สวัสดีครับ นี่ก็เป็นกระทู้ที่สามแล้ว พร้อมกับเป็นวันที่สามที่ WDW อีกด้วย วันนี้ก็จะมาเที่ยว Disney's Hollywood Studios ซึ่งเป็นอีก 1 พาร์คของ Disney World นั่นเองแถมยังสร้างเป็นลำดับที่ 3 ด้วย ส่วนข้างในพาร์คก็ตามชื่อเลย จำเป็นการจำลองในส่วนของหนัง รายการทีวี เพลง ภาพยนตร์ต่างๆ

ใครที่พลาดไปก็ติดตามสองวันแรกได้ที่นี่นะครับ
1.) https://ppantip.com/topic/36821245 PANDORA The World of Avatar @ Animal Kingdom + EPCOT
2.) https://ppantip.com/topic/36817048 การเตรียมตัวแรกวันแรก

หลังจากที่เมื่อวานไปผจญภัยหนักมากๆตั้งแต่เช้าถึงเกือบเที่ยงคืน วันนี้ก็เลยวางแผนให้เบาลงหน่อย เลยมาที่พาร์คนี้นั่นเอง จริงๆเพื่อนแนะนำว่าเก็บที่นี่รวมกับ EPCOT ในวันเดียวได้เพราะที่นี่ไม่ใหญ่มาก แต่ก็ไม่ทันแล้วว

มาคิดดูดีๆที่นี่ก็ไม่ได้ใหญ่มากจริงด้วย เครื่องเล่นที่เด่นจริงๆก็มีแค่ไม่กี่อย่าง คือ Toy Story mania, Rock ‘n’ Roller Coaster, Tower of Terror แล้วก็พวกโชว์ จริงๆก็เพราะว่าบางส่วนถูกปิดปรับปรุงอยู่ด้วย เพื่อสร้าง Toy Story land กับ Star wars land ที่จะเปิดในอีก 2-3 ปีข้างหน้า

สำหรับฟาสพาสที่ได้กดไปก่อนนั้นก็จะมี Frozen, Fantasmic, Pixar live ซึ่งจริงๆสองอย่างหลังเป็นโชว์ในรอบเย็น เลยทำให้ไม่ตัดโอกาสจองอย่างอื่นไป แอบพลาดไปหน่อยเลยทำให้ต้องไปต่อแถวอันที่เหลือเอาเอง

---

ตอนนั้นกว่าจะออกจากรีสอร์ทก็ช้าหน่อย เลยทำให้ไปถึงหลังปาร์คเปิดประมาณ 1 ชม. แต่ก็ไม่ได้พลาดอะไรไปเนื่องจากจอง Frozen ไว้ตอนนั้นพอดี พอถึงแล้ว เข้าพาร์คไปเลยรีบวิ่งไปหาโรงละคร Hyperion Theater ของ For the First Time in Forever: A Frozen Sing-Along Celebration

เข้าไปจะเจออันนี้เป็นอย่างแรก จริงๆก็ไม่ได้เด่นมาก เหมือนว่าแลนมาร์คจริงๆเค้าจะเอาออกไปแล้ว



แล้วก็รอซักพักนึง พอใกล้เริ่มประตูทางเข้าก็จะเปิดอัตโนมัติ (เช่นเคย) มีทริคอยู่หน่อยตรงที่พวกโรงละครที่นี่ ถ้าใครเข้าไปแรกๆ เค้าจะให้เดินไปให้สุดก่อนถึงค่อยนั่ง ดังนั้นก็จะพลาดที่นั่งกลางๆโรงไปเลย ดันไปอยู่ซะริมเลย.. แล้วก็จริงๆอันนี้ไม่ต้องจองฟาสพาสก็ได้ ไปต่อคิวปกติคนก็ไม่ได้เยอะมาก

สำหรับม่านเวทีก็จะอารมณ์ประมาณนี้ มีรูปหิมะหมุนๆอยู่ด้วย



โชว์นี้ก็ตามชื่อเลย จะฉายวิดีโอเพลงต่างๆในเรื่องโดยมี subtitle ข้างล่างให้ร้องตามไปได้ แต่ก่อนนั้นจะมีคนบรรยายสองคนคอยช่วยกันบรรยาย แล้วพอถึงช่วงเพลงก็จะคลิปขึ้นจอ



ตัดมาตอนจบเลยละกัน ก็จะเป็นเพลง Let It Go ปิดท้าย พร้อมกับมีฟองสบู่เยอะมากๆๆๆๆๆ แทนหิมะตกลงมา ดูแล้วอินมากจริงๆชอบด้วย (แต่เพื่อนข้างๆนี่แทบหลับ 555555)



คลิปโชว์ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ถัดมาก็ถึงช่วงที่ว่างแล้ว ไม่มีฟาสพาสให้ใช้ด้วย T T ระหว่างทางก็เจอ event ของสตาวอร์ แต่แวะดูแค่แปบเดียวเอง เท่อยู่นะ เห็นคนมารุมล้อมเยอะมาก



เสร็จปุ๊บก็เดินไปต่อคิว The Great Movie Ride ซึ่งจะปิดตัวลงในช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้แล้ว คืออีกไม่กี่วันเองหลังจากที่ไป โชคดีมาก เพราะอันนี้เป็น 1 ในเครื่องเล่นตำนานของที่นี่เลย เปิดพร้อมกับพาร์คนี้เลย แถมมองตรงมาจากทางเข้าจะเห็นเครื่องเล่นนี้ตรงๆเลย หลังจากปิดแล้วก็จะเปลี่ยนเป็น  Mickey and Minnie's Runaway Railway (เป็น 1 ในแผ่นการเปลี่ยนแปลงเครื่องเล่นให้เข้ากับยุคสมัย)



เครื่องเล่นก็จะเป็นรถกว้างๆหน่อย นั่งได้ 4-5 คนต่อแถว โดยรถจะวิ่งไม่เร็วมาก มีคนคอยบรรยาย เครื่องเล่นนี้ก็จะเกี่ยวกับการผจญภัยไปตามหนังฮิตเรื่องต่างๆจากยุคต่างๆ ถ้าใครเป็นแฟนหนังเก่าๆน่าจะฟินมาก



คลิป Last ride ของเครื่องเล่นนี้ ตอนนี้ปิดไปตลอดกาลแล้ว [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เสร็จปุ๊บก็เดินอ้อมมาที่โซน Pixar มาเล่น Toy Story Midway Mania ถ้าใครเคยเล่นที่ Tokyo DisneySea มาแล้วก็จะคุ้นหน่อย มันคืออันเดียวกันเล่น จะเป็นเกมนั่งรถยิงๆไปตามเป้าเพื่อทำคะแนน



ขึ้นเครื่องเล่นมาก็จะมีที่ยิงโดยเราสามารถหมุนเพื่อเล็งเป้าได้ แล้วก็มีเชือกให้ดึงเพื่อที่จะยิงตามเป้าในจอ ตอนเล่นครั้งแรกรู้สึกว้าวมากๆเพราะจริงๆแล้วเค้ามีแว่น 3D ให้ใส่ด้วย เล่นไปก็จะรู้สึกถึงความมีมิติ รวมถึงบางเกมจะมีลมเป่าออกมาด้วย มันเท่ตรงที่รู้ตำแหน่งที่เราเล็งด้วย ว้าวมากๆอะ ยิ่งเครื่องเล่นนี้มีมาหลายปีแล้วด้วย เทคโนโลยีของดิสนีย์นี่ล้ำสมัยตลอดเลย ตั้งแต่ Magic Band ละ


เสร็จปุ๊บก็แวะมานั่งตากแอร์ดูโชว์ Voyage of The Little Mermaid อันนี้แอบน่าเบื่อไปหน่อย แต่พวกแสงเอฟเฟ็กต่างๆก็ยังพอทำให้น่าสนใจด้วย รวมทั้งนางเงือกจะใช้คนแสดงจริงๆเลย  



Ursula จะเป็นหุ่น แต่ตัวใหญ่อยู่ เคลื่อนไหวได้สมจริง อลังการมาก



แวะพักเหนื่อยที่ร้าน Starbucks โดยที่นี่จะไม่ได้มีป้ายเด่นๆนอกร้าน แต่จะเป็นเหมือนร้านเบเกอร์รี่ปกติเลย แต่ข้างในถึงค่อยมีป้ายเมนู พนักงานก็จะแต่งตัวน่ารักสไตล์ดิสนีย์



อันนี้เป็นเมนู Java Chip Frappucino ตรงแก้วจะพิเศษหน่อยตรงที่มีลายด้วย แค่นี้ก็น่ารักแล้ว



หลังจากเก็บเครื่องเล่นโซนตรงกลางไปแล้ว ทีนี้ก็จะเดินมาตรง Sunset Boulevard ซึ่งเป็นส่วนต่อขยายของพาร์คนี้ในช่วงหลัง ตอนแรกก็สงสัยอยู่เพราะดูจากแผนที่มันจะเป็นทางเดินที่ต่อออกมาจาก Park ตรงกลางเลย ตั้งแต่ตรงนี้ ค่อนข้างจำลองเมือง LA ได้สวยมากๆ ทั้งอาคารต่างๆแล้วก็ต้นปาล์มสูงใหญ่ตามข้างทาง



เดินตรงมาเรื่อยๆก็จะเจอกับ Tower of Terror อยู่ไกลๆ แต่ด้วยความที่ว่ามันสูงมาก เลยค่อนข้างเด่น



เดินไปใกล้ถึง เราก็ตัดสินใจเลี้ยวซ้ายมาที่เครื่องเล่นอันนี้ คือ Rock ‘n’ Roller Coaster เพราะเห็นว่า Wait time สั้นกว่า (ประมาณ 40 นาที) แถมมีแถว Singler Rider ด้วย แต่เราก็ต่อแถวปกติไปเพราะกลัว อยากนั่งกับเพื่อนก่อน 5555 เห็นรางตรงหน้าแล้วก็แอบเสียว กลัวจะมีแบบตามนั้นจริงๆคือหมุนควงไปตามราง…



มีสัญลักษณ์ตรงทางเข้าที่เด่นมากๆ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเครื่องเล่นนี้ร๊อคแน่นอน



ขอบอกเลยว่ามันส์มาก เริ่มตั้งแต่ตอนต่อแถว จะมีช่วงนึงที่มีคลิปวง Aerosmith มาต้อนรับเราในห้องซ้อมดนตรี ซักพักผู้จัดวงก็เดินมาเรียกให้ไปเล่นคอนเสิร์ตได้แล้ว แต่มีสมาชิกวงบอกว่าจะทิ้งแขกพวกนี้(พวกเรา)ไว้ได้ยังไง เลยขอให้พาไปด้วย พร้อมกับให้บัตร backstage (VIP) จนสุดท้ายผู้จัดการก็ยอม พร้อมโทรไปเตรียมรถให้เรานั่งไปคอนเสิร์ต จึงเป็นที่มาของเครื่องเล่นนี้นั่นเอง

คลิปเครื่องเล่น [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

อีกอย่างนึงที่ชอบคือมันส์สมชื่อเลย ทั้งเป็นเครื่องเล่นที่เริ่มต้นเร่งความเร็วเป็น 91 กม./ชม.ภายใน 2 วินาทีแรก และระหว่างเล่นก็จะมีเพลงร๊อคๆอยู่ข้างหู สนุกมากๆไม่ได้คิดถึงความเสียวเลย ยิ่งเพราะข้างในมืดด้วย จะมีแสงเป็นฉากๆตามสถานที่ในฮอลลีวูดที่เรานั่งรถผ่าน มาหาข้อมูลเพิ่มเติมแล้วก็รู้ว่าเครื่องเล่นอันนี้มีการหมุนควงอยู่ประมาณ 4 รอบได้

ติดภาพรถมาหน่อยนึง



ถัดมาก็เดินมาเล่น Tower of Terror คือต่อแถวไม่นานมาก ถ้าเข้ามาในตึกได้แล้วก็คือใกล้ได้เล่นละ เครื่องเล่นนี้ถ้าใครเคยเล่นที่ DisneySea จะอารมณ์เดียวกันเลย เรื่องราวจะคนละอย่าง จะได้ไม่ซ้ำกัน ของอันนี้คือมีครอบครัวนึงเข้าไปใน Hollywood Tower Hotel แล้วขณะขึ้นลิฟต์ก็หายตัวไปอย่างลึกลับ..  แต่ที่นี่เป็น original นะ ที่แรกเลยใน Disneyland แถมเป็นที่มาของหนังชื่อเดียวกันด้วย และยังเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดใน WDW รองจาก Everest ที่ Animal Kingdom

คลิป [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ที่แตกต่างแน่ๆคืออันนี้หลังจากเข้ามานั่งแล้ว ประตูปิดแล้ว มันจะพาเราขึ้นไปชั้นนึงก่อน เป็นการเกริ่นนำ เสร็จปุ๊บจะพาไปอีกชั้น ทีนี้ cargo (ที่เรานั่งอยู่) จะเลื่อนไปตามทางข้างหน้า เข้าสู่มิติที่เรียกว่า Twilight zone อันนี้ทำดีมากๆ แสงสวยด้วย แล้วหลังจากนั้นถึงจะเป็นลิฟต์ตกตึกที่แท้จริง

ตอนออกมาเจอของเล่นชิ้นนึงน่าซื้อมา รู้สึกถูกใจ เลยสอยมาตัวนึง ไม่คิดว่าจะได้ตุ๊กตาจากที่นี่นะ 5555



เดินออกมาเจอร้านขายของด้านนอก มีรูป Miley Cyrus กับ Nick Jonas สมัยยังเป็นเด็กดิสนีย์ติดอยู่ด้วย