จากกรณี เพจ You like (คลิปเด็ด) ได้แชร์โพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งพร้อมข้อความว่า “เรื่องจริง หรือโกหก” ซึ่งผู้ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าวได้ฝากเตือนภัยประชาชน อย่าไปหลงกลประมูลทองและเพชร จากคนที่ใช้ชื่อว่า “จีจี้ ปีโป้” เนื่องจากระบุว่าเป็นทองปลอม เพชรปลอม โดยจะมีหน้าม้าคอยแสดงความคิดเห็นว่าเป็นคนดีทำให้คนหลงเชื่อ ทีมข่าวตรวจสอบเบื้องต้นได้ข้อมูลว่าผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ “จีจี้ ปีโป้” จะเปิดประมูลสินค้าออนไลน์คือเครื่องประดับ เพชร และทอง ด้วยการไลฟ์สด ภายหลังจากเรื่องดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก


คุณจีจี้ปีโป้
ล่าสุด วันนี้ (7 ก.ย.) คุณจีจี้ปีโป้ ได้เปิดใจกับทีมข่าว โดยบอกว่าตนทราบว่ามีการนำชื่อของตนเองไป โพสต์โจมตีในเฟซบุ๊คเพจดัง กล่าวหาว่าตนเป็นมิจฉาชีพตั้งแต่ช่วงบ่าย (7 ก.ย.60) แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร เพราะโดนกลั่นแกล้งลักษณะนี้บ่อย ตนยืนยันว่า เรื่องทั้งหมดไม่เป็นความจริง เพราะลูกค้าที่มาซื้อสินค้ากับตนแทบทั้งหมดเป็นลูกค้าเก่า ที่เคยสั่งของกับตนมาก่อน และได้รับสินค้าจริง จึงมีความมั่นใจในสินค้า มีการรีวิวว่าได้สินค้า 100% ซึ่งตนขายเพชร ทอง พระเครื่อง เครื่องสำอางค์ผ่านเฟซบุ๊คไลฟ์โดยไม่มีหน้าร้าน และเพิ่งจะขายครบรอบ 1ปี ไม่กี่วันมานี้ ซึ่งตนจะขายในไลฟ์สดอย่างเดียว ไม่ขายในช่องทางแชท หรือมีหน้าร้าน โดยตนมีอาชีพหลักคือเปิดร้านให้เช่าชุดวิวาห์
หากถามถึงประเด็นมีหน้าม้า ตนถามกลับว่าหากมีหน้าม้าวันละ 100 คนแบบนี้ คงไปทำธุรกิจอื่นที่หาเงินได้มากกว่านี้ และเมื่อย้อนกลับไปดูคนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นหน้าม้านั้น เป็นเฟซบุ๊คที่มีตัวตนจริงๆ ไม่ใช่เฟซบุ๊คปลอมเหมือนคนที่โจมตีตน ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเคยโดนใส่ร้ายมาก่อนแล้ว และได้แจ้งความดำเนินคดีไปด้วย

สุดท้ายตนขอยืนยันว่า สินค้าทุกชิ้นที่ได้ไลฟ์สดขาย เป็นของจริง ของแท้ มีคุณภาพเทียบเท่าตลาดที่ขายอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งตนขายมายาวนาน
ขณะที่ คุณอ้อม (นามสมมติ) ผู้เสียหาย จากกรณีซื้อเครื่องประดับกับคุณจีจี้ปีโป้ เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ตนได้เข้าไปดูเฟซบุ๊กจีจี้ปีโป้บ่อยครั้ง เพราะคุณจีจี้เป็นคนพูดเก่ง ประกอบกับเป็นความชอบส่วนตัว แต่ก่อนหน้านั้นตนก็ระแคะระคายมาบ้าง เรื่องที่มีคนซื้อสินค้าไปแล้วได้ของมาไม่ตรง แต่ด้วยความที่ชอบแหวนทับทิมสยาม และต้องการให้ของขวัญตัวเองจึงตัดสินใจซื้อไป แต่ที่ตนซื้อเป็นเครื่องประดับที่ซื้อขายโดยตรง ไม่ใช่ที่ประมูลผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ของคุณจีจี้ ซึ่งวันนั้นในเฟซบุ๊กไลฟ์จีจี้ปีโป้บอกว่า ราคาหน้าร้านแสนกว่าบาท แต่บอกขายในราคา 8 หมื่นกว่าบาท ตนเลยส่งข้อความไปบอกว่ามีเงินแค่ 6 หมื่นบาท แต่ตนอยากได้ทับทิมสยามที่มีความเชื่อว่าจะเลือกเจ้าของ ตนก็เลยตกลงราคากันที่ 6 หมื่นบาท

เมื่อถึงวันรับสินค้า ปรากฏว่าเปิดกล่องดูรู้สึกว่าแหวนเป็นคนละวงกับที่เห็นในเฟซบุ๊ก รวมถึงสินค้าที่ได้มีตำหนิเป็นรอยร้าว จากนั้นได้ติดต่อขอคืนสินค้า ทางจีจี้ปีโป้บอกว่าสินค้าซื้อไปแล้วเปลี่ยนคืนไม่ได้ ตนจึงตามไปที่ร้านแต่ได้พบลูกน้องแทน ซึ่งลูกน้องบอกให้ตนทิ้งแหวนเอาไว้ ซึ่งตนก็ทำตาม

หลังจากนั้นได้ไปปรึกษาเพื่อน ซึ่งเพื่อนให้คำแนะนำว่าไม่ควรเอาแหวนไปทิ้งไว้เพราะมีราคาแพง ตนจึงได้กลับไปเอาแหวนคืนในวันถัดมา และได้เจอกับจี้จี้ปีโป้ ตนจึงให้ดูสินค้าว่าทับทิมแตกร้าว ขอคืนเงินได้หรือไม่ ซึ่งทางจีจี้ปีโป้ไม่ยอม แต่สุดท้ายก็ยอมเปลี่ยนหัวแหวนให้ โดยยื่นข้อเสนอเพิ่มว่าหากไม่รับก็ให้ขายคืน แต่จะถูกหักเงิน 30 % ของราคาที่ซื้อขายกันก่อนหน้านี้ หรือจะเปลี่ยนก็ได้แต่ต้องเข้าไปประมูลสินค้าตัวอื่นเพื่อมาแลกเปลี่ยนกัน ตนจึงตัดสินใจเปลี่ยนหัวแหวน ภายหลังเกิดเหตุการณ์ ตนไม่ได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่โทรไปสายด่วนร้องทุกข์กับ สคบ. ส่วนที่ออกมาพูดครั้งนี้ ตนอยากให้เป็นอุทธาหรณ์ ไม่อยากให้คนอื่นถูกหลอก หากจะซื้อของราคาแพงเช่นนี้ ตนแนะนำว่าควรไปซื้อกับร้านที่น่าเชื่อถือจะดีกว่า