ก่อนการสร้างเขื่อนรัชชประภา สภาพธรรมชาติของลำน้ำคลองแสงจะแห้งขอดในฤดูแล้ง และในฤดูฝนจะมีปริมาณน้ำมาก จนเกิดน้ำท่วมเป็นประจำ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่บ้านเรือน ทรัพย์สิน พืชผลของราษฎรที่อาศัยอยู่ในที่ราบตอนล่างเสมอมา รัฐบาลจึงให้กรมชลประทานเข้ามาสำรวจและศึกษา เพื่อพัฒนาลุ่มน้ำตาปี พุมดวง ซึ่งกรมชลประทานได้เข้าทำการสำรวจและศึกษาเบื้องต้น โดยความร่วมมือทางวิชาการโดยผู้เชี่ยวชาญจากประเทศฝรั่งเศส เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2510 ถึง เดือน มกราคม พ.ศ. 2511 จากการศึกษาสรุปได้ว่า ควรดำเนินการพัฒนาลำน้ำคลองแสงเป็นลำดับแรก ซึ่งได้กำหนดแผนดำเนินงานเป็น 3 ส่วน ได้แก่ การก่อสร้างโครงการพัฒนาแหล่งน้ำบริเวณคลองแสง การก่อสร้างโครงการบริเวณลำน้ำคลองยัน และการก่อสร้างโครงการย่อยต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการชลประทาน การป้องกันอุทกภัย
เมื่อจัดทำแผนแม่บทเสร็จ ก็เริ่มศึกษาความเหมาะสมของโครงการคลองแสงเป็นแห่งแรก
โดยเข้าไปตั้งหน่วยสำรวจที่บ้านเชี่ยวหลาน เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลในด้านต่าง ๆ ใช้เวลาประมาณ ปีเศษ ๆ และแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2516 ผลการสำรวจเสนอให้ดำเนินการก่อสร้างเขื่อนลำน้ำคลองแสงบริเวณบ้านเชี่ยวหลาน ก่อสร้างแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้า และระบบส่งไฟฟ้า เพื่อเชื่อมโยงกับระบบส่งของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต และก่อสร้างระบบชลประทานในพื้นที่ รวม 108,000 ไร่ ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำพุมดวง และคลองพุนพิน ทางรัฐบาลได้ดำเนินการก่อสร้างเขื่อนรัชชประภาเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และการขาดแคลนน้ำในการทำการเกษตร ในปี พ.ศ. 2525 ซึ่งการสร้างเขื่อนดังกล่าว จะต้องอพยพผู้คนจากในส่วนของตำบลเขาพัง มีชุมชนบ้านไกรสรซึ่งประกอบด้วยหมู่ที่ 1 หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 3 หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 5 ชุมชนบ้านเชี่ยวหลาน ประกอบด้วยหมู่ที่ 3 บางส่วน หมู่ที่ 4 หมู่ที่ 5 หมู่ที่ 6 และหมู่ที่ 7 ประชากรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวจำนวน 385 ครอบครัว จะต้องอพยพย้ายถิ่นเข้ามาอยู่ในพื้นที่ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้จัดสรรให้เป็นที่อยู่อาศัยครอบครัวละ 1 ไร่ ที่ทำกินครอบครัวละ 19 ไร่ โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้เริ่มการเปิดแปลงที่ดินทั้งสองประเภทให้ราษฎรจับฉลากแปลงที่ดังกล่าว ตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2527
“เยือนคลองแสง” อีกครั้งในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากได้พาคณะกลุ่มคนสร้างภาพไปชมธรรมชาติอย่างเต็มปอดเกือบ 20 ชีวิตที่จริงคำว่า “เชี่ยวหลาน” นั้น เป็นชื่อแก่งกลางน้ำแห่งหนึ่งในบริเวณคลองแสง ซึ่งเป็นคลองที่น้ำเชี่ยวมากในฤดูน้ำหลาก
สองฝั่งคลองเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง และอุทยานแห่งชาติเขาสก … พื้นที่ที่เคยเป็นป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของเทือกเขาตะนาวศรี บริเวณรอยต่อสามจังหวัด คือ ระนอง สุราษฏร์ธานี และพังงา และเป็นการกลับบ้านเกิด ตรงนี้ที่ฉันกำเนิด ใต้น้ำแห่งนี้คือบ้านฉัน
กลับบ้านทุกครั้ง ต้องตื่นมารับสายหมอกยามเช้าที่ชุมชนบ้านเชี่ยวหลานได้ทุกวันทุกเช้า ทุกมุมสูง
ทุกคนพร้อม 3 สามสาว นักศึกษา ป.โท ม.ทักษิณ ที่มีหัวใจรักธรรมชาติ กายพร้อม ใจพร้อม เรือพร้อม พี่ตี๋คนขับที่มีความชำนาญพื้นที่ เราเริ่มการเดินทางด้วยการเช่าเรือออกจากท่าเรือเทศบาล จุดหมายปลายทางอยู่ที่ “คลองแสง”
เป้าหมายคือการดูนก ดูสัตว์ป่า และถ่ายรูปทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามาในความสนใจช่วงต้นของการแล่นเรือผ่นมาตามท้องน้ำกว้างสุดลูกหูลูกตา … วิวทิวทัศน์ที่เห็นดูสวยงาม น่าตื่นตา ตื่นใจภูเขาสูงสีฟ้าน้ำเงินที่โอบกอดผืนน้ำสีคล้ายกัน ... ดูมีมิติที่เปี่ยมเสน่ห์ จึงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนเขื่อนเชี่ยวหลาน และอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ปีละมากมาย
เรือแล่นมาราวกว่าหนึ่งชั่วโมงเราก็เข้าเขตประตูสู่คลองแสง … หน่วยพิทักษ์ป่าคลองมอญ
นายท้ายเรือของเราทักทายกับเจ้าหน้าที่อย่างคุ้นเคย และบอกกับเราว่า … เจ้าหน้าที่จะสร้าง Barriers ขวางลำน้ำเอาไว้ ทำให้เรือเข้าออกได้ทางเดียว ซึ่งเป็นช่องทางแคบๆ และต้องชลอความเร็วของเรือเมื่อจะแล่นผ่น เพื่อให้เจ้าหน้าที่มองเห็นเรือและสิ่งที่อยู่ในเรือ ทั้งนี้เพื่อป้องกันการนำสัตว์ป่าที่อาจจะถูกไล่ล่า แล้วนำออกไปจากพื้นที่
เรือแล่นต่อไปได้ไม่นานนัก เราก็มาถึงที่หมาย …หน่วยพิทักษ์ป่าคลองหยา เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง … เป็นหน่วยปฏิบัติการหนึ่งในหลายหน่วยของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง มีพี่ชายที่น่ารักพร้อมทีมงานคอยต้อนรับ
ที่พัก และบ้านชั่วคราวของเรา
ผู้ที่ต้องการมาพักที่นี่ ต้องติดต่อกับเจ้าหน้าที่ ก่อนที่เดินทางมา ... ที่นี่มีที่พักแบบเรียบง่ายอยู่หลายหลังที่สามารถเข้าพักได้ หากคุณเป็นนักเดินทางที่ไม่เรื่องมากจนเกินไปโดยจ่ายค่าบริการพร้อมอาหารทุกมื้อในราคาเบาๆ พร้อมกิจกรรม ของคนชอบธรรมชาติ
ฉันมองดูรอบๆบริเวณเกาะแก่งและป่าที่อยู่เบื้องหน้า …“ก้านกล้วย” ช้างน้อยลูกหลานของช้างป่าบางตัวที่โชคดีเหลือรอดจากน้ำท่วม และมีลูกหลานสืบสานเผ่าพันธุ์จนทุกวันนี้“ก้านกล้วย” เป็นช้างกำพร้า วัยเลยละอ่อนมาไม่นาน … ออกมาเดินหากินในบริเวณริมน้ำของเกาะเล็กๆ
… ดูไปแล้วช่างเหมือน “เชลยศึก” ที่พ่ายแพ้สงครามที่มันไม่ได้เป็นคนก่อ หรือเลือก
… สงคราม ที่ไม่เคยมีผลดีต่อสรรพชีวิตอื่นๆ ยกเว้นเผ่าพันธุ์มนุษย์
เตรียมความพร้อมกิจกรรมนั่งเรือชมสัตว์ป่า สองฝั่งชายป่า
ความจริงในช่วงที่เราล่องเรือ ดูเหมือนว่าจะมีกระทิงจำนวนไม่น้อยที่ออกมาโชว์ตัว ให้เราเก็บภาพผ่านเลนส์กล้อง ... เกือบจะทุกฝูงมีลูกน้อยน่าเอ็นดู 2-3 ตัวปะปนอยู่ด้วยการได้เฝ้ามองสัตว์ป่าในธรรมชาติ ในระยะที่ห่างพอสมควรเยี่ยงนี้ ฉันถือว่าเป็นสิทธิพิเศษที่มีให้เฉพาะคนที่ตั้งใจดั้นด้นเดินทางไปค้นหาเท่านั้นสัตว์ป่าที่ต้องอพยพขึ้นที่สูงหลังน้ำท่วม .... ดังเช่นกระทิงเหล่านี้ ต้องปรับตัวกับสภาพใหม่ที่ไม่คุ้นเคย …คงจะยากไม่น้อยสำหรับพวกมันในระยะแรกๆ ที่ป่าจมน้ำและอาหารขาดแคลนอย่างหนัก ... แต่ดีใจแทนสัตว์เหล่นี้ที่พวกมันไม่น้อยรอดมาได้ และยังมีชีวิตให้เราได้ชื่นชมในทุกวันนี้
ระหว่างทาง เราเก็บภาพนกหลายชนิดที่ผ่านเข้ามาในสายตาไปเรื่อยๆ …นกเจ้าถิ่น … Lesser Fish Eagle เหยี่ยวปลาเล็กหัวเทาเราพายามที่จะมองหาเหยี่ยวปลาใหญ่หัวเทา แต่ไม่เห็นค่ะ
เหยี่ยวปลาเล็กหัวเทา วัยเด็ก … ชีวิตในวิถีธรรมชาติ สง่างามมากมาย
มีสัตว์ป่าเพียงจำนวนน้อยนิดที่ได้รับการช่วยเหลือ จาก โครงการอพยพสัตว์ป่า ที่คุณสืบ นาคะเสถียร เป็นหัวหน้าโครงการ … สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 490 ตัว สัตว์ปีก 17 ตัว และสัตว์เลื้อยคลาน 642 ตัว ที่โชคดีได้รับการช่วยเหลือให้รอดจาก … ทว่าไม่รู้อีกกี่หมื่นกี่แสนตัวที่ต้องจมอยู่ในสุสานใต้ท้องน้ำ ที่บัดนี้หลายคนชมชื่นว่าสวยงาม
คาดเดากันว่า … ก่อนที่นำจะท่วม บริเวณนี้มีสัตว์ป่าที่ใช้ที่นี่เป็นบ้านและแหล่งหากินอยู่ไม่ต่ำกว่า 237 ชนิด รวมทั้งสัตว์ป่าที่หายากอย่าง กระซู่ เลียงผา สมเสร็จ เสือลายเมฆ นกหว้า นกแว่นฯ เป็นต้น
เช้าวันใหม่ ก่อนเดินทางกลับ ทานมื้อเช้า ร่างกายต้องการคาเฟอีน กิจกรรมเช้าวันใหม่ นั่งเรือ ชมสายหมอกยามเช้า ณ ต้นน้ำคลองแสง
ราล่องเรือไปสู่อีกบริเวณหนึ่งของคลองแสง … ที่นี่มีคนพบเห็น นกกระสาคอขาวปากแดง (Storm’s Stork)
บริเวณท้องเขื่อนเชี่ยวหลายนี่เองที่คุณสืบ นาคะเสถียร เคยพบนกชนิดนี้เป็นครั้งแรกในประเทศไทยพร้อมกับรังและลูกนก … หลังจากนั้นก็แทบจะไม่เคยมีใครพบเห็นตัวเป็นๆของมันอีกเลย นกชนิดนี้จัดเป็นนกที่หายากและใกล้จะสูญพันธุ์
วันที่เราไปเยือน …ที่นี่ร้างเงาของนกกระสาคอขาวปากแดง หากแต่ภูมิประเทศนั้นสวยงาม มีต้นไม้ดอกออกดอกบานสะพรั่ง จนใครบางคนออกปากว่า หากที่นี่น้ำไม่ท่วม คงมีรีสอร์ทสวยๆผุดขึ้นมามากมายแล้ว
ใต้ผืนน้ำที่เรือของเราแล่นผ่าน … เคยมีชีวิตนับล้านๆโลดแล่นเป็นส่วนหนึ่งของความเคลื่อนไหวของป่าที่สมบูรณ์
วันนี้ … สรรพชีวิตที่เหลืออยู่ต้องจำใจเล่นบทบาท “ผู้เสียสละ”
ต้องเดินตามครรลองธรรมชาติอย่างลำบาก … ครรลองชีวิตที่ถูกยัดเยียด กำหนด ขีดเส้นให้โดยเผ่าพันธุ์มนุษย์
มนุษย์ได้ไฟฟ้า … แล้ว ป่า และสัคว์ป่าได้อะไร?
แหล่งพลังงานทางเลือก มีอย่างอื่นบ้างมั๊ย? … ที่จะมาทดแทนการสร้างเขื่อนทับผืนป่าอนุรักษ์
เราคงไม่อยากเห็นลูกหลานของเราเกิดมามองเห็นแต่สันเขื่อนยางวสุดลูกหูลูกตา แทนที่จะเห็นผืนป่าเขียวขจีนับหมื่นนับแสนไร่
Get together … Save nature, save lives!!
-----------------------------------
#เรารักษ์เชี่ยวหลาน
#ที่นี่คลองแสง
#รักษ์ป่าไม้สัตว์ป่าและต้นน้ำคลองแสง
เพราะฉันรักษ์เชี่ยวหลาน ที่นี่คลองแสง เรื่องของป่าไม้ ฝืนน้ำ และสัตว์ป่า
เมื่อจัดทำแผนแม่บทเสร็จ ก็เริ่มศึกษาความเหมาะสมของโครงการคลองแสงเป็นแห่งแรก
โดยเข้าไปตั้งหน่วยสำรวจที่บ้านเชี่ยวหลาน เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลในด้านต่าง ๆ ใช้เวลาประมาณ ปีเศษ ๆ และแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2516 ผลการสำรวจเสนอให้ดำเนินการก่อสร้างเขื่อนลำน้ำคลองแสงบริเวณบ้านเชี่ยวหลาน ก่อสร้างแหล่งผลิตพลังงานไฟฟ้า และระบบส่งไฟฟ้า เพื่อเชื่อมโยงกับระบบส่งของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต และก่อสร้างระบบชลประทานในพื้นที่ รวม 108,000 ไร่ ทางฝั่งซ้ายของแม่น้ำพุมดวง และคลองพุนพิน ทางรัฐบาลได้ดำเนินการก่อสร้างเขื่อนรัชชประภาเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และการขาดแคลนน้ำในการทำการเกษตร ในปี พ.ศ. 2525 ซึ่งการสร้างเขื่อนดังกล่าว จะต้องอพยพผู้คนจากในส่วนของตำบลเขาพัง มีชุมชนบ้านไกรสรซึ่งประกอบด้วยหมู่ที่ 1 หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 3 หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 5 ชุมชนบ้านเชี่ยวหลาน ประกอบด้วยหมู่ที่ 3 บางส่วน หมู่ที่ 4 หมู่ที่ 5 หมู่ที่ 6 และหมู่ที่ 7 ประชากรที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวจำนวน 385 ครอบครัว จะต้องอพยพย้ายถิ่นเข้ามาอยู่ในพื้นที่ที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้จัดสรรให้เป็นที่อยู่อาศัยครอบครัวละ 1 ไร่ ที่ทำกินครอบครัวละ 19 ไร่ โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตได้เริ่มการเปิดแปลงที่ดินทั้งสองประเภทให้ราษฎรจับฉลากแปลงที่ดังกล่าว ตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. 2527
“เยือนคลองแสง” อีกครั้งในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากได้พาคณะกลุ่มคนสร้างภาพไปชมธรรมชาติอย่างเต็มปอดเกือบ 20 ชีวิตที่จริงคำว่า “เชี่ยวหลาน” นั้น เป็นชื่อแก่งกลางน้ำแห่งหนึ่งในบริเวณคลองแสง ซึ่งเป็นคลองที่น้ำเชี่ยวมากในฤดูน้ำหลาก
สองฝั่งคลองเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง และอุทยานแห่งชาติเขาสก … พื้นที่ที่เคยเป็นป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์มากที่สุดแห่งหนึ่งของเทือกเขาตะนาวศรี บริเวณรอยต่อสามจังหวัด คือ ระนอง สุราษฏร์ธานี และพังงา และเป็นการกลับบ้านเกิด ตรงนี้ที่ฉันกำเนิด ใต้น้ำแห่งนี้คือบ้านฉัน
กลับบ้านทุกครั้ง ต้องตื่นมารับสายหมอกยามเช้าที่ชุมชนบ้านเชี่ยวหลานได้ทุกวันทุกเช้า ทุกมุมสูง
ทุกคนพร้อม 3 สามสาว นักศึกษา ป.โท ม.ทักษิณ ที่มีหัวใจรักธรรมชาติ กายพร้อม ใจพร้อม เรือพร้อม พี่ตี๋คนขับที่มีความชำนาญพื้นที่ เราเริ่มการเดินทางด้วยการเช่าเรือออกจากท่าเรือเทศบาล จุดหมายปลายทางอยู่ที่ “คลองแสง”
เป้าหมายคือการดูนก ดูสัตว์ป่า และถ่ายรูปทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามาในความสนใจช่วงต้นของการแล่นเรือผ่นมาตามท้องน้ำกว้างสุดลูกหูลูกตา … วิวทิวทัศน์ที่เห็นดูสวยงาม น่าตื่นตา ตื่นใจภูเขาสูงสีฟ้าน้ำเงินที่โอบกอดผืนน้ำสีคล้ายกัน ... ดูมีมิติที่เปี่ยมเสน่ห์ จึงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนเขื่อนเชี่ยวหลาน และอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ปีละมากมาย
เรือแล่นมาราวกว่าหนึ่งชั่วโมงเราก็เข้าเขตประตูสู่คลองแสง … หน่วยพิทักษ์ป่าคลองมอญ
นายท้ายเรือของเราทักทายกับเจ้าหน้าที่อย่างคุ้นเคย และบอกกับเราว่า … เจ้าหน้าที่จะสร้าง Barriers ขวางลำน้ำเอาไว้ ทำให้เรือเข้าออกได้ทางเดียว ซึ่งเป็นช่องทางแคบๆ และต้องชลอความเร็วของเรือเมื่อจะแล่นผ่น เพื่อให้เจ้าหน้าที่มองเห็นเรือและสิ่งที่อยู่ในเรือ ทั้งนี้เพื่อป้องกันการนำสัตว์ป่าที่อาจจะถูกไล่ล่า แล้วนำออกไปจากพื้นที่
เรือแล่นต่อไปได้ไม่นานนัก เราก็มาถึงที่หมาย …หน่วยพิทักษ์ป่าคลองหยา เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง … เป็นหน่วยปฏิบัติการหนึ่งในหลายหน่วยของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าคลองแสง มีพี่ชายที่น่ารักพร้อมทีมงานคอยต้อนรับ
ที่พัก และบ้านชั่วคราวของเรา
ผู้ที่ต้องการมาพักที่นี่ ต้องติดต่อกับเจ้าหน้าที่ ก่อนที่เดินทางมา ... ที่นี่มีที่พักแบบเรียบง่ายอยู่หลายหลังที่สามารถเข้าพักได้ หากคุณเป็นนักเดินทางที่ไม่เรื่องมากจนเกินไปโดยจ่ายค่าบริการพร้อมอาหารทุกมื้อในราคาเบาๆ พร้อมกิจกรรม ของคนชอบธรรมชาติ
ฉันมองดูรอบๆบริเวณเกาะแก่งและป่าที่อยู่เบื้องหน้า …“ก้านกล้วย” ช้างน้อยลูกหลานของช้างป่าบางตัวที่โชคดีเหลือรอดจากน้ำท่วม และมีลูกหลานสืบสานเผ่าพันธุ์จนทุกวันนี้“ก้านกล้วย” เป็นช้างกำพร้า วัยเลยละอ่อนมาไม่นาน … ออกมาเดินหากินในบริเวณริมน้ำของเกาะเล็กๆ
… ดูไปแล้วช่างเหมือน “เชลยศึก” ที่พ่ายแพ้สงครามที่มันไม่ได้เป็นคนก่อ หรือเลือก
… สงคราม ที่ไม่เคยมีผลดีต่อสรรพชีวิตอื่นๆ ยกเว้นเผ่าพันธุ์มนุษย์
เตรียมความพร้อมกิจกรรมนั่งเรือชมสัตว์ป่า สองฝั่งชายป่า
ความจริงในช่วงที่เราล่องเรือ ดูเหมือนว่าจะมีกระทิงจำนวนไม่น้อยที่ออกมาโชว์ตัว ให้เราเก็บภาพผ่านเลนส์กล้อง ... เกือบจะทุกฝูงมีลูกน้อยน่าเอ็นดู 2-3 ตัวปะปนอยู่ด้วยการได้เฝ้ามองสัตว์ป่าในธรรมชาติ ในระยะที่ห่างพอสมควรเยี่ยงนี้ ฉันถือว่าเป็นสิทธิพิเศษที่มีให้เฉพาะคนที่ตั้งใจดั้นด้นเดินทางไปค้นหาเท่านั้นสัตว์ป่าที่ต้องอพยพขึ้นที่สูงหลังน้ำท่วม .... ดังเช่นกระทิงเหล่านี้ ต้องปรับตัวกับสภาพใหม่ที่ไม่คุ้นเคย …คงจะยากไม่น้อยสำหรับพวกมันในระยะแรกๆ ที่ป่าจมน้ำและอาหารขาดแคลนอย่างหนัก ... แต่ดีใจแทนสัตว์เหล่นี้ที่พวกมันไม่น้อยรอดมาได้ และยังมีชีวิตให้เราได้ชื่นชมในทุกวันนี้
ระหว่างทาง เราเก็บภาพนกหลายชนิดที่ผ่านเข้ามาในสายตาไปเรื่อยๆ …นกเจ้าถิ่น … Lesser Fish Eagle เหยี่ยวปลาเล็กหัวเทาเราพายามที่จะมองหาเหยี่ยวปลาใหญ่หัวเทา แต่ไม่เห็นค่ะ
เหยี่ยวปลาเล็กหัวเทา วัยเด็ก … ชีวิตในวิถีธรรมชาติ สง่างามมากมาย
มีสัตว์ป่าเพียงจำนวนน้อยนิดที่ได้รับการช่วยเหลือ จาก โครงการอพยพสัตว์ป่า ที่คุณสืบ นาคะเสถียร เป็นหัวหน้าโครงการ … สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม 490 ตัว สัตว์ปีก 17 ตัว และสัตว์เลื้อยคลาน 642 ตัว ที่โชคดีได้รับการช่วยเหลือให้รอดจาก … ทว่าไม่รู้อีกกี่หมื่นกี่แสนตัวที่ต้องจมอยู่ในสุสานใต้ท้องน้ำ ที่บัดนี้หลายคนชมชื่นว่าสวยงาม
คาดเดากันว่า … ก่อนที่นำจะท่วม บริเวณนี้มีสัตว์ป่าที่ใช้ที่นี่เป็นบ้านและแหล่งหากินอยู่ไม่ต่ำกว่า 237 ชนิด รวมทั้งสัตว์ป่าที่หายากอย่าง กระซู่ เลียงผา สมเสร็จ เสือลายเมฆ นกหว้า นกแว่นฯ เป็นต้น
เช้าวันใหม่ ก่อนเดินทางกลับ ทานมื้อเช้า ร่างกายต้องการคาเฟอีน กิจกรรมเช้าวันใหม่ นั่งเรือ ชมสายหมอกยามเช้า ณ ต้นน้ำคลองแสง
ราล่องเรือไปสู่อีกบริเวณหนึ่งของคลองแสง … ที่นี่มีคนพบเห็น นกกระสาคอขาวปากแดง (Storm’s Stork)
บริเวณท้องเขื่อนเชี่ยวหลายนี่เองที่คุณสืบ นาคะเสถียร เคยพบนกชนิดนี้เป็นครั้งแรกในประเทศไทยพร้อมกับรังและลูกนก … หลังจากนั้นก็แทบจะไม่เคยมีใครพบเห็นตัวเป็นๆของมันอีกเลย นกชนิดนี้จัดเป็นนกที่หายากและใกล้จะสูญพันธุ์
วันที่เราไปเยือน …ที่นี่ร้างเงาของนกกระสาคอขาวปากแดง หากแต่ภูมิประเทศนั้นสวยงาม มีต้นไม้ดอกออกดอกบานสะพรั่ง จนใครบางคนออกปากว่า หากที่นี่น้ำไม่ท่วม คงมีรีสอร์ทสวยๆผุดขึ้นมามากมายแล้ว
ใต้ผืนน้ำที่เรือของเราแล่นผ่าน … เคยมีชีวิตนับล้านๆโลดแล่นเป็นส่วนหนึ่งของความเคลื่อนไหวของป่าที่สมบูรณ์
วันนี้ … สรรพชีวิตที่เหลืออยู่ต้องจำใจเล่นบทบาท “ผู้เสียสละ”
ต้องเดินตามครรลองธรรมชาติอย่างลำบาก … ครรลองชีวิตที่ถูกยัดเยียด กำหนด ขีดเส้นให้โดยเผ่าพันธุ์มนุษย์
มนุษย์ได้ไฟฟ้า … แล้ว ป่า และสัคว์ป่าได้อะไร?
แหล่งพลังงานทางเลือก มีอย่างอื่นบ้างมั๊ย? … ที่จะมาทดแทนการสร้างเขื่อนทับผืนป่าอนุรักษ์
เราคงไม่อยากเห็นลูกหลานของเราเกิดมามองเห็นแต่สันเขื่อนยางวสุดลูกหูลูกตา แทนที่จะเห็นผืนป่าเขียวขจีนับหมื่นนับแสนไร่
Get together … Save nature, save lives!!
-----------------------------------
#เรารักษ์เชี่ยวหลาน
#ที่นี่คลองแสง
#รักษ์ป่าไม้สัตว์ป่าและต้นน้ำคลองแสง