"เป็นคนที่ซื้อตัวไหน แดงตลอด ตัดสินใจขายทีไร มันดันขึ้นตลอดเลยย"
นี่แหละครับ ที่ต้องตั้งคำถามอับดันแรกว่าเราซื้อขายด้วยเหตุผลอะไร

จังหวะที่ซื้อได้ตั้งคำถามไหมซื้อเพราอะไร จังหวะขายเพราะอะไร เห็นอะไร
ใช้ อารมณ์ หรือ ตามหลักการ ทุกคนเจอจุดนี้เหมือนกันหมดครับ อยู่ที่ใครจะหาคำตอบให้ตัวเองออกจากตรงนี้ได้

ที่พิมพ์แบบนี้เพราะเคยให้คำปรึกษาหลายคนเขาออกจากจุดนี้ไม่ได้เพราะเขายึดกรอบความคิดเดิม
- ระแวงเจ้าทุบ ระแวงเจ้าขาย
- วอลุ่มปลอมหรือเปล่า
- ดันราคาหลอกกันแล้วทุบหรือเปล่า
มันมีแต่คำถามเต็มไปหมด สุดท้ายก็ใช้อารมณ์ ใช้ความรู้สึกซื้อขายเอา

สิ่งที่ จขกท ต้องทำ ไม่ใช่ตามหาวิธีการที่ดีครับ แต่ต้องค้นหาว่า ในแต่ละขั้นตอนในการซื้อขายของตัวเอง เราทำอะไรพลาดไป

"ตัวอย่าง" เช่น...
มีคนบอกว่าหุ้นตัวนึง fair value อยู่ที่ 110 บาท แต่ตอนนี้หุ้น 80 บาท จขกท ก็ใส่เลยจัดเต็ม
ไม่มีวางแผน money management ด้วย ซัดไปปุ๊บ ราคาลงมา 70 บาท

คำถามคือ
1. ตอนซื้อ ซื้อเพราะอะไร ทำไมถึงเชื่อ fair value นั้น และได้ลองคำนวนเองหรือยัง
2. ตอนลงมา 70 บาท คิดยังไง อยากขายไหม ทำไมถึงอยากขาย หรือทำไมไม่อยากขาย

ประสบการณืส่วนตัว จากคำถามที่ 1 ผมพบทางออกว่า เอาหละ เราต้องศึกษาเรื่องการประเมินมูลค่าเองแล้วหละ อย่ายืมจมูกคนอื่นหายใจ หลังจากนั้นก็ไล่หาอ่านหนังสือประเมินมูลค่า ก็ได้รู้เรื่องราวประมาณนึง หลังจากนั้นทดลองทำเอง ซื้อขายเอง มี money management ที่ดีขึ้นแบ่งไม้เข้าซื้อ

ค่อยๆผิดพลาด ค่อยๆเรียนรู้ว่าเราลืมคิดจุดไหน เก็บข้อผิดพลาดแต่ละจุดเอาไปปรับให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ ... ถ้าไล่ตั้งคำถามกับตัวเองแบบนี้เรื่อยๆ เราก็จะค่อยๆพัฒนาระบบการวิเคราะห์ของเราไปเองครับ วันนึงมันก็จะได้กำไรตามความรู้ + หลักการคิด + ทักษะ ที่เราสะสมมานี่แหละ

แต่เท่าที่เจอคือคนมีปัญหามาปรึกษา ผมก็จะให้ลิ้งค์ ให้ชื่อหนังสือเขาไปศึกษา ต่อมา 1 เดือนพบว่าเขาก็ขาดทุนเหมือนเดิม และไม่ได้ตั้งใจศึกษาอะไรเพิ่มเลย สุดท้ายก็ใช้หลักการเม่าๆแบบเดิมซื้อขายหุ้น ขาดทุนซ้ำแล้วซ้ำเล่า

เห็นภาพมั้ยครับ..

กลับมาที่คำถามศึกษาอะไรดี ถ้าอยู่ในตลาดมา 2 ปี น่าจะเริ่มรู้จักตัวเองแล้วว่าชอบแนวทางไหน ก็ลองหาหนังสือแนวทางนั้นมาอ่านเพิ่มเติมครับ ไม่ว่าจะเรื่อง fundamental analysis หรือ technical analysis มันดีหมด อยู่ที่อันไหนถูกจริตกับเรา สายผสมก็มี หรือแนว quant ซื้อขายแบบเป็นระบบก็ดี