสดงนำทั้ง4ตื่น
จากนั้น ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วเดินทางต่อ???
นักแสดงนำทั้ง4 คุยกัน ป๋าเทพบอกว่ารับงานมา จะไปสืบสวนคดีฆาตกรรมที่หมู่บ้านนึง แต่ดูจากการพูด ผมคิดว่า น่าจะไม่มีการเขียนบทขึ้น เพราะป๋าเทพพูดตะกุกตะกัก น่าจะเป็นการด้นสดของนักแสดง ซึ่งมันดูกระอักกระอ่วนมากๆ
จากนั้นก็มีขบวนแห่ บั้งไฟ??? โดยหัวพญานาคเป็นโฟมตัดมาพ่นสีสเปรย์ แต่เพลงที่ร้องโห่เป็นเพลงพื้นเมืองแอฟริกา และในขบวนแห่เป็นคนผิวดำ??
แต่ใส่เสื้อลายดอกและมีกลองยาว???
และอีกครั้ง ขบวนแห่นี้ก็มาเดินผ่านฉากไปโดยไม่มีความหมายอะไรกับเรื่อง 555
จากนั้นรถเสีย คุณโจอี้กับคนขับ และผู้ชายอ้วนในรถทะเลาะกัน ส่วนมากมีแต่เสียงโวยวาย กับคำว่า ไอค-ย ไอคว-าย กวนติน
จากนั้นคุณเด่นก็ยื่นหัวออกไปนอกหน้าต่าง มีเด็กผิวดำ ยืนฉี่บนหลังคา คุณเด่นด่าว่า ไอ้ดำ ไอ้นิโกร พ่อแม่ไม่สั่งสอน
ตรงนี้ผมฮาให้กับความ ignorance ที่สร้างประโยคนี้ออกมาได้ ในตะวันตกถือเป็นคำหยาบและถือว่าลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ แต่คนไทยไม่รู้ว่ามันคือคำหยาบ และ ทำให้เกิดประโยคนี้ในหนัง ยิ่งกว่านั้น คนผิวดำในหนังก็ไม่รู้สึกอะไรด้วย และรับมาเล่นเรื่องนี้ซะด้วย
จากนั้นทั้ง4ก็เดินไป เจอกระท่อมแบบไทย มีตายายกำลังกินลาบเลือด จากนั้นหลานสาวตายายก็กลายเป็นผี???
เดี๋ยวนะ เมื่อกี้เพิ่งอยู่แอฟริกา ตอนนี้เจอกระท่อมและมีผีไทย
จากนั้นตายายก็กลายเป็นผี ญี่ปุ่น โดยตาที่แสดงโดยพ่อดมชวนชื่น ใส่วิกสีฟ้า
เมื่อกี้อยู่ไทย ตอนนี้กลายเป็นผีญี่ปุ่น??
จากนั้นทั้ง4ก็หนีไป เจอกับเมืองคาวบอย คาวบอยแล้ว????
โดยในsaloon มีคนผิวดำด้วย สรุปคือยังอยู่ในแอฟริกา?
พอเข้าโรงแรมในsaloon ชั้นล่างคนก็หายหมด คุณสีเทาที่เป็นเจ้าของ กลายเป็นผี อีกแล้ว??
จากนั้นทั้ง4ก็หนีออกมา มีร้านข้าวแกง?? พอจะกินข้าวแกง ป้าคนขายก็กลายเป็นผี??
พอหนีไปก็เจอ แก๊งคาวบอย มีนายอำเภอ แถมยังใช้หน่วยเอเคอร์ด้วย
หลังจากชักปืนยิงกัน ก็หนีมา
เจอกลุ่มคนป่า ซึ่งรอบนี้เป็นคนไทยทาตัวดำ?? จากนั้นทั้ง4คนก็มีฉากเลิฟซีนกับผู้หญิงผิวดำ???
เพื่ออะไร?
จากนั้นก็เจอวัดไทย? มีคุณกรุงศรีวิไลเป็นหลวงพ่อ สรุปว่าวัดกินเนื้อคน
และหลวงพ่อก็สนับสนุนให้กินเนื้อคน
ทั้ง4คนก็จะพาหลวงพ่อไปขี้นศาล??? (ขึ้นศาลเลยไม่แจ้งตำรวจหรอ)
สุดท้ายก็พาหลวงพ่อขึ้นรถคันเดิมกลับกรุงเทพ ไปขึ้นศาล โดยละม่อมด้วย ไม่ต้องจับหลวงพ่ออะไรเลย หลวงพ่อก็เดินขึ้นรถเอง
จบลงที่ฉากป๋าเทพ ยื่นเรื่องขอทำหนังกับผู้จัดการ ซึ่งแสดงโดยสายันต์ สรุปว่า ที่ผ่านมาคือแผนทำหนังของป๋าเทพทั้งหมด
แค่นี้แหละครับ
ถือเป็นหนังที่ไม่ make sense อะไรเลย
แต่โดยรวมแล้วผมตลกให้ความงงงวยของหนัง พูดง่ายๆคือ เหมือนเราดูการแสดงของเพื่อนหน้าชั้นเรียน มีมุกตลกเล็กๆน้อยๆเฉพาะกลุ่ม
ความสนุกของมันไม่ใช่ความเพอร์เฟ็ค แต่มันคือความไม่ได้สัดได้ส่วน ไม่เป็นเหตุเป็นผลของการแสดง