เรื่องที่จะพูดต่อไปนี้คือเรื่องที่สปอยรุนแรงมากในหนังของ Netflix และ Death note แบบเก่า ถ้าคุณยังไม่เคยดู Netflix’s Death note คำแนะนำของผลก็คือ อย่าไปนึกถึงเรื่องเวอร์ชั่นการ์ตูนหรืออะไรที่ผ่านมาลืมมันไปก่อนเลยได้ก็ดี คิดซะว่ามันมีอยู่ภาคเดียวโดดขึ้นมา หนึ่งคือกันจะช่วยไม่ให้เรารู้เหตุการณ์ล่วงหน้าแล้วอยู่กับปัจจุบันมากขึ้น สองคือมันจะทำให้เราเลิกตั้งความหวังว่าหนังจะต้องออกมาเป็นแบบนู้แบบนี้ ให้มันเป็นแบบที่มันเป็น เราจะสบายใจขึ้นเวลาดู

เรื่องที่ Death note ทำได้ดี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
1 การตีความตัวละคล Light ใหม่ ให้เป็นคนดีกว่าเดิม และก็ไม่ต้องเก่งเว้อเหมือนเดิม ในเรื่องของความเป็นคนดีนั่นนี้ถือว่า ในเรื่องของความเก่งนั้นผมคิดว่าจริงๆแล้วมันไม่จำเป็นก็ได้มาตั้งนานแล้ว เพราะถ้าคุณมาอาวุติที่เทพขนาด Death note ไม่ต้องฉลาดก็ชนะได้แล้วละ อีกฝ่ายจะเอามาสู้ จำได้ว่าสมัยก่อนเคยมีคนเอาตัวอย่างหนัง Death note ไปผสมกับตัวอย่างหนังผีอะไรซักอย่างหนึ่งเขา ตอนนั้นผมก็เกิดคำถามขึ้นในใจเลยว่า แล้วถ้า Death note ถูกเก็บได้โดยคนธรรมดาๆ ไม่ได้ฉลาดแบบสิบปีจะมีมาเกิดซักคนอย่าง Light คนก่อนนี่ เรื่องราวจะเป็นอย่างไง คนธรรมดาที่ยังไม่มั่นใจว่าการตัดสินชีวิตคนอื่นมันด้วยซ้ำนี้ อันที่จริงแผนการบางอย่างของ Light ก็ไม่จำอัจฉริยะก็สามารถคิดได้นะ แค่หัวหมอหน่อย เรื่องนี้ก็มาตอบคำถามผมพอดี อาจจะไม่ได้ดีมาก แต่ไกล้เคียง คือเป็นคนฉลาด แต่ไม่มากมาย แล้วมันยังทำให้เราได้เห็นแง่มุมของ Death note ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

2 เปลี่ยนกฎการใช้ Death note เช่นเรื่องการเอาหัวใจวายใน 40 วิ ออกไป คือผมเคยคิดมานานแล้วว่าถ้ากำหนดการตายได้ทำไมจะต้องหัวใจวายอย่างเดียวละ จริงๆคนเราจะหัวใจวายถ้ามองไปลึกๆมันก็ต้องมีเหตุอยู่ด้านในนะ Death note ใหม่นี่เปลี่ยนเป็นการไม่บอกการตายของใครคนนั้นจะตายแบบสุ่ม ซึ่งสมเหตุสมผลกว่ามาก กฎเก่าที่เหตุแล้วหงุดหงิดที่สุดเลยก็คือการแลกดวงตากับยมฑูตด้วยอายุไขครึ่งหนึ่ง คือยมทูตโดยเฉพาะ Ryuk จะต้องการอายุครึ่งหนึ่งไปทำไป ถ้าแค่เขียนชื่อเจ้าของ Death note หรือใครก็ได้ให้ตายก็จะได้อายุไขที่เหลือมาแล้ว แม้นดวงตายมทูตจะเป็นอะไรที่เปลี่ยนเกมทำให้เรื่องไม่น่าเบื่อแต่ผมว่าไม่สมเหตุสมผลเลย ในส่วนนี่หนังใหม่เอาออกหมดเลยทั้งดวง และอายุไขที่เหลือ ไหนละเรื่องการกำหนดการตายล่วงหน้าได้ 39 วัน ซึ่งผมว่าอันนี้โกงเกินไปมาก หนังใหม่ก็ปลับให้เหลือแค่ 2 วัน ซึ่งสบายใจกว่ามาก  แต่กฎที่เปลี่ยนแล้วไม่ชอบก็มีคือการเขียนชื่อลงไปแล้วสามารถยกเลิกได้หนึ่งครั้งด้วยการเผานี้ไม่สมเหตุสมเหตุสมผลเลย


3 เปลี่ยน Ryuk ให้ดูน่าเกรงขามมากขึ้น อยู่ในเงามืดไม่ให้ความช่วยเหลืออะไรมากนัก จากเดิมที่ดูเป็นอย่างไงก็เป็นเหมือนสัตว์เลี้ยงของ Light มาโดยตลอด ถามอะไรก็ตอบ ใช้ให้ไปสอบแนม แลกกับแอปเปิดก็เอา แถมในเวอร์ชั่นเก่าๆเราจะเห็น Ryuk ทำอะไรฮาอีกมากมาย เรียกว่าหมดความน่าเชื่อถือ



4 ไม่มี Lind L. Tailor
ผมมองว่ามีมาก สิ่งหนึ่งที่สร้างความขัดแย้งให้กับ L คนเดิมคือ L Lawliet ถูกให้คนเซ็บเป็นคนเห็นกฎหมายเป็นสิ่งถูกต้องที่สุด และการตั้งตนเป็นศาลเตี้ยของคิระนั่นไม่ถูกต้อง แต่ในสิ่งที่ L ทำ นั่นมีตั้งแต่ขับรถก็ไม่เคยเคารพกฏจราจรผ่าไฟแดงตลอด ขโมยข้อมูลลับราชการ ลักพาตัว กักขังหน่วงเหนียว ไม่สนเรื่องสิทธิส่วนบุคคล ไม่ได้ดีทั้งนั้น และอันที่บาตรใจสุดๆเลยคือใช้ Lind L Tailor เป็นเหมือนหนูทดลอง มาตายให้ตัวเอง ต้องบอกก่อนว่า L ตอนนั้นมีแนวคิดในใจอยู่แล้วว่าคิระสามารถฆ่าคนได้แบบนั้น จึงได้ใช้นักโทษคนหนึ่งมา รับหน้าที่ลองตายดู จะบอกว่าจะเก่งขนาดไหนเราก็ไม่น่ามีสิทธ์ส่งใครไปลองตายนะ ซึ่ง L ในภาคใหม่นี้ไม่ใช้ Lind L Tailor เป็นหุ่นเชิตให้ตัวเอง เขาเลือกเดิมพันทฤษฎีของเขาด้วยชีวิตของเขาเองคนเดียว อันนี้ผมถือว่าแมนมาก (จริงเป็นจุดดีจุดเดียวของ L ที่นึกออกนะนี้)


5 การดึง Mia มาช่วยรับบทโหดแทน Light
ใครอ่านมังงะหรือดูแอนนิเมมาน่าจะเข้าใจว่า Light นั้นต้องใช้เวลาค่อยเปลี่ยนจากหนักศึกษาแสนดีกลายไปคนร้ายกาจ แล้วกลับกลายมาเป็นคนแสนดีใหม่ตอนที่ถูกลบความทรงจำ แล้วก็กลับมาร้ายใหม่ในที่สุดจนจบเรื่อง (เหมือนคนเป็นโรคสองขั้ว) ซึ่งเอาจริงๆแล้วมันทำได้ยากมากในหนัง ส่วนบางคนอาจจะไม่ชอบนะที่ Misa เปลี่ยนไปขนาดนี้ แต่ผมมองว่า Misa เป็นตัวละครที่สามารถถูกตัดทิ้งไปได้ตั้งแต่ต้นแล้วถ้าต้องการให้เรื่องมันสั้นขนาดนี้ แต่ตัวละคร Mia ที่สร้างมาใหม่นี้ไม่ใช่ Misa เลยแต่เป็นเหมือนด้านชั่วร้ายของ Light Yagami ที่ถูกแบ่งตัวออกมาจาก Light Turner นั่นเอง แผนการเปลี่ยนโลกออกมาจากปากของ Mia เองแท้ๆ ในการตูน Light Yagami ตอนถูกลบความทรงจำเองก็ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ Kira ทำเหมือนกันนะ แต่ในการตูน Light จะไม่สามารถเถียงเรื่องนี้กับตัวเองได้ แต่แยกออกมาเป็นสองคนแบบนี้ทำให้เราเห็นสองคนนี้ถกกันเรื่องประเด็นความยุติธรรมและความถูกต้องมากขึ้น

6 Light Turner มีความใส่ใจในการเลือกเหยื่อกที่มากกว่า Light Yagami จริงอยู่ที่ Light Turner คนนี้ไม่ได้มีการมีการฆ่าแค่ 400 กว่าคนซึ่งเทียบไม่ได้กับ Light Yagami ที่ฆ่าไปเป็นแสนๆคน แต่ว่าคิดดูดีๆแล้ว Light Yagami ฆ่าคนแบบไม่ค่อยเลือกเหยื่อเลย ก็ถ้ามาใส่ใจทีละคนแสนคนก็คงปวดหัวแย่ บางครั้งก็ใส่ๆชื่อไปงั้นให้อัตราการตายเป็นค่าคงที่ไม่หายไป บางครั้งคนที่ทำความผิดแค่ว่าโกงเงินหรือลวนลาม ก็ถูกตัดสินให้ตายซะแล้ว มีตอนหนึ่งที่มีการเอาคนทำผิดไป Post ในเน็ต แล้ว Mia บอกให้ Light Turner ฆ่า แต่เขาปฏิเศษ ในจุดนี้มีสถานการณ์คล้ายๆกันในการตูน Light Yagami  กลับเลือกที่จะฆ่า คำถามที่เกิดขึ้นในตอนหลักๆก็คือ ถ้าคนที่ Light Yagami ฆ่า นั่นถูกใส่ความละ หรือเขากลับตัวกลับใจเป็นคนดีแล้วละ (แบบใน Death note: New generation) ในจุดนี้ผมเลยคิดว่าหนังเรื่องใหม่ทำออกมาได้ดี


7 ฉากจบที่แสดงแผนการซับซ้อน
อันที่จริงก็เป็นสิ่งที่ผมคาดหวังมาตลอด เวลาดู Death note ในแต่ละภาค แต่ละรูปแบบมา คืออยากเห็นคนงัดแผนการเหนือๆ มาใช้ ซ้อนกันไปซ้อนกันมา แต่ไม่เคยมีอันไหนทำออกมาได้ดีเลยนอกจากแบบแอนิเม กับ The last name จนกระทั่งได้มาดูเวอร์ชั่นนี้ มันก็ไม่ได้ถือว่ามีแผนการเฉือดเฉือนอะไรนักมากนักนะ แต่ว่าก็โอเคมากสำหรับผมดีกว่าหลายๆภาคที่ทำออกมาในรอบสิบปีมานี้

8 อันนี้ชอบใจที่สุดเลยคือ Light Turner คืนนี้ไม่ได้คิดว่าที่ตัวเองทำไปถูกเสมอ มีตอนหนึ่งหลักจากที่ถูกกดดันจากมีอา Light แบบออกที่ซ้อนเศษกระดาษ Death note กับ L ซึ่งตอนแรกบอกเลยว่าโคตรงง จะบอกทำไมอะ!! แต่นอนคิดอยู่นานก็เขาใจ ตอนที่เขาบอกกับพ่อเขาที่ห้องพยาบาลว่าบางที่เราอาจจะต้องเลือกทางที่ซั้วร้ายน้อยว่า หมายถึงว่าเขาก็เข้าใจว่าสิ่งที่ทำนั่นไม่ดี แต่ก็ไม่อยากตัดสินความผิดตัวเอง เลยยกหน้าที่นี้ให้กับ L เป็นคนตัดสินชะตาของตัวเองให้ มันลึกซึ่งตรงนี้ละ ถ้าเทียบกับ Light Yagami แล้วละก็ รายนั่นโดน Death note คลอบงำจนเห็นว่าการฆ่าเป็นสิ่งที่ถูกไปหมดแล้ว เขาฆ่าแม้นแต่ FBI, แฟน FBI, ตอนหลังแฟนตัวเองก็ฆ่า แล้วยังคิดว่าตัวเองทำถูกอยู่เสมอด้วยนี้สิ




เรื่องที่ทำออกมาได้แย่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

1 Light กรีดดดดดดด
คือเข้าใจว่า Yagami ถ้าเอามาเรียบกลับกันจะได้ im a gay (ฉันเป็นเกย์) ไม่รู้เกี่ยวมัย แต่ทำแบบนี้ไม่ถูกที่ถูกเวลาจริงๆ ผู้กำกับเองก็เป็นคนที่เก่งสร้างหนังแนวสยองขวัญมาก่อน แล้วมาทำหนังเรื่องนี้จะสยองหรือไม่มีคนกรีดเลยนี้อาจจะไม่ใช่ แต่ทำแบบนี้ไม่ถูกที่ถูกเวลาไปหน่อย เรียกว่าเกรียดที่สุดละฉากนี้


2 Mia ไม่มีนมมมม
เห้อออ ล้อเล่นๆ จริงๆแล้วผมหมายถึงนักแสดงที่เขาเลือกมาเป็น Mia ยังเล่นได้ไม่ค่อยเก่ง นักแสดงยังมือใหม่อยู่เลย มีการแสดงถึงอารมห์ที่ไม่ค่อยดี เช่นฉากที่บอกให้ส่งต่อ Death note มาให้เธอ บอกเลยว่าแสดงได้โอเวอร์มากก อาจจะรวมไปถึงนักแสดง Light ด้วย เช่น ฉากเถียงกันบนกระเช้า นี้อยากปิดตาดูมากเลย มันไม่น่าจะแสดงอารมณ์แบบนั้น

3 เพลงประกอบก็ไม่ได้ดี
อันที่จริงแล้วตั้งแต่ดู Death note มา ทำเพลงประกับได้ไม่ค่อยดีซักแบบ ออกมาดีหน่อยก็ในเรื่อง ยกตัวอย่างฉากตกจากกระเช้าแล้วเปิดเพลงเก่าๆ แล้วทำภาพสโลนี้ รู้สึกขัดมาก

4 L เปิดหน้าในที่สาธารณะ
จริงแล้วมันเริ่มมาตั้งแต่ที่ผมรู้สึกว่ามันน่าจะออกแบบหน้ากากให้ L ออกมาดีกว่านี้นะ ไม่ใช่ให้ปิดหน้าเฉยๆ เพราะอย่างไงหน้ากากก็เป็นสิ่งจำเป็นในเรื่องนี้ เพราะ L คนนี้อาจจะกลายเป็นผู้นำเอกลักษณ์ใหม่ๆมาสู่เรื่องนี้ กลับให้ L แต่งตัวง่ายๆ ก็โอเคมั้ง? และแล้วเรื่องก็ดำเนินมาถึงตอนท้ายๆ คิดได้แล้วว่า L น่าจะต้องเปิดหน้าตัวเองบ้างแล้ว ไม่งั้นเสียดายหน้านักแสดงที่อุตส่าเลือกมา แต่คิดอยากจะเปิดก็เปิดเลยหรอ หรือผมดูพลาดอะไรไปก็บอกได้นะครับ คือถ้าไม่รู้ ก็สร้างเหตุผลให้เกิดอุบัติเหตุหน้ากากหลุดหรืออะไรทำนองนี้ก็ได้ แล้ว L รู้ตัวว่ายังไม่ตายต่อหน้า Light ต่อไปจึงไม่ใส่หน้ากากอีกก็ได้

5 ความสัมพันธ์ของ Light กับ Mia มันเร็วไป
คือเราไม่ได้หมายถึงเรื่องบนเตียงหรอกนะ เพราะเราก็ไม่ค่อยเข้าใจวัฒนธรรม ของอเมกาเหมือนกันที่สามารถนอนกับคนที่พึ่งแนะนำชื่อกันได้ไม่ถึงวัน แต่จะหมายถึง Light ไว้ใจ Mia ขนาดมาแบ่งความลับเรื่อง Death note ให้หลังจากพึ่งแนะนำชื่อกันและกันเอง อันที่จริงก็เข้าใจนะว่าทั้งสองคนนี้รู้ต่างแอบรู้เรื่องของกันและกัน และมองกันอยู่ห่างๆมานานแล้ว แต่อยากให้ช่วยเล่าความสัมพันธ์ที่ดูเหมือนจะลึกซึ่งกว่านี้ให้หน่อยน่าจะดีกว่า ไม่งั้นมันจะดูขัดมากเวลาเห็นคนพึ่งรู้จักกันแบ่งความลับเรื่องความเป็นความตายขนาด จริงๆก็ต้องบอกเลยว่าทั้งเรื่องนั่นละเร็วไปรายละเอียดออกมาแค่แวบเดียว แต่เราเคยเห็น Death note ฉบับที่ทำเป็นทีวีซีรีย์แล้วดำเนินเรื่องช้าแล้วมันน่าเบื่อ เอาเป็นว่าตรงนี้เห็นใจเขาละกันช้าไปก็น่าเบื่อเพราะเรื่องมันเหลือจุดตื่นเต้นน้อยละ เร็วไปก็แบบนี้ไม่ค่อยรู้เรื่อง

6 พึ่งจะชม Ryuk ไปแท้ๆ
Ryuk ทำได้ดีมาก ให้มันอยู่ในเงามืด กราฟฟิกดี ให้เสียงได้ดี แต่ทัดใดนั้นก็มีฉากหนึ่งขึ้นมา Ryuk นั่งกินแอปเปิลบนโต๊ะกินข้าว ฉากนี้ไม่มีเงามือ เราเห็น Ryuk ชัดๆเต็มตา นี่มันคนใส่ชุดคอสตูมชัดๆ หมดอารมห์เลย ปัญหาของ Ryuk ในภาคนี้คือมันไม่ใช่ Full CGI คือเป็นคนใส่ชุดแล้วเติม CGI บางส่วนเอา เมื่อก่อนที่เราเห็น Ryuk จะให้ความรู้สึกขดลุกนิดๆ เพราะมันมีความคล้ายคนแต่มองดีๆจริงแล้ว แขนขาจะเรียวเล็กไปหมดจนไม่สามารถเป็นคนได้ แต่พอได้เห็นชัดๆนี้หมดอารหมห์เลย อีกส่วนที่ไม่ชอบเลยคือฉากเปิดตัวของ Ryuk ที่ข้าวของพากันพังไปหมด แถมทำไฟดับได้อีก ตรงนี้ผมมองว่าไม่ดีเลย นี้ละฉากที่เกรียดที่สุดเลย มันมีอีกหลายวิธีที่จะทำให้การเปิดตัว Ryuk นั่นทำออกมาได้ทรงพลังและน่ากลัวกว่าแบบนี้ (แม้นให้นึกตอนนี้จะนึกไม่ออกก็ตาม)


7 จริงๆคือน่าจะเรียก L ว่า L เลย
ชื่อตัวละครนี่ผมว่าเขาแค่พยายามขายความเป็นอะไรเก่าๆ แต่ถ้าเอามาแล้วทำต่างขนาดนี้ ก็เปลี่ยนชื่อมันให้หมดเลยเป็นไง อย่าง Misa เป็น Mia เป็นต้น มันทำให้เราอาจจะช่วยไม่ให้เราเอาภาพตัวละครเก่าๆมาเปรียบเทียบ เช่นพอเปิดเรื่องมาด้วยชื่อว่า L เราก็จะฝั่งหัวไปเลยว่าเขาต้องฉลาด เขาต้องเทพ เขาต้องเข้าสังคมไม่เก่ง ทั้งที่ยังไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแต่ภาพเก่านำมาละ จริงๆแล้วที่นำเข้ามาสู้ประเด็นนี้แค่อยากจะแชร์ความเห็นว่า L ในเรื่องนี้ไม่เหมือน L คนก่อน แต่เหมือน Mello มารับตำแหน่ง L มากกว่า

เอาไว้เท่านี้ก่อน รู้ว่ามีเยอะๆ แต่เก็บๆอารมห์ไว้อยู่ จริงๆอยากพิมพ์มากกว่านี้แต่พันทิพไม่ให้พิมพ