ย้อนรอยรัก บทที่ 4

กระทู้สนทนา
บทที่ 1  https://ppantip.com/topic/36836854

บทที่ 2 https://ppantip.com/topic/36840120

บทที่ 3https://ppantip.com/topic/36844219



อาคารสำนักงานในวันเสาร์ไม่คึกคักนัก  แต่เมื่อหญิงสาวขึ้นลิฟต์ไปถึงออฟฟิศ ชายหนุ่มมารออยู่แล้ว  เขาพาเธอเข้าไปในห้องประชุม  แพงเพ็ญไม่คิดว่าวันนี้จะไม่มีใครมาทำงานเลย เธอปลอบใจตัวเองว่าดูจากท่าทางของเขา ไม่น่าจะเกิดเรื่องอะไรไม่ดีขึ้น แต่อดคิดไม่ได้ว่าถ้าพี่สาวรู้เข้าคงได้ยินคำบ่นกระบุงโกยอย่างแน่นอน

“ ทำไมไม่บอกจะได้ไปเป็นเพื่อน   คนเดี๋ยวนี้ แต่งตัวดี ฐานะดี ก็ไว้ใจไม่ได้ โรคจิตเยอะจะตายไป  ถ้าเกิดเขาทำอะไรเธอขึ้นมาจะทำยังไง”

แม้คนเป็นพี่จะไม่เห็นด้วยทัศนคติและวิธีดำเนินชีวิตของแพงเพ็ญ แต่ไม่ได้ปิดประตูความห่วงใยที่มีต่อน้องสาวคนเดียว

“ คุณป้าท่านเล่าอะไรให้ฟังบ้าง  มีอะไรให้ผมช่วยเพิ่มเติมไหม ”

ในมุมนี้เขาก็เป็นนายจ้างที่ดี  คือไม่ปล่อยให้เธองมหาข้อมูลเพียงลำพัง แต่เข้ามาช่วยทุกขั้นตอนที่เป็นไปได้  อย่างไรก็ตามหากมากกว่านี้อีกนิดเดียวก็จะกลายเป็นจู้จี้เกินไป

“ มีเรื่องอยากปรึกษาเหมือนกันคะ  เรื่อง  family tree ของตระกูล มันยังขาดข้อมูลหลายอย่าง  เผื่อจะให้ไปหาที่ไหน”

แพงเพ็ญมองในแง่ดี เพราะการออกไปทำงานข้างนอก กับคนอื่น เป็นเหมือนกับบังคับตัวเองกลาย ๆ ให้ตั้งใจทำงานมากขึ้น  การนั่งทำงานอยู่คนเดียวเงียบ ๆ บางครั้งก็อาจเรื่อยเปื่อยทำบ้างไม่ทำบ้าง  

“  งั้นเอามาดูกัน  กาแฟไหมครับ ครีม น้ำตาล ”

“ เอ่อ “ หญิงสาวมองหน้าเขา ไม่คิดว่าเขาจะไปชงกาแฟมาให้เธอ  แต่อีกฝ่ายเลิกคิ้วเหมือนรอ  แพงเพ็ญจึงบอกว่า “ ขอน้ำเปล่าก็พอค่ะ  ขอบคุณค่ะ”

เมื่อเขาเดินเข้ามาอีกรอบพร้อมแก้วน้ำ หญิงสาววางกระดาษหลายแผ่นเป็นชั้น ๆ  ลงมา  กระดาษแต่ละแผ่น มีชื่อสมาชิกในครอบครัวรุ่นนั้น ๆ  

“  ข้อมูลที่มีตอนนี้ เท่าที่สืบขึ้นไปได้คือ   ต้นตระกูลคือ  ขุนยุทธนาโยธาการ (เส่ย)   ท่านมีภรรยา  3   คน  คือ    คุณแสง ลูกพระยาภักดีวานิช (หยง)       วาด  และ แช่ม   อันนี้เป็นเจเนอเรชั่นแรกนะคะ   ทีนี้ ขุนยุทธนาโยธาการท่านมีพี่น้องด้วย   จะให้เติมลงไปในสาแหรกไหมคะ  เพราะน้องเขยท่านก็รับราชการมีราชทินนาม “

“  ทำไว้ก่อนดีไหม  ถ้าไม่ใช้ค่อยเอาออกทีหลัง  ถ้าใช้จะได้ไม่ต้องค้นหากันอีก”

แพงเพ็ญก็คิดเช่นนั้น เธอก็กำลังเก็บข้อมูลบรรพบุรุษของตนเองด้วยเช่นกัน  

“  ถ้าอย่างนั้นต้องเพิ่ม ว่าท่านมีพี่น้องเท่าที่ทราบ  5  คน  แต่รู้ชื่อเพียงคนเดียวคือน้องสาวคนสุดท้องชื่อสุ่น   เป็นภรรยาน้อยของพระพินัยธรรมศาสตร์  มีบุตร 2 คน  เป็นผู้ชายหนึ่งคนชื่อนพ แต่งงานกับนารี ลูกสาวพระภักดีวานิช (ต่วน)   ลูกผู้หญิงชื่อสมศรี  เป็นโสดไม่มีบุตร   คุณนพกับคุณนารีเป็นคุณพ่อคุณแม่คุณกิ่ง คุณป้าคุณ  ท่านบอกว่าถ้าคุณรทอยากได้สาแหรกสายน้องท่านขุนยุทธฯ ท่านจะรวบรวมให้อีกที   ส่วนญาติฝั่งภักดีวานิช ท่านจะลองถามญาติคนอื่นให้ค่ะ  อาทิตย์หน้าท่านให้โทรฯไปถามอีกที”

แพงเพ็ญเขียนไปพูดไป เท่ากับรายงานให้เขารับรู้ไปพร้อม ๆ กัน  

“ ตระกูลคุณมีผู้ชายน้อยมากเลย  ส่วนใหญ่เป็นลูกหลานผู้หญิงทั้งนั้น “
    
หญิงสาวตั้งข้อสังเกต  คนฟังมีรอยยิ้ม

“ นั่นสิ  ผมก็แปลกใจ  แม้แต่ลูกพี่ลูกน้องก็แทบไม่มีผู้ชายเลย ถ้ามีญาติเป็นผู้ชายอาจได้มีคนให้ปรึกษาได้มากกว่านี้  “

การที่เขาออกจากมหาวิทยาลัยกลางคัน ทำให้วรไม่ค่อยได้ติดต่อกับเพื่อนฝูงรุ่นเดียวกันมากนัก  จึงกลายเป็นคนเพื่อนน้อยไปด้วย

“ ก็ไม่แน่นะคะ  บางทีญาติอาจทำให้ปวดหัวมากกว่าเพื่อน เพราะเพื่อนเราเลือกได้ว่าอยากคบคนแบบไหน จะเลิกคบเมื่อไหร่ก็ได้  แต่ญาติ ไม่ว่าเขาจะเป็นยังไงเขาก็จะยังเป็นญาติอยู่วันยังค่ำ”

“ ก็จริงนะ  แต่ผมไม่ค่อยมีเพื่อน “

แพงเพ็ญนิ่งไป ใจหนึ่งก็อยากถามต่อแต่กลัวว่าจะเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวเขามากเกินไป  

“ ทีนี้ ก็มาที่รุ่นลูกของขุนยุทธนาโยธาการ “

หญิงสาวกลับมาคุยเรื่องงานอีกครั้ง   ชายหนุ่มชะโงกหน้ามาดูที่แผ่นกระดาษ พร้อมอ่านออกมาดัง ๆ

“ คุณป้าบอกหรือว่าภรรยาคนแรกของคุณทวดชื่อแสง  และลูกชายชื่อสุวัฒน์ “

“ค่ะ”

แพงเพ็ญตอบสั้น ๆ เธอไม่ได้โกหกแต่บอกความจริงเพียงครึ่งเดียว คุณป้ากิ่งบอกชื่อคุณทวดแสง แต่ไม่ได้บอกชื่อลูกชาย ในฐานะนักเขียนเมื่อรู้ย่อมอดเขียนลงไปไม่ได้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่