เราอยากรู้ค่ะ ว่าคนอื่นๆรับมือกับคนที่เอาเปรียบลักษณะนี้กันยังไง
ครอบครัวของเราไม่ได้ค้าขายประจำ สมัยที่แม่ยังไม่เสีย แกเคยขายผลไม้ในสวนบ้าง ขายเท่าที่มี แกคิดเลขผิดๆถูกๆแต่ก็อยากขาย แต่แกเคยเล่าให้ฟังว่า ลูกค้าที่มาซื้อ มักจะถือถุงผลไม้แล้วก็เดินไปหน้าตาเฉย ไม่จ่ายตัง ซึ่งก็มักจะเจอบ่อย บอกให้แม่อย่าไปขายเลย ขายไปก็ไม่ได้ตัง เหนื่อยด้วย แต่แม่ก็คงอยากให้คนอื่นได้ทานผลไม้เรา ก็ไปขายอยู่บ่อยๆ และมักจะมาเล่าถึงลูกค้ามักจะสั่งเยอะๆแล้วก็หิ้วไปเลยค่ะ ไม่จ่ายตังค์ คนแปลกหน้าด้วยนะ
เราเป็นคนที่ไม่ค่อยยอมคน มีหน้าหนาวอยู่ปีหนึ่ง เราอยากไปเที่ยวทางเหนือมาก พ่อก็เลยพาเราไปฝากอยู่กับญาติหนึ่งอาทิตย์ ญาติมีร้านขายของชำและห้องพักบริการให้กับนักท่องเที่ยว
เมื่อเราไปอยู่ก็เลยช่วยขายของไปด้วย นักท่องเที่ยวเยอะช่วงปีใหม่พอดี คนซื้อของกันเยอะมาก แบบว่าเรายังช้าไม่ชินราคาบ้าง ใส่ถุงให้ช้าบ้าง คิดเงินช้าบ้าง
แต่ละวันโดนโกงหลายร้อยบาทเลย
ที่เจ็บใจคือ มีลุงคนหนึ่งนั่งปิกอัพมาซื้อบุหรี่อยู่ซองเดียวจ่ายแบ้งค์พัน แล้วเราก็รีบหาทอนให้เพราะกลัวว่าเขาจะรอนาน เขานั่งอยู่บนรถ ไม่ลงมา เราก็วิ่งไปมาแล้วก็ทอนตังค์ให้ ลุงเขาก็ถามชวนคุยว่าไม่เคยเห็นมาก่อน แล้วเราก็ตอบเขาว่ามาอยู่ที่นี่หนึ่งอาทิตย์ แล้วตอนนั้นไม่รู้ว่าเขาจะถามอะไรอีก แล้วก็บอกว่าต้องไปแล้ว ทอนตังมาก่อน แล้วเราก็บอกว่าทอนให้แล้ว เขาก็บอกว่ายังไม่ได้ทอนเลย แล้วเขาก็ล้วงกระเป๋ามาโชว์บอกว่าไม่มีสักบาท แต่เราก็ไม่ทันได้ดูว่ามีตังในกระเป๋าเท่าไร เห็นแต่แบ้งค์ยี่สิบแวบๆ เราก็บอกว่าทอนให้แล้วนะ เขาก็ยืนยันว่าไม่ได้ทอนอยู่ดี เราก็รีบเข้าไปข้างในร้านบอกลุงกับป้าว่าเราทอนตังให้ลูกค้าแล้วแต่ลูกค้าบอกว่ายังไม่ได้ทอน คือเราก็กลัวแงค์ย่อยจะไม่พอทอนรอบสองอีก เพราะทอนรอบแรกก็หากว่าจะครบต้องวิ่งหาจากในลิ้นชักและกระเป๋ามารวมๆกัน ตอนเช้ายังไม่ค่อยมีแบ้งค์ย่อยมาก ส่วนใหญ่เก็บแต่เหรียญไว้ทอนมากกว่า
ลุงของเราก็บอกว่า ให้ๆเขาไปเถอะ คนที่โกงเอาไปก็กินไม่อิ่มหรอก เราจึงต้องหามาทอนอีกจนครบ
แล้วเราก็เข็ดเลย ขายของแบบนี้เราขี้หงุดหงุดและไม่ชอบให้ใครเอาเปรียบด้วย นี่ยังมีรายอื่นด้วยนะ แบบทำเนียนไม่จ่ายตังค์แต่ยกไข่ไปเป็นแผงเลย กล้องวงจรปิดก็ไม่มี เฮ้อ...เราเข็ดกับการขายของมาก
และต่อมาเมื่อไม่นานมานี้ เรากับพ่อแวะไปทานข้าวในห้างหนึ่ง ตอนนั้นมีคนรู้จักไปด้วยอยู่อีกสองคน
ห้างนั้นเราเคยแวะไปทานบ่อยๆตอนที่แม่ป่วยก่อนที่แม่จะเสียนั้น หลังจากแม่เสีย เราก็ไม่ได้ไปนานเลย พอผ่านมาทางนี้เลยได้แวะเข้ามา
ห้างส่วนใหญ่มักจะให้แลกคูปองก่อน แต่ ณ ตอนนั้นไม่มีให้แลกคูปอง ให้จ่ายสด เราเพิ่งไปซื้อของมา เหลือแต่แบ้งค์พัน ไม่มีแบ้งค์ย่อยเหลือ เลยหันมาถามพ่อว่ามีแบ้งค์ย่อยไหม กลัวแม่ค้าเสียเวลากับเรา พ่อก็บอกไม่มีเลย เราก็ดูตังในกระเป๋าอีกที จนเจอร้อยหนึ่งดีใจมากบอกพ่อว่า มีแบ้งค์ร้อยอยู่ใบหนึ่ง ก็เลยรีบเข้าไปสั่งอาหารทั้งของเราและของพ่อด้วยเลย ราคาอย่างละ 45 บาท สองอย่างก็เก้าสิบพอดี เรารีบจ่ายตังก่อน แล้วแม่ค้าก็บอกว่าอย่างนี้หมด เหลืออยู่อย่างเดียว เราก็บอกอย่างเดียวก็ได้ แล้วแม่ค้าก็ทอนตังมาห้าบาท เราก็บอกว่า เราให้ไปร้อยนึง แม่ค้าก็เถียงว่าแบ้งค์ห้าสิบ แล้วก็โวยวายไปพูดกับแม่ค้าคนอื่นๆว่าไดเแบ้งค์ห้าสิบมา เราไม่อายเลยนะตอนนั้น บอกพ่อว่าเราเหลือแบ้งค์ร้อยย่อยใบเดียว แม่ค้าโกงพ่อก็เห็นใช่ไหม เราถาม พ่อก็เออๆแต่คงจะขี้เกียจเถียงเลยหยิบตังแบ้งค์พันมายื่นให้ บอกไปสั่งร้านอื่นแทน เราก็บอกพ่อว่าแบ้งค์พันหนูก็มีแต่จะใช้แบ้งค์ร้อยเมื่อกี้ พ่อก็ไม่รู้จะทำไง เพราะเราดื้อไม่ยอมคน พ่อยกอาหารที่ได้อย่างเดียวไปนั่งทานเฉย เราเดินไปบอกพี่คนที่มาด้วยกันว่า
แม่ค้าเอาเปรียบเราไปห้าสิบบาท เราจะไปแจ้งศูนย์บริการของห้าง แล้วพี่ที่มาด้วยบอกว่านี่ไง ทำไมไม่ใช้เงินกองกลาง พี่เขาตัดปัญหาด้วยการยื่นตังมาให้อีก
เราโมโหมาก หิวด้วย แต่ไม่อยากจะทานที่นี่อีก ยอมอดดีกว่า เราก็เดินออกจากโซนขายอาหารไปเลย
เพิ่มเติมคือ ร้านขายของชำนี่มักจะทอนเงินให้เราไม่ครบ หรือไม่ก็คิดราคาซ้ำซ้อน เราก็พยายามมองให้เป็นเรื่องตลกนะ เงินไม่กี่บาทก็ช่างมันเถอะ เหมือนที่ใครๆบอก แต่เราแบบว่าเจอบ่อยมาก บางคนซื่อๆนี่ไม่เท่าไร แต่บางทีเจอแบบตั้งใจนี่เสียความรู้สึกมากเลยนะ ร้านสะดวกซื้อแถวบ้านเรานี่เคยตามมาถึงบ้านบอกว่าคิดตังค์ผิด ทั้งที่มีเครื่องสแกนสินค้า เราไม่เคยนับตังทอนจากร้านสะดวกซื้อเลยนะ ไม่รู้คนอื่นเป็นหรือเปล่า เพราะเรามั่นใจว่าร้านสะดวกซื้อคงนับอย่างน้อยก็สองรอบอ่ะ
คือเราแค่อยากจะเล่าให้ฟังว่าเราเรื่องมากไปหรือเปล่า มีคนบอกว่า ชีวิตเราจะไม่มีความสุขถ้าไม่รู้จักยอม
หรือถ้าพยายามเรียกหาแต่ความยุติธรรม
เรารู้ตัวเองว่าดื้อมาก ชอบชนะ หลายครั้งก็เกือบจะทำให้ตัวเองโดนแก้แค้น เราก็ไม่รู้จะทำยังไงดี เอาแค่ว่ามาบ่นให้ฟังเฉยๆ
ถ้าโดนโกงแบบนี้ พอจะรับได้ไหมคะ
ครอบครัวของเราไม่ได้ค้าขายประจำ สมัยที่แม่ยังไม่เสีย แกเคยขายผลไม้ในสวนบ้าง ขายเท่าที่มี แกคิดเลขผิดๆถูกๆแต่ก็อยากขาย แต่แกเคยเล่าให้ฟังว่า ลูกค้าที่มาซื้อ มักจะถือถุงผลไม้แล้วก็เดินไปหน้าตาเฉย ไม่จ่ายตัง ซึ่งก็มักจะเจอบ่อย บอกให้แม่อย่าไปขายเลย ขายไปก็ไม่ได้ตัง เหนื่อยด้วย แต่แม่ก็คงอยากให้คนอื่นได้ทานผลไม้เรา ก็ไปขายอยู่บ่อยๆ และมักจะมาเล่าถึงลูกค้ามักจะสั่งเยอะๆแล้วก็หิ้วไปเลยค่ะ ไม่จ่ายตังค์ คนแปลกหน้าด้วยนะ
เราเป็นคนที่ไม่ค่อยยอมคน มีหน้าหนาวอยู่ปีหนึ่ง เราอยากไปเที่ยวทางเหนือมาก พ่อก็เลยพาเราไปฝากอยู่กับญาติหนึ่งอาทิตย์ ญาติมีร้านขายของชำและห้องพักบริการให้กับนักท่องเที่ยว
เมื่อเราไปอยู่ก็เลยช่วยขายของไปด้วย นักท่องเที่ยวเยอะช่วงปีใหม่พอดี คนซื้อของกันเยอะมาก แบบว่าเรายังช้าไม่ชินราคาบ้าง ใส่ถุงให้ช้าบ้าง คิดเงินช้าบ้าง
แต่ละวันโดนโกงหลายร้อยบาทเลย
ที่เจ็บใจคือ มีลุงคนหนึ่งนั่งปิกอัพมาซื้อบุหรี่อยู่ซองเดียวจ่ายแบ้งค์พัน แล้วเราก็รีบหาทอนให้เพราะกลัวว่าเขาจะรอนาน เขานั่งอยู่บนรถ ไม่ลงมา เราก็วิ่งไปมาแล้วก็ทอนตังค์ให้ ลุงเขาก็ถามชวนคุยว่าไม่เคยเห็นมาก่อน แล้วเราก็ตอบเขาว่ามาอยู่ที่นี่หนึ่งอาทิตย์ แล้วตอนนั้นไม่รู้ว่าเขาจะถามอะไรอีก แล้วก็บอกว่าต้องไปแล้ว ทอนตังมาก่อน แล้วเราก็บอกว่าทอนให้แล้ว เขาก็บอกว่ายังไม่ได้ทอนเลย แล้วเขาก็ล้วงกระเป๋ามาโชว์บอกว่าไม่มีสักบาท แต่เราก็ไม่ทันได้ดูว่ามีตังในกระเป๋าเท่าไร เห็นแต่แบ้งค์ยี่สิบแวบๆ เราก็บอกว่าทอนให้แล้วนะ เขาก็ยืนยันว่าไม่ได้ทอนอยู่ดี เราก็รีบเข้าไปข้างในร้านบอกลุงกับป้าว่าเราทอนตังให้ลูกค้าแล้วแต่ลูกค้าบอกว่ายังไม่ได้ทอน คือเราก็กลัวแงค์ย่อยจะไม่พอทอนรอบสองอีก เพราะทอนรอบแรกก็หากว่าจะครบต้องวิ่งหาจากในลิ้นชักและกระเป๋ามารวมๆกัน ตอนเช้ายังไม่ค่อยมีแบ้งค์ย่อยมาก ส่วนใหญ่เก็บแต่เหรียญไว้ทอนมากกว่า
ลุงของเราก็บอกว่า ให้ๆเขาไปเถอะ คนที่โกงเอาไปก็กินไม่อิ่มหรอก เราจึงต้องหามาทอนอีกจนครบ
แล้วเราก็เข็ดเลย ขายของแบบนี้เราขี้หงุดหงุดและไม่ชอบให้ใครเอาเปรียบด้วย นี่ยังมีรายอื่นด้วยนะ แบบทำเนียนไม่จ่ายตังค์แต่ยกไข่ไปเป็นแผงเลย กล้องวงจรปิดก็ไม่มี เฮ้อ...เราเข็ดกับการขายของมาก
และต่อมาเมื่อไม่นานมานี้ เรากับพ่อแวะไปทานข้าวในห้างหนึ่ง ตอนนั้นมีคนรู้จักไปด้วยอยู่อีกสองคน
ห้างนั้นเราเคยแวะไปทานบ่อยๆตอนที่แม่ป่วยก่อนที่แม่จะเสียนั้น หลังจากแม่เสีย เราก็ไม่ได้ไปนานเลย พอผ่านมาทางนี้เลยได้แวะเข้ามา
ห้างส่วนใหญ่มักจะให้แลกคูปองก่อน แต่ ณ ตอนนั้นไม่มีให้แลกคูปอง ให้จ่ายสด เราเพิ่งไปซื้อของมา เหลือแต่แบ้งค์พัน ไม่มีแบ้งค์ย่อยเหลือ เลยหันมาถามพ่อว่ามีแบ้งค์ย่อยไหม กลัวแม่ค้าเสียเวลากับเรา พ่อก็บอกไม่มีเลย เราก็ดูตังในกระเป๋าอีกที จนเจอร้อยหนึ่งดีใจมากบอกพ่อว่า มีแบ้งค์ร้อยอยู่ใบหนึ่ง ก็เลยรีบเข้าไปสั่งอาหารทั้งของเราและของพ่อด้วยเลย ราคาอย่างละ 45 บาท สองอย่างก็เก้าสิบพอดี เรารีบจ่ายตังก่อน แล้วแม่ค้าก็บอกว่าอย่างนี้หมด เหลืออยู่อย่างเดียว เราก็บอกอย่างเดียวก็ได้ แล้วแม่ค้าก็ทอนตังมาห้าบาท เราก็บอกว่า เราให้ไปร้อยนึง แม่ค้าก็เถียงว่าแบ้งค์ห้าสิบ แล้วก็โวยวายไปพูดกับแม่ค้าคนอื่นๆว่าไดเแบ้งค์ห้าสิบมา เราไม่อายเลยนะตอนนั้น บอกพ่อว่าเราเหลือแบ้งค์ร้อยย่อยใบเดียว แม่ค้าโกงพ่อก็เห็นใช่ไหม เราถาม พ่อก็เออๆแต่คงจะขี้เกียจเถียงเลยหยิบตังแบ้งค์พันมายื่นให้ บอกไปสั่งร้านอื่นแทน เราก็บอกพ่อว่าแบ้งค์พันหนูก็มีแต่จะใช้แบ้งค์ร้อยเมื่อกี้ พ่อก็ไม่รู้จะทำไง เพราะเราดื้อไม่ยอมคน พ่อยกอาหารที่ได้อย่างเดียวไปนั่งทานเฉย เราเดินไปบอกพี่คนที่มาด้วยกันว่า
แม่ค้าเอาเปรียบเราไปห้าสิบบาท เราจะไปแจ้งศูนย์บริการของห้าง แล้วพี่ที่มาด้วยบอกว่านี่ไง ทำไมไม่ใช้เงินกองกลาง พี่เขาตัดปัญหาด้วยการยื่นตังมาให้อีก
เราโมโหมาก หิวด้วย แต่ไม่อยากจะทานที่นี่อีก ยอมอดดีกว่า เราก็เดินออกจากโซนขายอาหารไปเลย
เพิ่มเติมคือ ร้านขายของชำนี่มักจะทอนเงินให้เราไม่ครบ หรือไม่ก็คิดราคาซ้ำซ้อน เราก็พยายามมองให้เป็นเรื่องตลกนะ เงินไม่กี่บาทก็ช่างมันเถอะ เหมือนที่ใครๆบอก แต่เราแบบว่าเจอบ่อยมาก บางคนซื่อๆนี่ไม่เท่าไร แต่บางทีเจอแบบตั้งใจนี่เสียความรู้สึกมากเลยนะ ร้านสะดวกซื้อแถวบ้านเรานี่เคยตามมาถึงบ้านบอกว่าคิดตังค์ผิด ทั้งที่มีเครื่องสแกนสินค้า เราไม่เคยนับตังทอนจากร้านสะดวกซื้อเลยนะ ไม่รู้คนอื่นเป็นหรือเปล่า เพราะเรามั่นใจว่าร้านสะดวกซื้อคงนับอย่างน้อยก็สองรอบอ่ะ
คือเราแค่อยากจะเล่าให้ฟังว่าเราเรื่องมากไปหรือเปล่า มีคนบอกว่า ชีวิตเราจะไม่มีความสุขถ้าไม่รู้จักยอม
หรือถ้าพยายามเรียกหาแต่ความยุติธรรม
เรารู้ตัวเองว่าดื้อมาก ชอบชนะ หลายครั้งก็เกือบจะทำให้ตัวเองโดนแก้แค้น เราก็ไม่รู้จะทำยังไงดี เอาแค่ว่ามาบ่นให้ฟังเฉยๆ