แมวหนูป่วยเกือบตายด้วยโรคลิวคิเมีย แต่ตอนนี้ไปวิ่งไล่จิ้งจกแล้วววว

สวัสดีค่ะทุกคน  หนูมีแมว 2 ตัว ชื่อน้อง มะลิ และ น้องมืด น้องเป็นลิวคิเมียตั้งแต่เด็ก แต่ไม่เคยภูมิตกรุนแรง อย่างมากก็แค่ซึม ป้อนน้ำผึ้ง ป้อนยาตามอาการก็ดีขึ้น  แต่ครั้งนี้ค่อนข้างรุนแรง เริ่มจากน้องมะลิ มีอาการซึม เอาแต่นอนไม่กินอาหาร ไม่ร่าเริง จมูกซีด ตัวเย็น หนูเลยพาไปหาหมอเพื่อตรวจเลือด ผลออกมาค่าเลือดแดงต่ำมาก หมอไม่ได้ให้ใบอะไรใดๆ กลับมาเลย หนูจำค่าที่แน่นอนไม่ได้แต่จำได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ต่ำมาก และ ได้โรค ccv มาด้วยค่ะ ซึ่งค่าอื่นๆ ทั้งเลือดขาว ตับ ไต ของน้องอยู่ในเกณฑ์ปกติ ตอนนั้นหนูสงสัยมากเพราะหมอไม่คุยเรื่องบริจาคเลือด หรือ การให้น้ำเกลือเลย ทั้งๆ ที่น้องไม่ได้กินอะไรเลยมา 3 วันแล้ว น้องค่อนข้างทรุด และเลือดก็ต่ำ หมอจ่ายยา แล้วก็ให้กลับบ้านได้  วันนั้นค่าตรวจและค่ายาทั้งหมด 2800 แหนะ หนูไม่รู้ว่าแพงหรือป่าว แต่แทบไม่ได้อะไรเลยจากการไปหาหมอ ถ้าเรื่องยาหนูซื้อเอาเองก็ได้ หนูคิดว่าพาไปหาหมอ หมอน่าจะฉีดยาหรือ ให้น้ำเกลือ แต่หมอแค่ตรวจแล้วก็ให้กลับเลย อีกอย่างหมอไม่แนะนำเรื่องอาหารและวิธีทานยาเลย กลับมาถึงบ้าน หนูไม่รู้ว่าควรป้อนอะไร พยายามหาทุกอย่างให้น้องลองกิน แต่น้องก็ไม่กิน เลยพยายามป้อนนมแพะที่ซื้อมา ได้แค่ไหนก็เอาแค่นั้นค่ะ เสร็จแล้วจึงป้อนยา บำรุงเลือดและยาต้านไวรัส ยาบำรุงเลือดตัวนี้ค่ะ
ยาต้านไวรัส
หนูยืมรูปมาจากเน็ตนะคะ อิอิ
.
. น้องไม่ยอมรับยาเลยค่ะ น้องบ้วนออกมาหมด ตอนนั้นหนูเครียดมากคิดในใจว่า ถ้าไม่กินยาก็ไม่หายนะ เลยพยายามอัดยาให้น้อง
ผลปรากฏว่า น้องชัก ฉี่ราดพื้น นอนหายใจรวยริน เลย ตอนนั้นหนูตกใจมาก ได้แต่ร้องไห้ ทำอะไรไม่ถูก ทุกๆคนรอบตัว ทั้ง พ่อ แม่ พี่ ป้า และ แฟน ทุกคนบอกว่า น้องคงไม่รอดแล้ว ตอนนั้นหนูก็คิดเหมือนเขานะคะ เพราะน้องแย่มาก หนูก็หยุดป้อนทุกอย่างและเอาผ้าห่มห่อตัวน้องไว้ใส่ตะกร้าวางไว้ในที่อากาสถ่ายเท คิดว่าน้องไปแล้วจะเอาไปฝัง
หลังจากนั้นหนูก็คอยดูเรื่อย ๆ ผ่านไป ก็ 3 ชม. แล้วน้องยังไม่ไป แถมลืมตาแป๋ว หนูเลยหาข้อมูลเกี่ยวกับโรคนี้อย่างจริงจัง และได้ทราบว่าที่น้องชัก เป็นเพราะน้องเครียดที่หนูอัดยา และแมวที่เป็นโรคนี้จะหนาวง่าย หนูเลยวางแผนการดูแลใหม่ โดยเริ่มจากการป้อนอาหาร  ควรป้อน อาหารสัตว์ป่วย แต่ตอนนั้นหนูไม่มีและอยู่ไกลจากคลินิกมาก ( บ้านหนูอยู่นอกเมือง จะซื้อของแบบนี้ต้องเข้าเมืองเท่านั้น ) หนูเลยถามพี่ๆ ในกลุ่มทาสแมว ได้รับคำแนะนำมาว่าป้อน แบรนด์สีเขียว ให้น้องก่อนได้  ป้อนช้ามากๆ  แบบช้าๆ มากๆ เพราะกลัวน้องเครียดอีก ป้อนเรื่อยๆ ได้ประมาณ 4 สลิงกว่า ๆ เสร็จแล้วก็ป้อนยา ทีละนิด จนหมด ( พอเราไม่พยายามอัด น้องก็ดูกินง่ายขึ้น ดูไม่เครียดแล้ว อิอิ ) เสร็จแล้วก็ให้น้องนอนที่อากาสถ่ายเท ใส่ชุดให้น้องและห่มผ้าให้น้อง ( เอาชุดเด็กเล็กมาตัดแขนแล้วใส่ให้น้องค่ะ )
อีกอย่างคือน้องไม่สามารถลุกไปถ่ายเองได้เลยจำเป็นต้องใส่แพมเพิด ( ซึ่งไม่ได้ซื้อมาจากเมืองเลยเอาแพมเพิดเด็กไซส์ เล็กสุดตัดรูหางแล้วก็ใส่ให้น้อง ) ให้น้องพักผ่อน ระหว่างวัน ก็ป้อนแบรนด์ให้น้องเรื่อย ๆ และป้อนน้ำเปล่าผสมน้ำผึ้ง ป้อนเท่าที่น้องไหว ถ้าน้องเริ่มบ้วนก็พอค่ะ  
เช้าป้อนยา บำรุงเลือด
เย็นป้อน ยาบำรุงเลือด ต้านไวรัส
ก่อนนอนป้อนยาก้างปลาค่ะ
ยืมรูปจากเน็ตเหมือนเคยค่ะ อิอิ
-- - --- - - - - -- - - - - - - - - -  - -- -  - - - - - - -- - - - - - - - -
เช้าวันถัดมา หนูเข้าเมืองเพื่อซื้อของต่างๆ ที่จำเป็น เริ่มจากไปคลินิกหมอที่คนเขาแนะนำว่าดี ไปถึงก็ซื้ออาหารสัตว์ป่วย a/d และ ของรอยัลคานิน ( ซื้อมาทั้งสองแบบ เผื่อน้องเบื่อ 55555 )  จากนั้นก็แพมเพิดสัตว์ และถามหมอเกี่ยวกับการทานยาพร้อมเอารูปให้หมอดู ได้เรื่องว่า
*อย่าป้อนนม เพราะจะทำให้ร่างกายน้องดูดซับตัวยาได้ไม่ดี
*อย่าป้อนยาก้างปลาในเวลาไล่เลี่ยกับลยาตัวอื่น เหตุผลเดียวกับนม
*และควรเอาน้ำเย็นให้น้องกินเพราะน้องเจ็บปาก การกินน้ำเย็นทำให้ปากชา และ สามารถทานอาหารได้ดีขึ้น
*สามารถผสมยาบำรุงเลือด และ ยาต้านไวรัสในอาหารได้เลย
--------------กลับถึงบ้านทำตามคำแนะนำคุณหมอ ป้อนอาหารผสมยา  และตามด้วยน้ำเย็น ๆ ผสมน้ำผึ้ง ( น้ำผึ้งทำให้น้องมีแรง แต่ไม่ควรป้อนเยอะค่ะ )
ให้น้องนอนพักผ่อน ถึงเวลาป้อนยาก็ค่อยๆป้อน
-เช้า อาหารสัตว์ป่วย 4 ช้อนโต๊ะ ผสมยาบำรุงเลือด 1 cc และน้ำ นิดหน่อย ให้พอเหลวๆ และใช้สลิงดูดได้
-เย็น  อาหารสัตว์ป่วย 4 ช้อนโต๊ะ ผสมยาบำรุงเลือด 1 cc ยาต้านไวรัส ครึ่งเม็ด ( บดผสม ) และน้ำนิดหน่อย
-ก่อนนอนป้อนยาก้างปลา
.
ทั้งวันจะวางน้ำเย็น แบบเย็นมาก ๆ มีน้ำแข็งไว้ใกล้ๆ น้อง ใกล้ที่สุดเพราะน้องลุกมากินไม่ไหว เลยต้องวางในที่ ที่น้องสามารถชูคอมากินได้ อิอิ
และทุกมื้อ จะป้อนน้ำเปล่าผสมน้ำผึ้งให้น้องเสมอ
-
ทำอย่างงี้ประมาณ  5  วัน  น้องอาการไม่ค่อยดีขึ้นเลย  ตอนนั้นหนูท้อใจมาก และ เหนื่อย เพราะที่ผ่านมาค่อนข้างต้องเอาใจใส่ และ ให้เวลา วันนั้นเลยกลับไปเป็นเหมือนวันแรก อัดยาน้องอีกแล้วค่ะ รอบนี้น้องขี้แตกด้วยหนูรู้สึกผิดขึ้นมาเลยเอาน้องไปนอนถอดเสื้อผ้าใส่แค่แพมเพิดกะให้น้องไม่อึดอัด แล้วก็ลูบหัวน้อง มองตาน้องแล้วน้ำตาจะไหลเลย น้องก็ดูเหนื่อย มาก ๆ ได้แต่ลูบหัว จากนั้น ถึงเวลาทานยาเลยค่อยๆ ป้อน ป้อนแต่ละมื้อช้ามาก ๆ  ใช้เวลาเกือบ ชั่วโมง
ป้อนเสร็จก็อุ้มน้องพาไปเดินเล่น ( ปกติน้องชอบเดินเล่น ) ตอนเช้าพาไปนั่งรับแดดเช้า ( อันนี้มโนเอาว่าเขาอบอุ่น 555555 ) ทำอย่างงี้จนผ่านไป  8  วัน
เป็น 8 วันที่เหนื่อยมาก เพราะน้องช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เหมือนเป็นแม่เด็กทารกเลยค่ะ 555555
จนวันที่ 9 เริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น น้องลุกไปกินน้ำ ร้องขอน้ำเย็นเวลาเปิดตู้เย็น  ( ลุกไปกินน้ำเสร็จกลับไม่ไหว นอนข้างๆ ชามน้ำเลย )
พยายามลุกไปฉี่เอง น่าเอ็นดูมาก
ถ้าไม่มีเพิดคงเลอะน่าดู ตูดห้อยออกมาแล้วลูก 5555
น้องค่อยๆ ดีขึ้น เรื่อยๆ จน วันที่ 10 น้องก็กินอาหารเองได้แล้ว  เดินได้ ทำกิจกรรมแมวๆ ได้แล้ว
ใช้ชีวิตได้เหมือนแมวปกติ
เลยพาน้องไปหาหมออีกครั้ง  แต่หมอบอกว่าไม่ต้องตวรจเลือดหรอกเพราะ เลือดน้องต้องใช้เวลามากๆ ตรวจไปผลก็ไม่ต่างจากเดิมมากนัก เลยขอคำแนะนำหมอ หมอก็ให้ยาเป็นเม็ดมาทานแทน เป็นตัวนี้ค่ะ  ( ยืมรูปจากเน็ตนะคะ )
โดยให้น้องกินวันละครึ่งเม็ด เวลาไหนก็ได้  --  ยาเม็ดป้อนง่ายกว่ายาน้ำเยอะเลยค่ะ โดยหากเม็ดใหญ่และกลัวบาดคอน้อง ก็ตัดแบ่งเป็นเม็ดเล็ก ๆ อีกทีนึงแล้วป้อนทีละเม็ดและตามด้วยน้ำเย็นค่ะ
ทำอย่างงี้มาเรื่อยๆ  ตอนนี้ ประมาณ  20 วันแล้วตั้งแต่วันนั้น  น้องร่าเริงกว่าปกติมากๆ  กินจุ  วิ่งเล่นทั้งวัน ร่าเริง กลับมาอ้วนเท่าพี่มืดแล้ว จะแซงแล้วด้วย ดูดี จมูกอมชมพู
.
.
จากวันนั้นที่ทุกคนคิดว่าต้องตายแน่ ๆ จนวันนี้แทบไม่อยากจะเชื่อ  หนูว่าอยู่ที่การดูแลเอาใจใส่น้อง หนูทำได้แล้ว ถึงแม้ไม่รู้ว่าน้องจะมีอายุได้อีกกี่ปี  แต่หนูก็จะดูแลน้องอย่างงี้ พร้อมจะเหนื่อยเวลาน้องภูมิตก  อยากเป็นกำลังใจให้ทาส ทุกๆ คนที่ต้องดูแลแมวป่วยลิวคิเมีย การเอาใจใส่ สำหรับหนูมันใช้ได้ผล  อยากให้ทาสทุกคนสู้ ๆ นะคะ ความพยายามอยู่ที่ไหน  ความสำเร็จอยูที่นั่นแน่นอน // ขอบคุณทุกคนที่อ่านนะคะ หากเขียนผิด หรือ มีตรงไหนผิดพลาด ก็แนะนำได้ค่ะ อิอิ รักทุกคนนะคะ  ขอบคุณค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่