รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ของเรา กินน้ำมันกี่กิโลต่อลิตรกันแน่?
เราเคยไปเติมน้ำมันที่ไหนบ้าง?
เติมน้ำมันรอบก่อนหน้า รถเราวิ่งไปได้กี่กิโล?
จะหาตัวช่วยคำนวนค่าน้ำมันกับแผนการเดินทางได้จากที่ไหน?
เรื่องพวกนี้จะจัดการได้ง่าย ๆ ด้วยแอพที่ชื่อ 'Fuelio' เป็นแอพบน Android ดาวน์โหลดได้จากลิงก์นี้
https://play.google.com/store/apps/details?id=com.kajda.fuelio&hl=th
หลายคนน่าจะสนใจอยากรู้อัตราการกินน้ำมันของรถที่ตนเองขับอยู่แน่ ๆ แต่ก็หาวิธีจด หรือจำ และคำนวนที่แม่นยำ และสะดวกไม่ได้ ลองมาดูแอพตัวนี้ครับ 'Fuelio' มันเป็นแอพบน Android ส่วนใน iOS ผมไม่แน่ใจว่าแอพชื่อนี้ไหม ผมจะมาแนะนำการใช้งานคร่าว ๆ ของแอพตัวนี้นะครับ หลัก ๆ แค่เรากรอกข้อมูลลงแอพทุกครั้งที่เราเติมน้ำมันก็พอ ที่เหลือแอพจะเก็บเป็นข้อมูล คำนวน และจัดเรียงมานำเสนอในรูปแบบต่าง ๆ ให้เราเอง
หน้าแรกของแอพจะแสดงข้อมูล 'ภาพรวม' ไว้ให้คร่าว ๆ รวมถึงมีเครื่องมือ 'เครื่องคิดเลข' ที่เอาไว้คำนวนค่าใช้จ่ายน้ำมันรถสำหรับแผนการเดินทางของเราได้อีกด้วย ซึ่งถ้าคุณเพิ่งเปิดแอพมาครั้งแรกมันก็จะยังไม่มีข้อมูลอะไรมาแสดงเพราะเรายังไม่ได้เพิ่มข้อมูลการเติมน้ำมันเข้าไป
ส่วนวิธีใส่การเติมน้ำมันเข้าไปก็ง่าย ๆ แค่แตะที่ปุ่ม 'เครื่องหมายบวกในวงกลมสีแดง' ที่เห็นด้านขวาล่างนั้นแหละครับ แล้วเลือกไอ้คอนรูปปั้มน้ำมัน (เชื้อเพลิง) ในวงกลมสีแดง
1. การกรอกข้อมูลในหน้านี้ ก่อนอื่นให้เลือกรายการรถคันที่เราจะใส่ข้อมูลเสียก่อน (รายการรถเราจะต้องใส่เข้าไปเองว่ารถชื่ออะไร ซึ่งผมจะพูดถึงหลังจากนี้) อย่างในภาพผมเลือก Mazda 2 (2017)
2. ช่อง 'มาตรวัดระยะทางรวม' หรือเรียกว่า ODO ให้เราดูที่ไมล์ของรถ แล้วดูตัวเลขระยะทางทั้งหมดที่รถเคยวิ่งมาแล้ว ก็ให้เอามากรอกตรงนี้ในตอนเติมน้ำมันแต่ละครั้ง
คุณสามารถเปลี่ยนมาใช้ 'มาตรวัดการเดินทาง' หรือ Trip meter แทนได้ถ้าต้องการเก็บข้อมูลในการเดินทางทริปนั้น ๆ แต่เอาจริง ๆ ผมก็ใช้แต่ ODO นะ มันจะได้มีค่าเฉลี่ยการใช้น้ำมันของรถเราที่แม่นจริง ๆ เพราะยิ่งเรากรอกข้อมูลการเติมน้ำมันทุกรอบเข้าไปเท่าไหร่ ค่าเฉลี่ยมันยิ่งเฉลี่ยแม่นเท่านั้นกับพฤติกรรมการเดินทาง การใช้รถของเราเอง
3. 'เชื้อเพลิง' ช่องนี้มันจะให้เลือกได้ว่าใช้น้ำมันประเภทอะไร ส่วนใหญ่ผมใช้น้ำมันแต่ประเภทเดิม อย่าง Mazda 2 ผมก็เติมแต่ e20 เลยไม่เลือกตัวเลือก มันจึงขึ้น (not set) แบบนั้น แต่ข้อมูลในช่องกรอก ให้เราใส่ปริมาณน้ำมันที่เติมในครั้งนั้นว่าเติมไปกี่ลิตร เราก็ดูตัวเลขจำนวนลิตรจากที่เครื่องจ่ายน้ำมันของปั้มน้ำมัน
4. 'ราคา/ลิตร' เราใส่ราคาต่อลิตรที่ปั้มตั้งไว้ แต่ปกติผมจะไม่เติมอะไรลงในช่องนี้เลย เพราะผมจะไปเติมข้อมูลในข้อที่ 5 แทน และช่องในข้อที่ 4 นี้มันจะถูกคำนวนโดยอัตโนมัติ
5. 'ราคารวม' ใครไม่เติมข้อมูลในข้อที่ 4 ก็ให้มาเติมข้อมูลในข้อที่ 5 นี้แทน (แต่ถ้าใครเติมข้อมูลในข้อที่ 4 แล้ว ในข้อ 5 นี้มันจะถูกคำนวนโดยอัตโนมัติ ซึ่งเราสามารถแก้ตัวเลขที่มันคำนวนอัตโนมัติได้นะ เพราะมันจะคลาดเคลื่อนนิดหน่อยได้) ซึ่งข้อ 'ราคารวม' นี้ก็คือ เงินทั้งหมดที่เราจ่ายให้กับปั้มน้ำมันในการเติมน้ำมันครั้งนั้น
6. 'วันที่' ตัวแอพจะเติมข้อมูลวันที่ให้เราเองอยู่แล้ว หรือคุณอาจจะใส่วันที่อื่นลงไปก็ได้ เพื่อกรณีคุณจดข้อมูลการเติมน้ำมันไว้แต่ว่ายังไม่ได้ลงข้อมูลในแอพเพราะไม่สะดวกลงตอนที่เติมน้ำมันก็แล้วแต่ (แต่ปกติผมจะลงข้อมูลเลยขณะที่อยู่ในปั้มน้ำมัน เพื่อให้แอพมันจำตำแหน่งการเติมน้ำมันให้เราด้วย)
7. 'เต็มถัง' ติกไว้สำหรับกรณีเราเติมเต็มถัง ถ้าไม่ได้เติมเต็มถังก็ยกเลิกติกถูกออก
8. ในส่วนของ 'FUEL STATION' ถ้าเปิดใช้ มันจะทำให้โทรศัพท์เราดึงข้อมูลพิกัด GPS มาระบุไว้ในการเติมน้ำมันครั้งนั้นด้วย ทำให้เราสามารถมาดูย้อนหลังได้ว่าเราเคยเติมน้ำมันที่ไหนไว้บ้าง ซึ่งส่วนตัวผมจะให้มันระบุตลอด เผื่ออนาคตต้องเดินทางผ่านแถวนี้ จะได้รู้ว่าแถวนี้มีปั้มน้ำมันอยู่ตรงไหนบ้าง
9. ในหัวข้อ 'ไม่จำเป็น' น่าจะเป็นการติกเพื่อบอกว่า ข้อมูลที่เพิ่มลงไปนี้เป็นข้อมูลเก่าที่เราไม่ได้ใส่ลงในแอพในการเติมครั้งก่อน ๆ และต้องการมาใส่ข้อมูลย้อนหลังในครั้งนี้แทน แต่ผมก็ไม่แน่ใจนะว่ามันเป็นอย่างไง เพราะอย่างที่บอก ผมเติมเสร็จ ก็จะมาหาที่จอดแอบซัก 1 นาทีเพื่อกรอกข้อมูลลงแอพนี้
เรามาดูเมนูการนำเสนอข้อมูลของแอพกันว่ามีอะไรบ้าง อย่างแรกคือ 'Timeline'
เมื่อคุณใส่ข้อมูลการเติมน้ำมันลงไปทุกครั้งเรื่อย ๆ ตัวแอพจะนำเสนอข้อมูลเหล่านั้นในรูปแบบต่าง ๆ ตามนี้ อย่างภาพนี้ก็เป็นการนำเสนอแบบที่เรียกว่า 'Timeline' เหมือนเป็นประวัติไล่เรียงตามลำดับเวลาว่าเราเคยเติมน้ำมันวันไหนบ้าง กี่บาท เมื่อไมล์รถวิ่งไปแล้วเท่าไหร่ เติมที่ไหน เป็นต้น
ที่เมนู 'บันทึกการใช้เชื้อเพลิง' จะบอกรายละเอียดเยอะกว่าแบบ Timeline ที่ผมชอบมากคือ มันจะบอกด้วยว่า เราขับได้ระยะทางไปกี่กิโลเมตรแล้วจากการเติมน้ำมันก่อนหน้านี้แล้วถึงจะมาเติมน้ำมันครั้งนี้ (ข้อมูลนี้ปรากฎในภาพส่วนที่เป็นพื้นสีเหลี่ยมสีเท่า ขึ้นต้นข้อความด้วยเครื่องหมาย +)
เมนู 'สถิติ' จะเป็นข้อมูลรวมทั้งหมด ซึ่งค่อนข้างละเอียดมาก แต่ผมมักจะเลื่อนลงไปดูล่างสุดที่จะบอกว่า การใช้น้ำมันของรถคันนี้นั้นมีค่าเฉลี่ยกินน้ำมันอยู่ที่กี่กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งมันจะเป็นผลรวมของข้อมูลการเติมน้ำมันทั้งหมดเลย
เมนู 'แผนที่' จะบอกว่าเราเคยไปเติมน้ำมันที่ไหนมาบ้าง และเติมวันไหนเป็นข้อมูลล่าสุด
มาดูเครื่องคิดเลขที่อยู่ร่วมกับการแสดงผลในเมนูหน้าแรกสุด 'บ้าน' ซึ่งเจ้าเครื่องคิดเลขนี้ใช้คำนวนค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันให้ครับ เช่น ถ้าเราวางแผนไว้ว่าจะเดินทางประมาณ 1000 กิโลเมตร เราใส่ 'อัตราการใช้งาน' ที่ได้จากที่แอพคำนวนให้เมื่อเราบันทึกข้อมูลการเติมน้ำมันตลอด จากนั้นใส่ราคาต่อลิตร ก็จะรู้ว่าเราจะใช้เงินประมาณเท่าไหร่สำหรับค่าน้ำมันเชื้อเพลิงในทริปนี้ แต่อย่าลืมนะครับว่า อัตราการใช้งาน เป็นค่าเฉลี่ยรวมของพฤติกรรมการขับรถของเรา กรณีที่มีทริปที่ทำให้ใช้เครื่องรอบสูงกว่าปกติ หรือต่ำกว่าปกติ ขึ้นเขาตลอด นานหลายวัน พฤติกรรมการขับของเราจะเปลี่ยนส่งผลให้อัตราการใช้น้ำมันเปลี่ยน ก็ต้องเผื่อเงินไว้ด้วย
ส่วนการเพิ่มรายการรถที่จะใช้บันทึกข้อมูลก็แค่เข้าเมนู 'พาหนะ' แล้วกดเครื่องหมายบวกในวงกลมสีแดง จากนั้นก็ใส่ชื่อรถลงไปเท่านั้นก็ได้ หรือจะใส่รายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติมก็ได้ อย่างเช่น รูปของตัวรถเป็นต้น
แอพมีความสามารถส่งออกข้อมูลเหล่านี้ไปเก็บเป็นไฟล์ หรือสำรองข้อมูลไปที่ Google Drive หรือ Dropbox ได้ด้วย ทำให้คุณสามารถนำข้อมูลการใช้งานที่เคยบันทึกแล้วนี้ไปใช้งานต่อในมือถือเครื่องใหม่ได้
การตั้งค่าที่สำคัญก็มีแค่พวกสกุลเงิน หน่วยต่าง ๆ นอกนั้นไม่มีอะไรมาก จะลองตั้งหรือไม่ก็แล้วแต่
(ภาพประกอบเอามาใส่ไปงั้น ๆ รถของผมเอง ส่วนเจ้า Mazda2 ยังไม่เคยถ่ายมาเก็บไว้ในคอม ไม่ได้ย่อภาพในมือถือด้วย เลยขี้เกียจเอามาลง)
ผมใช้งานมาได้พักนึงแล้วจึงนำมารีวิวแนะนำต่อคร่าว ๆ หลายฟังก์ชั่นของแอพตัวนี้ยังไม่เคยใช้ จริง ๆ มันมีการคำนวน และการแจ้งเตือนการซ่อมบำรุงด้วยซ้ำ และกำหนดออกมาเป็นรายงานแบบต่าง ๆ เป็นสถิติ เป็นกราฟเลยด้วย ที่น่าสนใจอย่างหนึ่งคือ ระบบคำนวนอัตราการใช้น้ำมันของรถยนต์เองที่หลายคนจะบอกว่า มันไม่ตรง ไม่แม่น ตัวเลขแสดงออกมาว่าประหยัดเกินจริง แต่เมื่อผมเทียบกับแอพนี้ซึ่งเป็นข้อมูลที่เราบันทึกเองล้วน ๆ พบว่า ตัวเลขคำนวนอัตราการบริโภคน้ำมันของ Mazda 2 (2017) นั้นตรงเป๊ะเลยครับ ตอนช่วงใช้รถติดเยอะ ๆ ค่าเฉลี่ยตกมา 16 กว่า ๆ กิโลต่อลิตร พอเติมน้ำมันเช็คค่าเฉลี่ยก็ออกมาตรง ตอนที่ใช้ทางยาว ๆ ขึ้นมาเป็น 17 แล้วมีโอกาสได้เติมน้ำมัน ก็พบว่ารายงานตัวเลขแทบจะตรงกันในหลักจุดทศนิยมด้วยซ้ำ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อาจจะแล้วแต่รถด้วย แต่ตอนนี้ก็มั่นใจอย่างหนึ่งว่า Mazda 2 (2017) มีระบบคำนวนการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงแบบเฉลี่ยค่อนข้างแม่นยำทีเดียว
รีวิวคร่าว ๆ แอพบันทึกข้อมูล และรายงานอัตราการกินน้ำมันของรถ 'Fuelio'
เราเคยไปเติมน้ำมันที่ไหนบ้าง?
เติมน้ำมันรอบก่อนหน้า รถเราวิ่งไปได้กี่กิโล?
จะหาตัวช่วยคำนวนค่าน้ำมันกับแผนการเดินทางได้จากที่ไหน?
เรื่องพวกนี้จะจัดการได้ง่าย ๆ ด้วยแอพที่ชื่อ 'Fuelio' เป็นแอพบน Android ดาวน์โหลดได้จากลิงก์นี้ https://play.google.com/store/apps/details?id=com.kajda.fuelio&hl=th
หลายคนน่าจะสนใจอยากรู้อัตราการกินน้ำมันของรถที่ตนเองขับอยู่แน่ ๆ แต่ก็หาวิธีจด หรือจำ และคำนวนที่แม่นยำ และสะดวกไม่ได้ ลองมาดูแอพตัวนี้ครับ 'Fuelio' มันเป็นแอพบน Android ส่วนใน iOS ผมไม่แน่ใจว่าแอพชื่อนี้ไหม ผมจะมาแนะนำการใช้งานคร่าว ๆ ของแอพตัวนี้นะครับ หลัก ๆ แค่เรากรอกข้อมูลลงแอพทุกครั้งที่เราเติมน้ำมันก็พอ ที่เหลือแอพจะเก็บเป็นข้อมูล คำนวน และจัดเรียงมานำเสนอในรูปแบบต่าง ๆ ให้เราเอง
หน้าแรกของแอพจะแสดงข้อมูล 'ภาพรวม' ไว้ให้คร่าว ๆ รวมถึงมีเครื่องมือ 'เครื่องคิดเลข' ที่เอาไว้คำนวนค่าใช้จ่ายน้ำมันรถสำหรับแผนการเดินทางของเราได้อีกด้วย ซึ่งถ้าคุณเพิ่งเปิดแอพมาครั้งแรกมันก็จะยังไม่มีข้อมูลอะไรมาแสดงเพราะเรายังไม่ได้เพิ่มข้อมูลการเติมน้ำมันเข้าไป
ส่วนวิธีใส่การเติมน้ำมันเข้าไปก็ง่าย ๆ แค่แตะที่ปุ่ม 'เครื่องหมายบวกในวงกลมสีแดง' ที่เห็นด้านขวาล่างนั้นแหละครับ แล้วเลือกไอ้คอนรูปปั้มน้ำมัน (เชื้อเพลิง) ในวงกลมสีแดง
1. การกรอกข้อมูลในหน้านี้ ก่อนอื่นให้เลือกรายการรถคันที่เราจะใส่ข้อมูลเสียก่อน (รายการรถเราจะต้องใส่เข้าไปเองว่ารถชื่ออะไร ซึ่งผมจะพูดถึงหลังจากนี้) อย่างในภาพผมเลือก Mazda 2 (2017)
2. ช่อง 'มาตรวัดระยะทางรวม' หรือเรียกว่า ODO ให้เราดูที่ไมล์ของรถ แล้วดูตัวเลขระยะทางทั้งหมดที่รถเคยวิ่งมาแล้ว ก็ให้เอามากรอกตรงนี้ในตอนเติมน้ำมันแต่ละครั้ง
คุณสามารถเปลี่ยนมาใช้ 'มาตรวัดการเดินทาง' หรือ Trip meter แทนได้ถ้าต้องการเก็บข้อมูลในการเดินทางทริปนั้น ๆ แต่เอาจริง ๆ ผมก็ใช้แต่ ODO นะ มันจะได้มีค่าเฉลี่ยการใช้น้ำมันของรถเราที่แม่นจริง ๆ เพราะยิ่งเรากรอกข้อมูลการเติมน้ำมันทุกรอบเข้าไปเท่าไหร่ ค่าเฉลี่ยมันยิ่งเฉลี่ยแม่นเท่านั้นกับพฤติกรรมการเดินทาง การใช้รถของเราเอง
3. 'เชื้อเพลิง' ช่องนี้มันจะให้เลือกได้ว่าใช้น้ำมันประเภทอะไร ส่วนใหญ่ผมใช้น้ำมันแต่ประเภทเดิม อย่าง Mazda 2 ผมก็เติมแต่ e20 เลยไม่เลือกตัวเลือก มันจึงขึ้น (not set) แบบนั้น แต่ข้อมูลในช่องกรอก ให้เราใส่ปริมาณน้ำมันที่เติมในครั้งนั้นว่าเติมไปกี่ลิตร เราก็ดูตัวเลขจำนวนลิตรจากที่เครื่องจ่ายน้ำมันของปั้มน้ำมัน
4. 'ราคา/ลิตร' เราใส่ราคาต่อลิตรที่ปั้มตั้งไว้ แต่ปกติผมจะไม่เติมอะไรลงในช่องนี้เลย เพราะผมจะไปเติมข้อมูลในข้อที่ 5 แทน และช่องในข้อที่ 4 นี้มันจะถูกคำนวนโดยอัตโนมัติ
5. 'ราคารวม' ใครไม่เติมข้อมูลในข้อที่ 4 ก็ให้มาเติมข้อมูลในข้อที่ 5 นี้แทน (แต่ถ้าใครเติมข้อมูลในข้อที่ 4 แล้ว ในข้อ 5 นี้มันจะถูกคำนวนโดยอัตโนมัติ ซึ่งเราสามารถแก้ตัวเลขที่มันคำนวนอัตโนมัติได้นะ เพราะมันจะคลาดเคลื่อนนิดหน่อยได้) ซึ่งข้อ 'ราคารวม' นี้ก็คือ เงินทั้งหมดที่เราจ่ายให้กับปั้มน้ำมันในการเติมน้ำมันครั้งนั้น
6. 'วันที่' ตัวแอพจะเติมข้อมูลวันที่ให้เราเองอยู่แล้ว หรือคุณอาจจะใส่วันที่อื่นลงไปก็ได้ เพื่อกรณีคุณจดข้อมูลการเติมน้ำมันไว้แต่ว่ายังไม่ได้ลงข้อมูลในแอพเพราะไม่สะดวกลงตอนที่เติมน้ำมันก็แล้วแต่ (แต่ปกติผมจะลงข้อมูลเลยขณะที่อยู่ในปั้มน้ำมัน เพื่อให้แอพมันจำตำแหน่งการเติมน้ำมันให้เราด้วย)
7. 'เต็มถัง' ติกไว้สำหรับกรณีเราเติมเต็มถัง ถ้าไม่ได้เติมเต็มถังก็ยกเลิกติกถูกออก
8. ในส่วนของ 'FUEL STATION' ถ้าเปิดใช้ มันจะทำให้โทรศัพท์เราดึงข้อมูลพิกัด GPS มาระบุไว้ในการเติมน้ำมันครั้งนั้นด้วย ทำให้เราสามารถมาดูย้อนหลังได้ว่าเราเคยเติมน้ำมันที่ไหนไว้บ้าง ซึ่งส่วนตัวผมจะให้มันระบุตลอด เผื่ออนาคตต้องเดินทางผ่านแถวนี้ จะได้รู้ว่าแถวนี้มีปั้มน้ำมันอยู่ตรงไหนบ้าง
9. ในหัวข้อ 'ไม่จำเป็น' น่าจะเป็นการติกเพื่อบอกว่า ข้อมูลที่เพิ่มลงไปนี้เป็นข้อมูลเก่าที่เราไม่ได้ใส่ลงในแอพในการเติมครั้งก่อน ๆ และต้องการมาใส่ข้อมูลย้อนหลังในครั้งนี้แทน แต่ผมก็ไม่แน่ใจนะว่ามันเป็นอย่างไง เพราะอย่างที่บอก ผมเติมเสร็จ ก็จะมาหาที่จอดแอบซัก 1 นาทีเพื่อกรอกข้อมูลลงแอพนี้
เรามาดูเมนูการนำเสนอข้อมูลของแอพกันว่ามีอะไรบ้าง อย่างแรกคือ 'Timeline'
เมื่อคุณใส่ข้อมูลการเติมน้ำมันลงไปทุกครั้งเรื่อย ๆ ตัวแอพจะนำเสนอข้อมูลเหล่านั้นในรูปแบบต่าง ๆ ตามนี้ อย่างภาพนี้ก็เป็นการนำเสนอแบบที่เรียกว่า 'Timeline' เหมือนเป็นประวัติไล่เรียงตามลำดับเวลาว่าเราเคยเติมน้ำมันวันไหนบ้าง กี่บาท เมื่อไมล์รถวิ่งไปแล้วเท่าไหร่ เติมที่ไหน เป็นต้น
ที่เมนู 'บันทึกการใช้เชื้อเพลิง' จะบอกรายละเอียดเยอะกว่าแบบ Timeline ที่ผมชอบมากคือ มันจะบอกด้วยว่า เราขับได้ระยะทางไปกี่กิโลเมตรแล้วจากการเติมน้ำมันก่อนหน้านี้แล้วถึงจะมาเติมน้ำมันครั้งนี้ (ข้อมูลนี้ปรากฎในภาพส่วนที่เป็นพื้นสีเหลี่ยมสีเท่า ขึ้นต้นข้อความด้วยเครื่องหมาย +)
เมนู 'สถิติ' จะเป็นข้อมูลรวมทั้งหมด ซึ่งค่อนข้างละเอียดมาก แต่ผมมักจะเลื่อนลงไปดูล่างสุดที่จะบอกว่า การใช้น้ำมันของรถคันนี้นั้นมีค่าเฉลี่ยกินน้ำมันอยู่ที่กี่กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งมันจะเป็นผลรวมของข้อมูลการเติมน้ำมันทั้งหมดเลย
เมนู 'แผนที่' จะบอกว่าเราเคยไปเติมน้ำมันที่ไหนมาบ้าง และเติมวันไหนเป็นข้อมูลล่าสุด
มาดูเครื่องคิดเลขที่อยู่ร่วมกับการแสดงผลในเมนูหน้าแรกสุด 'บ้าน' ซึ่งเจ้าเครื่องคิดเลขนี้ใช้คำนวนค่าใช้จ่ายในการเติมน้ำมันให้ครับ เช่น ถ้าเราวางแผนไว้ว่าจะเดินทางประมาณ 1000 กิโลเมตร เราใส่ 'อัตราการใช้งาน' ที่ได้จากที่แอพคำนวนให้เมื่อเราบันทึกข้อมูลการเติมน้ำมันตลอด จากนั้นใส่ราคาต่อลิตร ก็จะรู้ว่าเราจะใช้เงินประมาณเท่าไหร่สำหรับค่าน้ำมันเชื้อเพลิงในทริปนี้ แต่อย่าลืมนะครับว่า อัตราการใช้งาน เป็นค่าเฉลี่ยรวมของพฤติกรรมการขับรถของเรา กรณีที่มีทริปที่ทำให้ใช้เครื่องรอบสูงกว่าปกติ หรือต่ำกว่าปกติ ขึ้นเขาตลอด นานหลายวัน พฤติกรรมการขับของเราจะเปลี่ยนส่งผลให้อัตราการใช้น้ำมันเปลี่ยน ก็ต้องเผื่อเงินไว้ด้วย
ส่วนการเพิ่มรายการรถที่จะใช้บันทึกข้อมูลก็แค่เข้าเมนู 'พาหนะ' แล้วกดเครื่องหมายบวกในวงกลมสีแดง จากนั้นก็ใส่ชื่อรถลงไปเท่านั้นก็ได้ หรือจะใส่รายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติมก็ได้ อย่างเช่น รูปของตัวรถเป็นต้น
แอพมีความสามารถส่งออกข้อมูลเหล่านี้ไปเก็บเป็นไฟล์ หรือสำรองข้อมูลไปที่ Google Drive หรือ Dropbox ได้ด้วย ทำให้คุณสามารถนำข้อมูลการใช้งานที่เคยบันทึกแล้วนี้ไปใช้งานต่อในมือถือเครื่องใหม่ได้
การตั้งค่าที่สำคัญก็มีแค่พวกสกุลเงิน หน่วยต่าง ๆ นอกนั้นไม่มีอะไรมาก จะลองตั้งหรือไม่ก็แล้วแต่
(ภาพประกอบเอามาใส่ไปงั้น ๆ รถของผมเอง ส่วนเจ้า Mazda2 ยังไม่เคยถ่ายมาเก็บไว้ในคอม ไม่ได้ย่อภาพในมือถือด้วย เลยขี้เกียจเอามาลง)
ผมใช้งานมาได้พักนึงแล้วจึงนำมารีวิวแนะนำต่อคร่าว ๆ หลายฟังก์ชั่นของแอพตัวนี้ยังไม่เคยใช้ จริง ๆ มันมีการคำนวน และการแจ้งเตือนการซ่อมบำรุงด้วยซ้ำ และกำหนดออกมาเป็นรายงานแบบต่าง ๆ เป็นสถิติ เป็นกราฟเลยด้วย ที่น่าสนใจอย่างหนึ่งคือ ระบบคำนวนอัตราการใช้น้ำมันของรถยนต์เองที่หลายคนจะบอกว่า มันไม่ตรง ไม่แม่น ตัวเลขแสดงออกมาว่าประหยัดเกินจริง แต่เมื่อผมเทียบกับแอพนี้ซึ่งเป็นข้อมูลที่เราบันทึกเองล้วน ๆ พบว่า ตัวเลขคำนวนอัตราการบริโภคน้ำมันของ Mazda 2 (2017) นั้นตรงเป๊ะเลยครับ ตอนช่วงใช้รถติดเยอะ ๆ ค่าเฉลี่ยตกมา 16 กว่า ๆ กิโลต่อลิตร พอเติมน้ำมันเช็คค่าเฉลี่ยก็ออกมาตรง ตอนที่ใช้ทางยาว ๆ ขึ้นมาเป็น 17 แล้วมีโอกาสได้เติมน้ำมัน ก็พบว่ารายงานตัวเลขแทบจะตรงกันในหลักจุดทศนิยมด้วยซ้ำ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อาจจะแล้วแต่รถด้วย แต่ตอนนี้ก็มั่นใจอย่างหนึ่งว่า Mazda 2 (2017) มีระบบคำนวนการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงแบบเฉลี่ยค่อนข้างแม่นยำทีเดียว