มัลดีฟ สถานที่ที่ใครหลายๆคนใฝ่ฝันอยากที่จะไป เคยเห็นในภาพน้ำทะเลใสๆกับบ้านพักที่ยื่นไปในน้ำ สวยมากๆ แต่ความสวยงามก็แลกมากับราคาที่สูงมาก ที่พักดีๆสวยๆคืนนึงอาจราคาหลายหมื่นจนถึงหลักแสน ทำให้มัลดีฟเป็นแค่สถานที่ท่องเที่ยว"ในฝัน"

     แต่วันนี้ฝันเราเป็นจริงแล้วจ้า กระทู้นี้จะพาไปเที่ยวมัลดีฟ นอนบ้านพักบนน้ำยื่นลงไปทะเล เหมือนในภาพที่เคยเห็นเลย ในราคายังจับต้องได้อีกด้วย มามะไปกันเล้ยยย 😆👌
          
     หลังจากทำงานเครียดมาเป็นช่วงระยะเวลานึง ก็ไม่ไหวแล้ว จบงานนี้ฉันต้องไปไหนสักที่อยากได้อินสปายเรชั่น และก็เหมือนเคย
กิจกรรมคลายเครียด ชอบเสิร์ช booking.com , skyscannerเล่นๆ ลองเสิร์ชหามัลดีฟดู ใส่ฟิลเตอร์เข้าว่าต้องการที่พัก ในมัลดีฟ 4ดาวขึ้นไป
โจทย์ก็คือถ้าไปทั้งที ก็ต้องพักแบบกลางน้ำหรือ Water Villa ที่มันยื่นๆไปในน้ำเท่านั้น

พอเสิร์ชไปก็เจอ อุ๊ยๆ โรงแรมอะไร 4ดาวถูกจัง คลิกเข้าไปดูรายละเอียด ดูรูปภาพ ก็เจอที่ในฝัน บ้านพักแบบ Water Villa ในราคาที่ใช่เลย ลองดูโรงแรมเดียวกันจากหลายๆเว็บ สุดท้านใช้บริการ agoda ไปค่ะ

     แต่จะบอกทริคสำหรับการดูโรงแรมที่ มัลดีฟ คือ ราคาที่แสดง จะไม่รวม 1)ค่าธรรมเนียมและภาษี 2)ภาษีสิ่งแวดล้อม 3)ค่าshuttle boat /seaplanes (ที่พักของมัลดีฟที่เห็นสวยๆจะอยู่เป็นเกาะๆซึ่งคนละเกาะกับสนามบินต้องนั่งเรือหรือเครื่องบินน้ำไปเท่านั้นจ้า)
เวลาจะจองก็ต้องดูรายละเอียดดีๆนะจ้ะเพราะก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละโรงแรม บวกมาเบ็ดเสร็จแล้วอาจเลือดกำเดาพุ่งได้ เพราเรทราคาสูงจริงๆ

     อีกส่วนนึงที่ต้องพิจารณาดูคือ ประเภทของpackage หลักๆก็จะมี All Inclusive,Full Board,Half Board หรือ Bed&Breakfast ราคาก็จะมากน้อยลดหลั่นกันมาตามลำดับ ตามสิ่งที่เราเลือก

     เราเลือก Water Villas 3คืน แบบฺB&B (อาหารเช้า)+ค่าธรรมเนียม+ภาษี  ตกประมาณ 36,000 บาท
     ค่าshuttle boat อยู่ที่. 104$/คน/การเข้าพัก อันนี้ไปจ่ายที่พักต่างหาก

เจอโรงแรมที่หมายตาแล้ว ก็ไปดูราคาตั๋ว กดไปเจอ Air Asia บินตรง คนละประมาณ 7,100 ใช้คะแนนอันจุ๋มจิ๋มของเรา redeem ไป เหลือคนละ 6,750

   เลิศ ค่ะซิส เหมาะเจาะลงตัว ชวนพี่สาว นางเห็นด้วย ไปค่ะ จองค่ะจอง....... มัลดีฟจ๋า ฉันมาแล้ววววว 🏖🏖🏖🏖

          
เราออกเดินทางในเช้าวันจันทร์ ไฟล์ท 9.30น. ด้วยความเช้าวันจันทร์กลัวรถติด เราออกกันตั้งแต่ตีห้า  ไปถึงดอนเมืองประมาณหกโมง เดินฉลุยผ่านเข้า ตม. ไปเลยจร้าเพราะเชคอินออนไลน์ และ ปริ๊นบอร์ดดิ้งพาสที่ Kioskเรียบร้อยแล้ว

      เหลือเวลาตั้งเยอะ เราจึงทดลองใช้สิทธิพิเศษ ของบัตรต่างๆที่เราศึกษามา ใช้ได้ด้วยค่ะ เริศจริงๆ

     เราได้ เบอเกอร์กับน้ำของ Subwayฟรี จากสมนาคุณจากบัตรเครดิตของ Citibank  แต่ถ้าใครไม่อยากกินSubway ก็สามารถนำบัตรไปแลก โดนัทกับน้ำเปล่าของ Krispy Kreame หรือ กาแฟกับแซนวิชจาก Black Canyon ได้นาจา อิ่มท้องแบบฟรีๆก่อนขึ้นเครื่องไปอีก
     ส่วนใครที่เป็นสมาชิกKing Power หรือ ถือบัตร Scb King Power ก็ไปนั่งชิลๆ ทานอาหารใน Lounge นางได้นะเออ กินสนุก ลุกนั่งสบายไปอีก คุ้มค่า

          
พอถึงเวลาแล้วก็ไปขึ้นเครื่องกัน เครื่องลำไม่ใหญ่มาก ที่นั่งบนเครื่องคือพอดีขาเป๊ะ นั่งไปค่ะ ประมาณ4ชั่วโมงนิดๆ ก็จะถึงสนามบิน Male ผ่าน ตม. ฉลุยค่ะ คนไทยอยู่ได้โดยไม่ต้องมี Visa 30วัน

          
     พออกมาแล้วก็มองหา counter ของโรงแรมที่จองมา ซึ่งได้เมล์สอบถาม ยืนยันกันเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้ว ว่าคือ Counter 16 จะเขียนว่า Villa Hotels แต่ก็เป็นCounterของ Paradise Island Resort&Spaนั่นแหละ เจ้าหน้าที่บอกให้รอแป๊บ รอคนครบนั่นเอง ให้เราไปเดินดูรอบๆได้  มีDairy Queen ด้วยจะไปซื้อราคา2$ แต่พนักงานบอกว่าแบงค์ใหญ่เกิน 5$ไม่มีทอน มีแต่แบงค์ใหญ่ อดกินไปตามระเบียบ ใครจะมาติดเศษๆมาบ้างก็ดีค่ะ

                    
รอได้สักประมาณ30นาทีคนครบก็ขึ้น Speed Boat ไปกันเลยค่ะ  คลื่นค่อนข้างแรง คนขับก็ดริฟมาก นึกว่าอยู่สวนสนุก ตื่นเต้นมาก

                    
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30นาทีก็ถึงรีสอร์ตของเรา น้ำใสมากๆๆ ประทับใจตั้งแต่แรกเจอเลยแหละ

           
พอไปถึงก็มีพนักงานมารอรับ ให้ทิ้งกระเป๋าไว้เดี๋ยวพนักงานมาขนให้เองจร้า

เราเดินผ่านสะพานข้ามน้ำทะเลใสๆสวยมากๆ(อีกครั้ง)ตามแบบฉบับมัลดีฟมาที่ Reception  พนักงานก็จะให้เรากรอก Guest Card เป็นประวัติส่วนตัวทั่วๆไป แล้วมีWelcome Drink เป็นน้ำมะม่วงรสชาดอร่อยมากพร้อมผ้าเย็น ก่อนเข้าห้องก็แวะจ่ายค่า Shuttel boat ที่receptionก่อน ราคาตามที่บอกไว้ด้านบนเลยจ้า

                    
     พนักงานก็พาเรานั่งรถกอล์ฟดั่งเซเลบมาส่งถึงห้อง พอส่งเสร็จนางก็ยังยืนอยู่ เรากับพี่ก็คิดว่ารอทิป ให้เท่าไหร่ดีวะ เลยหยิบไปให้ 2$ไม่รู้ให้ถูกหรือแพงไปมั้ย เลยลองเสิร์ชดู เขาบอกว่าให้ 1-2$เป็นมาตรฐาน ไม่น่าเกลียด
    
     เราจองห้องพักแบบ Water Villas หรือ บ้านพักกลางน้ำไว้3คืน ซึ่งห้องก็ดีมากๆเลย สวยงามคุ้มค่า คุ้มราคา นอนดูทะเลใสๆทั้งวัน


วันแรกมาถึงเหนื่อยๆ ไม่ทำอะไรเลย นอนดูทะเลทั้งวัน ถ่ายรูปเล่น ที่ Resortจะมีให้อาหารปลาฉลามตอน 6.30 น. กับ ให้อาหารปลากระเบนทุกวัน เราก็เดินไปดู ธรรมชาติสมบูรณ์จริงๆ




     วันรุ่งขึ้นตื่นเช้ามาก็ไปกินข้าวเช้า ถ่ายรูปเล่น เดินรอบๆเกาะ แบบพักผ่อนจริงๆ ตอนเย็นเลยตัดสินใจว่าจะออกไปดูปลาโลมากลางทะเลกัน แต่วันที่ไปดู ปลาโลมากระโดดน้อยจัง สงสัยเรือมาดูเยอะ


     พอกลับมาก็ไปหามื้อเย็นกินสักหน่อย เลยได้Dinnerที่ ห้องอาหาร รสชาดก็ใช้ได้ทีเดียว โรแมนติค ดินเนอร์ใต้แสงไฟ ฟังเสียงคลื่นไป. ควรมากับผู้ไม่ควรมากับพี่ บอกเลย 555+

     ที่Resort นี้ก็จะมีกิจกรรมต่างๆมากมาย กีฬาต่างๆ รวมไปถึงกิจกรรมทางน้ำ โดยจะมีศูนย์กลางเป็น Sport Centerซึ่งเราก็เลือกทำกิจกรรมที่ผาดโผนสุดๆอย่าง....พายเรือแคนนู แฮร่


พายเรือเสร็จกำลังดำได้ที่ก็ไปกระโดดน้ำเล่นที่ห้อง แล้วว่ายน้ำจากบ้านไปที่ชายหาด เพื่อไปถ่ายรูปกัน


เช้าวันรุ่งขึ้นต้องกลับแล้ว ไฟล์ทเราเที่ยงครึ่ง ต้องออกจากresort ตอน9โมง ขากลับใช้เรือลำใหญ่ คละคลุ้งไปด้วยกลิ่นแขกเพลินๆ


จบทริปไปแบบประทับใจ ถือเป็นทริปในฝันที่คุ้มค่า สวยงาม เหมาะสมแก่การมาพักผ่อนสุดๆไปเลยค่าา



สรุปค่าใช้จ่าย/คน

ห้องพักแบบ Water Villa 3คืน แบบ BB รวมภาษีทุกอย่างแล้ว  ประมาณ  18,000 บาท
ค่า Shuttle Boat 104USD                                                ประมาณ   3,500 บาท
ตั๋วเครื่องบิน Air Asia                                                                     6,750 บาท
รวม                                                                                           28,250 บาท
                                                      
อื่นๆก็แล้วแต่จะกิน จะทำกิจกรรมเด้อ ใครประหยัดงบขนของกินไปกินเลยจร้าหรือจะไปซื้อกินที่นู่นก็เตรียมตังหรือบัตรไปให้พร้อมเลยจร้าา

ใครที่ชอบเที่ยวสไตล์แบบเรา ฝากติดตามเพจตามลิงค์นี้ด้วยจ้า. > https://m.facebook.com/Paiikasis/
เราจะเอาเรื่องราว ทริคดีๆในการท่องเที่ยวมาแบ่งปันกัน