อยากฝากข้อความนี้ไปยังท่านนายกรัฐมนตรี ผู้บริหารธนาคารต่างๆของประเทศไทย ถึงความเป็นไปได้ในแนวคิดของผมเกี่ยวกับการพัฒนาและสร้าง Thai Wallet ให้เกิดขึ้นจริงๆในสังคมไทย เพื่อก้าวสู่สังคมไร้เงินสด
อยากจะเรียนนำเสนอรูปแบบที่ในความคิดผมต้องการให้พัฒนา ในเรื่องของการให้บริการ Prompt Pay ของบ้านเรา ณ ปัจจุบันนี้ ซึ่งจากความเข้าในผมตอนนี้นั้น การที่จะใช้งานบริการ Prompt Pay นั้นจะเป็นการผูกข้อมูลบางอย่างกับบัญชีธนาคารของเรา เมื่อเราต้องการให้ผู้อื่นโอนเงินก็เพียงแค่บอกหมายเลขโทรศัพท์หรือหมายเลขบัตรประชาชน ในที่นี้คือ เบอร์มือถือ กับหมายเลขบัตรประชาชน ซึ่งก็ถือว่าเป็นการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว ซึ่งบางครั้งการทราบเบอร์มืออาจจะเป็นอันตรายได้ ซึ่งผมเองก็ไม่ทราบในรายละเอียดของปริมาณการใช้งานของบริการ PromptPay เป็นไปในปริมาณมากน้อยแค่ไหน แต่สิ่งที่ผมจะนำเสนอคือการสร้าง Thai Wallet โดยให้ PromptPay เป็น subset หนึ่งของ Thai Wallet และผูกเข้ากับบัญชีธนาคาร
มองว่าสังคมไร้เงินสดกำลังเข้ามาเรื่อยๆทุกขณะ พฤติการการบริโภคสินค้าและบริการต่างๆของประชาชนเปลี่ยนไป รวมทั้งอัตราค่าธรรมในการใช้จ่ายผ่านบัตรก็เริ่มน้อยลง โดยหลายๆปัจจัยเป็นการเอื้อต่อการเข้าสู่ยุคแห่งสังคมไร้เงินสดเป็นอย่างยิ่ง สิ่งที่ต้องปรับตัวให้ไวนั่นคือ ภาครัฐและธนาคารเอง รายได้ของธนาคารในอนาคตส่วนหนึ่งที่จะหายไปอย่างมากคือค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมต่างๆ ด้วยคู่แข่งในธนาคารต่างๆด้วยกันเอง ด้วยปริมาณการใช้เงินสด การถือเงินสดน้อยลงด้วย การทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ สิ่งที่ธนาคารทำได้คือการที่ทำยังไงให้ประชาชนยังคงเอาเงินเขาไว้กับธนาคารคุณได้มากที่สุดและนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยธนาคารเองก็ยิ่งต้องมีการคิดกลยุทธต่างๆเพื่อบริหารเงินของลูกค้าในบัญชีให้ได้ผลงอกเงยออกมามากที่สุดและไวที่สุด การปล่อยกู้ให้กับภาคธุรกิจหรือประชาชน ในความคิดผมมองว่าอนาคต บริษัทที่ใหญ่โตมาในอดีต หากปัจจุบันยังไม่ประตัวเพื่อเข้าสู่สังคมดิจิตอลอีกไม่นาน เพื่อพายุเข้ามาบริษัทใหม่ๆที่มีนวัตกรรมที่ตอบโจทย์กับลูกค้ามาเข้าไปแทนที่ได้โดยง่าย และบริษัทใหญ่จะหายไปจากสังคมซึ่งในอนาคตการบริการต่างๆในแต่ละด้านถ้าบริการได้ไม่คลอบคลุมกับความต้องการของผู้บริโภค บริการหรือสินค้าชนิดนั้นก็จะหายไปนั่นเอง
โดยที่ Thai Wallet จะเป็นการสร้างรหัสใหม่ให้กับประชาชนทุกคน โดยที่ทุกคนจะมีหมายเลข Thai เป็นของตนเอง เพื่อใช้ในการทำธุรกรรมต่างๆ หรือสามารถจับจ่ายใช้สอย ได้ตามร้านค้าทั่วไปในอนาคต โดนการใช้จ่ายผ่านบัญชี Thai Wallet นั้น อาจจะเป็นรูปแบบของการ Generate เงินที่มีอยู่ในระบบของลูกค้าจ่ายเป็น Barcode /QR Code เพื่อทำการชำระเงินหรือบริการต่างๆ โดย Barcode /QR Code ที่กำลังเริ่มจะใช้กันอย่างแพร่หลาย หรือแม้แต่การใช้จ่ายซื้อสินค้าหรือบริการออนไลน์ต่างๆ โดยหลักการหลักคือ การทำกระเป๋าสตางค์ไปอยู่ใน Cloud สามารถใช้จ่ายได้ในหลากหลายรูปแบบตามความต้องการ
มองหว่ารูปแบบดังกล่าวเป็นประโยชน์ในการบริหารจัดการของทางภาครัฐและภาคเอกชนเป็นอย่างยิ่ง ดังนี้
สิ่งที่ได้รับจากการดำเนินการจัดทำ Thai Wallet
1. ประชาชนสามารถมีรูปแบบการจ่าเงินที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีความสะดวกสะบายในการไม่ต้องพกเงินสด ซึ่งเหตุผลหลังนี้เข้าใจว่า PromptPay ก็สามารถตอบโจทย์ได้ในส่วนนี้ แต่ด้วยการสมัคร PromptPat เป็นการกระจายการดำเนินงานและความยุ่งยากของประชาชน หรือเป็นการเพิ่มทางเลือกในการใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการของประชาชน
2. รัฐเองสารถให้ความช่วยเหลือได้ตรงกับความต้องการของประชาชน โดยที่ประชาชนเองสามารถนำเงินจาก Nation E-Wallet นั้นไปโอนต่อไปยัง PromptPay ได้ต่อด้วย โดยที่ PromptPay เป็นเหมือน Subset ของ Nation E-Wallet
3. ง่ายต่อการดู Transaction ในอนาคตเมื่อเป็นสังคมไร้เงินสด สามารถนำข้อมูลต่างๆ มาใช้ในการวิเคราะห์ในเรื่องต่างๆเพื่อการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจได้
4. สามารถทราบพฤติกรรมของผู้บริโถคได้ง่ายว่า ความต้องการ ณ ปัจจุบัน เป็นไปในทิศทางไหน เพื่อที่จะนำข้อมูลนั้นส่งต่อให้กับภาคเอกชน หรือถาคเกษตรกร ในการที่จะผลิตสินค้าหรือบริการให้ผู้บริโภคได้ตรงตามความต้องการ เพื่อที่จะไม่สินค้าส่วนเกินในตลาด
5. ประชาชนมีอิสระในการโอนเงิน หรือการจะใช้บริการจากธนาคารมากยิ่งขึ้น
6. สามารถนำเงินที่มีในระบบส่วนหนึ่งไปลงทุนเพื่อหารายได้เพิ่มได้อีกด้วย
7. สามารถต่อยอดและพัฒนาการบริการสู่ภูมิภาคอื่นๆได้ง่าย เป็น E-Wallet หนึ่ง
8. เป็นการไม่ยึดติดกับ PromtPay ของธนาคารใดธนาคารหนึ่งเพียงอย่างเดียวของประชาชน
9. ลดการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวในที่สาธารณะหรือคนที่ไม่รู้จัก เช่นการบอกหมายเลขโทรศัพท์/เลขที่บัตรประชาชน
ข้อเสียจากการดำเนินการจัดทำ Thai Wallet
1. ความซ้ำซ้อนเพราะรูปแบบใกล้เคียงกับ PromptPay เเต่เพิ่มขีดความสามารถออกมาให้สามารถใช้จ่ายบริการได้
2. เป็นการลงทุนอีกครั้งของภาครัฐเพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับประชาชน
3. การบริหารจัดการเงินของประชาชนทั้งระบบจะตกอยู่ที่ภาครัฐ นอกจากจะให้ภาครัฐปล่อยให้เอกชนรับสัมปทานไปในการดูแล
4. เงินระบบธนาคารจะลดลง
5. เป็นช่องทางหลักให้กับการโจรกรรมได้ รัฐจึงต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
รูปแบบของ Thai Wallet
รอติดตามตอนต่อไปครับ ....
ไอเดียผมเองอาจจะซ้ำหรือว่ากำลังจะเกิดขึ้นก็ต้องขออภัยครับ เป็นไอเดียจากความคิดผมเองที่อย่าจะพัฒนารูปแบบการบริการของไทยให้ทันสมัยและแข่งกับต่างชาติได้
อยากมีอะไรแนะนำก็แลกเปลี่ยนคอมเม้นกันได้ครับ เป็นการแสดงความคิดเห็นรเพื่อการพัฒนาต่อยอดไปด้วยกัน
ฝากกดโหวตหากข้อความนี้เป็นประโยชน์และมีโอกาสพัฒนาต่อยอดได้นะครับ
ขอบพระคุณเป็นอย่างสูง
CK MPGranger
ฝากข้อความนี้ถึงท่านนายกหรือผู้บริหารธนาคาร เรื่องไอเดียการสร้าง Thai Wallet
อยากจะเรียนนำเสนอรูปแบบที่ในความคิดผมต้องการให้พัฒนา ในเรื่องของการให้บริการ Prompt Pay ของบ้านเรา ณ ปัจจุบันนี้ ซึ่งจากความเข้าในผมตอนนี้นั้น การที่จะใช้งานบริการ Prompt Pay นั้นจะเป็นการผูกข้อมูลบางอย่างกับบัญชีธนาคารของเรา เมื่อเราต้องการให้ผู้อื่นโอนเงินก็เพียงแค่บอกหมายเลขโทรศัพท์หรือหมายเลขบัตรประชาชน ในที่นี้คือ เบอร์มือถือ กับหมายเลขบัตรประชาชน ซึ่งก็ถือว่าเป็นการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัว ซึ่งบางครั้งการทราบเบอร์มืออาจจะเป็นอันตรายได้ ซึ่งผมเองก็ไม่ทราบในรายละเอียดของปริมาณการใช้งานของบริการ PromptPay เป็นไปในปริมาณมากน้อยแค่ไหน แต่สิ่งที่ผมจะนำเสนอคือการสร้าง Thai Wallet โดยให้ PromptPay เป็น subset หนึ่งของ Thai Wallet และผูกเข้ากับบัญชีธนาคาร
มองว่าสังคมไร้เงินสดกำลังเข้ามาเรื่อยๆทุกขณะ พฤติการการบริโภคสินค้าและบริการต่างๆของประชาชนเปลี่ยนไป รวมทั้งอัตราค่าธรรมในการใช้จ่ายผ่านบัตรก็เริ่มน้อยลง โดยหลายๆปัจจัยเป็นการเอื้อต่อการเข้าสู่ยุคแห่งสังคมไร้เงินสดเป็นอย่างยิ่ง สิ่งที่ต้องปรับตัวให้ไวนั่นคือ ภาครัฐและธนาคารเอง รายได้ของธนาคารในอนาคตส่วนหนึ่งที่จะหายไปอย่างมากคือค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมต่างๆ ด้วยคู่แข่งในธนาคารต่างๆด้วยกันเอง ด้วยปริมาณการใช้เงินสด การถือเงินสดน้อยลงด้วย การทำธุรกรรมผ่านช่องทางออนไลน์ สิ่งที่ธนาคารทำได้คือการที่ทำยังไงให้ประชาชนยังคงเอาเงินเขาไว้กับธนาคารคุณได้มากที่สุดและนานที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยธนาคารเองก็ยิ่งต้องมีการคิดกลยุทธต่างๆเพื่อบริหารเงินของลูกค้าในบัญชีให้ได้ผลงอกเงยออกมามากที่สุดและไวที่สุด การปล่อยกู้ให้กับภาคธุรกิจหรือประชาชน ในความคิดผมมองว่าอนาคต บริษัทที่ใหญ่โตมาในอดีต หากปัจจุบันยังไม่ประตัวเพื่อเข้าสู่สังคมดิจิตอลอีกไม่นาน เพื่อพายุเข้ามาบริษัทใหม่ๆที่มีนวัตกรรมที่ตอบโจทย์กับลูกค้ามาเข้าไปแทนที่ได้โดยง่าย และบริษัทใหญ่จะหายไปจากสังคมซึ่งในอนาคตการบริการต่างๆในแต่ละด้านถ้าบริการได้ไม่คลอบคลุมกับความต้องการของผู้บริโภค บริการหรือสินค้าชนิดนั้นก็จะหายไปนั่นเอง
โดยที่ Thai Wallet จะเป็นการสร้างรหัสใหม่ให้กับประชาชนทุกคน โดยที่ทุกคนจะมีหมายเลข Thai เป็นของตนเอง เพื่อใช้ในการทำธุรกรรมต่างๆ หรือสามารถจับจ่ายใช้สอย ได้ตามร้านค้าทั่วไปในอนาคต โดนการใช้จ่ายผ่านบัญชี Thai Wallet นั้น อาจจะเป็นรูปแบบของการ Generate เงินที่มีอยู่ในระบบของลูกค้าจ่ายเป็น Barcode /QR Code เพื่อทำการชำระเงินหรือบริการต่างๆ โดย Barcode /QR Code ที่กำลังเริ่มจะใช้กันอย่างแพร่หลาย หรือแม้แต่การใช้จ่ายซื้อสินค้าหรือบริการออนไลน์ต่างๆ โดยหลักการหลักคือ การทำกระเป๋าสตางค์ไปอยู่ใน Cloud สามารถใช้จ่ายได้ในหลากหลายรูปแบบตามความต้องการ
มองหว่ารูปแบบดังกล่าวเป็นประโยชน์ในการบริหารจัดการของทางภาครัฐและภาคเอกชนเป็นอย่างยิ่ง ดังนี้
สิ่งที่ได้รับจากการดำเนินการจัดทำ Thai Wallet
1. ประชาชนสามารถมีรูปแบบการจ่าเงินที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีความสะดวกสะบายในการไม่ต้องพกเงินสด ซึ่งเหตุผลหลังนี้เข้าใจว่า PromptPay ก็สามารถตอบโจทย์ได้ในส่วนนี้ แต่ด้วยการสมัคร PromptPat เป็นการกระจายการดำเนินงานและความยุ่งยากของประชาชน หรือเป็นการเพิ่มทางเลือกในการใช้จ่ายซื้อสินค้าและบริการของประชาชน
2. รัฐเองสารถให้ความช่วยเหลือได้ตรงกับความต้องการของประชาชน โดยที่ประชาชนเองสามารถนำเงินจาก Nation E-Wallet นั้นไปโอนต่อไปยัง PromptPay ได้ต่อด้วย โดยที่ PromptPay เป็นเหมือน Subset ของ Nation E-Wallet
3. ง่ายต่อการดู Transaction ในอนาคตเมื่อเป็นสังคมไร้เงินสด สามารถนำข้อมูลต่างๆ มาใช้ในการวิเคราะห์ในเรื่องต่างๆเพื่อการแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจได้
4. สามารถทราบพฤติกรรมของผู้บริโถคได้ง่ายว่า ความต้องการ ณ ปัจจุบัน เป็นไปในทิศทางไหน เพื่อที่จะนำข้อมูลนั้นส่งต่อให้กับภาคเอกชน หรือถาคเกษตรกร ในการที่จะผลิตสินค้าหรือบริการให้ผู้บริโภคได้ตรงตามความต้องการ เพื่อที่จะไม่สินค้าส่วนเกินในตลาด
5. ประชาชนมีอิสระในการโอนเงิน หรือการจะใช้บริการจากธนาคารมากยิ่งขึ้น
6. สามารถนำเงินที่มีในระบบส่วนหนึ่งไปลงทุนเพื่อหารายได้เพิ่มได้อีกด้วย
7. สามารถต่อยอดและพัฒนาการบริการสู่ภูมิภาคอื่นๆได้ง่าย เป็น E-Wallet หนึ่ง
8. เป็นการไม่ยึดติดกับ PromtPay ของธนาคารใดธนาคารหนึ่งเพียงอย่างเดียวของประชาชน
9. ลดการเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวในที่สาธารณะหรือคนที่ไม่รู้จัก เช่นการบอกหมายเลขโทรศัพท์/เลขที่บัตรประชาชน
ข้อเสียจากการดำเนินการจัดทำ Thai Wallet
1. ความซ้ำซ้อนเพราะรูปแบบใกล้เคียงกับ PromptPay เเต่เพิ่มขีดความสามารถออกมาให้สามารถใช้จ่ายบริการได้
2. เป็นการลงทุนอีกครั้งของภาครัฐเพื่อสร้างความสะดวกสบายให้กับประชาชน
3. การบริหารจัดการเงินของประชาชนทั้งระบบจะตกอยู่ที่ภาครัฐ นอกจากจะให้ภาครัฐปล่อยให้เอกชนรับสัมปทานไปในการดูแล
4. เงินระบบธนาคารจะลดลง
5. เป็นช่องทางหลักให้กับการโจรกรรมได้ รัฐจึงต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
รูปแบบของ Thai Wallet
รอติดตามตอนต่อไปครับ ....
ไอเดียผมเองอาจจะซ้ำหรือว่ากำลังจะเกิดขึ้นก็ต้องขออภัยครับ เป็นไอเดียจากความคิดผมเองที่อย่าจะพัฒนารูปแบบการบริการของไทยให้ทันสมัยและแข่งกับต่างชาติได้
อยากมีอะไรแนะนำก็แลกเปลี่ยนคอมเม้นกันได้ครับ เป็นการแสดงความคิดเห็นรเพื่อการพัฒนาต่อยอดไปด้วยกัน
ฝากกดโหวตหากข้อความนี้เป็นประโยชน์และมีโอกาสพัฒนาต่อยอดได้นะครับ
ขอบพระคุณเป็นอย่างสูง
CK MPGranger