จังหวัดตราด ไม่ได้มีดีแค่เกาะต่างๆ เท่านั้น สถานที่บนฝั่งที่น่าสนใจก็ยังมีอีกมากมาย วันนี้เราจะพาเที่ยวในอำเภอเมืองตราดกัน
เนื่องจากทริปนี้ได้รับการสนับสนุนจาก Pantip และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ดังนั้นจะไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายนะคะ

ที่แรกที่จะพาไปคือ "ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองตราด"


ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองตราด ตั้งอยู่บนถนนหลักเมือง ใกล้วัดโยธานิมิตร เป็นศาลหลักเมืองที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น แตกต่างจากศาลหลักเมืองอื่นๆ ตรงที่ก่อสร้างในลักษณะเป็นเก๋งจีน สันนิษฐาณว่าสร้างขึ้นในคราวเดียวกันกับวัดโยธานิมิต เมื่อครั้งสมเด็จพระเจ้าตากสินยังเป็นพระยาวชิรปราการ เดินทางมารวบรวมไพร่พลเพื่อกู้ชาติที่เมืองตราด
ศาลหลักเมืองเป็นดั่งศูนย์กลางเชื่อมความสัมพันธ์ไทย-จีน ภายในศาลหลักเมือง เสาต้นสูงคือเสาหลักเมือง เสาต้นต่ำคือเสาศิวลึงค์ มีเรื่องเล่าว่าศิวลึงค์เดิมอยู่ที่ ต.ห้วยแร้ง เจ้าเมืองสมัยนั้นเดินทาง ไปพบมีผู้คนศรัทธากราบไหว้ เชื่อว่าสามารถรักษาโรคภัยไข้เจ็บได้จึงอัญเชิญมาไว้คู่กันเป็นของสำคัญคู่บ้านคู่เมืองมาจนทุกวันนี้  ส่วนศาลเจ้าพ่อนั้น เดิมเป็นอาคารไม้มุงสังกะสีอยู่ด้านหลังศาลหลักเมือง ภายในมีภาพจำลองเจ้าพ่อหลักเมืองเขียนด้วยภาษาจีนกำกับ สร้างโดยชาวจีนใน จ.ตราด ต่อมาได้มีการสร้างอาคารหลังใหม่ขึ้นแทนอาคารไม้ที่ชำรุดทรุดโทรมและได้อัญเชิญรูปหล่อเจ้าพ่อ เข้าประทับ




หลังจากกราบสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองตราดกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขอแนะนำร้านอาหารทะเล รสชาติอร่อย ในตัวเมืองตราด ชื่อร้าน "ริมทะเลซีฟู๊ด" พิกัด อำเภอแหลมงอบ จ.ตราด
เปิดบริการทุกวันตั้งแต่ 9.00 น. - 22.00 น. (ครัวปิด 21.00 น.)
ข้อมูลเพิ่มเติมหาได้จาก Facebook "ริมทะเลซีฟู๊ดแอนด์รีสอร์ท จ.ตราด" นะคะ



ร้านนี้มีดีตรงที่ อาหารทะเลทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น กุ้ง, ปู, ปลา มีความสด เนื้อหวาน อร่อยมาก







มีของคาวแล้วก็ต้องมีของหวาน ถ้ามีโอกาสไปเที่ยวในตัวเมืองตราด แนะนำเลยว่าห้ามพลาด "บัวลอยไข่หวาน" ร้านนี้เด็ดขาด
ร้านนี้ตั้งอยู่ในตัวเมืองตราดอยู่ในซอยเดียวกันกับโรงแรมตราดเซ็นเตอร์ (ซอยตรงข้ามโรงพยาบาลตราด)
หน้าปากซอยมีป้าย "บัวลอยไข่หวาน" ติดไว้ชัดเจน จอดรถหน้าซอย แล้วเดินเข้าซอยไปนิดเดียว เจอร้านเลย เป็นอาคารพาณิชย์ห้องเดียว
มีที่นั่งด้านในประมาณเกือบ 10 โต๊ะ
เปิดขายวันจันทร์ - วันเสาร์ (15.00 น. - 21.30 น.) หยุดทุกวันอาทิตย์นะคะ



เมนูเด็ดของร้านนี้ คือ "บัวลอยไข่หวาน" บัวลอยเนื้อหนึบหนับ นุ่มกำลังดี ใส่มากับข้าวโพด มะพร้าวอ่อน น้ำกะทิเข้มข้น หวานกำลังดี
ที่สำคัญคือ ไข่หวาน สุกเป็นน้ำตาลใน ไม่คาว คิดแล้วก็อยากกินอีก (ถ้าบ้านอยู่ใกล้ จะไปโดนทุกวันเลย)



อีกเมนูที่นิยม คือ "เต้าถึงหมี่หวาน" เส้นหมี่เหนียวนุ่ม เข้ากันกับน้ำเชื่อมได้อย่างไม่น่าเชื่อ เป็นเมนูดับร้อนได้เป็นอย่างดี



สถานที่แนะนำอีกแห่งใน อ.เมืองตราด คือ "วัดบุปผาราม" ตั้งอยู่ที่ถนนพัฒนาการ บ้านปลายคลอง ต.วังกระแจะ อ.เมือง จ.ตราด


เนื่องจากวัดบุปผาราม เป็นวัดเก่าแก่ ดังนั้นทั้ง วิหาร, โบสถ์, เจดีย์ ภายในวัดจึงล้วนแล้วแต่มีความสวยสด งดงาม
แบ่งเป็นโบราณสถานในเขตสงฆ์ซึ่งหากไม่ได้รับอนุญาติจะไม่สามารถเข้าชมได้ และโบราณสถานในเขตพุทธาวาสที่ได้เปิดให้เข้าชมความงามกัน
(อย่างที่บอกไปแล้วว่าวัดนี้มีประวัติมายาวนาน เป็นวัดเก่าแก่ ท่านใดแวะไปเยี่ยมชม หรือทำบุญที่วัดนี้ ขอความกรุณาแต่งกายสุภาพ
และสำรวมกาย, วาจา, ใจ ระหว่างอยู่ในวัดด้วยนะคะ)










ไปต่อกันที่ "สวนสละสมโภชน์" เป็นอีกหนึ่งสวนสละในจังหวัดตราด ที่ขึ้นชื่อเรื่องการคัดคุณภาพของสละ ก่อนที่จะขายให้แก่ผู้บริโภค
ที่สวนนี้ขายสละพันธุ์สุมาลีเป็นหลัก โดยสละที่จะถูกคัดออกมาขายจะต้องเป็นสละที่มีอายุ 8 เดือนเท่านั้น ซึ่งที่นี่จะทำการติดริบบิ้นสีต่างๆ ระบุวันไว้ที่พวงของสละ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสละที่ตัดมาจำหน่ายจะต้องมีระยะเวลาตามที่กำหนดไว้เท่านั้น
(สาเหตุที่ต้องรอจนครบ 8 เดือน เนื่องจากหากตัดสละมาขายก่อน จะได้สละที่มีรสชาติเปรี้ยว ไม่หวานหอม)





ภายในสวน มีทั้งสละสด และสละแปรรูปจำหน่าย



ขอแถมท้ายอีกหนึ่งร้าน ทางผ่านก่อนกลับ กทม. คือร้าน "ผัดไทร้อยกะทะ" จ.จันทบุรี (พิกัดหาจากกูเกิลได้เลยนะคะ)
สาเหตุที่ชื่อร้านผัดไทยร้อยกะทะ เพราะในสมัยก่อนจะขายแค่ 100 กะทะ แล้วก็ปิดร้าน แต่ตอนนี้ขายไม่จำกัดแล้วค่ะ
ถึงแม้ในร้านจะมีป้ายติดไว้ว่า "ผัดกะทะละจาน" แต่ก็ไปนั่งรอไม่นานนะคะ





ร้านนี้มีผัดไทหลายแบบ แต่ที่ได้ชิมวันนี้คือ ผัดไททะเลน้ำลึก มีทั้งกุ้งและกั้ง อร่อยสุดๆ ไม่ได้ปรุงอะไรเพิ่มเลย
เส้นจันท์เหนียวนุ่ม รสชาติกลมกล่อม กุ้งและกั้งสด เนื้อเด้ง ที่สำคัญ คือ "ถั่วลิสงป่น" ปกติเราไม่กินถั่วลิสงที่โรยในผัดไท แต่ป้าเจ้าของร้านเค้าบอกให้ลองชิมเพราะที่ร้านนี้คั่ว และป่นถั่วเอง แล้วก็ไม่ผิดหวังคร่าาาา อร่อยสมคำแนะนำ



อร่อย และดังแค่ไหนดูได้จากมีหลายรายการที่มาเยี่ยมเยียน


ส่วนใครที่กินที่ร้านไม่หนำใจ (แบบเรา) ซื้อแบบสำเร็จรูปกลับบ้านไปทำเองได้ด้วยนะ


มีเวลาเหลืออีกนิดหน่อย ทีมงานใจดี แวะให้เราลงเดินย่อย ถ่ายรูปที่ชุมชนริมน้ำจันทบูร และโบสถ์คาทอลิกจันทบุรี แต่เนื่องจากเวลาน้อยเหลือเกิน เก็บรูปมาฝากได้แค่นิดหน่อย เอาไว้ครั้งหน้าจะหาเวลาไปเอง แล้วจะกลับมารีวิวให้ใหม่แบบเต็มอิ่มแน่นอน








ขอขอบคุณกิจกรรม  ‘2 คืน 3 วัน สีสันตะวันออก’ (วันที่ 25-26 สิงหาคม 2560) จัดโดย Pantip ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ทำให้ได้ประสบการณ์การท่องเที่ยวในครั้งนี้