พิมาลา ในแบบของเบลล่า เป็นผู้หญิงที่ดี แต่ไม่ใช่ผู้หญิงที่โง่ นับจากวันที่พิม ชักศึกเข้าบ้านอย่างไม่รู้ตัว ด้วยการยินยอมให้ใจเริง เข้ามาอยู่อาศัยชั่วคราวได้ในบ้านที่เป็นเรือนหอของเธอกับฤกษ์
บุญคุณ...ความปรารถนาดีต่อเพื่อนสนิท ทำให้พิมพยายามมองข้ามปฏิกิริยาต่อต้านใจเริงของฤกษ์ ที่ดูจะฉุนเฉียวผิดปกติมากเกินเหตุ นับจากที่คบหากันจนแต่งงาน ลึกๆแล้วเราเชื่อว่าพิมก็คงนึกหวั่นใจอยู่เสมอว่า...แท้จริงแล้ว ฤกษ์ตัดใจจากใจเริง แล้วรักเธอได้อย่างเต็มหัวใจอย่างที่ปากพูดแล้วงั้นหรือ หรือเธอ..แค่คนที่ดึงเค้าออกจากบ่วงความทุกข์นั้น...เท่านั้นเอง
เธอ คือ ผู้มาก่อน หาใช่คนแย่งชิง....พิมาลา มาก่อนใจเริง ใช่...หากฤกษ์ไม่เจอใจเริงในวันนั้น...การขยับจากเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงมาเริ่มต้นคบหาดูใจกันในฐานะคนรักคงไม่มีอุปสรรค จนเมื่อ...ผู้ชายอย่างฤกษ์ ได้เจอผู้หญิงที่ร้อนแรง รุกเร้าอย่างไฟเช่นใจเริง พิมคงเคยนึกเปรียบเทียบตัวเอง ระหว่างผู้หญิงที่อ่อนหวาน สวยงาม เหมือนดอกกุหลาบสีขาว กับ กระดังงาลนไฟ ที่ร้อนแรงเช่นเริง จะถูกผู้ชายคนเดียวกันรักได้จริงๆหรือ
ตลอดเวลาที่ใจเริงอาศัยอยู่ในบ้าน.. เรื่องราวหนาหูถึงความน่าระแวดระวังจะโดนฉกสามีจากแอ๊ด ผู้ที่คอยสอดส่องความเป็นไปของคนในบ้านอย่างสปายมืออาชีพ และ น้องสาวที่คอยเก็บข้อมูลรอบตัวมาเล่าอย่างวรรณ ถูกพูดเข้าหูเป็นระยะๆ ความเชื่อใจในสามีและเพื่อนสนิทของพิมาลากำลังถูกสั่นคลอนลงเรื่อยๆจากอากัปกิริยาของสามีตัวเอง
รัก - เกลียด - เฉยๆ พิมคงอยากให้ฤกษ์เฉยๆ ไม่สนใจใยดีใจเริงมากกว่าที่แสดงออกว่าโกรธ ว่าเกลียดมากขนาดนี้ อะไรที่มากไป...มักดูผิดสังเกต จนมีพิรุธ
เมื่อยังไม่มีหลักฐาน แบบคาหนังคาเขา ม่านบังตา บังใจของพิมยังคงไม่เจือจางลง ความรัก ความเชื่อใจยังคงมีอยู่ ในเมื่อทุกความสงสัย...ฤกษ์และใจเริง มีข้อแก้ต่างให้ตัวเองเสมอ
โชคดีของพิม ที่กัลยาณมิตรอย่างทีมพิมาลา ที่ประกอบไปด้วย พี่หมี่ พิชชี่ แมน วรรณ แอ๊ด และเปรม ไม่เคยอยู่เฉยกับปัญหาคาราคาซังของการเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่ แบบมีคนที่ 3 อยู่ในเรือนหอด้วยแบบนี้.... ทุกคนรักและปรารถนาดีต่อพิมอย่างที่พิมสมควรจะถูกรัก สิ่งที่พิมทำ ความใจดีมากเกินไปของพิม คือ สิ่งที่พลพรรคทีมพิมาลาคอยเป็นกระจกสะท้อน และเตือนสติพิมอยู่เนืองๆ
นับจากที่ใจเริงขนของออกจากบ้านไปอย่างฉุกละหุกจนพิมก็สงสัย นำมาสู่สิ่งที่ตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตคู่ไม่เคยเกิดขึ้น... สามีที่เคยกลับบ้านตรงเวลา ก็เริ่มกลับดึก สามีที่เคยกลับบ้านมาทานข้าวเย็นด้วยกันก็เริ่มส่งข้อความมาว่าติดงาน สามีที่เคยรับโทรศัพท์ตลอดก็กลายเป็นไม่ค่อยรับ
จากรูปรถและไวน์ มาสู่เนคไท และนาฬิกา พิมเริ่มปะติดปะต่อสงครามประสาทที่ใจเริงเดินเกมส์ในโลกโซเชี่ยลและการเผชิญหน้าอย่างตาต่อตา ฟันตาฟัน
ผู้ชายมั่นใจอย่างฤกษ์...ที่คิดว่าตัวเอง...เอาผู้หญิงอย่างใจเริงอยู่... หากเป็นเปรม เพื่อนสนิทที่คงอยากจะยื่นมือตัวเองไปเขกกะโหลกเตือนสติเพื่อนอย่างแรงๆ แล้วบอกว่า "กำลังทำอะไรอยู่" เปรมพูดถูกทุกอย่าง...ใจเริงไม่ใช่ผู้ถูกควบคุม...แต่เริงคือคนคุมเกมส์ต่างหาก
ทำดีกลบเกลื่อน....ใช่...ผู้ชายที่ทำผิดมา มักใช้วิธีนี้เอาใจภรรยา ฤกษ์ก็เช่นเดียวกัน ทำดี....จนหลักฐานมัดตัว พอถูกเค้น..คำโกหกกองโต อาการโมโหกลบเกลื่อนถูกนำมาใช้ไม่ต่างจากผู้ชายหลายๆคน
ในเมื่อเปรม ยังคงเก็บความลับให้ฤกษ์ได้ แต่ทีมพิมาลาคนอื่นพร้อมกันร่วมมือขุดคุ้ยต้นตอปัญหา วรรณ น้องสาวที่อคติกับใจเริงมาตั้งแต่เด็ก กลับเป็นคนแรกที่ยื่นคำขาด ..ไม่เชื่อคำแก้ตัวของฤกษ์ ใช่...วรรณพูดไม่ผิดหรอก ลึกๆพิมเองก็เชื่อและรู้สึกไปแล้วว่า ตัวเองกำลังถูกคนที่รัก 2 คนแทงข้างหลัง วรรณรักพี่สาวมาก มากขนาดที่ไม่อยากเห็นชีวิตครอบครัวของพิมล่มสลายลงเพราะน้ำมือคนอื่น วรรณ เตือนสติพิมด้วยคำพูดที่ตรง แรงและจริงจนบาดไปถึงหัวใจทั้งพี่และน้องพร้อมๆกัน
พิมที่เคยมองทุกอย่างบวกไปหมด... พิมเคยคิดว่าตัวเอง...เอาอยู่เช่นกัน... พิมเคยหลอกตัวเองว่า ...มันคงไม่มีอะไร...พิมเคยปรามาสว่า...คนอื่นคงคิดมากไปเอง หากวันนี้ที่คำบอกเล่า หลักฐานต่างๆ และ สัญญานอันตรายที่ใจเริงเปิดไพ่สู้ แบ๋ใต๋ให้รู้สถานที่ตั้งของ "รังรัก" เลยว่า ..."ชั้นจะเอา"... ทำให้คนที่เคยนิ่งใจเย็นเป็นน้ำแข็ง ข้างในใจสั่นเหมือนโดนไฟสุม ความจริงคาตาเท่านั้นที่พิมต้องการจะรู้ มันผลักดันให้พิมที่อยู่ในสภาวะอาการที่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวรีบขับรถไปถึงที่หมาย
เสียงกรีดร้อง อย่างคนไร้สติของพิมาลากับความจริงตรงหน้าคงยังดังก้องอยู่ในหัวตัวเอง ที่มากกว่าความเสียใจที่สามีนอกใจแล้ว คำโกหก หลอกลวงแล้วโกหกเล่าต่างหากที่บั่นทอนทุกอย่าง
พิมยอมรับกับตัวเองอย่างหน้าไม่อาย ว่านี่ไง....ความจริงที่เธออยากรู้นัก ...ความจริงที่ทำให้โลกใบนี้ถล่มได้ในพริบตา น้ำตาที่ไหลออกมาแทบไม่ขาดสาย ชนิดที่ว่า..ฝนที่ตกกระหน่ำอยู่ตอนนี้ กับน้ำตาตัวเอง สิ่งไหนจะหยุดก่อนกัน.... คนใกล้ตัว คนที่ไว้ใจ...ใจร้ายที่สุดมันเจ็บแบบนี้นี่เอง
กิเลส ราคะ มัวเมา ลุ่มหลง ที่ฤกษ์ระงับใจไม่อยู่....ทำเอาคนเป็นพ่อเป็นแม่ของทั้งฤกษ์และพิม ที่ก่อนหน้านี้ทำหน้าที่เป็นแค่ผู้สังเกตการณ์ ต้องมามองหน้ากันแทบไม่ติด และเสียใจไม่ต่างจากลูกๆเลย ฝ่ายผิดต้องมาขอโทษขอโพยแทนอารมณ์ที่พลุ่งพล่านของลูกชาย
คืนที่หนักหน่วง...น้ำตายังไม่หยุดไหลจนเช้า.. พิมคงได้คิดทบทวนทุกอย่างจนตกผลึก เมื่อม่านบังตาจางหายลง...สายตาที่มองฤกษ์อย่างว่างเปล่าและพร้อมเผชิญหน้า กับทุกคำถาม ที่จี้ให้ตอบ "ความจริง" จากพิม และน้ำเสียงกราดเกรี้ยวที่แทบไม่เคยถูกใช้ วันนี้ฤกษ์คงรู้ซึ้งถึงคำว่า...เด็กเลี้ยงแกะแล้วซินะ...พิมเคยถามฤกษ์อย่างหัวใจสลายไปแล้วว่า..."พิมยังเชื่อใจพี่ฤกษ์ได้มั้ย" และนี่คือคำตอบไง โกหกกี่สิบครั้ง พอพูดความจริงครั้งเดียวก็ไม่มีใครเชื่อ
ความบังเอิญ ที่ไม่ได้ตั้งใจไม่มีอยู่จริงหรอก....พิมรู้ดี...ราคะ โมหะ สันดานผู้ชายเท่านั้นแหละที่เป็นคำตอบทุกอย่าง นี่คือ การแก้แค้น เอาชนะงั้นหรือ...ไม่เลย...ชัยชนะหนนี้ไม่ใช่ของฤกษ์ ไม่ใช่ของพิม...แต่เป็นของผู้คุมเกมส์อย่างใจเริงต่างหาก
คำถามที่เคยคิดอยู่ลึกๆวันนี้ อาจจะได้คำตอบให้ตัวเอง พิม...คือเครื่องมือนึงของฤกษ์ในการแก้แค้นใจเริง ไม่ใช่ความรัก ใช่รึปล่าว?...คำตอบที่แท้จริงของฤกษ์จะเป็นอย่างไร พิมาลาคงไม่เชื่ออีกแล้ว
"พิมต้องการหย่า"! คือ ประโยคประกาศิตที่ยื่นคำขาดอย่างที่ผ่านการประมวลผลทุกอย่างแล้วจริงๆ เธอให้โอกาสฤกษ์มามาก มากจนเกินไปแล้ว ผู้หญิงที่มองโลกในแง่ดี คิดดีกับทุกคนแม้คนที่ทำลายตัวเอง มันตายไปแล้ว พิมาลา...จากวันนี้ไป จะไม่เหมือนเดิม
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เพลิงบุญตอนที่ 10 เดินทางมาถึงturning point ที่เคยใช้เปิดหัวเรื่องไว้สักที เป็นตอนที่เข้มข้นมากจนอยากเขียนถึงเลย เบลล่าท็อปฟอร์มมากกก ชอบ long take เบรคสุดท้ายที่สุด ต่อให้ไม่เคยมีประสบการณ์แบบพิม แต่เบลล่าแสดงดีจนคนดูรู้สึกไปทุกๆคำพูดของพิมเลย บทเรื่องนี้ร่วมสมัย สมจริง และเป็นภาษาพูดมากๆ รอคอยการ transform ของพิมาลาไม่ไหวแล้ว สมน้ำสมเนื้อแน่ๆ
[เพลิงบุญ] เมื่อม่านบังตาหายไป พิมาลาจึงเห็น...ความจริง...สักที
บุญคุณ...ความปรารถนาดีต่อเพื่อนสนิท ทำให้พิมพยายามมองข้ามปฏิกิริยาต่อต้านใจเริงของฤกษ์ ที่ดูจะฉุนเฉียวผิดปกติมากเกินเหตุ นับจากที่คบหากันจนแต่งงาน ลึกๆแล้วเราเชื่อว่าพิมก็คงนึกหวั่นใจอยู่เสมอว่า...แท้จริงแล้ว ฤกษ์ตัดใจจากใจเริง แล้วรักเธอได้อย่างเต็มหัวใจอย่างที่ปากพูดแล้วงั้นหรือ หรือเธอ..แค่คนที่ดึงเค้าออกจากบ่วงความทุกข์นั้น...เท่านั้นเอง
เธอ คือ ผู้มาก่อน หาใช่คนแย่งชิง....พิมาลา มาก่อนใจเริง ใช่...หากฤกษ์ไม่เจอใจเริงในวันนั้น...การขยับจากเพื่อนบ้านใกล้เรือนเคียงมาเริ่มต้นคบหาดูใจกันในฐานะคนรักคงไม่มีอุปสรรค จนเมื่อ...ผู้ชายอย่างฤกษ์ ได้เจอผู้หญิงที่ร้อนแรง รุกเร้าอย่างไฟเช่นใจเริง พิมคงเคยนึกเปรียบเทียบตัวเอง ระหว่างผู้หญิงที่อ่อนหวาน สวยงาม เหมือนดอกกุหลาบสีขาว กับ กระดังงาลนไฟ ที่ร้อนแรงเช่นเริง จะถูกผู้ชายคนเดียวกันรักได้จริงๆหรือ
ตลอดเวลาที่ใจเริงอาศัยอยู่ในบ้าน.. เรื่องราวหนาหูถึงความน่าระแวดระวังจะโดนฉกสามีจากแอ๊ด ผู้ที่คอยสอดส่องความเป็นไปของคนในบ้านอย่างสปายมืออาชีพ และ น้องสาวที่คอยเก็บข้อมูลรอบตัวมาเล่าอย่างวรรณ ถูกพูดเข้าหูเป็นระยะๆ ความเชื่อใจในสามีและเพื่อนสนิทของพิมาลากำลังถูกสั่นคลอนลงเรื่อยๆจากอากัปกิริยาของสามีตัวเอง
รัก - เกลียด - เฉยๆ พิมคงอยากให้ฤกษ์เฉยๆ ไม่สนใจใยดีใจเริงมากกว่าที่แสดงออกว่าโกรธ ว่าเกลียดมากขนาดนี้ อะไรที่มากไป...มักดูผิดสังเกต จนมีพิรุธ
เมื่อยังไม่มีหลักฐาน แบบคาหนังคาเขา ม่านบังตา บังใจของพิมยังคงไม่เจือจางลง ความรัก ความเชื่อใจยังคงมีอยู่ ในเมื่อทุกความสงสัย...ฤกษ์และใจเริง มีข้อแก้ต่างให้ตัวเองเสมอ
โชคดีของพิม ที่กัลยาณมิตรอย่างทีมพิมาลา ที่ประกอบไปด้วย พี่หมี่ พิชชี่ แมน วรรณ แอ๊ด และเปรม ไม่เคยอยู่เฉยกับปัญหาคาราคาซังของการเริ่มต้นใช้ชีวิตคู่ แบบมีคนที่ 3 อยู่ในเรือนหอด้วยแบบนี้.... ทุกคนรักและปรารถนาดีต่อพิมอย่างที่พิมสมควรจะถูกรัก สิ่งที่พิมทำ ความใจดีมากเกินไปของพิม คือ สิ่งที่พลพรรคทีมพิมาลาคอยเป็นกระจกสะท้อน และเตือนสติพิมอยู่เนืองๆ
นับจากที่ใจเริงขนของออกจากบ้านไปอย่างฉุกละหุกจนพิมก็สงสัย นำมาสู่สิ่งที่ตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตคู่ไม่เคยเกิดขึ้น... สามีที่เคยกลับบ้านตรงเวลา ก็เริ่มกลับดึก สามีที่เคยกลับบ้านมาทานข้าวเย็นด้วยกันก็เริ่มส่งข้อความมาว่าติดงาน สามีที่เคยรับโทรศัพท์ตลอดก็กลายเป็นไม่ค่อยรับ
จากรูปรถและไวน์ มาสู่เนคไท และนาฬิกา พิมเริ่มปะติดปะต่อสงครามประสาทที่ใจเริงเดินเกมส์ในโลกโซเชี่ยลและการเผชิญหน้าอย่างตาต่อตา ฟันตาฟัน
ผู้ชายมั่นใจอย่างฤกษ์...ที่คิดว่าตัวเอง...เอาผู้หญิงอย่างใจเริงอยู่... หากเป็นเปรม เพื่อนสนิทที่คงอยากจะยื่นมือตัวเองไปเขกกะโหลกเตือนสติเพื่อนอย่างแรงๆ แล้วบอกว่า "กำลังทำอะไรอยู่" เปรมพูดถูกทุกอย่าง...ใจเริงไม่ใช่ผู้ถูกควบคุม...แต่เริงคือคนคุมเกมส์ต่างหาก
ทำดีกลบเกลื่อน....ใช่...ผู้ชายที่ทำผิดมา มักใช้วิธีนี้เอาใจภรรยา ฤกษ์ก็เช่นเดียวกัน ทำดี....จนหลักฐานมัดตัว พอถูกเค้น..คำโกหกกองโต อาการโมโหกลบเกลื่อนถูกนำมาใช้ไม่ต่างจากผู้ชายหลายๆคน
ในเมื่อเปรม ยังคงเก็บความลับให้ฤกษ์ได้ แต่ทีมพิมาลาคนอื่นพร้อมกันร่วมมือขุดคุ้ยต้นตอปัญหา วรรณ น้องสาวที่อคติกับใจเริงมาตั้งแต่เด็ก กลับเป็นคนแรกที่ยื่นคำขาด ..ไม่เชื่อคำแก้ตัวของฤกษ์ ใช่...วรรณพูดไม่ผิดหรอก ลึกๆพิมเองก็เชื่อและรู้สึกไปแล้วว่า ตัวเองกำลังถูกคนที่รัก 2 คนแทงข้างหลัง วรรณรักพี่สาวมาก มากขนาดที่ไม่อยากเห็นชีวิตครอบครัวของพิมล่มสลายลงเพราะน้ำมือคนอื่น วรรณ เตือนสติพิมด้วยคำพูดที่ตรง แรงและจริงจนบาดไปถึงหัวใจทั้งพี่และน้องพร้อมๆกัน
พิมที่เคยมองทุกอย่างบวกไปหมด... พิมเคยคิดว่าตัวเอง...เอาอยู่เช่นกัน... พิมเคยหลอกตัวเองว่า ...มันคงไม่มีอะไร...พิมเคยปรามาสว่า...คนอื่นคงคิดมากไปเอง หากวันนี้ที่คำบอกเล่า หลักฐานต่างๆ และ สัญญานอันตรายที่ใจเริงเปิดไพ่สู้ แบ๋ใต๋ให้รู้สถานที่ตั้งของ "รังรัก" เลยว่า ..."ชั้นจะเอา"... ทำให้คนที่เคยนิ่งใจเย็นเป็นน้ำแข็ง ข้างในใจสั่นเหมือนโดนไฟสุม ความจริงคาตาเท่านั้นที่พิมต้องการจะรู้ มันผลักดันให้พิมที่อยู่ในสภาวะอาการที่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวรีบขับรถไปถึงที่หมาย
เสียงกรีดร้อง อย่างคนไร้สติของพิมาลากับความจริงตรงหน้าคงยังดังก้องอยู่ในหัวตัวเอง ที่มากกว่าความเสียใจที่สามีนอกใจแล้ว คำโกหก หลอกลวงแล้วโกหกเล่าต่างหากที่บั่นทอนทุกอย่าง
พิมยอมรับกับตัวเองอย่างหน้าไม่อาย ว่านี่ไง....ความจริงที่เธออยากรู้นัก ...ความจริงที่ทำให้โลกใบนี้ถล่มได้ในพริบตา น้ำตาที่ไหลออกมาแทบไม่ขาดสาย ชนิดที่ว่า..ฝนที่ตกกระหน่ำอยู่ตอนนี้ กับน้ำตาตัวเอง สิ่งไหนจะหยุดก่อนกัน.... คนใกล้ตัว คนที่ไว้ใจ...ใจร้ายที่สุดมันเจ็บแบบนี้นี่เอง
กิเลส ราคะ มัวเมา ลุ่มหลง ที่ฤกษ์ระงับใจไม่อยู่....ทำเอาคนเป็นพ่อเป็นแม่ของทั้งฤกษ์และพิม ที่ก่อนหน้านี้ทำหน้าที่เป็นแค่ผู้สังเกตการณ์ ต้องมามองหน้ากันแทบไม่ติด และเสียใจไม่ต่างจากลูกๆเลย ฝ่ายผิดต้องมาขอโทษขอโพยแทนอารมณ์ที่พลุ่งพล่านของลูกชาย
คืนที่หนักหน่วง...น้ำตายังไม่หยุดไหลจนเช้า.. พิมคงได้คิดทบทวนทุกอย่างจนตกผลึก เมื่อม่านบังตาจางหายลง...สายตาที่มองฤกษ์อย่างว่างเปล่าและพร้อมเผชิญหน้า กับทุกคำถาม ที่จี้ให้ตอบ "ความจริง" จากพิม และน้ำเสียงกราดเกรี้ยวที่แทบไม่เคยถูกใช้ วันนี้ฤกษ์คงรู้ซึ้งถึงคำว่า...เด็กเลี้ยงแกะแล้วซินะ...พิมเคยถามฤกษ์อย่างหัวใจสลายไปแล้วว่า..."พิมยังเชื่อใจพี่ฤกษ์ได้มั้ย" และนี่คือคำตอบไง โกหกกี่สิบครั้ง พอพูดความจริงครั้งเดียวก็ไม่มีใครเชื่อ
ความบังเอิญ ที่ไม่ได้ตั้งใจไม่มีอยู่จริงหรอก....พิมรู้ดี...ราคะ โมหะ สันดานผู้ชายเท่านั้นแหละที่เป็นคำตอบทุกอย่าง นี่คือ การแก้แค้น เอาชนะงั้นหรือ...ไม่เลย...ชัยชนะหนนี้ไม่ใช่ของฤกษ์ ไม่ใช่ของพิม...แต่เป็นของผู้คุมเกมส์อย่างใจเริงต่างหาก
คำถามที่เคยคิดอยู่ลึกๆวันนี้ อาจจะได้คำตอบให้ตัวเอง พิม...คือเครื่องมือนึงของฤกษ์ในการแก้แค้นใจเริง ไม่ใช่ความรัก ใช่รึปล่าว?...คำตอบที่แท้จริงของฤกษ์จะเป็นอย่างไร พิมาลาคงไม่เชื่ออีกแล้ว
"พิมต้องการหย่า"! คือ ประโยคประกาศิตที่ยื่นคำขาดอย่างที่ผ่านการประมวลผลทุกอย่างแล้วจริงๆ เธอให้โอกาสฤกษ์มามาก มากจนเกินไปแล้ว ผู้หญิงที่มองโลกในแง่ดี คิดดีกับทุกคนแม้คนที่ทำลายตัวเอง มันตายไปแล้ว พิมาลา...จากวันนี้ไป จะไม่เหมือนเดิม
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เพลิงบุญตอนที่ 10 เดินทางมาถึงturning point ที่เคยใช้เปิดหัวเรื่องไว้สักที เป็นตอนที่เข้มข้นมากจนอยากเขียนถึงเลย เบลล่าท็อปฟอร์มมากกก ชอบ long take เบรคสุดท้ายที่สุด ต่อให้ไม่เคยมีประสบการณ์แบบพิม แต่เบลล่าแสดงดีจนคนดูรู้สึกไปทุกๆคำพูดของพิมเลย บทเรื่องนี้ร่วมสมัย สมจริง และเป็นภาษาพูดมากๆ รอคอยการ transform ของพิมาลาไม่ไหวแล้ว สมน้ำสมเนื้อแน่ๆ