สวสัดีครับเพื่อนๆห้องศาสนาทุกคน
ผมอยากมาแชร์ประสบการณ์การปฏิบัติ
เป็นสิ่งง่ายๆที่ผู้ปฏิบัติพบได้ด้วยตัวเอง
แต่คนไม่ปฏิบัติไม่อาจรู้ได้เลย
เกริ่นสั้นๆ ผมฝึกสติ พิจารณาธรรมอยู่เสมอ
บางทีสงสัยเหมือนกันว่าทำไมคนในโลก
หาคนดีๆได้น้อยจังเลย ทำไมต้องเอาเปรียบ
ก็เข้าใจว่ามันเป็นธรรมดาของโลกอยู่นะ
แต่ที่อยากเล่า คือ ความคิดของตนเอง
ที่เกิดขึ้นเมื่อมีสิ่งแวดล้อมเข้ามากระทบ
เช่น เพื่อนหลับในเวลางาน คนเริ่มเห็นกัน
คนอื่นจะเริ่มถ่ายรูป และตะโกนให้หัวหน้ามอง
มันเป็นเรื่องตลกๆแหละ แต่บางที...ก็ไม่ตลก
ซึ่งผมเองถ้าเห็นจะปลุกเพื่อนตลอด
แก้ปัญหาทุกอย่างในแนวนี้ในทุกๆปัญหา
ทำให้หลายๆคนมองว่าเป็นคนมองโลกแง่ดี
จริงๆแล้วไม่ใช่เลย จากที่เกริ่นมาตอนแรก
ด้วยความที่มีสติ ทำให้รู้ว่า เราคิดอะไรบ้าง
คิดอยากตะโกนบอกหัวหน้า ถ่ายรูปประจาน
หรือ สะกิดเบาๆ ซึ่งก็คิดเหมือนคนอื่นๆหมด
แต่สติทำให้เรารู้ทันความอยากทำไม่ดี
เรายั้งได้ ในขณะที่คนอื่นเห็น ใส่ทันที
ประมาณว่าเห็นแล้วทำเลย ประมาณนั้น
นี่คือผลของสติ คือ รู้ทันความอยากตนเอง
ในขณะที่การพิจารณาธรรมเสมอ
ช่วยให้ผมคิดถึงใจคนอื่น และที่สำคัญ
ทำให้ผมเข้าใจอนาคตของใจตนเอง
แล้วเราจะช่วยเพื่อน หรือจะสนุกกับมันหละ
จุดนี้เป็นจุดสำคัญที่ทั้งสติและการพิจารณา
ธรรม จะต้องมีคู่ และเสมอกันไป
ดังนั้น ย่อมมีเพียงคำตอบเดียวเลย คือ
การช่วยสะกิดเพื่อนเบาๆให้ตื่นในที่ทำงาน
ถามว่าคนไม่ปฏิบัติจะมองอย่างไร ... ?
เขาชอบมองว่าผมมองโลกในแง่บวก!กันหมด
ผมไม่ใช่คนแบบนั้นเลย ปัญหาต่างๆ
ผมมองทั้งแง่บวก แง่ลบ และแง่อื่นๆทั้งหมด
ซึ่งผมก็เป็นเหมือนคนปรกตินั้นแหละ เพียงแต่
คิดถึงใจผู้อื่นและไม่คิดถึงแต่ความอยากตนเอง
เพื่อนๆลองมองตัวเองว่า ... ในชีวิตประจำวัน
มีการตัดสินใจด้วยอารมณ์บ้างไหม
สุดท้ายนี้ ... มันมีอีกหลายเรื่องที่ผู้ปฏิบัติ
จะทราบได้ด้วยตนเอง ไว้จะมาเล่าสู่กันฟังนะครับ
ปัญญาจะเกิด มีเพียงการปฏิบัติเท่านั้น
ผมอยากมาแชร์ประสบการณ์การปฏิบัติ
เป็นสิ่งง่ายๆที่ผู้ปฏิบัติพบได้ด้วยตัวเอง
แต่คนไม่ปฏิบัติไม่อาจรู้ได้เลย
เกริ่นสั้นๆ ผมฝึกสติ พิจารณาธรรมอยู่เสมอ
บางทีสงสัยเหมือนกันว่าทำไมคนในโลก
หาคนดีๆได้น้อยจังเลย ทำไมต้องเอาเปรียบ
ก็เข้าใจว่ามันเป็นธรรมดาของโลกอยู่นะ
แต่ที่อยากเล่า คือ ความคิดของตนเอง
ที่เกิดขึ้นเมื่อมีสิ่งแวดล้อมเข้ามากระทบ
เช่น เพื่อนหลับในเวลางาน คนเริ่มเห็นกัน
คนอื่นจะเริ่มถ่ายรูป และตะโกนให้หัวหน้ามอง
มันเป็นเรื่องตลกๆแหละ แต่บางที...ก็ไม่ตลก
ซึ่งผมเองถ้าเห็นจะปลุกเพื่อนตลอด
แก้ปัญหาทุกอย่างในแนวนี้ในทุกๆปัญหา
ทำให้หลายๆคนมองว่าเป็นคนมองโลกแง่ดี
จริงๆแล้วไม่ใช่เลย จากที่เกริ่นมาตอนแรก
ด้วยความที่มีสติ ทำให้รู้ว่า เราคิดอะไรบ้าง
คิดอยากตะโกนบอกหัวหน้า ถ่ายรูปประจาน
หรือ สะกิดเบาๆ ซึ่งก็คิดเหมือนคนอื่นๆหมด
แต่สติทำให้เรารู้ทันความอยากทำไม่ดี
เรายั้งได้ ในขณะที่คนอื่นเห็น ใส่ทันที
ประมาณว่าเห็นแล้วทำเลย ประมาณนั้น
นี่คือผลของสติ คือ รู้ทันความอยากตนเอง
ในขณะที่การพิจารณาธรรมเสมอ
ช่วยให้ผมคิดถึงใจคนอื่น และที่สำคัญ
ทำให้ผมเข้าใจอนาคตของใจตนเอง
แล้วเราจะช่วยเพื่อน หรือจะสนุกกับมันหละ
จุดนี้เป็นจุดสำคัญที่ทั้งสติและการพิจารณา
ธรรม จะต้องมีคู่ และเสมอกันไป
ดังนั้น ย่อมมีเพียงคำตอบเดียวเลย คือ
การช่วยสะกิดเพื่อนเบาๆให้ตื่นในที่ทำงาน
ถามว่าคนไม่ปฏิบัติจะมองอย่างไร ... ?
เขาชอบมองว่าผมมองโลกในแง่บวก!กันหมด
ผมไม่ใช่คนแบบนั้นเลย ปัญหาต่างๆ
ผมมองทั้งแง่บวก แง่ลบ และแง่อื่นๆทั้งหมด
ซึ่งผมก็เป็นเหมือนคนปรกตินั้นแหละ เพียงแต่
คิดถึงใจผู้อื่นและไม่คิดถึงแต่ความอยากตนเอง
เพื่อนๆลองมองตัวเองว่า ... ในชีวิตประจำวัน
มีการตัดสินใจด้วยอารมณ์บ้างไหม
สุดท้ายนี้ ... มันมีอีกหลายเรื่องที่ผู้ปฏิบัติ
จะทราบได้ด้วยตนเอง ไว้จะมาเล่าสู่กันฟังนะครับ