[CR] [CR] Review : Centara Ras Fushi Resort & Spa Maldives


สวัสดีทุกท่าน วันนี้ผมจะมารีวิว ร่วมแชร์ประสบการณ์การไปเยือนมัลดีฟส์ ณ รีสอร์ทยอดนิยมของคนไทยแห่งหนึ่ง โดยจะเห็นได้จากการมีแพคเกจออกมาให้พวกเราเห็นเป็นจำนวนมาก ซึ่งท่านคงได้เห็นผ่านตามาบ้างแล้วไม่มากก็น้อย คราวนี้ผมจะมาให้รายละเอียดเพิ่มเติมครับ ตามมาเลย

ไปตอนไหนดี ?
- High season คือช่วง พ.ย. ถึง เม.ย. เป็นช่วงที่ไม่มีมรสุม ฝนตกน้อย แดดดี น้ำทะเลนิ่งและใส จึงเป็นช่วงที่น่าเที่ยวที่สุด แต่ข้อเสียคือราคาบ้านพักอาจแพงกว่าปกติและคนเยอะ ช่วงที่highสุดๆมีคนมาเที่ยวมากสุดๆคือ ก.พ.-มี.ค.เพราะเป็นช่วงที่อากาศดีสุดๆมีฝนตกเฉลี่ยเพียง3-4วันต่อเดือนเท่านั้น ส่วนช่วงปลายเดือน ธ.ค ถึงต้น ม.ค.ไม่ใช่ช่วงที่มีอากาศดีที่สุดแต่ราคาจะแพงสุดเพราะเป็นเทศกาลปีใหม่

- Low season คือช่วง พ.ค. ถึง ต.ค. เป็นช่วงมรสุม มีฝนตกเฉลี่ย7-15วันต่อเดือน โดยช่วงพ.ค.-มิย.เป็นช่วงที่ฝนตกหนักมากที่สุดเพราะเป็นช่วงเปลี่ยนฤดู ลมจะแรง คลื่นแรง น้ำก็จะลดความใสลงไป  อย่างไรก็ตามไม่พบว่าเคยเกิดพายุหรือสึนามิเพราะอยู่บริเวณเส้นศูนย์สูตร  ช่วงที่ฝนตกน้อยสุดในหน้ามรสุมคือ ปลายเดือน ก.ค ถึง ส.ค  ในแง่ที่ตั้งของเกาะนั้นเกาะทางใต้จะมีฝนมากกว่าเกาะทางเหนือ รีสอร์ทนี้อยู่เกือบกลาง ค่อนไปทางเหนือนิดหน่อย เวลาดูพยากรณ์อากาศให้ดูที่เมืองมาเล่(Male)ได้เลย ข้อดีของการเที่ยวหน้านี้คือ ราคาบ้านพักจะถูกลง คนจะน้อยมีความเป็นส่วนตัวและแดดไม่ร้อน


การเดินทางนั้นแสนง่ายโดยทำการจองแค่ 2 อย่างเท่านั้นก็เที่ยวได้แล้ว (ไม่ต้องทำวีซ่า)ดังนี้
1 จองห้องพัก ห้องพักที่นี่มีอยู่ 5 แบบ คือ
    Ocean Front Beach Villa เป็นบ้านพักที่ชายหาด
    Deluxe Ocean Front Beach Villa เป็นบ้านพักที่ชายหาดที่หรูขึ้นมาอีกระดับ
    Deluxe Water Villa คือบ้านพักกลางน้ำที่อยู่ด้านทิศตะวันออก เห็นพระอาทิตย์ขึ้น
    Deluxe Sunset Water Villa คือบ้านพักกลางน้ำที่อยู่ด้านทิศตะวันตก เห็นพระอาทิตย์ตก
    Premium Spa Water Villa คือบ้านพักกลางน้ำที่มีอ่างจากุซซี่ เป็นบ้านที่ถือว่าtopสุดในรีสอร์ท อยู่ด้านในสุด (ยื่นไปในทะเลมากสุด)
ผมได้เดินทางไปวันที่29-31 กรกฎาคม 2558 เป็นแบบห้องพักกลางน้ำ(Deluxe Water Villa) + all inclusive คือรวมอาหารและน้ำดื่ม3มื้อฟรี โดยจองผ่านอโกดา เวลาจองให้ท่านดูด้วยว่าเป็นแพคเกจแบบไหน ถ้าเขียนว่าbreakfastแสดงว่ามีอาหารเช้ามื้อเดียว ถ้าเป็น Half boards ก็หมายถึงมีอาหารเช้าและเย็น แต่ถ้าเป็น All inclusiveก็คือรวมหมด3มื้อเลยทั้งอาหารและเครื่องดื่ม แต่แน่นอนกฎย่อมมีข้อยกเว้น ทุกแพคเกจที่บอกมาสามารถทานอาหารได้ฟรีที่ห้องอาหารหลัก คือ ห้องอาหารOceans เป็นแบบ international Buffet  ส่วนห้องอาหารเสริมนั้นมีอยู่อีก3ห้องคือ 1.ห้องอาหารไทย 2.ห้องอาหารอิตาลี่ 3. ห้องอาหารอาหรับ ห้องอาหารเสริมทั้ง3ห้องเหล่านี้สามารถทานได้ไม่เกินเครดิต40 US dollarต่อมื้อเท่านั้นโดยเลือกจากในเมนู(อาหารตามสั่ง) ไม่ได้เป็นแบบบุฟเฟต์แบบห้องหลัก
    นอกจากนี้แพคเกจทั้งหมดก็ไม่รวมอาหารอีเว้นท์พิเศษของแต่ละห้องอาหาร เช่น Buffetห้องอาหารไทยวันพฤหัส เป็นต้น อีเว้นท์พิเศษก็คืออาหารที่มีเฉพาะบางวันนั่นแหละจำง่ายๆ  อีกทั้งอาหารทะเลและกุ้งมังกรก็ไม่รวมอยู่ในแพจเกจเช่นกัน อ่านมาถึงตรงนี้หลายท่านคงเซ็งที่มาทะเลแต่ไม่ได้กินอาหารทะเล แต่ผมอยากจะบอกว่าเป็นอย่างนี้เกือบทุกรีสอร์ทครับ
    ระหว่างทำการจอง มันก็จะมีช่องให้กรอกเวลาวันไปวันกลับ รวมถึงให้ระบุเที่ยวบิน ให้เรียบร้อย เพื่อที่ทางโรงแรมจะมาคอยรับส่งเราที่สนามบินและพาขึ้นเรือspeed boat ไปที่เกาะ

2. จองเครื่องบิน ตอนนี้มีประมาณ 5 สายการบินที่ไปมัลดีฟ ได้แก่ บางกอกแอร์เวย์  ศรีลังกาแอร์ มาเลเซียนแอร์ สิงคโปร์แอร์และล่าสุดแอร์เอเชีย  แต่จะมีสายการบินบางกอกแอ์เวย์เท่านั้นที่บินตรง ที่เหลือต้องเปลี่ยนเครื่อง  ซึ่งราคาแน่นอนบางกอกแอร์เวย์จะแพงสุดแต่จะมีข้อดีคือถึงเร็วประมาณ11.45 น.ก็ถึงละ ทำให้มีเวลาวันแรกมากแต่ข้อเสียคือขากลับออกเช้าไปหน่อยคือออก12.40 ทำให้มีเวลาวันสุดท้ายน้อย  ส่วนสายการบินศรีลังกามีหลายเวลาให้เลือกเดินทาง อีกทั้งราคาไม่แพง เพียงแต่ต้องต่อเครื่องเท่านั้นเองแต่ก็รอต่อไม่นาน ถ้าเลือกกลับตอนเย็นๆค่ำๆหน่อยก็จะมีเวลาในรีสอร์ทวันสุดท้ายมาก คือเค้าให้check outได้ไม่เกินเที่ยงแต่หลังจากนั้นยังอยู่ทำกิจกรรมภายในรีสอร์ทได้จนถึงเวลากลับ ส่วนสายการบินอื่นๆที่เหลือไม่เป็นที่นิยมนักเพราะเสียเวลาต่อเครื่องนาน บางอันรอนาน10ชม ขึ้นไปก็มี สุดท้ายก็คือการเลือกที่นั่งคือถ้าเลือกที่นั่งได้ควรเลือกริมหน้าต่างด้านขวาสำหรับขาไปและด้านซ้ายสำหรับขากลับ เพื่อที่จะได้เห็นวิวเกาะต่างๆของมัลดีฟส์จากมุมสูงบนเครื่องบินได้อย่างชัดเจนสวยงาม

ค่าใช้จ่ายต่อหัวโดยประมาณ    
1.ค่าห้องแบบ Deluxe water villa 3วัน2คืน   ราคา 18,800 บาท
2.ค่าเรือรับส่ง                                             ราคา   3,650 บาท
3.ค่าเครื่องบินไปกลับกรุงเทพ-มัลดีฟส์          ราคาเริ่มต้น 20,000 บาทสำหรับบางกอกแอร์เวย์
                                                          ราคาเริ่มต้น 13,000 บาทสำหรับศรีลังกาแอร์ไลน์
              
        **รวมแล้วตกอยู่ที่ประมาณ  35,000-45,000 บาทต่อคน (จะเห็นได้ว่าปัจจัยหลักที่มีผลต่อราคาคือตั๋วเครื่องบิน ใครหาได้ถูกก็ได้เปรียบ ส่วนค่าห้องของที่นี่ไม่ค่อยแตกต่างกันเท่าไหร่ไม่ว่าจะเป็นหน้าhighหรือlow)

จบละสำหรับการเตรียมตัว ค่อไปก็ไปเที่ยวได้เลย
ชื่อสินค้า:   Centara Ras Fushi Resort & Spa Maldives (เซ็นทารา ราส ฟูชิ รีสอร์ทแอนด์สปา มัลดีฟส์)
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่